สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 520
บทที่ 520 นรกบนดิน
แสงดำสั่นระรัวอยู่ในมือของเฉินเป่ย ราวกับมันกำลังคำรามอย่างตื่นเต้น เหมือนกับมันได้กลิ่นคาวเลือด!
“ย้ากกก” จู่ๆ เฉินเป่ยก็กระโดดขาคู่ ตัวของเขาลอยขึ้นไปในอากาศ และมองทหารเหล่านั้นด้วยสายตาเย็นชา ความเย็นยะเยือกแผ่ออกมาตั้งแต่บนลงล่างและระเบิดลงสู่พื้นดิน!
“หัวหน้าระวัง!” เหล่าทหารจ้องอย่างน่ากลัว หนึ่งในนั้นตะโกนออกมาตามสัญชาตญาณ
หัวหน้ายังคงยืนอยู่ที่เดิม เห็นมีดหลงหยาในมือของเฉินเป่ยที่กำลังพุ่งมายังตัวเขา
วินาทีนั้นหัวใจของหัวหน้าสั่นระรัว แต่ในพริบตาก็ตั้งสติได้ว่าตัวเองโดนเฉินเป่ยเล็งไว้และไม่มีทางหนี
หัวหน้ายกปืนขึ้นมาอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็ยิงไปที่เฉินเป่ยเพื่อสกัดกั้นการจู่โจม หรือไม่ก็บีบบังคับให้เขาเปลี่ยนทิศทาง
“ปังปังปัง”
แววตาของเฉินเป่ยฉายแววแห่งความบ้าคลั่ง มีดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เสียงดังกึกก้องดังขึ้นมา ลูกกระสุนที่ออกมาจากกระบอกปืนของหัวหน้าถูกเฉินเป่ยฟันจนขาดเป็นสองท่อน
“เป็นไปได้ยังไง!”
ประกายของลูกปืนพาดผ่านความมืดยามค่ำคืน หัวหน้าเห็นการเคลื่อนไหวของเฉินเป่ยผ่านใต้ลูกปืนนับไม่ถ้วน เขาเบิกตาโต
จู่ๆ สีหน้าของหัวหน้าก็เปลี่ยนไป ทั้งตกใจและแทบไม่อยากจะเชื่อ
เป็นอีกครั้งที่เฉินเป่ยใช้มีดหลงหยาในมือ สกัดกั้นลูกกระสุนนับไม่ถ้วนได้อย่างง่ายดาย!
ถ้าก่อนหน้านี้บอกว่าเฉินเป่ยดวงดีเลยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทว่าครั้งนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้หัวหน้ายากที่จะเข้าใจคือความเร็วของเฉินเป่ย แม้กระทั่งพวกเขาที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว ยังไม่สามารถเทียบได้เลย!
“เป็นไปไม่ได้” หัวหน้ามองเฉินเป่ยด้วยสายตาเย็นชา เขากัดฟันกรอด เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าร่างกายของเฉินเป่ยจะน่ากลัวเหมือนกับพวกเขา
เฉินเป่ยไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงแบบพวกเขา แต่ทว่ากลับมีร่างกายที่น่ากลัวแตกต่างจากคนทั่วไปเหมือนกันกับพวกเขา
หัวหน้าดวงตาแดงก่ำ เขาจำเป็นต้องทำภารกิจให้เสร็จ การที่เขาได้รับคัดเลือกจากกองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิง เพราะเขาคือคนที่ดีที่สุดในกองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิง ภารกิจที่ผ่านมือเขา ไม่เคยมีภารกิจไหนที่ไม่สำเร็จ!
แต่ทว่าตอนนี้หัวหน้าเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ไม่รู้มาจากไหน แต่ในใจของเขากลับรู้สึกพ่ายแพ้และสู้ไม่ได้ ราวกับว่าไม่สามารถเอาชนะผู้ชายคนนี้ได้ เป็นคนที่เขาไม่สามารถสู้ได้
“ตายซะเถอะ” หัวหน้าแผดเสียงออกมาอย่างไร้สติ เขาลั่นไกปืนอย่างบ้าคลั่ง กระสุนปืนพุ่งออกมาไม่หยุด เส้นเลือดปูดขึ้นมาเพื่อรองรับแรงถีบกลับของปืน
“ฉิ้ง ฉิ้ง ฉิ้ง”
แต่ทว่าความเร็วของเฉินเป่ยก็ไม่ได้ลดลง มันกลับยิ่งเร็วขึ้นด้วยซ้ำ
“ปังปังปัง”
กระสุนปืนจำนวนนับไม่ถ้วนพาดผ่านตัวของเฉินเป่ย เสียงของกระสุนปืนดังไปทั่ว ขณะที่เฉินเป่ยกำลังจะถึงด้านหลังของหัวหน้า เขารู้สึกถึงอุณหภูมิความร้อนในอากาศ
“หัวหน้า!” ทหารที่อยู่ใกล้กับหัวหน้าที่สุดไม่แม้แต่จะหลบ เขากระโจนเข้าไปหาหัวหน้า
“ผลั่ก”
หัวหน้าโดนผลักไปหลายเมตร จนล้มลงกับพื้น ตอนที่เขามองมาก็พบว่าทหารคนนั้นล้มลงบนพื้นแล้ว หัวหน้าเบิกตาโต มีดเล่มดำปักอยู่ที่หัวใจของทหารคนนั้น
เลือดไหลทะลักออกมา ทหารคนนั้นมองมายังหัวหน้าด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ ตัวเขาเองเพิ่งได้รับพละกำลังมหาศาลได้เพียงไม่นาน แต่กลับโดนปลิดชีพเสียแล้ว
เฉินเป่ยดึงมีดออกมาช้าๆ แล้วกวาดตามองไปรอบๆ ด้วยท่าทีเรียบเฉย แววตาแห่งความอาฆาตจ้องมาที่เขา ขณะนั้นเองอากาศก็เย็นยะเยือก
“ฉันบอกแล้ว ไอ้พวกเวร พวกแกไม่ไป นี่คือสิ่งที่ต้องสูญเสีย” เฉินเป่ยพูดอย่างเฉยชา เขาในตอนนี้ไม่ได้เป็นพวกอันธพาลอย่างที่หลีชิงเยียนมอง เขาในตอนนี้คือเทพสังหาร ปีศาจที่มาจากนรก!
ถึงแม้พวกทหารที่ฆ่าคนมาอย่างมากมาย เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินเป่ยก็รู้สึกสั่นอย่างแปลกประหลาด มันคือความหวาดกลัวในตัวของพวกเขาที่มีต่อเฉินเป่ย
มันคือออร่าของคนที่เป็นราชาเท่านั้น คนที่มีออร่าเช่นนี้ทั้งโลกคงมีแค่คนเดียว
พวกเขาก็แค่ทหาร ไม่ว่ายังไงก็เป็นแค่ทหารที่คอยรับคำสั่ง ซึ่งแตกต่างจากเฉินเป่ยอย่างชัดเจน!
“ถอย!” หัวหน้ากวาดตามองไปเห็นเหล่าทหารบาดเจ็บล้มตายภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ทว่าชายคนนี้กลับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แถมพลังการต่อสู้ยังไม่ลดน้อยลงอีกด้วย
หัวหน้าตั้งสติได้ เขารีบออกคำสั่งให้ถอย!
แต่ทว่าตอนนี้กลับสายไปเสียแล้ว
“แกรนหาที่ตาย”
เมื่อหัวหน้าสังเกตเห็นเฉินเป่ยมองไปยังหนึ่งในบรรดาทหาร แววตาของเฉินเป่ยน่ากลัวและเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมจะปล่อยพลังออกมา
หัวหน้าโยนปืนในมือทิ้ง และดึงมีดตรงขาออกมา จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาเฉินเป่ย
“หัวหน้า!” เหล่าทหารที่กำลังถอยอย่างรวดเร็วเห็นหัวหน้าของตัวเองสู้โดยไม่คิดชีวิต ต่างก็พากันอึ้งไป
“หนีไป!”
หัวหน้าแผดเสียงออกมา เขาจะยื้อเฉินเป่ยเอาไว้เอง!
“อะไรกัน” เฉินเป่ยแสยะยิ้มมุมปาก “พอเห็นว่าฆ่าฉันไม่ได้ก็จะหนีอย่างนั้นเหรอ”
“พวกแกคิดว่าจะหนีพ้นเหรอ” เสียงของเฉินเป่ยดังก้องราวกับสายฟ้าฟาด จนทำให้เหล่าทหารใจเต้นด้วยความหวาดกลัว
“ย้ากกก”
ขณะนั้นเอง หัวหน้าก็พุ่งเข้าไปตรงหน้าเฉินเป่ย เขาตวัดมีดในมือของตัวเองไปที่ลำคอของเฉินเป่ย
แต่ทว่าเฉินเป่ยเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า เสียงดังกึกก้องในอากาศ ความเร็วของเฉินเป่ยถึงขีดสุดยอด มันเร็วมากจนกลายเป็นเหมือนภาพลวงตา ทำให้หัวหน้าไม่สามารถมองเห็นการกระทำของเฉินเป่ยได้อย่างชัดเจน
“พรึ่บ”
แสงดำพาดผ่านไป เกิดรอยเลือดขึ้นที่ข้อมือของหัวหน้า เลือดพุ่งออกมา
มีดหลุดออกจากมือหัวหน้าอย่างไม่สามารถควบคุมได้ มีดหล่นลงไปบนพื้น
หัวหน้าจ้องเขม็ง ความเจ็บทำให้เขาตั้งสติได้ เขาต้องการที่จะหลบ
แต่เฉินเป่ยเร็วกว่า แสงดำเคลื่อนผ่านตัวหัวหน้าอย่างรวดเร็ว ราวกับมังกรดำ มันเร็วจนทำให้หัวหน้าไม่สามารถจับต้องตัวมันได้
เสื้อทหารบนตัวของหัวหน้าเกิดรอยขาดออกมานับไม่ถ้วน เลือดสดๆ ไหลออกมา มือและเท้าของเขาปรากฏรอยแผลขึ้น ร่างกายของเขาเหวอะหวะไปหมด เสียงตุ้บดังขึ้น ร่างของหัวหน้าลงไปนอนกองอยู่บนพื้น
“แกทำอะไร” หัวหน้าจ้องเฉินเป่ยเขม็ง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตและน่ากลัวจนยากที่จะจินตนาการได้ ภายในเวลาไม่กี่วินาที เขาไม่มีแม้แต่แรงที่จะควบคุมตัวเอง
“ฉันทำอะไรกับแกงั้นเหรอ เป็นวิธีที่กองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิงชำนาญไม่ใช่หรือไง” เฉินเป่ยมองเขาด้วยแววตานิ่งเฉย แต่ทว่าความนิ่งเฉยก็เพียงพอที่จะทำให้หัวหน้าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
“กะ..แกดึงเอ็นแขนขาฉันเหรอ!” หัวหน้าทั้งโกรธทั้งตกใจ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยการไม่ยอมรับถึงความสิ้นหวัง เขาจะต้องตายที่นี่งั้นเหรอ!
“ใช้วิธีการของคนอื่นมาฆ่าแกไง เวลาที่กองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิงจะกำจัดศัตรูก็ทำแบบนี้ไม่ใช่หรือไง” เฉินเป่ยย้อนถาม หัวหน้ายิ่งหวาดกลัวเข้าไปอีก “นี่คือยุทธวิธีลับของกองทัพ แกรู้ได้ยังไง แกเป็นคนของพวกเราเหรอ”
“เคยเป็น” เฉินเป่ยจุดบุหรี่แล้วสูบมัน จากนั้นก็พ่นควันออกมาช้าๆ
“เคยเป็น…” หัวหน้ามองไปยังเฉินเป่ย สีหน้าและแววตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มันแปรเปลี่ยนจนสับสนไปหมด เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเฉินเป่ยเคยเป็นคนของตัวเอง!
“เป็นไปไม่ได้! แกต้องหนีทหารแน่นอน!” หัวหน้าส่ายหน้าและเอาแต่จ้องเฉินเป่ย จากนั้นก็แผดเสียงออกมา
ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่เชื่อว่ากองทหารการป้องกันสงครามเยี่ยนจิงจะให้เขานำทัพ มาฆ่าเพื่อนร่วมทัพที่เคยทำหน้าที่ป้องกันสงครามเยี่ยนจิง!
“ฉันก็ไม่ได้กะจะให้แกเชื่อ” เฉินเป่ยตอบกลับอย่างราบเรียบเหมือนกับเขาไม่ละอายใจต่อการหนีทหาร
เฉินเป่ยเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าเหล่าทหารพวกนั้นขึ้นไปบนรถยนต์คันสีดำ เขาก็ยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย มันประหลาดอย่างเห็นได้ชัด
“สายไปแล้ว พวกมันขึ้นรถไปแล้ว” หัวหน้ารับรู้ได้ถึงเจตนาของเฉินเป่ย เขาแสยะยิ้มออกมา
“ขึ้นรถแล้วจะปลอดภัยงั้นเหรอ” เฉินเป่ยเอ่ยปากย้อนถาม และยิ้มเหมือนมีอะไรน่าสนุก
ใจของหัวหน้าเต้นระรัว เขามองไปยังเฉินเป่ย จู่ๆ ความวิตกกังวลก็ก่อตัวขึ้นมาในใจของเขา