สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 485
บทที่485 ราชาหลงหนีได้ยาก!
ในบ้านตระกูลหลี ก่อนหน้านั้นห้านาทียังมืดมิดไม่มีไฟผืนหนึ่ง และหลังจากห้านาทีที่โทรศัพท์สีดำเครื่องนั้นดังขึ้น ทั้งบ้านตระกูลหลีก็มีแสงไฟสว่างเจิดจ้า ลูกน้องแต่ละคนพุ่งออกมาจากในแต่ละห้อง รีบตามหลังหลีเช่าเทียน พุ่งเข้าไปในห้องลับ
ภายในห้องลับ ลูกน้องชุดดำที่เหมือนรูปปั้นก่อนหน้านี้ เวลานี้ถือโทรศัพท์ไว้ รอคอยที่ด้านข้างด้วยความเคารพ หลังเห็นหลีเช่าเทียนเดินเข้าห้องลับมา จึงยืนโทรศัพท์ให้หลีเช่าเทียนด้วยความนอบน้อม พลางพูดว่า “คุณชายหลีครับ โทรศัพท์ของท่านครับ”
หลีเช่าเทียนรับโทรศัพท์มา โบกๆ มือ บอกว่า “พวกนายออกไปกันเถอะ”
รอให้ลูกน้องเหล่านั้นออกไปกันหมด หลีเช่าเทียนสูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง หยิบโทรศัพท์ขึ้น พูดด้วยเสียงทุ้ม “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“เยี่ยนจิงกำลังวุ่นวาย จิงนำกองทหารอยากไปปราบราชาหลง ในช่วงเวลานี้ บ้านตระกูลหลีของพวกคุณต้องอยู่เงียบๆ หน่อย ถ้าราชาหลงไม่ตาย เขาเข้ามาเยี่ยนจิง ต้องมีหายนะนองเลือดแน่นอน!”
ในสายโทรศัพท์นั้น เสียงที่เข้มแข็งมีพลังพูดเพียงไม่กี่ประโยคเสร็จ ก็วางสายโทรศัพท์ลงดังปัง
“ราชาหลง……” ในใจของหลีเช่าเทียนสั่นสะเทือน แววตาเปล่งประกายแสงล้ำลึกซับซ้อน
หลีเช่าเทียนนึกไม่ถึงเป็นธรรมดา โทรศัพท์ที่ทำให้ทั้งบ้านตระกูลหลีแตกตื่นสายนี้ เป็นเพราะราชาหลงถึงได้โทรเข้ามา
เขายิ่งนึกไม่ถึงว่าราชาหลงจะกระตุ้นไฟโกรธของจิงขึ้นด้วย
ทันใดนั้น หลีเช่าเทียนส่งเสียงหัวเราะฮาๆ พูดพึมพำ “ราชาหลง ดูแล้ววันนี้คือวันตายของนาย!”
“เป็นปรปักษ์กับจิง ไม่รู้จักที่ตายเสียจริง” หลีเช่าเทียนทำเสียงเย็นชา แววตาลุ่มลึก “ดูแล้วมีคนลงมือแทนฉันแล้วสิ”
หลีเช่าเทียนพูดจบ กวาดสายตามองไปด้านนอกหน้าต่างของบ้านตระกูลหลี ฉากยามค่ำคืนที่มืดมิด มุมปากฉีกรอยยิ้มขึ้น หมุนตัวเดินไปทางห้องในบ้านตระกูลหลี “กลับไปนอนกันให้หมดเถอะ”
“คุณชายหลีครับ ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการรับมือเหรอครับ?”
“ต้องใช้อะไร ราชาหลงกำเริบเสิบสานแค่ไหน อยู่ต่อหน้ากองทัพเกรียงไกรพวกนั้น คงต้องพ่ายแพ้ไปแน่นอน” หลีเช่าเทียนตอบกลับนิ่งๆ
“พวกเราเพียงแค่ดูเรื่องสนุกเงียบๆ นั่งดูอยู่ด้านข้างก็พอ”
“รับทราบครับ!”
หลีเช่าเทียนกับลูกน้องของบ้านตระกูลหลีกลับไปที่ห้องนอนของแต่ละคน ไม่นานบ้านตระกูลหลีที่แสงไฟสว่างเจิดจ้าจมสู่ความมืดมิดอีกครั้ง
…………
ไม่เพียงแค่บ้านตระกูลหลีเท่านั้น กลางดึก ตระกูลของเยี่ยนจิงนับไม่ถ้วนล้วนได้รับข่าวคราวสารพัดอย่าง มีบางคนวางแผนการหลังจากนั้น มีบางคนกำลังเคลื่อนไหวก่อการร้าย รอโอกาสเหมาะทำอะไรบ้าง
และเวลานี้ โรงแรมยังคงกลายเป็นซากปรักหักพังผืนหนึ่ง
นายทหารนับไม่ถ้วนล้อมรอบโรงแรมเป็นวง นายพลที่อยู่ในสภาพเตรียมพร้อม กลายเป็นวงล้อมที่แน่นจนลมเข้าออกไม่ได้สามแถวตั้งแต่แรกแล้ว ที่นี่ แม้แต่แมลงวันยังยากที่จะบินออกไป
นายทหารแต่ละคนกำลังแยกออกจัดเรียงแถว ตอนที่ทำการปูพรมค้นหาที่โรงแรมและบริเวณโดยรอบ นายทหารคนหนึ่งผ่านซากปรักหักพังเศษปูนซีเมนต์กองหนึ่ง ทันใดนั้นหยุดชะงักฝีเท้า
นายทหารคนนั้นหันหน้ามองทางซากปรักหักพังของเศษปูนซีเมนต์กองนั้น ดวงตาจ้องซากปรักหักพังขนาดใหญ่กองนั้นตาไม่ขยับ เวลานี้กำลังมีเสียงก๊อกแก๊กติดๆ กันลอยออกจากด้านใน
ตอนที่ปากกระบอกปืนของนายทหารคนนั้นเล็งเป้าที่ซากปรักหักพัง อยากไปดูตอนที่ปรากฏตัวด้านหน้าซากปรักหักพัง ชั่วขณะหนึ่ง มีแขนที่สกปรกข้างหนึ่งยื่นออกมาจากในซากปรักหักพังด้วยกำลังที่ว่องไวจนไม่ทันให้คนได้เตรียมตัว คว้าคอเสื้อของนายทหารคนนั้นเอาไว้
“เขาอยู่ที่นี่!”
ชั่วขณะนั้น เสียงผิดปกติทำให้ปากกระบอกปืนแต่ละอันล็อกไปที่ทิศทางนั้นทั้งหมด
“ปัง!”
นายทหารคนนั้นเบิกดวงตาโต แขนที่คว้าเขาไว้ข้างนั้นเส้นเลือดนูนขึ้น นั่นเดิมทีไม่เหมือนแขนของคน แขนที่ใหญ่และแข็งแรงข้างนั้นคว้าเขาขึ้นอย่างง่ายดาย เหมือนกับนกอินทรีจับลูกเจี๊ยบไว้
“ตึง!”
หลังจากที่มือข้างนั้นคว้านายทหารคนนั้นขึ้น ถือโอกาสสะบัด ทั้งตัวของนายทหารคนนั้นลอยออกไปดุจว่าวที่สายขาด กระแทกไปบนพื้นหลายสิบเมตรอย่างแรง
และเวลานี้ ภาพเงาคนคนหนึ่งยืนบนซากปรักหักพังค่อยๆ กวาดตามองเข้ามาด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก ทำให้นายทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างสั่นเทาไปทั่วตัว
ภาพของคนคนนั้นดูขึ้นมากระเซอะกระเซิงสุดจะทน ใบหน้าที่สกปรกมอมแมมดูไม่ชัด แต่ออร่าบนตัวของเขานั้น พอจะทำให้นายทหารทั้งหมดในเหตุการณ์สั่นเทากันไม่หยุด
การปรากฏตัวของเขาเกือบจะทำให้นายทหารเหล่านี้จำเขาได้ตั้งแต่วินาทีแรกเลย—ราชาหลง
นอกจากราชาหลงแล้ว ใครยังจะมีลักษณะท่าทางระดับนี้ได้กัน ท่วงท่าที่ไร้ศัตรูและมองแบบเหยียดหยามอันนั้น ต่อให้เป็นจิงและหู้ก็คงทำไม่ได้
“รายงานครับ ราชาหลงปรากฏตัวแล้ว!”
บนเฮลิคอปเตอร์ แวบเดียวนายทหารคนนั้นก็มองเห็นราชาหลง จึงออกคำสั่งเสียงดุ
“จับกุมเต็มกำลัง ถ้าขัดขืน วิสามัญได้เลย!”
ชั่วขณะนั้นแสงเจิดจ้าบนเฮลิคอปเตอร์ส่องไปที่ตัวของเฉินเป่ย นายทหารแต่ละคนล้อมรอบเข้ามาทั้งหมด ปากกระบอกปืนเล็งเป้าไปที่เฉินเป่ย ขอเพียงเฉินเป่ยกล้าขยับเขยื้อนสักนิด ปืนดำขลับเย็นเฉียบจะลั่นไกอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย นายทหารมากขนาดนี้ พอจะยิงเฉินเป่ยจนเป็นรูพรุนเลยทีเดียว
นายทหารเหล่านี้ราวกับเผชิญหน้ากับศึกใหญ่ ถึงแม้ว่าเฉินเป่ยจะมือเปล่า ไม่มีอาวุธใดๆ แต่เทียบกับพวกสยองขวัญที่มีอาวุธครบครัน เขายังอันตรายกว่าเป็นหลายร้อยเท่า
เพราะเขาคือราชาหลง บุคคลที่อันตรายที่สุดของทั่วทั้งต่างประเทศ นายทหารเหล่านี้บางคนไม่เคยรู้ถึงการมีตัวตนของราชาหลง แต่ก่อนที่จะมา พวกเขาได้รับการอบรมมาแล้ว จึงระมัดระวังต่อเฉินเป่ยอย่างยิ่ง
เฉินเป่ยยืนอยู่ที่เดิม ถูกแสงเจิดจ้าของเฮลิคอปเตอร์สาดส่อง โดนปากกระบอกปืนของนายทหารเยี่ยนจิงเหล่านี้เล็งไว้ ทว่าล้วนไม่ได้ทำให้เขาสับสนแต่อย่างใดแม้แต่น้อย สีหน้าเรียบเฉยมาก เพียงแค่จ้องมองกองทหารที่แข็งแกร่งเกรียงไกรกลุ่มนี้ จากนั้นพูดขึ้นช้าๆ “พวกนายรีบถอยไป ฉันจะไม่ถือสาหาความต่อการกระทำทุกอย่างของพวกนายได้”
“โอหัง!”
บนเฮลิคอปเตอร์ ผู้อาวุโสทันนั้นลืมตาฉับพลัน ตะโกนด้วยเสียงโมโห กระโดดมาก้าวหนึ่ง
“ตึง!”
ผู้อาวุโสร่วงลงที่พื้นอย่างหนัก พื้นที่โดยรอบของโรงแรมสั่นรุนแรง ใต้เท้าของผู้อาวุโสปกคลุมด้วยรอยร้าว และผู้อาวุโสเดินไปทางเฉินเป่ยทีละก้าว เขาจ้องเฉินเป่ยตาไม่กะพริบ ตะโกนเสียงดัง “นายโดนออกหมายจับที่สำคัญสุด คาดไม่ถึงยังกล้าเข้าประเทศมาอีก!”
“ฉันกลับมาเพียงแค่มาปกป้องผู้หญิงของฉัน” เฉินเป่ยตอบไปเรียบๆ
“นายสร้างการนองเลือดที่นับไม่ถ้วน มือสองข้างของนายเปื้อนเลือดที่เหม็นคาวมากมาย ราชาหลง ถึงแม้ชื่อเสียงที่ต่างประเทศของนายจะดังแค่ไหน อยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์!” แต่ละประโยคของผู้อาวุโสสั่นสะท้านที่ว่างกลางอากาศดุจฟ้าผ่า และทรงพลัง
“จิงกับหู้ได้เล่าการกระทำทั้งหมดของนายกับฉันแล้ว ตอนนี้นายไม่มีทางหนีรอด ยังมีจำโทษตลอดชีวิต ไม่อย่างนั้นลงโทษประหารชีวิตตรงนี้!”
ผู้อาวุโสจ้องมองเฉินเป่ย ตะโกนเสียงดัง ปากกระบอกปืนของนายทหารทั้งหมด ปากกระบอกกระสุนของรถถัง ทั้งหมดเล็งเป้าไปยังเอ๋อตงเฉิน
บรรยากาศเปลี่ยนไปตึงเครียดขึ้นมากะทันหัน ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน
บรรยากาศเงียบงันแถบหนึ่ง เงียบกริบ……ทันใดนั้นเฉินเป่ยหัวเราะแล้ว
เฉินเป่ยกวาดสายตามองนายทหารโดยรอบที่สีหน้าเคร่งขรึมเหล่านี้ เขาหัวเราะทันที ในน้ำเสียงเพิ่มความขมขื่นและเยาะเย้ยขึ้น “พวกนายเล่นบทบาทผู้ให้ความเป็นธรรมอยู่ แต่รู้ความขัดแย้งของฉันกับสองคนนั้น? เขาบอกนายว่าฉันอยู่ที่นี่ งั้นนายรู้ไหมว่าแม้แต่คนในครอบครัวฉันเขายังไม่ปล่อยไป?”
หลังเฉินเป่ยพูดจบกวาดตามองทุกคนแวบหนึ่ง เอ่ยปากบอกชัดถ้อยชัดคำ “ใครไม่หาเรื่องฉัน ฉันไม่หาเรื่องคนนั้น ใครมาหาเรื่องฉัน…ฉันต้องฆ่า! ทิ้ง!”
เฉินเป่ยเพิ่งพูดจบก็ก้าวเท้าออกมา หายตัวไปจากที่เดิมทันใด
“ยิง!”
ผู้อาวุโสสั่งการ แต่ยังคงช้าไปก้าวหนึ่ง
“ตึกๆๆ……”
ชั่วขณะนั้น ลูกกระสุนเปลวไฟไม่มีจุดสิ้นสุดก็พ่นออกจากปากกระบอกปืน ประสานพันกันเป็นตาข่ายไฟขนาดใหญ่แต่ละอัน แผ่เต็มท้องฟ้าทับไปทางเฉินเป่ย
ทักษะของเฉินเป่ยไม่เคลื่อนหาย ในมือถือมีดหลงหยาไว้ ฟาดฟันสกัดกั้นลูกกระสุนเปลวไฟที่ระเบิดโจมตีมานับไม่ถ้วน เสียงปะทะกับมีดที่ชัดแจ๋วดังติดๆ กัน ลูกกระสุนแต่ละลูกถูกตัดขาดสองท่อนร่วงลงพื้น เห็นได้ชัดว่าเยาะเย้ยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“ชิ้งๆๆ!”
รูปร่างของเฉินเป่ยเคลื่อนไหวฉับไว ลอดผ่านจุดบอดของลูกกระสุนเปลวไฟที่ประสานกันอันแล้วอันเล่าไปอย่างง่ายดาย
“นี่ยังเป็นความเร็วของคนอยู่เหรอ…..”
ในของนายทหารที่ยิงไฟนับไม่ถ้วนสั่นสะเทือน พวกเขาไม่เคยเจอความเร็วที่สยองขวัญเช่นนี้มาก่อนเลย พวกเขายากจะจับรูปร่างของเฉินเป่ยไว้ได้……พวกเขาได้แต่มองเห็นภาพวืดที่เลือนรางแต่ละภาพ
ในขณะนี้เอง เสียงดังที่ไม่น่าฟังดังก้อง นายทหารคนหนึ่งถูกตีกระเด็นอย่างแรงกะทันหัน ตอนที่เขากระแทกลงพื้น จนที่พื้นปรากฏรอยร้าวรูปใยแมงมุมรอยหนึ่งขึ้น
“ตึงๆๆ……”
ไม่เพียงแค่นี้ ภาพวืดนั้นวาร์ปผ่านจากด้านข้างนายทหารแถวหนึ่ง จากนั้นนายทหารเหล่านั้นแต่ละคนก็โดนโจมตีกระเด็น หน้าอกยุบลง บนเสื้อผ้ายังเหลือรอยมือที่ชัดเจนเอาไว้
ในใจนายทหารนับไม่ถ้วนสั่นเทิ้ม พวกเขาเป็นกองทหารเกรียงไกรของเยี่ยนจิง แต่ละคนผ่านการฝึกฝนของสงครามนองเลือดมาหมด เป็นคนที่เคยวนเวียนระหว่างอยู่หรือตายมา พวกเขาถือได้ว่าเป็นกองทหารที่เข้มแข็งที่สุด แต่ตอนนี้ในใจพวกเขาสั่นไม่หยุดเป็นครั้งแรก
พวกเขาไม่เคยเจอศัตรูแบบนี้มาก่อน แม้แต่รูปร่างของศัตรูยังยากจะตัดสิน นี่ยังเป็นคนอยู่เหรอ
นี่แม่งคือสัตว์ประหลาดในร่างคนชัดๆ
เพียงพริบตาเดียวก็มีนายทหารหลายสิบคนบาดเจ็บหนัก
ส่วนราชาหลงในตำนานนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบ ใช้เพียงหมัดเดียวสำหรับนายทหารเหล่านี้
ผู้อาวุโสยืนอยู่ที่เดิม มองนายทหารแต่ละคนถูกโจมตีกระเด็นอย่างเมินเฉย ราชาหลงเข้ามาใกล้ตนเองด้วยความว่องไว
ในแววตาของผู้อาวุโสมีความหมายเย็นยะเยือกแวบผ่าน ราชาหลงที่ไม่สังเกตการณ์กวาดล้างโลกชั่วร้ายทิศตะวันตก ที่แท้ความสามารถสยดสยองเช่นนี้
“ราชาหลง นายแกร่งมากจริงๆ แต่ก็มีเพียงแค่ขั้นนี้แหละ นายไม่อาจจะพุ่งออกจากวงปิดล้อมได้แน่!” ผู้อาวุโสทำเสียงเย็นชา ตอนที่เฉินเป่ยใกล้พุ่งมาถึงตรงหน้าของผู้อาวุโส ผู้อาวุโสกุมหมัดขวาแน่น ระเบิดหมัดหนึ่งโจมตีออกไปทันที
และเวลานี้หมัดของเฉินเป่ยก็ระเบิดเข้ามาเช่นกัน
หมัดทั้งสองปะทะกัน เสียงดังแสนอึดอัด นายทหารในที่เกิดเหตุต่างรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนอันรุนแรง
ทั้งตัวของผู้อาวุโสถอยหลังตึงๆๆ ไปหลายสิบเมตรแบบควบคุมไม่อยู่ ก่อนจะหยุดร่างกายให้คงที่ และตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมองทางเฉินเป่ย ดวงตาหดลงกะทันหัน
เฉินเป่ยถอยหลังไปเพียงสองสามก้าว แม้แต่เมตรหนึ่งยังไม่ถึงเลย
ส่วนผู้อาวุโสรู้สึกชาทั้งแขน เฉินเป่ยยังสีหน้านิ่งเฉย กลับเหมือนคนไม่เป็นอะไร
“กองทหารทั้งหมด ยิงโจมตี!” ผู้อาวุโสสีหน้าอึมครึม ตะโกนเสียงดุ ชั่วขณะนั้นเปลวไฟจู่โจมไปทางเฉินเป่ยแบบเต็มไปทั่วทุกหัวระแหงอีกครั้ง
เฉินเป่ยทำเสียงฮึดฮัด สีหน้าหนาวเหน็บดุจน้ำค้างแข็ง มีดหลงหยาที่อยู่ในมือสกัดกั้นไปก่อนอย่างฉับไว แสงไฟกระจายไปทั่วทิศ ส่องสว่างในฉากค่ำคืนที่มืดมิดลุ่มลึกนี้แล้ว