สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 525
บทที่525 จู่โจมฆ่าไม่ขาดสาย!
หลีชิงเยียนตะลึง เธอก็คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอคนรู้จักเก่าท่านนี้ของตนเองในที่นี้ได้
เซียวจ้านเดินมาถึงตรงหน้า สายตาชำเลืองไปทางเฉินเป่ยที่นั่งอยู่ด้านข้าง ประหลาดใจอยู่บ้าง เขานึกไม่ถึง ว่าสาวงามในความทรงจำของตนเอง…จะเอาคนที่หน้าตาธรรมดาประเภทนี้มาเป็นคู่ควง?
“ชิงเยียน คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เซียวจ้านถามด้วยเสียงละมุน
เซียวจ้านถือโอกาสเอ่ยปากถาม และกำลังลดสถานะของเฉินเป่ยลงโดยปริยาย เขาแทบจะเพิกเฉยต่อเฉินเป่ย เพราะเฉินเป่ยในสายตาของเขา เดิมทีคือการมีตัวตนที่ไม่เข้าขั้น
ส่วนเขาเป็นผู้สืบทอดของบริษัทตระกูลเซิน เฉินเป่ยที่ดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไปแบบนี้ เดิมไม่มีทางเทียบเคียงได้เลย
หลีชิงเยียนตะลึงนิดหน่อย กำลังอยากเอ่ยปาก…ทันใดนั้นเฉินเป่ยกลับแย่งพูดขึ้นก่อน “ฉันกับชิงเยียนกำลังออกเดตล่ะ”
ซู่! พอคำพูดนี้ออกไป ทุกคนต่างอึ้งค้างกันหมด
เสียงของเฉินเป่ยไม่เบา ครู่หนึ่งจึงดึงดูดความสนใจไม่น้อยเลย
หลีชิงเยียนถลึงตาเบาๆ ทันใดนั้นรู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่พาเจ้าหมอนี่เข้ามา……
สีหน้าหล่อสง่าของเซียวจ้านตกตะลึงไม่ปกติ การแสดงออกบนหน้าโดดเด่นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเขาแปลกใจต่อคำตอบอันนี้มาก
และบรรดาคุณชายกลุ่มนั้นที่อยู่ด้านหลังเซียวจ้านก็ตาค้างเช่นกัน คุณชายคนหนึ่งพูดเสียดสีด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “พูดเล่นอะไร พวกยากจนอย่างนายเนี่ยนะ ยังจะมาออกเดตกับสาวสวยแบบนี้?”
เซียวจ้านหันหน้าถลึงตาเย็นชาใส่เขาแวบหนึ่ง หยุดยั้งการเยาะเย้ยของคุณชายด้านหลัง
เซียวจ้านมองหลีชิงเยียนอย่างอ่อนโยน “ชิงเยียน ในเมื่อบังเอิญขนาดนี้ ไม่สู้พวกเราไปหาห้องดีๆ คุยกันเถอะ ไม่เจอกันนาน ผมเชื่อว่าระหว่างพวกเราจะต้องมีเรื่องให้พูดมากมายแน่”
หลีชิงเยียนยิ้มเล็กน้อย พูดปฏิเสธแบบสุภาพ “ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอบคุณความหวังดีของคุณมากนะคะ”
เมื่อเซียวจ้านถูกปฏิเสธ ก็ไม่ได้ดึงดันเกินงาม ใบหน้าที่หล่อเหลายิ้มเล็กน้อย รักษากิริยาท่าทางงดงาม “ก็ได้ งั้นผมกับเพื่อนๆ ไปทานข้าวก่อนแล้วกัน”
เซียวจ้านพยักหน้าเล็กน้อยแสดงการตอบรับทางหลีชิงเยียน จากนั้นพาเหล่าคุณชายเดินไปทางโต๊ะอาหารที่ไม่ไกลนักตัวหนึ่ง พวกเขาถูกจัดเตรียมที่นั่งไว้เรียบร้อยตั้งแต่แรกแล้ว จากนั้นจึงนั่งลงมา
เฉินเป่ยชายตามองเซียวจ้านที่อยู่ไม่ไกลด้วยสายที่เป็นศัตรู มีความรู้สึกวิกฤติที่รุนแรง คำพังเพยว่าเอาไว้ศัตรูหัวใจเจอหน้ากันยิ่งยั่วโมโหกันและกันเพิ่มขึ้น พอเฉินเป่ยเจอเซียวจ้าน ยิ่งยั่วให้เกิดโทสะ
ด้วยท่าทีแบบนี้ที่เซียวจ้านมีต่อหลีชิงเยียน แม้เฉินเป่ยไม่อยากมองแบบเป็นปรปักษ์ก็ยังทำได้ยาก
“นี่ ทำไมนายต้องใช้สายตาแบบนั้นมองเขาด้วย?” หลีชิงเยียนถามขึ้น
เฉินเป่ยยกแก้วเหล้าขึ้น หลังจิบไวน์แดงไปอึกหนึ่ง ค่อยๆ ตอบว่า “ศัตรูหัวใจเจอหน้ากัน ผมไม่มองแบบเป็นศัตรูหรือว่ายังต้องไปดื่มเหล้าพูดคุยด้วยกันกับเขาเหรอ?”
หลีชิงเยียนใบหน้าอึ้งทึ่ง พูดต่อว่า “ประสาท นายกำลังคิดบ้าอะไรกัน?”
“คนโง่ยังดูออกเลยว่าเจ้าสุภาพบุรุษจอมปลอมนั้นสนใจคุณอย่างแน่นอน…” เฉินเป่ยพูดจาแบบหึงหวงอยู่บ้าง
“นั่นเกี่ยวอะไรกับนายด้วย?” หลีชิงเยียนทำตาค้อนใส่เฉินเป่ย ดวงตางดงามดูเยาะเย้ยแบบมีเลศนัยแวบผ่าน
“ผมหึงน่ะสิ!” เฉินเป่ยพูดจาตรงไปตรงมา
เทพธิดาหลีชิงเยียนใบหน้าแข็งทื่อ “หึงบ้าอะไรกัน! ในสมองนายนี่วันๆ เอาแต่คิดเรื่องเหลวไหลอะไรกันอยู่?”
“ผมคิดถึงคุณไง” สายตาเฉินเป่ยอ่อนโยน มองท่านประธานเทพธิดาตรงๆ
หลีชิงเยียนถลึงตา พูดเสียงเย็นชา “นายอย่าลืมข้อตกลงของพวกเรา เก็บสายตาของนายไป!”
ไม่นานพนักงานต้อนรับแต่ละคนก็เข้ามา นำทางบรรดาแขกแต่ละคนเดินไปที่หน้าโต๊ะอาหาร ก่อนจะค่อยๆ นั่งลง
ส่วนเฉินเป่ยหลีชิงเยียนและซูเหลยทั้งสามคนไม่นานก็นั่งลงมาเช่นกัน พึ่งนั่งลงได้ไม่ทันไร สาวสวยที่สวมชุดกระโปรงสีขาวคนหนึ่งเดินขึ้นเวทีไปอย่างสง่างาม แสงไฟสปอตไลต์สาดส่องลง คนคนนี้คือลูกสาวของหัวหน้าสมาคมจิวเวลรี่เยี่ยนจิง
หลังสาวสวยคนนั้นกล่าวปราศรัยรอบหนึ่งจบ ไม่นานพนักงานบริการยกอาหารแต่ละจานเข้ามาแล้ว งานเลี้ยงครั้งนี้คือหัวหน้าสมาคมจิวเวลรี่เยี่ยนจิงจัดขึ้นเพื่อผูกความสัมพันธ์ และสร้างความรู้สึกดีๆ ต่อแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วม
ส่วนเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนพึ่งทานข้าวได้ไม่ทันนาน ทันใดนั้นพนักงานบริการยกอาหารทะเลจานใหญ่ที่หรูหราอลังการจานหนึ่งเข้ามา
หลีชิงเยียนกับเฉินเป่ยมึนงง ก้มหน้ามองรายการอาหารของงานเลี้ยงนี้สักหน่อย ถามอย่างสงสัย “ในรายการอาหารเหมือนจะไม่มีเมนูนี้มั้ง?”
พนักงานบริการยิ้มเล็กน้อย ชี้ไปยังเซียวจ้านที่อยู่ไม่ไกลนัก ตอบว่า “เป็นคุณผู้ชายท่านนั้นส่งมาครับ เขาบอกว่าคุณหลีชอบทานอาหารทะเล เลยตั้งใจสั่งอาหารทะเลมาให้คุณโดยเฉพาะครับ”
สายตา“ฟึ่บ”ของเฉินเป่ยสาดส่องไปทางเซียวจ้านที่โต๊ะระยะไกล มีความหมายไม่เป็นมิตรรุนแรง เชี้ย! หลีชิงเยียนชอบทานอาหารทะเล แม้แต่เขายังไม่รู้ เซียวจ้านคนนี้กลับรู้ดีมาก ระหว่างสองคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน เป็นแค่คนรู้จักเก่าแบบที่หลีชิงเยียนบอกได้ที่ไหนกัน ส่วนเซียวจ้านคนนี้ แม่งชัดเจนเลยว่ามาบ่อนทำลายล่ะมั้ง?
หลีชิงเยียนหันหน้าช้าๆ เซียวจ้านที่อยู่ระยะไกลพยักหน้าให้เธอ หน้าตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
หลีชิงเยียนลังเลอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าแปลกใจต่ออาหารทะเลจานนี้อยู่มาก
ทันใดนั้นหลีชิงเยียนกะพริบตา เคลื่อนอาหารทะเลหรูหราเหนือชั้นจานนี้ไปด้านหน้าเฉินเป่ยกะทันหัน “ให้นายกินแล้วกัน”
เฉินเป่ยงงงวย ไม่พูดพร่ำทำเพลง นำความหึงหวงที่เกิดจากเซียวจ้านแปรเปลี่ยนเป็นความอยากอาหาร ยัดเข้าในปากทั้งหมด อาหารทะเลหอยพัดอะไรเอย เป๋าฮื้อปลิงทะเลเอย กินเข้าไปทั้งหมดเลย
ที่ไม่ไกลนัก เซียวจ้านเดิมทีดูอารมณ์สดใส คิดว่าอาหารทะเลหรูหราชั้นดีจานนี้ที่ตนเองส่งไปให้หลีชิงเยียนต้องชอบแน่ กลับนึกไม่ถึงเธอจะนำอาหารทะเลจานนี้ให้เฉินเป่ยทั้งหมดเลย…มองเฉินเป่ยเจ้าหนุ่มที่สมควรตายคนนั้นกินอาหารทะเลจานใหญ่อย่างบ้าคลั่ง มุมปากของเซียวจ้านกระตุกนิดหน่อย สีหน้าสุดจะทนอยู่บ้าง
เฉินเป่ยยกจานอาหารทะเลกินอย่างมีความสุข ทันใดนั้นพนักงานบริการก็นำเค้กขนมหวานที่งดงามรสเลิศจานหนึ่งมาอีก
“คุณหลีครับ ของหวานชุดนี้ ยังคงเป็นคุณชายท่านนั้นส่งให้คุณครับ เขาบอกว่าแต่ก่อนเขาจำได้ว่าทุกครั้งที่พาคุณออกไปช็อปปิ้ง คุณชอบทานของหวานเป็นพิเศษ” พนักงานบริการยื่นขนมหวานไปตรงหน้าของหลีชิงเยียน
ใบหน้าหลีชิงเยียนตะลึงค้างอีกครั้ง…นี่…เซียวจ้านคนนี้จะไม่จบใช่ไหม? ทำไมถึงส่งมาอีกแล้ว?
เฉินเป่ยนั่นเรียกว่าความหึงระเบิดออก เขาถลึงสายตาใส่เซียวจ้านอย่างแรง มีความหมายโกรธเคืองเดือดดาล เจ้าหนุ่มที่สมควรตายคนนี้ ไม่ง่ายที่ฉันจะได้มาออกงานเลี้ยงด้วยกันกับท่านประธานเทพธิดา พัฒนาความสัมพันธ์สักหน่อย แกแม่งไม่ใช่จงใจหาเรื่องหรือไง ไม่มีอะไรดันส่งของกินมา ทำดีหวังผล คิดว่าคนอื่นไม่รู้แผนการในใจของแกเหรอ
เฉินเป่ยกำลังโกรธอยู่ ทันใดนั้นหลีชิงเยียนเลื่อนเค้กแบล็คฟอเรสจานนั้นไปด้านหน้าเฉินเป่ยแล้ว
“ฉันกำลังลดน้ำหนัก กินของหวานไม่ได้ ให้นายแล้วกัน” หลีชิงเยียนพูดจาเรียบๆ
เฉินเป่ยยักคิ้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลงกินเข้าไปโดยตรง
เซียวจ้านที่อยู่ไม่ไกลมองเห็นฉากนี้เข้า โมโหจนใกล้จะทนไม่ไหว เขาคิดหาสารพัดวิธีสั่งอาหารส่งให้หลีชิงเยียน ทุกอย่างกลับโดนเฉินเป่ยย่ำยีไป เขาจะนิ่งเฉยได้อย่างไร?
นี่คือตัวแทนความคิดนั้นที่เขามีต่อหลีชิงเยียน ผลลัพธ์กลับโดนเหยียบย่ำขนาดนี้ นี่จะทำให้เขาทนได้อย่างไร?
คุณชายหลายคนที่ด้านข้างเห็นเหตุการณ์ อยากเข้าไปเอาเรื่องแทนเซียวจ้านเดี๋ยวนั้น “เจ้าขี้แพ้คนนั้นไม่อยากอยู่แล้วรึไง? พี่เซียวพี่วางใจได้ พวกเราจะช่วยพี่สั่งสอนเขาเอง!”
เซียวจ้านกลับกดพวกเขาไว้ทันใด เขาค่อยๆ ส่ายหน้า มุมปากวาดเส้นรัศมีวงกลมที่มีเลศนัยขึ้น “ไม่ต้อง ฉันมีวิธีของตัวเอง!”
เวลานี้ ในแววตาของเซียวจ้านสาดส่องความล้ำลึกออกมาทันใด
เขาเรียกพนักงานบริการชายคนหนึ่งด้านข้างมา พนักงานบริการชายคนนั้นเดินเข้ามาแบบสงสัย เซียวจ้านขยับเข้าใกล้ตัวพนักงานชายแล้วพูดอะไรบางอย่างเสียงเบา จากนั้นนำธนบัตรที่หนาปึกหนึ่งยัดเข้าในอกของพนักงานบริการชายแล้ว
พนักงานบริการชายคนนั้นพยักหน้าติดๆ “คุณชายวางใจได้ครับ รับประกันว่าสำเร็จแน่”
ไม่นานพนักงานบริการชายคนนั้นก็เดินเข้าในห้องครัว ยกซุปร้อนเดือดที่พึ่งออกจากเตาเดินออกมาแล้ว ซุปร้อนชามใหญ่นี้ที่พึ่งออกจากเตา น้ำซุปยังกำลังเดือดปุดๆ ในอากาศร้อนสูง มีไอร้อนโชยไม่ขาดสาย
ที่ไม่ไกลนัก เซียวจ้านมองฉากนี้นิ่งๆ มุมปากฉีกรอยยิ้มที่ควบคุมทุกอย่างขึ้น แกจะมาสู้กับฉันเหรอ? ไม่เจียมตัวเองเลย
เหล่าคุณชายที่อยู่ข้างกายของเซียวจ้านหน้าตาเย้ยหยันเต็มที่ แม้กระทั่งพวกเขาสามารถจินตนาการหลังจากเฉินเป่ยโดนซุปร้อนที่เดือดปุดออกจากเตาชามนั้นลวกเข้า จะตลกน่าเวทนามากขนาดไหน
ตอนที่พนักงานบริการชายคนนั้นยกซุปร้อนเดินไปด้านหน้าเฉินเป่ย แกล้งทำเป็นไม่ระวัง มือที่ยกอาหารเอียงเบาๆ ซุปร้อนที่เดือดปุดๆ ชามนั้นกำลังจะเทราดศีรษะของเฉินเป่ยลงมา
ช่วงเวลาชั่วครู่หนึ่ง เฉินเป่ยลงมือแบบกะทันหัน ดีดถ้วยซุปเต้าหู้ชามนั้นเบาๆ แบบหน้าไม่ได้หันกลับ
ซุปร้อนที่กำลังจะสาดกระเซ็นออกจากชามนั้น ชั่วขณะนั้นหมุนเปลี่ยนทิศทาง เทราดลงบนหน้าพนักงานบริการชายโดยตรง
“พรึ่บ!” ซุปร้อนที่เดือดปุดส่วนใหญ่เทรดบนหน้าพนักงานบริการชายแล้ว
“โอ๊ย——!” พนักงานบริการชายคนนั้นร้องโหยหวนทีหนึ่ง ความปวดแสบทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยวผิดรูป บนหน้าปรากฏตุ่มพองที่โดนลวกออกมาแต่ละวง น่าเวทนาอย่างยิ่ง
บนหน้าของพนักงานบริการชายปัจจุบันนี้แดงเถือกโดนลวกแถบหนึ่ง สภาพสยดสยองสุดจะทนมองได้
ตกตะลึงไปทั้งร้านอาหาร
ใบหน้าหลีชิงเยียนอึ้งค้าง มองฉากนี้ด้วยความตะลึง…
เฉินเป่ยสีหน้าเรียบเฉยมาก ไม่มีเห็นใจเลยสักนิดเดียว ชายตามองพนักงานบริการชายที่โดนลวกจนเจ็บแบบเย็นชา หายนะที่ก่อเองยากจะหนีรอด นี่คือจุดจบของเขา…
ไม่ไกลนัก เซียวจ้านสีหน้าอึมครึม เรื่องสนุกครั้งนี้ที่ตนเองตั้งใจเตรียมการ คาดไม่ถึงจะสิ้นสุดลงด้วยจุดจบแบบนี้? บทสรุปนี้ช่างอั้นอัดเหลือเกิน…เขาจ่ายเงินจ้างพนักงานบริการชายคนนั้นไป…ปรากฏว่าผลสุดท้ายออกมาเป็นแบบนี้?
เหล่าคุณชายที่อยู่ด้านข้างเซียวจ้านหลายคนนั้นก็ดูตกตะลึงเช่นกัน ไม่นานถูกความเย้ยหยันหนาวเหน็บแทนที่
“แม่งเอ๊ย เจ้าหมอนั้นบ้ามากรึไง? พี่เซียวพี่วางใจเถอะ ผมจะช่วยพี่สั่งสอนเขาหน่อยเอง” คุณชายคนหนึ่งสีหน้าเย็นชายโสอย่างยิ่ง อยากพุ่งเข้าไปแบบไม่รอให้เห็นด้วย ทำให้เฉินเป่ยรู้สึกเสียใจ