สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 528
บทที่528 คนแบบไหน?
เฉินเป่ยยืนอยู่บนกระบะรถขนดินแบบสุขุมอย่างยิ่ง มุมปากพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างไม่สนใจ…
สำหรับนักฆ่าเหล่านี้เป็นเรื่องราวน่าตกใจหาไร้ที่เปรียบ ในความเป็นจริง…เมื่อสักครู่นั้น เขายืมหลักการสมดุลของพลศาสตร์มา ชั่วขณะนั้นที่กระบะด้านหลังขึ้นไปถึงมุมที่แน่นอน พลศาสตร์บรรลุถึงจุดสมดุล ขอเพียงเฉินเป่ยเหยียบแบบนี้ จะสามารถทำลายสมดุลในชั่วขณะหนึ่ง เหยียบกระบะดินทรายด้านหลังที่หนักสามสิบตันเต็มๆ นั้นกลับไปโดยตรง
แต่ทว่าคนนอกมองมา ฉากนี้ช่างตื่นตระหนกเกินไป ตื่นตกใจจนน่ากลัว นี่ไม่ใช่กำลังที่คนทั่วไปครอบครองไว้ได้เด็ดขาด
“ครืน——!” ทันใดนั้นตรงระยะไกลเสียงเครื่องยนต์คำราม เห็นเพียงมอเตอร์ไซค์สีดำคันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็ว
คนขับมอเตอร์ไซค์ใส่หมวกกันน็อค เดิมทีมองหน้าตาไม่ชัดเจน มอเตอร์ไซค์แล่นไวตลอดทาง คนขับมอเตอร์ไซค์คนนั้นยื่นมือออกมากะทันหัน ที่มือกุมปืนดำขลับกระบอกหนึ่งไว้ ปากกระบอกปืนนั้นเล็งเป้าไปยังเฉินเป่ย
อากาศราวกับกำลังแข็งตัวชั่วขณะหนึ่ง วินาทีนี้ ในใจของเฉินเป่ยปรากฏความรู้สึกวิกฤติรุนแรงขึ้นมากมาย
ทันใดนั้นร่างกายเฉินเป่ยสั่นไหว ทั้งตัวคนพุ่งโจมตีลงมาฉับพลัน กลายเป็นภาพวืดภาพหนึ่งแล้ว
“ปึง!” เฉินเป่ยถีบบนตัวคนขับรถมอเตอร์ไซค์อย่างรุนแรงทีหนึ่ง ทั้งตัวคนขับรถมอเตอร์ไซค์คนนั้นถูกสะบัดจนลอยออกไปเลย
คนขับรถมอเตอร์ไซค์พลิกกลิ้งไปบนพื้น ปากกระบอกปืนเล็งที่เฉินเป่ยกระหน่ำยิง “ปังๆๆ…”
ร่างกายเฉินเป่ยหายแวบเบาๆ หลบหนีได้อย่างง่ายดาย จากนั้นพุ่งโจมตีเข้าไป ระเบิดหมัดออก
“ปึง!” หมวกกันน็อคที่แข็งแรงหนาทึบของคนขับรถมอเตอร์ไซค์คนนั้นถูกหมัดหนึ่งระเบิดแตก ทั้งตัวของเขาสั่นโงนเงนจะล้มลง โซซัดโซเซถอยหลังหลายก้าว ก่อนจะล้มลงพื้นเสียงดัง
ขณะเดียวกันรถยนต์สีดำคันหนึ่งที่ระยะไกลขับเข้ามา มือดักยิงมอบที่ขอบหน้าต่าง อาวุธร้อนที่มีขนาดลำกล้องปืนใหญ่กระบอกหนึ่งเล็งที่ศีรษะของเฉินเป่ยฉับพลัน
“ปัง——!” กระสุนที่หมุนวนด้วยความเร็วสูงลูกหนึ่งกรีดแหวกอากาศทันใด ยิงไปยังศีรษะของเฉินเป่ย ชนิดยิงกะเอาตาย นี่คือเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องตาย
ความเร็วของกระสุนช่างไวเหลือเกิน เดิมทีไม่มีทางหยุดยั้งได้
“ซู่——!” ทันใดนั้นแสงดำเส้นหนึ่งระเบิดแวบออกจากในมือเฉินเป่ย กรีดทะลุอากาศโดยตรง
“ฉึก!” เสียงระเบิดของโลหะดัง กระสุนปลิดชีวิตที่ยิงไปทางเฉินเป่ยลูกนั้นถูกแสงดำตัดเป็นสองท่อนแล้วในชั่วพริบตาเดียว จากนั้นแยกออกร่วงลงพื้น
แสงดำเส้นนั้นหมุนวนลอยกลับไปในมือของเฉินเป่ยแล้ว
ในรถยนต์สีดำ ลูกตาของมือปืนคนนั้นหดลง ยากจะเชื่อ
เขายิงปืนไปที่เฉินเป่ยอีกครั้งอย่างแรง ลูกกระสุนนับไม่ถ้วนระเบิดโจมตีโกลาหลอลหม่านไปหมด มีแรงอาฆาตที่ดุเดือดสยองขวัญ ไม่ว่าอย่างไรขอเพียงเฉินเป่ยตาย รางวัลครึ่งหนึ่งของพวกเขาก็ได้รับมาเรียบร้อย
เฉินเป่ยวาร์ปร่างกาย ขวางด้านหน้าลูกกระสุนอย่างรวดเร็ว มีดหลงหยาในมือปรากฏขึ้นฉับพลัน แสงดำเปล่งประกายดุจฟ้าแลบ
“ชิ้งๆๆ!——” กระสุนนับไม่ถ้วนโดนฟันขาดสกัดกั้นลงทั้งหมด
สีหน้าผู้สังหารเปลี่ยนไปยกใหญ่ ฉวยโอกาสดำเนินการอย่างฉับพลัน
“พรึ่บ!”
รถยนต์สีดำแล่นหนีออกไปด้วยความรวดเร็วในทันที…
รถก่อสร้างสองคันนั้นส่งเสียงคำรามแล้วขับหนีไป
ขณะมองรถสามคันที่แล่นหนีออกไปอยู่นั้น เฉินเป่ยก็มองออกว่านักฆ่าพวกนี้ไม่เป็นเพียงคนกลุ่มเดียวกัน แม้กระทั่งยังมีหลายคนเป็นคนไร้สังกัด…พวกเขาจะร่วมมือกันได้อย่างไร? นี่ทำให้คนงุนงง ขณะเดียวกันในใจรู้สึกสงสัยยิ่งขึ้น…
เขามาถึงด้านหน้าคนขับรถมอเตอร์ไซค์ที่โดนถีบล้มลงพื้น ถีบหมวกกันน็อคของเขาออก เผยใบหน้าที่กระเซอะกระเซิงออกมา
“ใครเป็นคนส่งแกเข้ามา?” เฉินเป่ยสอบถาม
ในปากนักฆ่าคนนั้นพ่นเลือดสดออกมาทันที จ้องเขาด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก…มุมปากมีรอยยิ้มเยาะเย้ยแวบผ่าน…
ฉิบหาย! ดวงตาเฉินเป่ยแข็งตัว วาร์ปตัวถอยไปโดยฉับพลัน
“ตูม——!” เสียงระเบิดทีหนึ่ง ร่างกายของผู้สังหารอินเดียคนนั้นระเบิดโดยตรง อยู่ในสภาพย่ำแย่
เฉินเป่ยสีหน้ายากลำบากอยู่บ้าง นี่คือระเบิดร่างคน เมื่อสักครู่นี้เขาเกือบโดนระเบิดกระจุย ฝ่ายตรงข้ามโหดเหี้ยมเช่นนี้ คาดไม่ถึงจ้างวานพวกไม่สนใจชีวิตที่เหี้ยมโหดทารุณระดับนี้มา เป็นหลีเช่าเทียนงั้นเหรอ? ในตาเฉินเป่ยล้ำลึกซับซ้อน…
เฉินเป่ยเก็บมีดกลับ สีหน้าเย็นชา หมุนตัวแล้วค่อยๆ ออกไป
ระยะไกล หลังจากหลีชิงเยียนและซูเหลยเห็นว่าไม่ค่อยเจอเงาของรถยนต์พวกนั้นแล้ว ตั้งแต่จอดรถลงมา หลีชิงเยียนก็รอคอยด้วยความกังวล ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเริ่มเป็นห่วงเฉินเป่ยขึ้นมา
“เฉินเป่ยจะไม่เป็นอะไรค่ะ” ซูเหลยที่อยู่ด้านข้างสังเกตออกว่าหลีชิงเยียนกังวล จึงพูดปลอบใจ
หลีชิงเยียนพยักหน้าแล้ว ถึงพูดมาแบบนี้ แต่เธอเห็นมากับตาตนเองว่าเฉินเป่ยถูกลมหอบออกไปนอกรถ จะให้เธอไม่กังวลได้อย่างไร?
ทันใดนั้นดวงตาของซูเหลยที่มองทางกระจกมองหลังแข็งตัว เอ่ยปากบอก “ประธานหลีคะ เขากลับมาแล้ว”
หลีชิงเยียนได้ยินเสียงของซูเหลย รีบหันหน้าทันที คาดไม่ถึงหลีชิงเยียนมองเห็นทางระยะไกลด้านหลังรถ มีภาพเงาคนคนหนึ่งกำลังเดินมาที่นี่
“ไม่เป็นไรแล้ว พวกเขาไม่อยู่แล้ว” เฉินเป่ยคาบบุหรี่ไว้ในปาก ค่อยๆ พ่นควันบุหรี่ออกมา บนหน้ามีความอันธพาลที่เย็นชา
หลีชิงเยียนนั่งอยู่ในรถ มองภาพของเฉินเป่ยดวงตาอึ้งทึ่ง กัดฟันบนริมฝีปากแดงเบาๆ อารมณ์สับสนยุ่งเหยิง…
ผ่านไปตั้งนาน หลีชิงเยียนถึงได้สติเข้ามา พยักหน้าเบาๆ พูดด้วยเสียงน่าดึงดูด “ไม่เป็นไรก็ดี”
เฉินเป่ยทิ้งขี้บุหรี่ลง ดึงเปิดประตูรถ พึ่งขึ้นรถมา หลีชิงเยียนก็ขยับเข้ามาใกล้ทันใด มือนุ่มเรียวยาวคู่หนึ่งจับหน้าของเฉินเป่ยไว้ สังเกตดูขึ้นมาอย่างละเอียด
เฉินเป่ยตะลึง เขานึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าท่านประธานเทพธิดาจะมีการกระทำแบบนี้ ทำให้เขาแปลกใจอย่างมาก
แต่ว่าไม่นานหลีชิงเยียนก็รู้สึกได้ว่าการกระทำของตนเองเกินเลยอยู่บ้าง จึงรีบเก็บมือกลับมา ใบหน้าเป็นสีแดงระเรื่อ
“กลับกันเถอะ” ดวงตาของหลีชิงเยียนจ้องเฉินเป่ยไปตรงๆ ก่อนจะค่อยๆ พูดขึ้น
ในที่สุดวินาทีนี้เฉินเป่ยก็หัวเราะแล้ว เขาเอ่ยปากบอกกับซูเหลยที่อยู่เบาะหน้าเหมือนอันธพาล “ออกรถเถอะ คุณซู”
ด้านข้าง หลีชิงเยียนจ้องภาพของเขาที่มุดเข้าในรถตาไม่กะพริบ ในใจยุ่งเหยิงยิ่งขึ้น…
บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปสาขาเยี่ยนจิง ในห้องทำงาน หลีชิงเยียนยืนอยู่หน้ากระจกชมวิว จ้องมองด้านนอกหน้าต่างตาไม่กะพริบ…ไม่รู้ทำไมในใจของเธอถึงมีความรู้สึกที่กังวลหวาดกลัวนิดๆ…การลอบฆ่าครั้งนี้ทำให้หลีชิงเยียนได้กลิ่นตุๆ นิดหนึ่งเข้าแล้ว
ทันใดนั้น ประตูห้องทำงานถูกผลักออก เฉินเป่ยเดินเข้ามาจากด้านนอก
ดวงตาของหลีชิงเยียนมองทางเฉินเป่ย “เฉินเป่ย เกิดเรื่องอะไร?”
เฉินเป่ยจุดบุหรี่มวนหนึ่ง บรรยายขั้นตอนที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้หลีชิงเยียนฟังรอบหนึ่ง
ตอนที่ได้ยินการรายงานของเฉินเป่ย ใบหน้าท่านประธานเทพธิดานับวันยิ่งเคร่งขรึม
“นายหมายความว่าพวกเขาโดนกลุ่มนักฆ่าอีกทีมฆ่าทิ้งแล้ว?” ดวงตาหลีชิงเยียนล้ำลึก ถามขึ้น
“ใช่” เฉินเป่ยพยักหน้ารับ
“นี่คือใครสั่งการกัน? เซียวจ้านเหรอ?” หลีชิงเยียนฉลาดจริงจัง
เฉินเป่ยพ่นควันบุหรี่ออกมาช้าๆ “ครั้งนี้ผมคิดว่าไม่เหมือนเป็นฝีมือของเซียวจ้าน…”
“ไม่ใช่เซียวจ้าน?” หลีชิงเยียนตะลึงค้าง อารมณ์ซับซ้อนขึ้นมาอยู่บ้าง…ไม่ใช่เซียวจ้าน นั่นยังเป็นใครได้อีก?
หลีชิงเยียนขมวดคิ้วนิดหน่อย ยืนขบคิดอยู่หน้ากระจกชมวิว…สรุปเป็นใครล่ะ?
ทันใดนั้นเธอเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ หันหน้ามองทางเฉินเป่ยทันที…
“หรือจะเป็น…” หลีชิงเยียนอยากพูดแต่หยุดลง
“คุณหมายถึง…หลีเช่าเทียน?” เฉินเป่ยหรี่ดวงตา ควันบุหรี่ค่อยๆ ฟุ้งอยู่ด้านหน้า
“ฉันคิดว่าเป็นไปไม่ค่อยได้…” หลีชิงเยียนเหมือนไม่เข้าใจเท่าไร ส่ายหน้าเบาๆ ความรู้สึกของเธอสับสนพอสมควร
เฉินเป่ยหรี่ตาเล็กน้อย…หลีเช่าเทียนได้รับมรดกแท้จริงของหลีหงแล้ว เป็นรุ่นหลังที่สามารถกุมอภิสิทธิ์เหนือผู้อื่น จะเป็นคนไม่สำคัญได้อย่างไรกัน…ตอนนั้นแม้กระทั่งเฉินเป่ยยังใช้ชีวิตสัมผัสวิธีการอันโหดเหี้ยมของคนกลุ่มนั้นมา ไม่มีใครเข้าใจพวกเขาได้เท่าเขาอีกแล้ว…เรื่องนี้ มีเพียงหลีเช่าเทียน
“วางใจเถอะ ขอเพียงมีผมอยู่ จะต้องไม่เป็นอะไร” เฉินเป่ยค่อยๆ พ่นควันบุหรี่ออกมา จากนั้นพูดประโยคนี้ขึ้นมา ทั่วตัวเขาปล่อยท่วงท่าที่ดุเดือดรุนแรงออกมา
“กลุ่มนักฆ่าอีกกลุ่มหนึ่ง…นี่สรุปมันเรื่องอะไรกัน?” หลีชิงเยียนยังคงไม่เข้าใจ ทำไมตนเองถึงเจอหลายกลุ่มไล่ฆ่าในขณะเดียวกัน? ยังมีเมื่อคืนนี้อีก ทุกอย่างนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? นี่ทำให้นับวันเธอยิ่งเลอะเลือน..
ณ ขณะนี้ บ้านตระกูลหลี
หลีเช่าเทียนนั่งบนโซฟา หลับตาเล็กน้อย สาวใช้นั่งยองลงเบาๆ ด้านหน้าเขา ทำการนวดแทนเขาด้วยความระมัดระวัง
หลีเช่าเทียนลูบไล้ใบหน้าสาวใช้เบาๆ ภายใต้ผมยาวที่ยุ่งเหยิง เซ็กซี่มีเสน่ห์ กระตุ้นประสาทการมองเห็นของเขาไม่หยุด ในเวลานี้เขาเหมือนนึกถึงหลีชิงเยียนอีกแล้ว ปรากฏใบหน้างดงามเพริศพริ้งราวกับเจียระไนของเธอขึ้นมา…
หลีเช่าเทียนหายใจถี่นิดหน่อย สาวใช้นั่งยองที่พื้น สีหน้าประกายแดงระเรื่อ รู้สึกเพียงว่าหายใจเกือบไม่ออก แต่หล่อนไม่กล้าขัดขืนใดๆ…ปล่อยให้คุณชายระบายออกมาแบบกำเริบเสิบสาน…
ในที่สุดสีหน้าหลีเช่าเทียนก็ผ่อนคลาย ชั่วขณะนี้เหมือนไหลทะลักออกมา…ระหว่างคิ้วเขาคลายออกมา บนหน้ามีการดื่มด่ำ ค่อยๆ พิงไปบนโซฟา
ทันใดนั้น มือถือดังขึ้น หลีเช่าเทียนรีบรับโทรศัพท์ทันที
“ภารกิจสำเร็จรึเปล่า?” หลีเช่าเทียนถามอย่างเรียบนิ่ง
“คุณชาย…ภารกิจ…ภารกิจล้มเหลวครับ…” เสียในโทรศัพท์เศร้าสร้อยอยู่บ้าง มีความหวาดกลัวนิดๆ
“อะไรนะ?” หลีเช่าเทียนสีหน้าเปลี่ยนชั่วขณะนั้น “ทำไมถึงล้มเหลว?” พวกนี้ที่เกิดขึ้นอยู่ในแผนการของเขา ทำไมถึงล้มเหลว? นักฆ่ามือสังหารมากขนาดนั้น ล้มเหลวได้อย่างไร?
“มือสังหารที่ส่งไป…บาดเจ็บสาหัส…เวลานี้การลอบสังหารหลายครั้งก็โดนสกัดลง……” เสียงในโทรศัพท์พูดอย่างตื่นตกใจหวาดกลัว
“เหลวไหล! แกพูดล้อเล่นอะไรกัน?” หลีเช่าเทียนสีหน้าเขียวปัดดุร้าย “แค่พวกสวะกลุ่มหนึ่ง นักฆ่ามือสังหารมากขนาดนั้นแม่งกินขี้กันหมดรึไง?”
“คุณชาย…การลอบสังหารครั้งนี้ล้มเหลว ประเด็นหลักยังเป็นเพราะเฉินเป่ย…” เสียงในโทรศัพท์นั้นพูดสั่นเครือ “เฉินเป่ยคนนั้นออกมาฆ่ากะทันหัน ตีมือสังหารทั้งหมดถอยกันหมดเลย…”
“เฉินเป่ย? เฉินเป่ยอีกแล้ว!” หลีเช่าเทียนสีหน้าเย็นเฉียบ มีน้ำค้างแข็งเย็นสุดขีด
เวลานี้สีหน้าของหลีเช่าเทียนดูแย่มาก เพราะเฉินเป่ยคนนี้ แผนการของเขาจึงผิดพลาดอีกครั้ง เผชิญหน้ากับเฉินเป่ย เขาพลาดหลายครั้งแล้ว ความมั่นใจของเขาได้รับผลกระทบเช่นกัน
“รีบเอาวิดีโอที่ถ่ายเหตุการณ์ส่งเข้ามาให้ฉัน!” หลีเช่าเทียนสีหน้าหนาวเหน็บ พูดเสียงโมโห
ไม่นานวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ลอบสังหารก็ส่งเข้ามาแล้ว
หลีเช่าเทียนเปิดโทรทัศน์ในห้องสวีตขึ้น นำวิดีโอฉายเข้าในหน้าจอโทรทัศน์
นี่คือช่วงลอบสังหารในที่เกิดเหตุ ภาพวิดีโอของกล้องขนาดเล็กที่มือสังหารใส่ไว้ถูกถ่ายมาได้ทั้งหมด
แววตาหลีเช่าเทียนดุจดาบ จ้องภาพในโทรทัศน์ไม่ขยับ…ตอนเห็นเฉินเป่ยในภาพกระโดดขึ้นท้องฟ้าฉับพลัน ตอนที่เหยียบเท้าบนกระบะด้านหลังรถขนดิน…ลูกตาหลีเช่าเทียนแข็งตัวเฉียบพลัน บนใบหน้ามีความตกใจยากจะเชื่อ
ภาพเล่นต่อไป กระสุนลูกหนึ่งโจมตีไปยังเฉินเป่ย…เฉินเป่ยใช้ทักษะหายตัวกะทันหัน คาดไม่ถึงหลบกระสุนได้โดยตรง?
ลูกตาหลีเช่าเทียนหดตัว ท่าทางบนหน้าตื่นตระหนก ท่านั้นของเฉินเป่ยเหมือนการตีตรา ประทับอยู่ในสมองของเขาอย่างลึก เพียงอาศัยเนื้อหนังมังสา…สามารถหลบวิถีการยิงของกระสุนได้? ฝีมือที่สยองขวัญระดับนี้…เขาเคยเห็นมาจากตัวคนคนหนึ่ง หัวหน้าทีมรบพิเศษของกองทหารการป้องกันเยี่ยนจิง
ท่านนั้นสร้างสถิติที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้ และเฉินเป่ยคนนี้ก็ไม่ด้อยกว่าเลยสักนิด แม้กระทั่งดูเหมือนจะแกร่งกว่าหลายเท่า ท่าทางตกใจเช่นนี้ เขาสามารถใช้เพียงร่างกายธรรมดาหลบหลีกการยิงของลูกกระสุน
เอ๋อตงเฉิน! หลีเช่าเทียนกุมหมัดไว้แน่น รีโมตโทรทัศน์ในมือนั้นถูกพลังมหาศาลบีบแตก