สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 508
บทที่ 508 สัญญาณ
หลีเสียนซูมองสภาพใบหน้าที่แทบจะดูไม่ได้ของลูกชาย ก็รู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก แววตาที่มองเฉินเป่ยเต็มไปด้วยความโกรธและเกลียด เธอกัดฟันกรอด เธอสาบานในใจว่าอย่าให้เธอมีโอกาส ไม่งั้นเธอจะทำให้จุดจบของเฉินเป่ยกับหลีชิงเยียนน่าสังเวชยิ่งกว่าลูกชายของเธอ!
หลีเฟิงตะเกียกตะกายขึ้นมานั่งข้างคุณน้า คุณน้ามองเฉินเป่ยด้วยสายตาเย็นชา และถามซักไซ้ออกมาว่า “ถึงเสี่ยวเฟิงจะพูดเกินไปหน่อย แต่ทั้งสองคนไม่เห็นว่าเป็นคนในบ้านหลี คนนอกตระกูลมาดูหมิ่นคนในตระกูลขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าเจ้าบ้านกับรองเจ้าบ้านจะไม่สนใจ”
หลีชิงเยียนขมวดคิ้ว หลีเสียนซูรู้อยู่แก่ใจว่าหลีเฟิงมาคุกคามเธอก่อน พูดจาสกปรกกับเธอแล้วโดนเฉินเป่ยสั่งสอน แต่ตอนนี้หลีเสียนซูคิดอยากจะโยนความผิดให้เฉินเป่ย
“ถ้าลูกชายของคุณรู้จักควบคุมตัวเอง ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ปัญหาของลูกมักจะเกิดขึ้นกับผู้ปกครอง ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะสงสัย การที่ลูกชายคุณควบคุมความหื่นกระหายไม่ได้ เพราะคุณสอนเขาหรือเปล่า”
จู่ๆ หลีชิงเยียนก็ตอบกลับอย่างแข็งกร้าว น้ำเสียงของเธอแน่วแน่ ไม่มีแม้แต่ความอ่อนแอ เห็นได้ชัดว่าเธอจะปะทะกับหลีเสียนซู
ถ้าตอนนี้เป็นที่อื่น หลีชิงเยียนคงจะไม่แข็งกร้าวขนาดนี้ แต่ตอนนี้เธออยู่ในตระกูลหลี ที่นี่เต็มไปด้วยอันตราย เธอได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว
คนที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างเฉินเป่ยอดมองหลีชิงเยียนไม่ได้ เขากับซูเหลยคาดไม่ถึงกับการตอบโต้ของหลีชิงเยียน พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าหลีชิงเยียนจะแข็งกร้าวเช่นนี้!
นี่มันไม่ใช่บุคลิกของประธานสุดสวยสักนิด!
เฉินเป่ยแอบคิดในใจ แต่สีหน้าของคุณน้ากลับอึ้งไป ไม่นานเธอก็ตั้งสติได้ จากนั้นจึงก่นด่าออกมา เธอทำท่าเหมือนจะแตกหักกับหลีชิงเยียน คำพูดของหลีชิงเยียนมันแทงใจมาก เธอไม่ได้พูดคำหยาบคาย แต่มันแทงใจยิ่งกว่าคำพูดหยาบคายเสียอีก!
หลีเสียนซูไม่ได้นิ่งเหมือนหลีเช่าเทียนกับหลีหง เมื่อโดนหลีชิงเยียนพูดเช่นนั้นใส่ เธอโมโหจนแทบจะกระโดดขึ้นมา
“พอแล้ว เสียนซู นั่งลง!”
ขณะนั้นเอง คนที่นั่งเงียบอยู่นานอย่างหลีหงก็เอ่ยขึ้น
หลีเสียนซูจึงนั่งลงอย่างหงุดหงิดและเอาแต่จ้องหลีชิงเยียน ราวกับอยากจะฆ่าเธอจนอดใจรอไม่ไหว เหมือนกับอาฆาตแค้นกันมานานอย่างไรอย่างนั้น
“หลีหง นายดูสิ นี่คือเลือดชั่วของหลีหยาง ไม่ว่ายังไงฉันก็อาวุโสกว่ามัน มันกล้าพูดอย่างนี้กับฉันอย่างไม่มีความละอายแม้แต่น้อย!” คุณน้าใช้โอกาสนี้พูดเหมือนตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ
หลีหงเงยหน้ามองหลีเสียนซู แล้วพูดว่า “ฉันรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก ไม่ได้ตาบอด การที่ลูกไม่เชื่อฟัง ถือเป็นความผิดของพ่อแม่ เมื่อกี้ลูกชายเธอพูดแบบนั้น เธอไม่ตำหนิเขา แถมยังจะช่วยเขาอีก บังอาจนัก!”
หลีหงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา หลีเสียนซูกับหลีเฟิงตัวสั่นขึ้นมาทันที ความน่าเกรงขามของหลีหงน่ากลัวกว่าหลีเช่าเทียนไม่น้อยเลย ถึงแม้ว่าหลีเสียนซูจะมีหน้ามีตาในตระกูลหลี แต่ก็ต้องแอบมองสีหน้าของเขาอย่างหวาดระแวง
หลีหงกระทืบเท้าก็เพียงพอที่จะทำให้บรรดาป้าๆ น้าๆ ตัวสั่น
หลีเสียนซูโดนหลีหงสั่งสอน จึงทำได้เพียงนั่งเงียบอย่างว่านอนสอนง่าย และมองหลีชิงเยียนอย่างโกรธแค้น เหมือนกำลังบอกให้หลีชิงเยียนเตรียมตัวให้ดี
“ชิงเยียน จริงๆ แล้วคุณปู่เป็นห่วงเธอมาตลอด เขาไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้เพราะงานของประเทศ แต่เขาคิดถึงเธอเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งหลังจากที่เขาพูดถึงความคิดถึงที่มีต่อเธอและพ่อของเธอ ฉันเลยจัดงานครั้งนี้ขึ้นมา หวังว่าพวกเธอจะได้นั่งพูดคุยกัน ถ้าเป็นไปได้ก็จะเติมเต็มความปรารถนาของเจ้าบ้าน ให้เธอกับพ่อกลับมาที่บ้านหลีอีกครั้ง” หลีเช่าเทียนยกแก้วไวน์ขึ้นมา และยกขึ้นต่อหน้าของหลีชิงเยียน
“กลับมาที่บ้านหลีอีกครั้งงั้นเหรอ” หลีชิงเยียนตกใจ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง เธอตกใจและตะลึงเป็นอย่างมาก
เธอคิดไปร้อยแปดพันอย่างการที่หลีเช่าเทียนจัดงานเลี้ยงสังหารครั้งนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะกำจัดเธอออกไป แต่เธอก็เตรียมใจมาแล้ว ทว่าสิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือหลีเช่าเทียนจะให้เธอกับหลีหยางกลับมาที่บ้านหลีอีกครั้ง!
ดวงหน้าสวยของหลีชิงเยียนเต็มไปด้วยความตกตะลึง ผ่านไปนานกว่าจะตั้งสติได้ เธอหันไปมองหลีหง หลีหงจึงพยักหน้า และยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร
“จริงเหรอ” ตอนนี้ประธานสาวที่แสนจะฉลาดและเย็นชา กลับรู้สึกสับสน เธอมองหลีเช่าเทียนอย่างสงสัย เธอไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีวันที่เธอกับหลีหยางจะกลับเข้ามาในบ้านหลีอย่างสง่าผ่าเผย
ตอนนั้นหลีหยางเกลียดการทุจริตและความขัดแย้งภายในบ้านหลี เขาจึงเลือกที่จะออกมาจากบ้านหลี แต่หลีชิงเยียนรู้ดีว่าความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของหลีหยางคือหลังจากสิ้นลมหายใจ จะสามารถฝังศพไว้ที่ตระกูลหลี
เพราะเธอกับหลีหยางรู้ดีว่า ชีวิตที่เหลือคงไม่มีโอกาสกลับไปที่บ้านหลี แต่ในงานเลี้ยงคืนนี้ หลีเช่าเทียนกับหลีหงกลับบอกให้พวกเขากลับตระกูลหลี
“คุณปู่ก็เจ็บปวดที่ตัดสินใจทำไปตอนนั้น ดังนั้นตอนนี้เขาจึงอยากชดใช้ให้พวกเธอสองคนพ่อลูก ถ้าครั้งนี้เธอกับหลีหยางยอมกลับมาที่บ้าน พวกเรายินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อบรรเทาความยากลำบากของพวกเธอ”
ใบหน้าของหลีเช่าเทียนประดับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ไม่ว่าหลีชิงเยียนจะมองยังไง มันก็ไม่ใช่การเสแสร้ง บวกกับการยืนยันของหลีหง จู่ๆ หลีชิงเยียนรู้สึกสับสน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
หลีชิงเยียนถึงขนาดต้องหันไปมองซูเหลยกับเฉินเป่ย ซูเหลยสังเกตเห็นความสับสนในใจของหลีชิงเยียน จึงพูดให้กำลังใจเธออย่างอบอุ่น “วางใจเถอะค่ะประธานหลี ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร พวกเราจะอยู่ข้างคุณ”
หลีชิงเยียนมองหลีหงอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยจ้องไปที่หลีหง ริมฝีปากแดงพูดออกมาเบาๆ ว่า “นี่คือเรื่องจริงเหรอ”
ไม่นาน หลีหงจึงพยักหน้าและมองหลีชิงเยียน แล้วพูดว่า “จริงสิ”
หลีชิงเยียนนั่งอยู่ที่เดิม เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายแปลกออกไป “ได้ ฉันตกลง”
หลีเช่าเทียนพยักหน้าและยิ้มบางๆ “ชิงเยียน ไม่แน่เราอาจจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
หลีชิงเยียนส่ายหน้า แล้วมองหลีเช่าเทียน น้ำเสียงของเธอราบเรียบ เธอยังคงรักษาความเย็นชาและห่างเหินตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ ตอนที่อยู่เมืองหู้ไห่ หลีชิงเยียนเห็นธาตุแท้ของหลีเช่าเทียน ตอนนี้เธอหลงเหลือเพียงความรังเกียจและขยะแขยงหลีเช่าเทียน
“คุณชายหลี สิ่งที่ฉันอยากจะบอกคุณก็คือ การที่ฉันตัดสินใจทำแบบนี้ก็เพราะพ่อ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”
หลีเช่าเทียนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ขอแค่คุณตกลง งานเลี้ยงครั้งยิ่งใหญ่ของบ้านหลีในครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าแล้ว”
หลีเช่าเทียนพูดพลางดีดนิ้ว ไม่นานบริกรก็นำแชมเปญที่เตรียมไว้เข้ามา เมื่อเปิดขวด ก็ทำการรินให้กับคนบนโต๊ะอาหาร
“ฉลองให้กับการกลับมาของชิงเยียนและพ่อของเธอ” หลีเช่าเทียนยิ้มบางๆ ภายนอกดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ลึกลงไปในแววตาของเขาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
หลีชิงเยียนมองหลีหงกับหลีเช่าเทียน เธอเริ่มผ่อนคลายความหวาดระแวง จากนั้นจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “แค่นี้เองเหรอ ตอนนั้นคนในบ้านตั้งหลายคนแทบอยากจะให้พ่อของฉันตาย”
หลีเช่าเทียนยิ้มบาง แล้วพูดออกมาว่า “มันไม่ได้มีแค่นี้หรอก แต่ฐานะของฉันกับคุณปู่ของเธอในบ้านหลี ถึงจะมีคนต่อต้านไม่น้อย แต่ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไร”
หลีชิงเยียนพยักหน้าอย่างเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ สายตาของหลีเช่าเทียนไปหยุดอยู่ที่เฉินเป่ย
เมื่อมองเฉินเป่ย แววตาของหลีเช่าเทียนดูมีเลศนัยไม่น้อย จู่ๆ เขาก็พูดออกมาว่า “ในเมื่อชิงเยียนตกลงแล้ว งั้นก็ตัดขาดกับเขาซะเถอะ พวกเราหาคุณชายตระกูลจางแห่งสำนักหกประตู เขามีชื่อว่าจางเซวียน”
“จางเซวียน?” เมื่อหลีชิงเยียนได้ยินชื่อนั้นก็รู้สึกไม่คุ้น ดวงหน้าสวยเคร่งขรึมขึ้นมา เธอมองไปยังหลีเช่าเทียนกับหลีหง
นี่ทั้งสองคนกำลังจะให้เธอตัดขาดกับเฉินเป่ย แล้วให้เธอไปแต่งงานกับจางเซวียนแห่งตระกูลจางงั้นเหรอ
น้ำเสียงของหลีชิงเยียนเย็นชา เธอถามอย่างจริงจังว่า “พวกคุณหมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความตามที่พูด เธอไม่ต้องเก็บไอ้สวะนี่ไว้หรอก พวกเราหาคนที่ดีกว่าให้แล้ว” หลีเช่าเทียนพูดเนิบๆ แล้วจิบแชมเปญ
เฉินเป่ยเงยหน้าขึ้นปะทะกับแววตาของหลีเช่าเทียน เขาเห็นแววตาเยาะเย้ยและดูหมิ่นของหลีเช่าเทียนได้อย่างชัดเจน