สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 459
บทที่459 ร่วมมือกัน!
เพื่อทำให้จางเป่าเฉิงตกรอบ สามารถพูดได้ว่าพวกเขาใช้ความคิดเต็มกำลัง แต่ทว่านี่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ขณะเดียวกันผู้ตัดสินกานและผู้ตัดสินคนอื่นภายในใจกังวลขึ้นมา ในใจพวกเขาเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น พวกเขาไม่อยากมองเห็นจางเป่าเฉิงใช้วิธีการเดียวกัน ข้อต้องห้ามในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ
สองรอบก่อนล้วนถูกเขาพุ่งถาโถมเข้ามาทางพวกเขา รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศเหลือเพียงสองครั้งแล้ว
ส่วนสายตาเฉินเป่ยตกลงบนตัวผู้ตัดสินกาน เอ่ยปากพูดหยอกล้อแบบแปลกใจ “ผู้ตัดสินกาน ทำไมรอบรองชนะเลิศถึงไม่ออกแบบกฎเกณฑ์ใหม่บ้างล่ะ?”
ผู้ตัดสินกานทำเสียงฮึดฮัด ตอบกลับเย็นชา “ฉันอยากออกแบบหรือไม่ออกแบบยังไง เกี่ยวอะไรกับนาย”
“ทำไมจะไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันแค่รู้สึกว่ารอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศยิ่งสนุกขึ้น เวลานี้นายไม่เพิ่มกฎเกณฑ์ใหม่เข้าไปบ้าง ดูน่าเบื่ออยู่หน่อยนะ” เฉินเป่ยเอ่ยปากเสียดสี การเยาะเย้ยของผู้ตัดสินกานก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้ตอบตามตรง ตอนนี้จึงเป็นช่วงที่เขาตอบโต้กลับบ้าง
ผู้ตัดสินกานถลึงตาใส่เฉินเป่ยเย็นเฉียบรุนแรง กัดฟันพูดด้วยเสียงเกลียดชัง “นายไม่พูดจะตายมั้ย?”
คำพูดแต่ละประโยค แต่ละคำของเฉินเป่ย ทำให้ผู้ตัดสินกานเส้นเลือดตรงหน้าผากเต้นกระตุก เพียงแค่ประโยคเดียวเขาก็ทนไม่ไหวแล้ว เขาเคยได้รับการเยาะเย้ยเหยียบย่ำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
เฉินเป่ยช่างกำเริบเสิบสานเหลือเกิน ครั้งนี้เขาถูกเฉินเป่ยจับจุดอ่อนไว้แล้ว ถากถางรุนแรงสักยก เป็นธรรมดาที่เขาจะพูดไม่ได้สักประโยคเดียว ย่อมไม่อาจทำให้เขาพูดความจริงออกมาได้ล่ะมั้ง?
“การแข่งขันใกล้เริ่มแล้ว” ในที่สุด พอผ่านไปสักพักหนึ่ง ผู้ตัดสินท่านหนึ่งจึงพูดเตือนสติผู้ตัดสินกาน
ผู้ตัดสินกานกวาดสายตาหนาวเหน็บมองเฉินเป่ยที่ทำหน้าทำตาไม่สนใจ หยิบอินเตอร์คอมเครื่องหนึ่งขึ้น พูดกับอินเตอร์คอมว่า “เริ่มเลยเถอะ”
ไม่นานพิธีกรท่านหนึ่งก็ขึ้นเวที บนที่นั่งผู้ชมที่เอะอะนั้น หลังมองเห็นพิธีกร ชั่วขณะนั้นเงียบสงบลงมา ในใจคนดูมากมายสั่นเทาอยู่บ้างเพราะความตื่นเต้น
รอบรองชนะเลิศของสุดยอดดาบสามเล่ม ในที่สุดก็เริ่มแล้ว
นี่คือสองรอบสุดท้ายของสุดยอดดาบสามเล่ม เหลือเพียงผู้แข่งขันสี่คน ไม่ว่าจะเป็นจางเป่าเฉิงหรือเทพเมถุน หรือว่าจะเป็นจางห้านกง ม้ามืดที่เกิดขึ้นใหม่ในวงการพนันเพชรพลอย หรือว่าตาสีทองที่ครอบครองตาวิเศษคู่หนึ่งที่สามารถมองหินหยาบใดๆ ออกได้หมด ผู้เข้าแข่งขันสี่คนนี้ ชื่อเสียงโด่งดังในวงการพนันเพชรพลอยมาแต่แรก
การต่อสู้ของพวกเขาสี่คนเป็นการแข่งขันที่มีจุดสนใจที่สุดรอบหนึ่ง
ถึงแม้ยังมีคนมากมายเชียร์เทพเมถุน แต่ก็มีคนไม่น้อยล้วนเชียร์ผู้เข้าแข่งขันสามท่านที่เหลือแบบจางเป่าเฉิงนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาดูแล้ว เทพเมถุนคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งแบบนี้ ไม่มีใครหวังว่าตนเองจะกลายเป็นคู่แข่งของเทพเมถุน
ผู้แข่งขันสามคนแบบจางเป่าเฉิงนี้ มีความเป็นไปได้มากที่จะร่วมมือกัน ปัดเทพเมถุนตกรอบไปก่อน
ตำนานผู้ไม่แพ้ ย่อมไม่ใช่ทุกคนจะเชื่อได้ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์
พิธีกรประกาศกฎเกณฑ์ กติกาง่ายมาก แม้กระทั่งยังง่ายกว่ารอบก่อนหน้านั้นอยู่นิดหน่อย ผู้เข้าแข่งขันสามารถนำหินหยาบในมือไปแลกเปลี่ยนกับคนอื่นได้ สุดท้ายประเมินมูลค่าโดยรวมแล้วจัดลำดับ
และที่ไม่เหมือนคือไม่ได้มีหินหยาบสี่ก้อน แต่ลดลงเหลือเพียงสามก้อนแล้ว
และการแจกจ่ายหินหยาบในครั้งนี้ เปลี่ยนจากผู้ตัดสินมาเป็นเจ้าหน้าที่
ดวงตาเฉินเป่ยเปล่งประกาย หินหยาบสี่ก้อน แสดงถึงความไม่แน่นอนสี่แบบ โดยเฉพาะหินหยาบยิ่งมาก ความเป็นไปได้ยิ่งมาก ส่วนหินหยาบสามก้อน ขึ้นอยู่กับพลังแข็งของผู้แข่งขัน ลดส่วนของโชคลงมากเลยทีเดียว
แววตาของเฉินเป่ยปรากฏความล้ำลึกขึ้นฉับพลัน เขาจมสู่ความครุ่นคิด และผู้ตัดสินกานหันหน้ามองทางเฉินเป่ย หัวเราะแบบเย็นเฉียบ “ฉันจะดูว่าตอนนี้นายยังจะช่วยเขายังไง”
เฉินเป่ยไม่ได้พูดอะไร ผู้ตัดสินกานเกือบจะวางแผนแบบโจ่งแจ้ง ไม่ได้เล่นแผนการใดๆ กับเขา……ในใจเฉินเป่ยเต้นรัว ผู้ตัดสินกานเหมือนจะดูวิธีการของเฉินเป่ยก่อนหน้านี้ออกแล้ว
เฉินเป่ยสีหน้าเหมือนปกติ เขาไม่ได้สับสนสักนิด เพราะในเวลานี้ เกรงว่ามีเพียงผู้ตัดสินกานที่มองออก ตอนที่แจกจ่ายหินหยาบครั้งก่อน เฉินเป่ยจงใจนำไฟของดวงอาทิตย์ก้อนนั้นมอบให้จางเป่าเฉิงไป
แต่ตอนนี้ ผู้ตัดสินกานไม่ปล่อยให้โอกาสที่มีแค่ครั้งสุดท้ายนี้ผ่านไป เห็นได้ชัดว่าเดาอะไรได้แล้ว
โชคดีของจางเป่าเฉิงจะมีมากล้นได้อย่างไรกัน จะต้องมีคนกำลังช่วยเหลือเขา
“ฉันไม่เข้าใจว่านายกำลังพูดอะไร ฉันเพียงแค่ทำตามหน้าที่และภารกิจของผู้ตัดสิน” เฉินเป่ยตอบนิ่งๆ จากนั้นหันหน้า สายตาจ้องด้านหน้า มองทางสนามแข่งอย่างสงบ แต่ในใจของเขาเกินความไม่สบายนิดๆ ขึ้นมา
เขาช่วยจางเป่าเฉิงไม่ได้แล้ว ต่อไปนี้ทำได้เพียงดูตัวจางเป่าเฉิงเอาเอง
ที่สนามการแข่งขัน จางเป่าเฉิงมองเทพเมถุนด้วยสีหน้าซับซ้อน เอ่ยปากขึ้นทันใด “ขอบคุณ”
ผู้อาวุโสสองท่านนั้น เทพเมถุนสีหน้าไม่ได้มีอารมณ์ใดๆ ตอบเพียงประโยคหนึ่ง “ฉันแค่ไม่อยากให้ของวิเศษหายากถูกคนเอาไปกำจัดแบบขยะกองหนึ่งเท่านั้น……” ผู้อาวุโสสองท่านมองทางจางเป่าเฉิงแทบจะพร้อมกัน เอ่ยปากเรียบนิ่งอย่างเหยียดหยาม “แต่ฉันจะไม่ให้นายผ่านเข้ารอบต่อไปได้อีก นายรอตกรอบนี้ไปได้เลย”
จางเป่าเฉิงสีหน้าแข็งทื่อ ส่วนเทพเมถุนกวาดตามองจางเป่าเฉิงแวบหนึ่ง ทันใดนั้นชี้ไปทางหินหยาบก้อนหนึ่งในนั้นของจางเป่าเฉิง พลันพูดว่า “ฉันเลือกก้อนนี้ นายเลือกก้อนไหน?” ผู้อาวุโสสองท่านนำหินหยาบสามก้อนของตนเองวางไว้บนโต๊ะ
จางเป่าเฉิงขมวดคิ้วครุ่นคิดครู่หนึ่ง สายตาตกอยู่บนหินหยาบสามก้อนของเทพเมถุน
พูดอย่างตรงไปตรงมา สำหรับจางเป่าเฉิง เขาไม่มีความมั่นใจใดๆ ต่อความสามารถของตนเองเลย แม้ว่าเขาจะชัดเจนในตัวเองมาก
ฝีมือของตนเองในด้านการพนันเพชรพลอยเป็นบุคคลชั้นยอดของวงการพนันเพชรพลอยจริง แต่เทียบกับเทพเมถุนที่ไม่มีแพ้สักครั้ง ยังห่างกันแบบยากจะจินตนาการได้ เขาไม่ได้เตรียมใจไว้สักนิดเดียว กลับกระโดดเข้าสู่รอบสี่คนแล้ว
หลังจากเทพเมถุนล้วงหินหยาบสามก้อนของตนเองออกมา จางเป่าเฉิงพินิจพิเคราะห์หินหยาบสามก้อนของตนเองถี่ถ้วนสักหน่อย เขามองอะไรบนหินหยาบก้อนนั้นที่เทพเมถุนต้องการไม่ออกเลย หินหยาบก้อนนั้นเป็นเพียงหินหยาบชั้นยอดที่ลักษณะดีมาก แต่ไม่ถึงขั้นที่จะสามารถตัดของวิเศษหายากแบบสองประเภทก่อนหน้านั้นได้ ส่วนหินหยาบสามก้อนนั้นในมือของเทพเมถุนสามารถพูดได้ว่าเป็นหินหยาบชั้นยอด ดังนั้นจางเป่าเฉิงจึงไม่เข้าใจว่า สรุปแล้วเทพเมถุนคิดอย่างไรกันแน่
หรือว่าก้อนนี้ในมือของตนเองจะเหมือนกับสองก้อนก่อนหน้า ด้านในซ่อนของวิเศษหายากไว้?
ในใจจางเป่าเฉิงสั่นฉับพลัน จากนั้นส่ายหน้าปฏิเสธแบบไม่ลังเลสักนิด “ก้อนนี้ ไม่ได้”
เทพเมถุนตะลึง แววตามีความหมดหวังที่ยากจะสัมผัสได้แวบผ่าน เขาพยักหน้าแล้วถามว่า “งั้นนายจะเอาก้อนไหนมาแลกกับฉัน?”
“ผมไม่อยากแลกกับคุณ” จางเป่าเฉิงพูดไปตามตรง
เทพเมถุนสีหน้าเคร่งขรึม ผู้อาวุโสสองท่านนี้จ้องมองจางเป่าเฉิงอย่างหนาวเย็น เอ่ยปากพูดชัดถ้อยชัดคำ “นายแน่ใจเหรอ? ฉันให้โอกาสเลือกอีกครั้งกับนาย”
จางเป่าเฉิงไม่ได้ลังเล ดวงตาเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ “แน่นอน”
จากนั้นหลังจางเป่าเฉิงพูดจบ จึงหมุนตัวออกไป
ได้ยินเพียงที่ด้านหลังมีเสียงของเทพเมถุนลอยมาไกลๆ “นายไม่กลัวว่าฉันจะให้คนอื่นไม่แลกกับนายเหรอ?”
“ถ้าท่านมีความสามารถอันนี้ เชิญทำแบบนั้นได้เลย” จางเป่าเฉิงหน้าไม่ได้หันมา ในแววตาเต็มไปด้วยความหมายแน่วแน่
หลังจากมองจางเป่าเฉิงออกไปไกล ผู้อาวุโสสองท่านนั้นมองหน้ากัน ภายในแววตาเผยแสงประหลาดออกมา
พวกเขาเหมือนจะตกใจกับปฏิกิริยานี้ของจางเป่าเฉิง พวกเขาคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าจางเป่าเฉิงเลือกที่จะต่อต้านพวกเขามากะทันหัน
“ต่อต้านเทพเมถุน วอนหาที่ตาย!” บนที่นั่งผู้ตัดสิน สายตาผู้ตัดสินกานจ้องที่จางเป่าเฉิงไม่กะพริบ หัวเราะเยาะทีหนึ่ง
ส่วนเฉินเป่ยที่อยู่ด้านข้าง แอบจ้องมองจางเป่าเฉิงไว้ หลังมองเห็นพฤติกรรมนี้ของจางเป่าเฉิง มุมปากวาดรอยยิ้มลึกล้ำที่คนอื่นยากจะเห็นขึ้น
จางเป่าเฉิงเดินไปตรงหน้าของม้ามืดจางห้านกงคนนั้น บางทีคงเป็นสาเหตุที่จางเป่าเฉิงได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยมาหลายปี จางห้านกงในฐานะม้ามืดมาแรงคนหนึ่ง มีท่าทีเคารพนับถือต่อจางเป่าเฉิงอย่างมาก
“หัวหน้าสมาคมจาง” จางห้านกงกำลังก้มหน้า ศึกษาวิจัยหินหยาบก้อนนี้ที่อยู่ตรงหน้าตนเอง
จางเป่าเฉิงสังเกตแวบหนึ่ง หัวเราะเล็กน้อย “หินหยาบสามก้อนนี้ของคุณดูพอสมควรแล้วใช่ไหม?”
จางห้านกงพยักหน้าแล้ว จางเป่าเฉิงหัวเราะ พูดแบบเกรงใจ “งั้นผมอยากแลกกับคุณ ได้รึเปล่า?”
จางห้านกงมึนงงนิดหน่อย จากนั้นเห็นด้วยอย่างไม่ต้องคิด “ได้รู้จักคุณเป็นเกียรติของผมมากครับ ได้แน่นอน”
“ห้ามแลกกับเขา!”
ในเวลานี้ มีเสียงหนึ่งลอยมาจากด้านหลัง
จางห้านกงหันหน้า มองเห็นผู้อาวุโสสองท่านยืนอยู่ด้านหลัง จ้องพวกเขาสองคนด้วยดวงตาอึมครึมเย็นเฉียบ
ทันใดนั้น เทพเมถุนมองทางจางห้านกง เอ่ยปากบอกอย่างเย็นชา “ถ้านายกล้าแลกเปลี่ยนหินหยาบกับเขา พวกเราจะไม่ให้นายได้อยู่ในวงการพนันเพชรพลอยต่อไปเด็ดขาด”
สำหรับความน่ากลัวของเทพเมถุน เทียบกับผู้อาวุโสคนอื่นแล้ว ในฐานะมือใหม่ เห็นได้ชัดว่าจางห้านกงไม่เข้าใจเทพเมถุน ได้แต่มองเห็นเทพเมถุนแล้วขมวดคิ้ว ก่อนจะถามว่า “คุณเป็นใคร?”
เทพเมถุนสีหน้าฝืดค้าง สายตายิ่งหนาวเหน็บ “นายไม่รู้ว่าฉันเป็นใครเหรอ?”
“แน่นอน ผมเพียงแค่รู้จักหัวหน้าสมาคมจาง” จางห้านกงเอ่ยปากบอกเรียบๆ นำหินหยาบที่ตกลงกับจางเป่าเฉิงไว้เรียบร้อยยัดไปในมือของเขา หยิบหินหยาบก้อนหนึ่งในมือของจางเป่าเฉิงเข้ามา พลางพูดว่า “ถึงแม้คุณจะเป็นคนมีพลังอำนาจแล้วยังไงกัน คุณยังไม่ใช่แม้แต่หัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอย มีสิทธิ์อะไรมาพูดฉอดๆ!”
คำพูดนี้ของจางห้านกงแพร่ออกไป ผ่านลำโพงที่อยู่โดยรอบสนามแข่งขันดังก้องตรงที่นั่งผู้ชมไม่หยุด ทำให้ทั้งงานจมสู่ความเงียบที่ผิดปกติแถบหนึ่ง บนที่นั่งผู้ชมเงียบงันไร้เสียงชั่วขณะนั้น
คำพูดจางห้านกงทำเอาตกใจกันทั้งงาน แม้แต่สีหน้าของผู้ตัดสินกานยังแข็งทื่อ แวบหนึ่งหลีเช่าเทียนลุกขึ้นยืน จ้องจางห้านกงตาไม่ขยับ ในใจมีความกังวลรุนแรง
เทพเมถุน ตำนานผู้ไม่แพ้ของวงการพนันเพชรพลอยที่น่าเกรงขาม การมีตัวตนที่ทำให้ผู้อาวุโสหวาดกลัวกัน วินาทีนี้ถูกพวกมือใหม่ดูถูกเข้าให้
นี่ช่างเยาะเย้ยเหลือเกิน นี่เกินกว่าความคาดหมายของทุกคนเลย
เทพเมถุนเกือบแข็งเป็นหิน ราวกับเจอฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ร่างกายผู้อาวุโสสองท่านนี้สั่นเทาไม่ขาดสาย ดวงตาเบิกโต เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสองคนต่างนึกไม่ถึง ในใจของพวกเขามีไฟไร้ชื่อลุกไหม้ขึ้นแวบหนึ่ง
“พวกคนหนุ่มไม่รู้จักความกลัว ได้ พวกเรามาคอยดูกัน!” ผ่านไปตั้งนาน เทพเมถุนที่มองด้วยความทระนงองอาจถึงเค้นประโยคหนึ่งออกมาแบบนี้ จากนั้นพวกเขาสองคนก็หมุนตัวออกไป เหมือนสุนัขที่จองล้างจองผลาญตัวหนึ่ง แอบหนีไปอย่างหงอยเหงา
เกรงว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่เทพเมถุนเสียหน้า