สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 513
บทที่ 513 รับน้ำใจของผู้อื่นแต่ไม่ตอบแทนกลับถือว่าเสียมารยาท
ตกดึก ข้างนอกโรงแรม รถออดี้ A6 เคลื่อนตัวเข้ามาจากไกลๆ แม้ว่าจะเข้าใกล้โรงแรม แต่ก็ไม่มีการชะลอตัวแต่อย่างใด
เมื่อถึงหน้าโรงแรมก็ทำให้รปภ. สองคนถึงกับตกใจ รถออดี้ A6 ไม่เพียงแต่จะไม่ชะลอตัว แถมยังเร่งความเร็วขึ้นอีก มันพุ่งเข้ามาในโรงแรมความเร็วเหนือจินตนาการ
“หยุดเดี๋ยวนี้!” รปภ. ทั้งสองคนพุ่งเข้าไปหารถคันนั้น
“ปึง!”
ประตูรถเปิดออก ร่างหนึ่งเดินลงมาจากรถ
เมื่อรปภ. ทั้งสองคนเห็นว่าคนที่ลงมาจากรถคือใคร สีหน้าของพวกเขาก็อึ้งไปในทันที
นะ..นี่คือคนใช่ไหม
ความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตร กล้ามเนื้อที่น่ากลัวราวกับไม่ใช่คน คนที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนคนเลยสักนิด กลับกันมันเหมือนสัตว์ป่าที่ยืนสูงตระหง่าน!
ในขณะเดียวกันที่ตระกูลหลี ในห้องนอนของหลีเช่าเทียน ทีวี 95 นิ้วขนาดใหญ่กำลังฉายภาพที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ภาพนั้นก็คือภาพทุกสิ่งทุกอย่างที่ยักษ์น้อยเห็น
ตอนนี้หลีเช่าเทียนดูน่ากลัว แต่ทว่ายังคงวางมาดอยู่ เขาหมุนแก้วไวน์ในมือเล็กน้อย จากนั้นก็มองยักษ์น้อยแล้วพูดพึมพำขึ้นมาว่า “ถือว่าเป็นเกียรติมากเลยนะ ถ้าแกตายคามือของไอ้เจ้าอาวุธชีวภาพราคาเก้าร้อยล้านนี่”
แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้กลับไม่มีใครรู้ หลีชิงเยียนสวมชุดนอนสีม่วงเตรียมตัวนอนพักผ่อน
จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมา จนทำให้เธอขมวดคิ้ว
ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากที่เกิดดังวุ่นวาย ในใจของเธอก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี
ขณะเดียวกัน ตอนที่เกิดเสียงดังวุ่นวาย เฉินเป่ยไปรีบไปที่หน้าต่างและเปิดม่านออกไปมองข้างนอกโรงแรม
เมื่อเขาเห็นยักษ์น้อยที่สูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตร แววตาของเขาฉายแววตะลึง ชายหนุ่มเม้มปาก
“ปังปังปัง!”
ไม่นานเสียงเคาะประตูห้องของหลีชิงเยียนก็ดังขึ้น หลังจากที่เธอเปิดประตูก็พบกับซูเหลยและเฉินเป่ย ซูเหลยมองชุดนอนของหลีชิงเยียนด้วยสีหน้าเป็นกังวล จากนั้นจึงพูดว่า “ประธานหลี คุณรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ”
“เกิดอะไรขึ้น” หลีชิงเยียนถามขึ้น
“ยังไม่รู้เลย ประธานหลี คุณรีบไปเปลี่ยนชุดเถอะ เราออกไปดูก่อน” ซูเหลยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
เมื่อเดินออกมาก็เห็นร่างสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรยืนอยู่ไกลๆ มันกำลังยืนอยู่หน้าโรงแรม ในมือของมันกำลังยกใครคนหนึ่งเอาไว้ เป็นรปภ.ของโรงแรมที่ถูกบีบคอจนตาย!
เมื่อเฉินเป่ยเดินออกมา สายตาของยักษ์น้อยจ้องหลีชิงเยียนเขม็ง และโยนรปภ. คนนั้นเหมือนกับโยนขยะอย่างไรอย่างนั้น
“นี่มันคนอะไรกันเนี่ย” แววตาของหลีชิงเยียนมองยักษ์น้อยคนนั้น เธอมองเขาอย่างตกตะลึง
“ไม่ต่างอะไรจากคนตายแล้ว” เฉินเป่ยจ้องยักษ์น้อยเขม็ง แล้วพูดออกมาอย่างเนิบๆ
“ซูเหลย เธอไปสิ สเปกเธอนิ” จู่ๆ เฉินเป่ยก็พูดขึ้นมา
ซูเหลยอึ้งไป แล้วหันไปมองเฉินเป่ย แต่เมื่อเธอมองเข้าไปในแววตาลึกของเฉินเป่ย ก็เข้าใจสิ่งที่เฉินเป่ยต้องการจะสื่อ
“โอเค” ซูเหลยพยักหน้า แล้วสูดหายใจลึก จากนั้นจึงเดินเข้าไปหายักษ์น้อย
“ซูเหลยระวังด้วย” หลีชิงเยียนจ้องหลังของซูเหลยแล้วตะโกนออกมา
“ตึก ตึก ตึก” ยักษ์น้อยพุ่งเข้ามาหาซูเหลย! เมื่อมันเหยียบลงบนพื้น พื้นก็แตกออกทันที!
เกิดเป็นรอยเท้าลึกบนพื้นดิน
เมื่อหลีชิงเยียนเห็นภาพนั้นถึงกับอกสั่นขวัญแขวน ยักษ์น้อยแข็งแกร่งจริงๆ แค่ก้าวเท้าลงพื้นดินก็น่ากลัวขนาดนี้ นี่มันไม่ใช่คน!
“ตึก ตึก ตึก” ซูเหลยพุ่งเข้าไปหายักษ์น้อย ความเร็วของเธอเร็วขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองพุ่งเข้าหากันเหมือนฝนดาวตกกระแทกกัน!
ในมือของยักษ์น้อยถือขวานอยู่ มันน่ากลัวเป็นอย่างมาก!
“ฟึ่บ!”
แสงจากวัตถุอันแหลมคมเปล่งประกาย เหมือนจะฟันให้แยกออกจากกัน
มีดในมือของซูเหลยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
“ฉึบ” ตัวของซูเหลยโผล่มาด้านข้างของยักษ์น้อย มีดกรีดลงไปบนแขนของร่างกายกำยำ!
“ปัง!” ลูกไฟแวบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และสั่นสะเทือนไปทั่ว ราวกับจะทะลุเข้าไปในร่างของซูเหลย หวังจะเอาชีวิตของเธอ
ซูเหลยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เธอยกมีดเล่มบางขึ้นมาขวางไว้อย่างรวดเร็ว
“ปัก!” ลูกไฟนั่นปะทะเข้ากับมีด แล้วก็ระเบิดอยู่ในอากาศ
มีดในมือของซูเหลยเคลื่อนไหวไปมา มีดนั่นมันน่ากลัวมาก!
หลีชิงเยียนมองภาพนั้นด้วยความอึ้ง จิตใจของเธอไม่สงบ
ผู้หญิงร่างบอบบางอย่างซูเหลย ร่างกายแข็งแรงเป็นอย่างมาก
นี่มันเหนือกว่าสิ่งที่หลีชิงเยียนจินตนาการเอาไว้ ในจินตนาการของเธอ ผู้หญิงบอบบางแค่คนหนึ่ง จะเก่งขนาดนี้ได้ยังไง
หลีชิงเยียนถึงกับสงสัยว่าตัวเองกำลังฝันอยู่หรือเปล่า ที่เธอรู้ ซูเหลยคือบอดี้การ์ดประจำตัวของเธอ แต่ยังไงก็เป็นผู้หญิง ทำไมเธอถึงเก่งขนาดนี้กันล่ะ ไม่ว่ายังไงผู้หญิงก็ไม่สามารถเทียบกับผู้ชายได้ แต่ในตอนนี้สิ่งที่ซูเหลยแสดงให้เห็น มันทำให้เธอตะลึงเป็นอย่างมาก!
ซูเหลยเหมือนกุหลาบที่เปื้อนเลือด ทุกที่ที่เธอเคลื่อนตัวไปมักจะมีเลือดสาด บนตัวของยักษ์น้อยเต็มไปด้วยบาดแผลภายในระยะเวลาอันสั้น
ในขณะนั้นเอง ยักษ์น้อยเบิกตาโต แววตาของมันฉายแววเหมือนจะฆ่าคนได้ มันดุร้ายราวกับมันกำลังฟื้นคืนชีพ!
ร่างบอบบางของซูเหลยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมีเสน่ห์ราวกับกำลังระบำ การเคลื่อนไหวของเธอเร็วมากจนยักษ์น้อยจับได้เพียงเงาของเธอและไม่สามารถทำอะไรเธอได้
นี่มันคือการทรมานอีกฝ่ายชัดๆ
จู่ๆ ดวงตาคู่สวยของซูเหลยก็หยุดนิ่ง
“สวบ” เสียงอันแหลมคมดังขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างสั่นสะเทือน กลิ่นแห่งความตายปกคลุมไปทั่ว
ซูเหลยเขย่งเท้าเบาๆ ร่างบางของเธอลอยขึ้นไปในอากาศ การหมุนตัวอันงดงาม หลบอาวุธอันแหลมคมได้
นั่นเป็นมีดยาวสองฟุต มันคมราวกับกระจก ความน่ากลัวของมันปรากฏออกมา เจ้าของมีดอย่างยักษ์น้อยยังยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าของมันเย็นชาราวกับอาวุธสงครามที่ไร้จิตใจ
“แกควรภูมิใจที่หลบมีดฉันได้” เสียงของชายหนุ่มเย็นยะเยือกราวกับเสียงจากนรก
ซูเหลยส่งเสียงหึออกมา จากนั้นก็ตอบออกไปแบบเนิบๆ ว่า “การที่พูดแบบนี้ออกมาได้ นับว่านายหน้าไม่อายมาก”
แววตาของชายหนุ่มนิ่งไป แววตาแห่งการสังหารถูกปลดปล่อยออกมา
“สวบ” มีดยาวสองฟุตพุ่งออกมาในอากาศ
ร่างบางของซูเหลยหลบมีดอันแหลมคมอย่างรวดเร็ว
ดาบนั่นแทงไม่ถูกเป้าหมาย มันลอยในอากาศและหมุนกลับเข้ามาอยู่ในมือของชายคนนั้น
“น่าสนุกนี่” ชายคนนั้นเม้มปากเบาๆ จากนั้นจึงแสยะยิ้มออกมา
“วันนี้แกจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!” เสียงของชายคนนั้นเย็นยะเยือก และแฝงไปด้วยความยโส เขาคือคนที่โดดเด่นในกองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิง และผ่านการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของกองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิง ยิ่งทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีใครสามารถต้านทานได้!
ใบหน้าของยักษ์น้อยปรากฏรอยยิ้มเย็นยะเยือก “แกรู้แค่ว่าต้องตายภายใต้คมดาบของฉัน”
เมื่อได้ยินคำพูดยโสของชายคนนี้ คนที่อยู่อีกด้านอย่างเฉินเป่ยก็ทนฟังต่อไปไม่ได้อีก “โอ้โห นี่พี่ชาย ก็แค่ทะเลาะกันเท่านั้น ทำไมต้องคุยโม้ซะใหญ่โต โม้ขนาดนี้ เหนื่อยไหม”
แววตาของยักษ์น้อยราวกับสายฟ้า ดาบในมือตวัดไปในอากาศและพุ่งเข้าไปหาเฉินเป่ย
“ปัก!” เสียงกระแทกดังขึ้นมา
ขณะที่มีดกำลังจะปักเข้าไปที่คอของเฉินเป่ย เขาเอียงหัวหลบ ทำให้มีดเล่มนั้นพุ่งไปปักอยู่บนกำแพง
แรงปะทะของมีดกับกำแพงมันดังจนน่าตกใจ
มีดลอยกลับเข้าไปในมือของยักษ์น้อย แววตาของมันนิ่งและแฝงไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ มีดของเขาใช้โลหะผสมที่แหลมคมที่สุด มันทนทานและแหลมคมเป็นอย่างมาก อีกทั้งความเร็วของมันยังเร็วกว่ามีดทั่วไปหนึ่งเท่า คิดไม่ถึงว่าจะหลบได้!
ผู้ชายคนนั้นเป็นใครมาจากไหน
“ฮึบ” ขณะที่ยักษ์น้อยกำลังครุ่นคิด ซูเหลยจับมีดแล้วพุ่งเข้าไปหายักษ์น้อย มีดนั่นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ขนาดซูเหลยยังคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะสามารถแสดงความรวดเร็วอันน่ากลัวขนาดนี้ออกมาได้!
ในความเป็นจริง ถ้าเป็นเมื่อก่อนซูเหลยคงไม่สามารถทำได้ จู่ๆ ซูเหลยก็หวนคิดไปถึงแต่ก่อน ยาสองหลอดนั่นทำให้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ได้ยาสองหลอดของเฉินเป่ย เธอคงไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้!
ยักษ์น้อยละสายตาออกอย่างช้าๆ “ช่างเหอะ จัดการแกก่อนแล้วกัน”
ซูเหลยส่งเสียงหึในลำคอ “แกน่ะเหรอ”
“สวบบบ” มีดยาวสองฟุตเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว บรรยากาศแปรปรวนราวกับฟ้าร้อง!
ซูเหลยยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้หลบอะไรเลย
ในขณะที่กำลังวุ่นวาย ซูเหลยขยับตัวและขยับมีดในมืออย่างรวดเร็ว
มีดปะทะกันจนทำให้มีดเล่มนั้นถูกซูเหลยทำให้ทิศทางของมันเปลี่ยนไป
ซูเหลยทำลายการสังหารที่เฉียบคมด้วยความเบาบาง
แววตาของยักษ์น้อยนิ่งไป มีดอันแหลมคมที่พร้อมสังหารของเขา กลับถูกเธอรับมือได้อย่างง่ายดาย
“เสร็จหรือยัง ถึงตาฉันบ้าง” แววตาของซูเหลยฉายแววสังหาร เธอขยับข้อมือ มีดในมือเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
“สวบ!”
ยักษ์น้อยยื่นมือมารับมีดของเธอ จู่ๆ สีหน้าของมันก็เปลี่ยนไป และถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
มีดเล่มนั้นมีพลังแฝงเอาไว้อย่างมหาศาลจนน่ากลัว ทำให้ยักษ์น้อยถอยหลังไปหลายก้าว
“ฉับ!” มีดเล่มนั้นปาดไปที่หน้าของยักษ์น้อย ณ เวลานี้ยักษ์น้อยรู้สึกเหมือนเห็นชะตากรรมของตัวเอง
มีดเล่มนั้นหมุนเบาๆ และลอยกลับเข้าไปในมือของซูเหลย ซูเหลยมองไปยังยักษ์น้อย สีหน้าเยาะเย้ย “เป็นไง คิดว่าตัวเองเก่งคนเดียวหรือไง”
ยักษ์น้อยหน้าซีดเผือด เหงื่อผุดออกมาจากหน้าผากของมัน เมื่อครู่มีดของเธอรวดเร็วมาก เร็วจนเข้าไม่สามารถตอบโต้ได้
“เอาอีกไหมล่ะ” ซูเหลยมองเขาอย่างยั่วโมโห
สีหน้าของยักษ์น้อยเย็นชา “รนหาที่ตาย!”
ทักษะของเขาพลุ่งพล่าน เขาพุ่งตัวออกไป มีดในมือของเขาน่ากลัวราวกับจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง!
“ปัก!” ซูเหลยใช้ดาบในมือขึ้นมาขวางไว้ เธอรับมือกับการจู่โจมอันน่ากลัวของยักษ์น้อยได้
ยักษ์น้อยโดนแรงปะทะกลับจนถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะยืนได้อย่างมั่นคง
ยักษ์น้อยเอาแต่จ้องไปที่มีดในมือของซูเหลย “มีดของแกคือมีดอะไร”
ซูเหลยอธิบายออกมาอย่างเนิบๆ ว่า “สิ่งสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่มีด”
แววตาของยักษ์น้อยเย็นชา ร่างกายของเขาเดือดดาลอีกครั้ง มีดสองฟุตพุ่งไปที่ซูเหลยอย่างรวดเร็ว บรรยากาศแปรเปลี่ยนไปจนน่าตกใจ มีเสียงเบาๆ เกิดขึ้น เสียงยังไม่ทันดัง ความน่ากลัวมาเสียก่อน!
ขณะที่มีดกำลังจะเข้ามาใกล้ซูเหลย แขนของยักษ์น้อยสะบัด มีดในมือลอยไปบนอากาศ
แรงสังหารอันน่ากลัวยากที่จะหลบได้
“ฉิ๊ง” เสียงเสียดสีของโลหะดังขึ้น
มีดทั้งสองเล่มปะทะกัน ความคมของมีดเสียดสีกัน จนทำให้เกิดประกายขึ้นในอากาศ
สีหน้าของยักษ์น้อยดุร้ายและเย็นชา แรงอาฆาตของมันน่ากลัวมาก เขาหมุนตัวและใช้มีดสองฟุตแทงออกไปอีกครั้ง
ซูเหลยสะบัดมีด มันรวดเร็วจนเห็นเป็นเงามีด มีดพุ่งไปที่ยักษ์น้อยอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของยักษ์น้อยเปลี่ยนไปในทันที มันรีบเอามีดมากันไว้ตรงหน้าอก
“ฉึบฉับๆ” เสียงมัดสองเล่มปะทะกันไม่หยุด
ร่างของยักษ์น้อยถอยไปด้านหลัง มันไม่สามารถต้านทานแรงสังหารอันน่ากลัวได้
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง บรรยากาศอันน่ากลัวเริ่มจางลง แต่ทว่าร่างของยักษ์น้อยยังคงถอยกรูดไปข้างหลัง มันถูกพลังอันน่ากลัวสะท้อนกลับจนกระอักเลือด!
หลีเช่าเทียนที่กำลังนั่งมองภาพนั้นอยู่ในตระกูลหลี ถึงกับเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง คิดไม่ถึงว่ายักษ์น้อยจะโดนอีกฝ่ายโต้กลับจนกระอักเลือดออกมา เป็นไปได้ยังไงกัน
มันคืออาวุธชีวภาพที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิงเชียวนะ!
สีหน้าของยักษ์น้อยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันจ้องไปยังร่างอันน่าหลงใหลที่ยืนอยู่ไม่ไกล นี่เป็นศัตรูตัวฉกาจที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน!
“แกเป็นใครกันแน่ บอกมานะ” เสียงของยักษ์น้อยเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ซูเหลยสีหน้าเฉยชา “แกไม่คู่ควรที่จะรู้จักชื่อฉันหรอก!”
“จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ว่าแกแข็งแกร่งมาก” ยักษ์น้อยเช็ดเลือดตรงมุมปากช้าๆ สีหน้าของมันเย็นชา “แกสมควรได้รับการสู้อย่างจริงจัง!”
ถ้าเมื่อครู่ยักษ์น้อยยังคงยั้งมือ งั้นตอนนี้มันก็ไม่จำเป็นต้องยั้งมืออีกแล้ว
“หลายปีมานี้ตัวฉันเองได้รับมอบหมายให้กำจัดศัตรู แกคือศัตรูเพียงคนเดียวที่ฉันยอม ตายไปก็ไม่เสียดาย” น้ำเสียงของยักษ์น้อยแน่วแน่และเย็นชา บรรยากาศอันน่ากลัวกลับมาอีกครั้ง
“หา! ยังจะเอาอีกเหรอ” ซูเหลยยิ้มเยาะเย้ย “แกดูมีดในมือของตัวเองก่อน มันยังจะสู้ไหวไหม”
ขณะนี้มีดในมือของยักษ์น้อยเต็มไปด้วยรูพรุน มีดทั้งเล่มเริ่มร้อนระอุ
ยักษ์น้อยมีสีหน้าเย็นชา “มีดของฉันฆ่าแกได้อย่างแน่นอน!”
“พรืด!” ที่หน้าประตูโรงแรม เฉินเป่ยหัวเราะพรวดออกมา “ฮ่า ฮ่า นี่พี่ชาย มีดของนายพรุนไปหมดแล้ว ยังจะอวดเก่งอีกเหรอ”
สีหน้าของยักษ์น้อยเย็นชาเป็นอย่างมาก สีหน้าของมันแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แววตาของมันพุ่งไปที่เฉินเป่ย “แกรนหาที่ตายหรือไง”
เฉินเป่ยทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ “ให้ตายเหอะ แกโดนผู้หญิงทำร้ายจนกระอักเลือด ยังจะอวดเก่งอีก อวดว่าตัวเองเก่งจนไม่มีใครต้านทานได้”
“ทำเหมือนตัวเองเป็นหนึ่งในใต้หล้า เจ๋งจริงๆ เลย!”
ยักษ์น้อยเย็นชาและดุร้ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แววตาสังหารของมันถูกปลดปล่อยออกมา ครั้งนี้มันจะฆ่าเฉินเป่ยให้ได้!
มีดพุ่งไปยังเฉินเป่ย น้ำเสียงโหดเหี้ยมดังขึ้นว่า “แกกล้าสู้กับฉันงั้นเหรอ”
“ห๊ะ! แกจะสู้กับฉันเหรอ” เฉินเป่ยอึ้งไปเล็กน้อย “ไม่ดีหรอกมั้ง”
“ช่างเถอะ ยังไงแกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน เลือดของแกจะมาเลอะเสื้อฉันเปล่าๆ” สีหน้าของยักษ์น้อยยโสโอหัง และยังแสยะยิ้มเยาะเย้ยออกมา เขาคือยักษ์น้อย มีดของเขาสังหารเฉพาะคนที่แข็งแกร่งเท่านั้น เลือดของคนที่ไม่มีชื่อเสียงเรียงนาม จะทำเขาเสื่อมเสียชื่อเสียงเปล่าๆ
“เฮ้ย ในเมื่อแกเหิมเกริมขนาดนี้ ได้ ฉันจะสู้กับแก!” เฉินเป่ยพยักหน้าแล้วก้าวออกมา