สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 539
บทที่539 ส่งคนมา!
หยางเย่นกั้วสีหน้าเปลี่ยนเฉียบพลัน…ลูกตาหดตัวรุนแรง นี่…เป็นไปได้อย่างไร?
ทวนมักรดำของเขาเป็นอาวุธวิเศษมากที่ตีหลอมมาร้อยปี… แข็งแรงไร้ที่เปรียบ แม้แต่เพชรยังสามารถฟันออกมาสับขาดได้ชั่วพริบตา เป็นไปได้อย่างไร…เป็นได้อย่างไรถึงหัก?
แต่วินาทีต่อมา…ความตื่นตระหนกในลูกตาเขาเริ่มชัดขึ้น เพราะทันใดนั้นเขาพบว่า…ภาพการมองเห็นตรงหน้าของตนเอง…กำลังค่อยๆ แยกออก
เห็นเพียงบนหน้าผากของเขามีรอยเลือดเล็กน้อยรอยหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้น…ตามมาด้วยที่ระหว่างคิ้วของเขา…แตกแยกกระจายลงไปตลอดทาง ทั้งร่างกายของเขา…กำลังแยกออกทีละนิด
ลูกชายใหญ่ตระกูลหยาง หยางเย่นกั้ว…ร่างกายของเขากำลังแยกออกช้าๆ บาดแผลส่วนที่ตัดออกเรียบเนียนอย่างยิ่ง…แม้กระทั่งเลือดสดก็ยังไม่มีสักหยด เหมือนว่าถูกตัดออกอย่างเป็นระเบียบจากด้านในกระจก
“ปึง!” ร่างกายของหยางเย่นกั้วถูกตัดเป็นสองท่อน…ล้มลงที่พื้นเสียงดังสนั่นไปแบบนี้…ดวงตาของเขาเบิกโตไม่กะพริบ…ราวกับว่าก่อนตายมีความตื่นตกใจที่ไม่อยากเชื่อ
“พี่ใหญ่! ไม่!” ลูกชายรองหยางฉางคงดวงตาแดงก่ำ เสียงร้องตะโกนรุนแรง
“อัยย่าห์—— !” หยางฉางคงราวกับสติแตกไปทั้งตัวแล้ว พุ่งโจมตีเข้าไปอย่างโมโหเดือดดาล ทวนสีเงินกลายเป็นมังกร อากาศสั่นสะเทือน แรงอาฆาตโหมซัดสาดคำราม เสียบทางเฉินเป่ยตรงๆ
เสียงลมคำราม ฝุ่นโหมพัดเข้ามา
ทวนสีเงินสยองขวัญนั้นระเบิดโจมตีมาที่เฉินเป่ยแบบน่ากลัว ทวนนี้รวบรวมการพัฒนาวิทยายุทธ์สยองขวัญพันปีของตระกูลหยางเอาไว้ เรียกได้ว่าสยดสยองโหดเหี้ยม
“ชิ้ง!” ทวนสีเงินเสียบเข้าฉับไว…แวบเดียว…ก็ลอยอยู่ตรงที่ห่างจากหน้าอกซ้ายเฉินเป่ยไปหนึ่งเซนติเมตร
เฉินเป่ยกุมด้ามทวนสีเงินไว้แน่นด้วยมือข้างเดียว ราวกับสัตว์ป่าดุร้าย…ทำให้หยางฉางคงคนนั้นเดิมทีไม่สามารถขยับเขยื้อนได้สักนิด
ภายใต้หน้ากาก ลูกตาของเฉินเป่ยมีเลือดไหลวน…จิตสังหารไร้ขอบเขตแพร่กระจาย
“ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ ในสายตาพวกแกยังมีประเทศสองคำนี้อยู่อีกเหรอ?” เสียงของเฉินเป่ยน่าครั่นคร้ามไร้ที่เปรียบ เรียบง่ายมีพลังสั่นสะเทือนที่รุนแรง
“อัยย่าห์—— ! ตายซะเถอะ” ดวงตาทั้งคู่ของหยางฉางคงแดงก่ำโกรธมาก ราวกับสัตว์ป่าดุร้ายที่คลุ้มคลั่ง พลังยิ่งเพิ่มขึ้น หมายจะแทงทะลุเฉินเป่ย
“ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ…ภัยพิบัติใหญ่หลวง…ความผิดของแกนี้ ไม่มีหน้าไปเจอบรรพบุรุษของตระกูลหยาง…!” เฉินเป่ยตะโกนเสียงดังสั่นสะเทือน ทวนสีเงินที่จิตสังหารครบถ้วนเล่มนั้นของหยางฉางคง…คาดไม่ถึงถูกเฉินเป่ยบดขยี้จนค่อยๆ โค้งงอด้วยมือเปล่า
“ตายซะเถอะ!” สายตาหยางฉางคงดุร้ายแดงดุจเลือด จิตสังหารระเบิดออก
สายตาเฉินเป่ยยิ่งเพิ่มความโหดเหี้ยมเย็นยะเยือก มีการเยาะเย้ย “ช่างเถอะ ดื้อด้านไม่เข้าใจ ถ้าแกเหยียบย่ำชื่อเสียงพันปีของตระกูลหยางแบบนี้…วันนี้ฉันจะจัดการฆ่าแกทิ้งแทนบรรพบุรุษตระกูลหยางเอง!”
ทั่วตัวเฉินเป่ยปล่อยกำลังวังชาทันใด…การสังหารที่ศพกองเป็นภูเขาโผล่ออกมาในชั่วขณะนั้น
“กึก…” ทวนสีเงินเล่มนั้น…ถูกเฉินเป่ยบดขยี้ด้วยพลังสยองขวัญ…โค้งงอไม่หยุด…เปลี่ยนรูปแล้ว
“โฉ้งเฉ้ง!” เสียงโลหะดังลั่นทีหนึ่ง
ทวนสีเงิน…โดนพลังมือเปล่าของเฉินเป่ย…บดทับหักไปทื่อๆ
เฉินเป่ยกลายเป็นภาพวืด…พุ่งโจมตีเข้ามาฉับพลัน
แวบเดียวภาพเงาของเขาปรากฏอยู่ด้านหลังของหยางฉางคง
“ซู่!”
แสงดำเส้นหนึ่งแวบผ่าน นั่นคือสายฟ้าแลบแสงดำเส้นหนึ่ง
หยางฉางคงใช้มือทั้งคู่จับลำคอของตนเองแน่น…ลูกตาเบิกโตทันที สยองขวัญชนิดที่ตื่นตระหนกตกใจ
แวบเดียว…ศีรษะร่วงลงพื้น ร่างกับศีรษะแยกออกจากกัน
อัจฉริยะทั้งคู่ของตระกูลหยาง ซึ่งเป็นตระกูลวิทยายุทธ์เก่าแก่ที่สืบทอดมานับพันปี…อัจฉริยะด้านวิทยายุทธ์สะเทือนโลกสองคน ท้ายที่สุด…เสียชีวิตลงที่นี่
ใต้หน้ากากดุร้ายน่ากลัว สายตาของเฉินเป่ยเหี้ยมโหดอย่างยิ่ง…นี่คือราชาหลง ลูกชายราชาหลงที่ทำให้ต่างประเทศสั่นสะเทือน เป็นคนที่ฆ่าออกมาจากทะเลเลือด ชื่อของราชาหลง เดิมทีหมายถึงการสังหารหมู่ที่ไร้ขอบเขต
……
ในบ้านตระกูลหลี หลีเห้านั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้โบราณ ในใจยากจะสงบ
เสียงการสังหารที่ดุเดือดด้านนอกดังก้องในอากาศ…เขาได้ยินชัดแจ๋ว…แต่ว่าเวลานี้ เสียงสังหารกลับหยุดลงแล้ว…นี่ทำให้เขายิ่งไม่สงบ…
ไม่รู้ว่าผลลัพธ์สรุปเป็นเช่นไร…
ถึงแม้ว่าหลีเห้ามีความมั่นใจต่อทหารของตระกูลหยางสองท่านนี้ แต่นั่นเป็นราชาหลงเชียวนะ…
แวบหนึ่ง ลูกน้องกลุ่มหนึ่งรีบพุ่งเข้ามา
“เป็นยังไง? อัจฉริยะสองคนของตระกูลหยางฟันคนคนนั้นยัง?” หลีเห้ารีบร้อนสอบถาม
“รายงานครับ! ท่านครับ…ตระกูลหยาง…สองอัจฉริยะตระกูลหยาง…โดนฟันเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ…” ลูกน้องคุกเข่าลงที่พื้นทันใด พูดรายงานสั่นเทาไม่เลิก
ครืน! วินาทีนี้ ร่างกายที่แก่หง่อมของหลีเห้าสั่นรุนแรง…ถอยหลังหลายก้าว เกือบล้มลงที่พื้น
ลูกน้องสองสามคนรีบร้อนเข้าไปประคองเขาไว้ก่อน
ทั้งตัวหลีเห้าเปลี่ยนไปตื่นตระหนกอย่างยิ่ง… ริมฝีปากกำลังสั่นไม่หยุด ตระกูลหยาง…อัจฉริยะตระกูลหยางโดนฟันตายแล้ว? แม้แต่สองอัจฉริยะตระกูลหยางยังสกัดกั้นเขาไม่อยู่?
“เรียกทุกคนมาให้ฉัน! สกัดเขาไว้! ต้องขวางเขาไว้ให้ได้ กลุ่มผู้ทำงานลับเฉพาะใกล้ถึงแล้ว! ถ่วงเวลาออกไปให้ฉัน!” หลีเห้าสั่นเทิ้มทั้งตัว
…
เฉินเป่ยย่างก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลหลีทีละก้าว ในขณะนี้…ไม่มีใครสามารถขวางเขาได้อีก
ทั้งบ้านตระกูลหลีเหมือนเจอศึกใหญ่
เสียงเตือนภัยดังอยู่เหนือท้องฟ้าของทั้งคฤหาสน์ ดังก้องสั่นสะเทือนไม่หยุด
บอดี้การ์ดของคฤหาสน์นับไม่ถ้วนพุ่งโจมตีออกมา ปืนทั้งหมดเล็งที่เฉินเป่ย แรงอาฆาตน่าสะพรึงกลัว
ทั้งคฤหาสน์ตระกูลหลีผ่านการติดตั้งพิเศษ ชั่วขณะนั้นระบบสกัดกั้นที่นับไม่ถ้วนเริ่มทำงาน รั้วกั้นเหล็กแต่ละอันลดลงฉับพลัน…คุ้มครองส่วนด้านในคฤหาสน์ไว้แน่นหนา
ในเวลานี้ รถตำรวจหลายสิบคันที่มีป้ายทะเบียนพิเศษร้องคำรามเข้ามาตลอดทาง
เป็นกลุ่มผู้ทำงานลับเฉพาะ พวกเขามาถึงแล้ว
รถหลายสิบคันขวางหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลหลีไว้ทันใด ผู้ทำงานลับเฉพาะที่ฝีมือแข็งแรงมีพลังหลายสิบคนพุ่งจู่โจมเข้ามาทันที…ทักษะไวปานฟ้าแลบ พุ่งจู่โจมเข้าคฤหาสน์ตระกูลหลีโดยตรง ล้อมวงเฉินเป่ยไว้ชั่วขณะนั้น
“อย่าขยับ! ยกมือขึ้นมา!” เสียงผู้ทำงานลับเฉพาะน่าครั่นคร้ามเคร่งขรึม มีเสียงดุสั่นสะเทือน
ใต้หน้ากากราชาหลง สายตาของเฉินเป่ยเย็นยะเยือก เขากวาดสายตามองคนกลุ่มนี้ตรงหน้านิ่งๆ ในแววตาเปล่งประกายความลุ่มลึก
“ที่นี่ เป็นที่ต้องห้ามของหัวเซี่ย จะยอมให้แกใช้อำนาจบาตรใหญ่ได้ยังไง? รีบวางอาวุธแล้วยอมแพ้ซะ!” เสียงของผู้ทำงานลับเฉพาะมีการสั่นสะเทือนที่ดุเดือดไร้ที่เปรียบ
นี่…คือผู้ทำงานลับเฉพาะที่ประสบการณ์เฟื่องฟูชุดหนึ่ง สำหรับราชาหลงนั้น หัวเซี่ยเป็นสถานที่ต้องห้ามหายาก และด้วยสถานะของราชาหลง การเหยียบเข้ามาที่อาณาเขตเมืองหลวงอย่างเปิดเผย…นี่…สะเทือนเส้นแบ่งของทั้งเยี่ยนจิงแล้ว
เฉินเป่ยยืนอยู่ที่นั่นอย่างสงบ ค่อยๆ เอ่ยปากพูด “ที่ฉันมาวันนี้ แค่จะฟันหลีเช่าเทียน…ถ้ามีใครกล้าขวางฉัน…โดนฟันแบบไม่ลังเลแน่!” เสียงของเขาเรียบนิ่งมาก แต่กลับมีเจตนาอยากฆ่าอันน่ากลัวเผด็จการ สั่นสะเทือนทั้งกลางอากาศ
ผู้ทำงานลับเฉพาะหลายสิบคนในเหตุการณ์ต่างสีหน้าน่าสะพรึงกลัวเคร่งขรึมอย่างยิ่ง ปากกระบอกปืนในมือเล็งที่เฉินเป่ยตรงๆ ราวกับเพียงแวบหนึ่งจะยิงปืนทั้งหมด
เวลานี้ ผู้ชายวัยกลางคนที่สวมชุดจงซานก้าวขึ้นมา สีหน้าจริงจังเคร่งขรึมไร้ที่เปรียบ “ราชาหลง นายหนีมาหลายปี วันนี้ พวกฉันจะจับตามคำสั่ง!”
ชายวัยกลางคนสีหน้าเคร่งขรึมหนักหน่วง เอ่ยปากดุดันใส่เฉินเป่ย “บอกชื่อของนายมา!”
ดวงตาเฉินเป่ยลุ่มลึกเย็นชา “ราชา——หลง”
ตึง! สามคำนี้ กลับมีจิตสังหารสั่นสะเทือนที่น่าประหลาดใจ
ผู้ทำงานลับเฉพาะทั้งหมดในที่เกิดเหตุสั่นสะท้าน สายตาขอบทุกคนเคร่งขรึมอย่างยิ่ง ถึงแม้จะเตรียมใจมาไว้แต่แรกแล้ว แต่…แต่ตอนที่ได้ยินเขารายงานชื่อนี้ออกมากับหูตนเอง… เห็นเทพการสังหารที่มีอยู่เพียงในตำนานคนนี้อยู่ตรงหน้าตนเอง บอดี้การ์ดทั้งหมดที่นี่ยังตื่นตระหนกกัน
ราชาหลง…ชื่อนี้…กลายเป็นสิ่งต้องห้ามของหัวเซี่ยไปตั้งนานแล้ว มีคนมากเหลือเกินที่ไม่รับรู้…แต่เหล่าผู้ทำงานลับเฉพาะของกลุ่มงานลับเฉพาะพวกนี้กลับรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี
พวกเขาชัดเจนมาก ‘ราชาหลง’ สามคำนี้หมายถึงอะไร
เหล่าผู้ทำงานลับเฉพาะนับไม่ถ้วนที่นี้ราวกับเผชิญกับศึกใหญ่ ระแวดระวังแน่นหนา
“ที่นี่เป็นอาณาเขตของหัวเซี่ย ไม่ใช่สถานที่ที่นายจะเที่ยวมาใช้อำนาจบาตรใหญ่ได้ตามใจชอบ…รีบ…ยกมือยอมจำนนซะ! ไม่อย่างนั้นจะฆ่าไม่ยั้ง!” ในคำพูดของชายวัยกลางคนท่านนั้นมีการข่มขู่บีบเคล้นนิดๆ