สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 479
บทที่ 479 ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ดวงตาของจิงเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายมองไปที่โรงแรมในระยะไกล ตาลึกขึ้นเรื่อย ๆ พึมพำว่า “ราชาหลง คุณมีความสามารถมากแค่ไหนเนี่ย หู้ถึงยืนหยัดได้แค่ห้านาที……”
ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งรออยู่ข้างรถ ในฐานะที่เป็นคนสนิทของจิง จิงไม่ค่อยขัดในสิ่งที่เขาพูด และผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้น หลังจากที่ได้ยินจิงพูด ใจสั่น รู้สึกสยอง
จิง รู้แต่แรกว่าหู้ไม่มีทางชนะผู้ชายคนนั้นได้ ……ดังนั้น เขาก็มองดูหู้ที่มีความมั่นใจเกินร้อยเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างบ้าคลั่ง
รอคอยความพ่ายแพ้ของหู้
ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้อยู่กับจิงมาหลายปี และเขาอยู่กับจิงมายิ่งนาน ก็ยิ่งกลัวจิงมากขึ้น…….จิงลึกลับเกินไป บางครั้งก็ดูเหมือนคนเก่งคนหนึ่ง แต่บางครั้ง ในสายตาของผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ เขาก็รู้แทบทุกอย่าง เหมือนทุกอย่างอยู่ในการทำนายของเขา
มีคนเช่นนี้อยู่ มิน่าเยี่ยนจิงถึงได้แข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองและมีอำนาจ แม้แต่หู้ ในการครอบคลุมทุกด้าน ก็เกรงว่าจะด้อยกว่าเล็กน้อย
ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้นรู้สึกตกใจมากขึ้น ยิ่งอยากรู้อยากเห็น ทำไมจิงมองดูหู้ตกลงมา เพื่ออะไร
ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้นไม่คิดว่าจิงจะลงมือเอง เขาไม่เคยเห็นจิงลงมือเอง เพราะไม่มีใครคู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของจิง
……
“เพล้ง(เสียงกระจกแตก)”
หู้ตกลงมาจากที่สูง เศษแก้วจำนวนนับไม่ถ้วนโปรยปรายลงมาเหมือนสายฝน เร็วมาก ตอนเกือบจะถึงพื้น เหมือนกระสุนที่ยิงลงมาอย่างน่ากลัว
“พู พู พู”
เศษแก้วจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงมา เกิดหลุมเล็กๆที่นับไม่ถ้วนบนพื้นคอนกรีต
และร่างของหู้ ตกลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว เขาในขณะนี้ ห่างจากพื้น น้อยกว่า 30 เมตร
หู้ก้มดูพื้น ในใจกัดฟัน เขาหลับตา ใช้แรงทั้งหมดในร่างกาย ลดความเร็วลง
“โครม”
ด้านนอกโรงแรม ผู้ใต้บังคับบัญชาหนึ่งคนที่กำลังรอคำสั่งของจิง มองไปที่ร่างของหู้ตรงผนังกระจก จากที่พวกเขาสังเกตเห็น สภาพของหู้เช่นนี้ไม่น่าจะรอด
ถึงแม้หู้จะมีพลังมากแค่ไหน ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย
ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้น หู้ร่างกระแทกกับพื้นดังบูม หายไปจากสายตาของทุกคน
ครู่ต่อมา จิงที่นั่งอยู่ในรถพูดกับผู้ใต้บังคับบัญชาว่า “ไปดูหน่อย”
“ครับ”
ผู้ใต้บังคับบัญชาสองสามคนตรงไปที่หน้าประตูโรงแรมอย่างระมัดระวัง เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ เห็นหลุมลึกครึ่งเมตรปรากฏบนพื้นดิน
ผู้ใต้บังคับบัญชาสองสามคนตกตะลึง หู้ตกลงมาจากที่สูง กระแทกลงมาเป็นหลุมลึกขนาดนี้ ในสภาพเช่นนี้ หู้ยังมีชีวิตรอดไหม
พวกเขามองหน้ากัน มั่นใจว่า ในสภาพเช่นนี้ โอกาสที่จะมีชีวิตรอด มันน้อยยิ่งกว่าน้อย
ณ ตอนนี้ ทันใดนั้น มีร่างโผล่ออกมาจากหลุมลึกนั่น
ร่างที่น่าเกลียดคลานออกมาจากหลุม เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาสองสามคนเห็นร่างนั้น ในใจตกตะลึงมาก ถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ในใจมีคลื่นมหึมา
หู้ยังมีชีวิตอยู่
หู้คลานออกมาฝุ่นดินเต็มหน้าเต็มตาไปหมด เขาในขณะนี้ สภาพดูแย่มาก ใบหน้าบวม สูทหรูราคาแพงที่สามารถเรียกได้ว่าสูงเสียดฟ้าก็ขาดและมอมแมมมาก เหมือนขอทานเลย
แต่เขาในตอนนี้มีแต่ความแค้นใจ ตรงข้ามกับสภาพของเขาในตอนนี้ ในขณะที่เขาเดินออกจากหลุมนั้น ความอาฆาตแค้นนั้น เกือบจะครอบคลุมสถานที่แห่งนี้
หู้สีหน้าดุร้าย เมื่อเขาเดินไปหาผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้น ผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้นร่างกายสั่นเทา ถอยหลังไปเรื่อยๆ กล้าเข้าใกล้หู้แม้แต่นิดเดียว
หู้ในตอนนี้ ความเย็นชาและน่ากลัวนั้น ทำให้เขาดูเหมือนปีศาจ ผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านี้ ตัวสั่นแทบจะมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ
หู้กำหมัดแน่น เล็บจิกเข้าไปในเนื้อ เลือดสด ค่อยๆไหลออกจากนิ้วของหู้
หู้เดินมาที่รถของจิงอย่างช้าๆ ทุกก้าวของเขา เหยียบบนกระเบื้องปู มีเสียงดังก้อง กระเบื้องปูพื้นแตกออกเป็นชิ้นๆ ออร่าของจิง ทำให้ทุกคนรอบตัวสั่นสะท้าน
นี่คือหู้ตัวจริงใช่ไหม เมื่อความหล่อเหลาของเขาจางหายไป ตัวจริงของเขาปรากฏตัว ความโกรธของเขาระเบิดออก จะกลืนกินทุกสิ่ง
“พอแล้ว”
ในขณะนี้ ประตูของรถคันหรูที่จอดอยู่ด้านนอกโรงแรมก็เปิดออกอย่างกะทันหัน มีเสียงที่สงบและทุ้มดังออกมา ทำให้ฝีเท้าของหู้หยุดลง
หู้มองไป เท้าในรองเท้าหนังระดับไฮเอนด์ก้าวออกจากรถ เหยียบลงบนพื้น ตามมาด้วย มีร่างหนึ่งเอนตัวออกจากรถ
ดวงตาที่ลึกลง มองมาที่หู้ เหมือนท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวกว้างใหญ่ ทำให้ใจของหู้ อดไม่ได้ที่จะสั่น
เป็นจิง ในที่สุดจิงก็เดินออกมาจากรถ
“ท่าน”
ผู้ใต้บังคับบัญชารอบรถ หลังจากที่จิงเดินออกมาจากรถ คุกเข่าลง พูดพร้อมเพรียงกัน
จิงก้าวออกมา เดินไปตรงหน้าหู้ พูดเบาๆว่า “คุณดูกระเซอะกระเซิงมาก”
หู้สีหน้าเย็นชา ตอบอย่าเย็นชาว่า “คุณไม่ต้องยุ่ง”
“ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหม เขาเป็นราชาหลงมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนคนนั้นแล้ว อยากเอาชีวิตเขา คุณคงต้องไปเข้าคิว” จองพูดเบาๆ
“คุณต้องการจะพูดอะไร” หู้สีหน้าเย็นชาเหมือนเดิม
“คุณกับฉันเราสองคนร่วมมือกัน ถึงจะเอาชนะราชาหลงได้” จิงพูดช้าๆ
“ร่วมมือ” หู้ขมวดคิ้ว ไม่เต็มใจอย่างเห็นได้ชัด
และจิงหัวเราะเยาะเย้ยถากถาง “ทำไม คุณยังคิดว่าคุณจะเอาชนะเขาได้ด้วยกำลังของคุณเองเหรอ คุณอยู่ในมือเขา ได้สักกี่นาที”
ครู่ต่อมา ในที่สุดหู้ก็พยักหน้า พูดอย่างเย็นชา ความอาฆาตก่อตัวขึ้นในอากาศ “เขา…….ต้องตาย”
“ไปเถอะ เขาน่าจะรอไม่ไหวแล้ว” จิงก้าวเท้าออกไป หายตัวไป สถานที่เดิมเหลือแค่เงาที่น่ากลัว
และเมื่อหู้หันหน้าไปมองที่ประตูของโรงแรม ก็เห็นจิงปรากฏตัวที่หน้าประตูโรงแรมแล้ว กำลังเดินเข้าไปในโรงแรม
หู้ส่งเสียงเย็นชา ทักษะก่อการจลาจล ก็พุ่งไปที่ประตูโรงแรม
สองคนเขาไปในโรงแรมทีละคน ผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้นที่เหลืออยู่ ทำได้เพียงคุกเข่ากับพื้นแล้วตัวสั่น จิงกับหู้ร่วมมือกัน ไม่เคยได้ยินมาก่อน
ผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนคุกเข้าบนพื้น ร่างสั่น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็น จิงกับหู้พวกใหญ่ระดับนี้ร่วมมือกัน…….. พวกเขาไม่เข้าใจ เป็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์มาจากไหน ทั้งสองคนที่เป็นหัวของหัวเซี่ยถึงขณะต้องร่วมมือกันเพื่อสู้ด้วย นั่นคือความเป็นอยู่เช่นไร
พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ ในโรงแรมแห่งนี้ มีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวขนาดนี้อาศัยอยู่
ในขณะที่หู้พุ่งเข้าไปในโรงแรม ทันใดนั้น ร่างหยุดนิ่ง
เขาเห็นจิง ค่อยๆถอยออกมาจากในโรงแรม
หู้สีหน้าตะลึง เขากำลังเตรียมจะถามจิงว่า เกิดอะไรขึ้น ก็มีเสียงหนึ่ง ดังออกมาจากในโรงแรม
คนคนนั้นคาบบุหรี่ในปาก สองมืออยู่ในกระเป๋ากางเกง สวมรองเท้าแตะที่เท้า สีหน้าเอ้อระเหยลอยชาย แต่บนใบหน้ายิ้มเยาะ ดูไม่แยแส ปล่อยให้หู้ระเบิดออกมาด้วยเจตนาฆ่าที่น่าสะพรึงกลัว
คนคนนี้ ก็คือเฉินเป่ย เขาส่งตัวมาเอง
หู้มองเฉินเป่ยด้วยสีหน้าที่เย็นชา กำหมัดแน่น มีเสียงดังแค่กทั่วร่าง
จิงค่อยๆถอยหลัง ถอยไปถึงข้างๆหู้ ถึงหยุด มองไปที่เฉินเป่ย ดวงตาลึกลงเล็กน้อย
“พยายามมากเลยใช่ไหม เพื่อจะกำจัดฉัน” เฉินเป่ยพูดเบาๆ น้ำเสียงถากถางเล็กน้อย
“มารนหาที่ตายเอง ก็ดีฉันจะได้ไม่ต้องเปลืองแรง” หู้น้ำเสียงเย็นชา ตอบทีละคำ
เฉินเป่ยชำเลืองมอง เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาและรถหรูเหล่านั้นที่อยู่หลังหู้กับจิง ยิ้มอย่างประชดประชัน มองไปที่จิง “คุณยังคิดว่าเศษขยะเหล่านั้นยังมีประโยชน์ต่อฉันเหรอ”
จิงจ้องมองเฉินเป่ย ยิ้มอย่างมีความหมาย “ไม่”
ทันใดนั้น จิงยกมือขึ้น ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ไกลๆเหล่านั้นรับรู้ทันที ถอยออกไปที่รถ ขับรถออกไป หลบอยู่ใต้ความมืดที่ไร้ขอบเขต
“ราชาหลง คิดไม่ถึงว่าคุณจะกล้ากลับมาที่หัวเซี่ยอีก คุณถือว่ากลับมาบ้านเกิดใช่ไหม” เผชิญหน้าสักพัก จิงพูดขึ้น เขามองไปที่เฉินเป่ย น้ำเสียงทุ้ม ฟังไม่ออกว่าน้ำเสียงของเขากำลังยั่วยวนหรือลองใจ
“กลับบ้านเพื่อแต่งเมียและมีลูก คุณก็ต้องการมีส่วนร่วมด้วยเหรอ” เฉินเป่ยชำเลืองมองจิง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ไม่มองหน้าโดยตรงเลย
“กลับบ้านเกิด หัวเซี่ยต้องการจัดการคุณคำสั่งนี้ยังไม่ถูกลบออก กลับมาอย่างคอตก แม้แต่กลับมาทำไร่ทำนาก็ไม่คู่ควร อย่างมากก็กลับมาเหมือนหมาจนตรอก” หู้พูดเบาๆ
จิงพยักหน้าซ้ำๆ “เห็นได้ชัดว่าเกาะตระกูลหลี ยังมีหน้าพูดว่าแต่งเมียและมีลูก แม้แต่มือของหลีชิงเยียนก็คงไม่มีโอกาสได้แตะมั่ง ในตระกูลหลีสถานะที่ต่ำต้อยที่สุดก็คงไม่เหมาะกับคุณ ราชามังกรผู้สง่างาม ตลกมาก”
เสียงของจิงดังมาก ก้องอยู่บนท้องฟ้าในยามดึกอันเงียบสงบนี้ ดูรุนแรงเป็นพิเศษ
“เรื่องของฉันกับภรรยา สุนัขสองตัวอย่างพวกคุณมีสิทธิ์มาวิจารณ์เหรอ” เฉินเป่ยพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างช้าๆ ตอบอย่างเหยียดหยาม
จิงกับหู้สีหน้านิ่ง จิงพูดเบาๆว่า “ผู้หญิงที่คู่ควรกับพวกเรามีน้อยเกินไป ไม่เหมือนผู้หญิงที่แซ่หลีคนนั้น เป็นแค่สิ่งของที่ตระกูลหลีกวาดทิ้งออกมา ยังมีหน้าแซ่หลีอีก ของแบบนี้ คุณก็เอา นี่หรือรสนิยมของราชาหลง”
จิงเพิ่งพูดจบ ทันใดนั้น จากด้านหลังของเฉินเป่ย มีพลังที่น่ากลัวระเบิดออกมาทันที
สีหน้าของเฉินเป่ยดูเย็นชาทันที มองไปที่เจตนาฆ่าของจิงกับหู้ที่ไม่ปกปิด พูดออกไปทีละคำ “กล้าว่าภรรยาของฉัน ดูเหมือนว่าพวกคุณจะใช้ชีวิตจนเบื่อแล้ว”