สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 540
บทที่540 ตะลุมบอน!
ภายใต้หน้ากาก มุมปากของเฉินเป่ยยกยิ้มเยาะเย็นยะเยือกขึ้น…นึกไม่ถึงว่าตนเองในฐานะสายเลือดของหัวเซี่ย วันนี้กลับกลายเป็นการมีตัวตนที่ยังจะอันตรายยิ่งกว่าพวกสยองขวัญในสายตาของคนเหล่านี้…
ตอนที่สายตาของคนเหล่านี้มองทางตนเอง ราวกับเป็นศัตรูที่เป็นหรือตาย
“วันนี้ฉันเหยียบมาที่เยี่ยนจิง เพียงเพื่อฆ่าหลีเช่าเทียน…ถ้าพวกแกไม่อยากตายก็หลบไป” เสียงเฉินเป่ยไม่มีความหมายหวาดกลัวสักนิด สงบเยือกเย็น เยื้องย่างเข้าไปด้านหน้าทีละก้าว…อากาศเปลี่ยนไปเย็นยะเยือกถึงที่สุด
เหมือนว่าไม่มีใครสักคนสามารถหยุดยั้งฝีเท้าของราชาหลงได้
บนหน้าผากผู้ทำงานลับเฉพาะหลายสิบคนในที่เกิดเหตุปรากฏเม็ดเหงื่อออกมา นี่หมายความว่า…อยากปะทะรุนแรงขึ้น
ในความเป็นจริงพวกเขาไม่ยินยอมปะทะรุนแรงกับบุคคลตรงหน้าผู้นี้ ราชาหลงบุคคลระดับนี้…ต่อให้เป็นโลกชั่วร้ายทิศตะวันตกยังได้รับผลร้ายกัน และถ้าพวกเขาเกิดการปะทะซึ่งหน้ากับราชาหลงเข้าจริง…ต้องชดใช้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ เกรงว่า…ทั้งเยี่ยนจิง…ต้องสั่นสะเทือนทั้งหมด
ในเวลานี้ ด้านนอกบ้านตระกูลหลี…นับวันยิ่งมีผู้ทำงานลับเฉพาะขับรถรีบเข้ามา
ซู่! เฉินเป่ยโดนล้อมรอบ ตกอยู่ในสภาพที่ยากลำบาก
ในที่สุดหลีเห้าก็สีหน้าเย็นเฉียบเขียวปัด ก้าวขึ้นมาข้างหน้าทีละก้าว
“หมายความว่าแก…อยากบุกตระกูลหลีของฉัน?” หลีเห้าถลึงตาแค้นเคืองใส่เฉินเป่ย ความคิดอยากจะฆ่ากำลังผุดขึ้นทั่วตัว เขาบ้านตระกูลหลี อยู่หลายปีมาขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่โดนคนบุ่มบ่ามเข้ามาแบบกำเริบเสิบสานเช่นนี้ นี่…คือการยั่วยุอำนาจและศักดิ์ศรีของตระกูลหลีต่อหน้าสาธารณชนเลยทีเดียว
เฉินเป่ยกวาดสายตามองหลีเห้าด้วยแววตาเรียบนิ่งทีหนึ่ง ในแววตามีการเหยียดหยามที่หนาวเย็น
“พวกแกขวางฉันไม่ได้หรอก” เสียงของเฉินเป่ยสงบน่าสะพรึงกลัว กลับทำให้คนอกสั่นขวัญแขวน
“โอหัง! ยิงให้ตายเลย!” หลีเห้าสายตาเย็นเฉียบ ออกคำสั่งต่อหน้าทุกคน
“อย่า!” ผู้ทำงานลับเฉพาะเหล่านั้นตกใจกันใหญ่ อยากจะหยุดยั้ง พวกเขารู้ผลลัพธ์ที่ราชาหลงลงมือยิ่งกว่าผู้ใด
แต่ว่าพวกเขายังคงช้าไปก้าวหนึ่ง
“ตึกๆๆ…”
ชั่วขณะนั้นกระสุนลูกแล้วลูกเล่ากระหน่ำยิงไปทางเฉินเป่ย นี่คือ…อยากจะสังหารต่อหน้าสาธารณชน
แวบเดียว…ภาพเงาของเฉินเป่ยก็หายตัวไปจากที่เดิมกะทันหัน
“เฮือกๆ!” เลือดสดสีแดงสองสายกระจายออก มือทั้งคู่ของลูกน้องตระกูลหลีที่ยิงปืนสองคนนั้นโดนฟันขาดเรียบ
ภาพเงาของเฉินเป่ยค่อยๆ ปรากฏขึ้น ในมือของเขากุมมีดหลงหยาเล่มนั้นไว้…ที่ปลายมีด…ไม่เปื้อนหยดเลือด
ที่เกิดเหตุ…บรรยากาศเงียบงันเฉียบพลัน
ทั้งหมดล้วนตอบสนองเข้ามาไม่ทันอยู่บ้าง
ผู้ทำงานลับเฉพาะที่อยู่ในเหตุการณ์พวกนี้สีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ มีเพียงพวกเขาถึงเข้าใจ บุคคลด้านหน้าผู้นี้…ไม่สามารถปะทะรุนแรงซึ่งหน้าได้เด็ดขาด นี่…คือราชาหลง
หลีเห้าโกรธเคืองสั่นแรงทั่วตัว เขานึกไม่ถึง…นึกไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้ แม้กระทั่งผู้ทำงานลับเฉพาะในที่เกิดเหตุ เขายังกล้าเปิดฉากฆ่าคนตายมากมาย
และตอนนี้มีกลุ่มผู้ทำงานลับเฉพาะสนับสนุน หลีเห้ายิ่งไม่เข้าใจ ทำไมผู้ทำงานลับเฉพาะเหล่านี้ถึงไม่กล้าเสนอความคิดเห็นเช่นนี้?
เขาไม่ได้ฉลาดหลักแหลมอย่างกับปีศาจแบบหลีเช่าเทียน ในความเป็นจริงถ้าเขาฉลาดสักหน่อย คงไม่ถูกหลีหงเพิกเฉยหรอก
เขาในเวลานี้ได้สูญเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง
“ตายซะเถอะ!” หลีเห้าตะโกนสั่งการออกมา
แวบหนึ่ง ที่เกิดเหตุเสียการควบคุมถึงที่สุด
ลูกน้องตระกูลหลีนับไม่ถ้วนยิงอย่างบ้าคลั่ง ห่ากระสุนปืนผสมปนเป การสังหารโหดเหี้ยม ควันดินปืนที่เข้มข้นตลบอบอวลไปทั้งอากาศบนบ้านตระกูลหลี
ภาพเงาของเฉินเป่ยแวบผ่านฉับไว…มีดหลงหยากลายเป็นสายฟ้าแลบสยองขวัญ กระสุนนับไม่ถ้วนโดนฟันร่วงลงทั้งหมด…ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้สักก้าว
มีดหลงหยาด้านหน้าเขาระเบิดแวบ ก้าวขึ้นมาทีละก้าวอย่างนี้ บนพื้น…ฝีเท้าแต่ละก้าวของเขาประทับตราลง ปรากฏรอยร้าวลึกๆ ออกมา
การสังหารเปิดฉากออก นรกผืนหนึ่งกำลังจะเกิดขึ้นมา
ส่วนผู้ทำงานลับเฉพาะเหล่านั้น ในที่สุดตัดสินใจได้เฉียบขาด ยิงดุเดือดไปยังเฉินเป่ยด้วยเช่นกัน
ผู้ทำงานลับเฉพาะที่ผ่านประสบการณ์ฝึกฝนน่ากลัวมานับไม่ถ้วน แต่ละคนล้วนเหนือกว่าคนทั่วไป ฝีมือสยองขวัญ
ภายใต้หน้ากากนั้น เฉินเป่ยลูกตาแข็งทื่อ
ราชาหลงออกโจมตี สังหารหมู่เลือดสดเจิ่งนอง
“เฮือกๆๆ——!”เสียงร้องโหยหวนนับไม่ถ้วน ภาพเงาแต่ละคนกระเด็นออกไป…เลือดสดเปื้อนแดงฉาดทั้งพื้นดินของบ้านตระกูลหลี
…
กลางดึก ในเมืองแห่งหนึ่งทางเหนือของหัวเซี่ย
ในห้องนิรภัยแห่งหนึ่ง ผู้อาวุโสที่สวมชุดจงซานท่านหนึ่งกำลังดื่มกาแฟอยู่ จ้องวงจรปิดในหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่กะพริบ
ทันใดนั้น ผู้ทำงานพิเศษคนหนึ่งลุกขึ้น เอ่ยปากบอกกับผู้อาวุโส “หัวหน้าหลี่ครับ ทางองค์กรให้ท่านรีบกลับไป เยี่ยนจิงเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายครับ”
“เยี่ยนจิง เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หัวหน้าหลี่ขมวดคิ้ว พวกเขากำลังสะกดรอยตามพวกทรยศต่อประเทศ ตอนที่เห็นว่ากำลังจะติดกับ ตนเองกลับได้รับคำสั่งนี้มากะทันหัน ทำให้เขาคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
“ราชาหลงปรากฏตัวที่เยี่ยนจิงแล้วครับ อยากจะสังหารคุณชายรองของตระกูลหลี” ผู้ทำงานลับเฉพาะรายงานตามความเป็นจริง
“เขาทำขนาดนี้จริงเหรอ?” หัวหน้าหลี่สีหน้าตกตะลึง ท่าทางตื่นตระหนก
ผ่านไปตั้งนานหัวหน้าหลี่ถึงค่อยๆ พูดขึ้น “ตอบกลับไป พวกเรากำลังปฏิบัติการอยู่ ถ้าปฏิบัติการเสร็จสิ้น จะรีบกลับไปทันที”
“แต่หัวหน้าครับ นี่…” ผู้ทำงานลับเฉพาะคนนั้นสีหน้าแข็งทื่อ หัวหน้าหลี่ นี่หมายถึงกำลังขัดขืนคำสั่งอย่างเปิดเผย
“ทหารอยู่ด้านนอกห่างไกล ไม่จำเป็นต้องผูกติดกับคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ฉันติดหนี้เขามากเหลือเกิน ฉันไม่อาจไปออกหมายจับเขาได้ด้วยตัวเอง”
…
บ้านตระกูลหลี การสังหารหมู่นองเลือดฉากหนึ่ง
ทุกที่เป็นผู้บาดเจ็บล้มตายเลือดนอง
ลูกน้องตระกูลหลีหลายร้อยคนราวกับตัวตุ่นและมด…ถูกทำลายระเบิดพังในชั่วขณะหนึ่ง
ผู้ทำงานลับเฉพาะขององค์งานลับเฉพาะพยายามร่วมมือกันซุ่มยิงราชาหลงให้ได้…แต่ช่วงสั้นๆ ไม่ถึงนาที…ผู้ทำงานลับเฉพาะทั้งหมดกลับถูกระเบิดลอยไปกันแล้ว…จากนั้นกระอักเลือดสด
พวกเขาคำนวณผิดพลาดเสียแล้ว พวกเขา…รู้จักเพียงแต่ชื่อเสียงของราชาหลง…เดิมทีไม่รู้ฝีมือและกำลังสู้รบของราชาหลง…. พวกเขาประเมินกำลังสู้รบของราชาหลงต่ำโดยสิ้นเชิง
เฉินเป่ยเหยียบเลือดสดทุกพื้นที่นี้ บุกเข้าในคฤหาสน์ตระกูลหลีทีละก้าว
ที่ด้านหน้าโถงหลัก มีรั้วเหล็กหนาที่ทึบปิดล็อกไว้หมดแล้ว แผนการป้องกันของตระกูลหลีเริ่มต้นขึ้น พยายามสกัดเขาไว้
แต่รั้วเหล็กเล็กน้อยแถวนี้จะขวางกั้นราชาหลงไว้ได้อย่างไร?
รั้วเหล็กที่เป็นเหล็กเสริมหนาทึบนั้นโดนเฉินเป่ยโบกด้วยแขนเดียวไปโดยตรง…หักแตกฉีกขาดไปเลย
ในห้องโถงของตระกูลหลี ชั่วขณะนั้นลูกน้องกลุ่มหนึ่งสับสนอลหม่าน ทุกคนต่างตกใจจนถอยหลัง ลูกน้องตระกูลหลีกลุ่มหนึ่งในมือถืออาวุธร้อน…แต่กลับไม่มีใครกล้ายิงสักคน
เพราะถึงลงมือลั่นไกไป…มือทั้งคู่ก็โดนเฉินเป่ยฟันร่วงที่พื้นตั้งแต่แรก…เลือดสดแตกกระจาย…เปื้อนสีแดงไปทั้งห้องโถง
เฉินเป่ยค่อยๆ ก้าวเท้าขึ้นมา หน้ากากคล้ายว่ามีแรงอาฆาตแค้นที่สยดสยอง
“เรียกหลีเช่าเทียนให้ไสหัวออกมา!” ใต้หน้ากากราชาหลง เสียงของเฉินเป่ยราวกับจิตสังหารนรก สั่นสะเทือนกลางอากาศ
หัวใจของทุกคนในเหตุการณ์ล้วนสั่นไปตามๆ กัน วินาทีนี้ช่างโหดเหี้ยมน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน
“ราชาหลง…” สีหน้าหลีเห้าเขียวปัดไร้ที่เปรียบ จ้องเฉินเป่ยไม่ขยับ เสียงซับซ้อนอย่างยิ่ง
เฉินเป่ยยืนนิ่งเฉยอยู่ตรงนั้น ไม่ได้พูดอะไร…แสดงการยอมรับโดยปริยาย
“แกใจกล้าเหยียบขึ้นตระกูลหลีอย่างกำเริบเสิบสานขนาดนี้…ไม่รู้ผลสุดท้ายรึไง?” เสียงของหลีเห้าเคร่งขรึมอย่างยิ่ง ราวกับมีความหมายที่บีบเคล้น
“ผลสุดท้าย…ฉันรู้เพียงว่า…วันนี้ชีวิตของหลีเช่าเทียนรักษาไม่รอดแล้ว” เสียงของเฉินเป่ยเย็นชามาก มีความดุเดือดน่าครั่นคร้าม
เฉินเป่ยภายใต้หน้ากากรัดกุม จ้องเจ้าบ้านตระกูลหลีท่านนี้ด้วยแววตาเย็นเฉียบสงบนิ่ง…เหมือนว่า…มีการเยาะเย้ยนิดๆ
“ฉันเรียกกำลังทั้งหมดทั้งภายในและนอกตระกูลหลีไว้แล้ว ตอนนี้…ทั้งด้านนอกบ้านตระกูลหลี ทั่วทุกที่ล้วนเป็นคนของฉัน…ถ้าแกกล้าก้าวมาสักก้าว จะโดนลงโทษอย่างโหดเหี้ยม!” หลีเห้ากัดฟันแน่น เสียงเย็นยะเยือกไร้ที่เปรียบ
เฉินเป่ยไม่พูดพร่ำทำเพลง ก้าวเข้าไปด้านหน้าโดยตรง
ซู่! บรรยากาศเงียบงันแถบหนึ่ง
มือทั้งคู่ของหลีเห้ากุมหมัด…เขาเข้าใจแล้ว นี่คือวิกฤติที่ไม่เคยมีมาก่อน ตระกูลหลีของเขา…วันนี้เจอกับหายนะเข้าให้ ความจริงช่างกะทันหันเหลือเกิน ถึงแม้เวลานี้น้ำเสียงของเขาจะแข็งกร้าว แต่ในความเป็นจริงตระกูลหลียังคงเป็นพ่ายแพ้ตั้งแต่ต้นจนจบ ครั้งแล้วครั้งเล่า
“สรุปแก…อยากทำอะไรกันแน่!” หลีเห้าจ้องเฉินเป่ยอย่างตาไม่กะพริบ น้ำเสียงซับซ้อนหนาวเหน็บ
“หลีเช่าเทียนเริ่มรังแกฉันตั้งแต่ที่หู้ไห่มาครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันฟันแขนเขาข้างหนึ่งเพื่อให้บทเรียนเขาแล้ว แต่เขากลับยังไม่ตายใจ ออกหมายนำจับฉันในเว็บมืด อย่างนั้นฉันคงไม่จำเป็นต้องให้โอกาสเขาอีก” ใต้หน้าผาก เสียงของเฉินเป่ยเรียบนิ่งแต่ทรงพลังสั่นสะเทือน ทำให้ที่ว่างกลางอากาศสั่นสะท้านวึ่งๆ
“ถ้ามีใครขวางฉัน…ฆ่าทิ้งทั้งหมด! ถ้าหลีเช่าเทียนไม่ยอมออกมาเจอฉัน งั้นฉันก็ฆ่าจนเขาจะออกมาเจอฉัน!” เสียงของเฉินเป่ยดังก้องในอากาศ ทำให้ลูกน้องตระกูลหลีนับไม่ถ้วนสีหน้าเปลี่ยนฉับพลัน
“เขา…เขาไม่อยู่ที่นี่…” หลีเห้าจ้องหน้ากากนั้นของเฉินเป่ย สีหน้าอึมครึมไม่สงบ เหมือนหลังจากดิ้นรนลังเลมา ถึงตัดสินใจครั้งใหญ่แล้ว จึงพูดออกมา
ดวงตาทั้งคู่ของเฉินเป่ยแข็งทื่อทันใด แวบหนึ่งเขาหายตัวไปจากที่เดิมในชั่วขณะนั้น
“พรึบ!” เฉินเป่ยปรากฏตัวด้านหน้าของหลีเห้าขึ้นทันใด เขาคว้าหลีเห้าขึ้นมาแล้ว
“แกว่าอะไรนะ?”
“คืนนี้มีงานเลี้ยงการกุศลงานหนึ่ง เขาไปเข้าร่วม…” หลีเห้าพูดออกมาอย่างยากลำบาก มือทั้งคู่ของหลีเห้ากุมแน่น หลังใช้ดุจพินิจพิจารณาข้อดีข้อเสีย เขาถึงพูดออกมาแล้ว เพื่อรักษาคนในตระกูลส่วนใหญ่ไว้…หลีเช่าเทียนฉลาดหลักแหลมดุจปีศาจ น่าจะสามารถหลุดพ้นการไล่ฆ่าได้…