สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 579
บทที่ 579 ราชาหลงคือนาย
ประธานสาวหลีชิงเยียนงงเป็นไก่ตาแตกไปแล้ว เธออึ้งอยู่นานกว่าจะได้สติกลับมา “เฉินเป่ย…” เธอเรียกชื่อเฉินเป่ย
ดวงตางามจ้องมองเฉินเป่ยอย่างสงสัย…คล้ายกับจะเตือนเขา…อย่าฆ่าคน…เธอไม่อยากให้เฉินเป่ยเจอปัญหามากขึ้นเพราะบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป…
เฉินเป่ยส่งสายตาวางใจคืนให้เธอ จากนั้นก็เหยียบกระแทกหน้าอกริชาร์ดต่อ ริชาร์ดเจ็บจนร้องโหยหวนออกมา!
“ขอร้องล่ะ..อย่าฆ่าฉัน..ฉันเป็นสมาชิกรุ่นที่หกของตระกูลริชาร์ดนะ..” ก่อนตายริชาร์ดยังพยายามดิ้นรน
“สมาชิกรุ่นที่หก? ต่อให้แกเป็นผู้ก่อตั้งตระกูลริชาร์ดก็ไม่มีประโยชน์! วันนี้ ในเมื่อแกกล้ามาหาเรื่องบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป…ก็ต้องเตรียมใจที่จะโดนเหยียบไว้แล้ว!” เฉินเป่ยกระแทกฝ่าเท้าอีก อวัยวะภายในของริชาร์ดสะท้านไปตามๆกัน โดนเท้านี้ของเฉินเป่ยเข้าไปแทบจะกระเด็นอยู่แล้ว!
สายตาเฉินเป่ยกวาดมองไปทั่วห้องทำงาน พลางถาม “มีเทปพลาสติกไหม?”
สีหน้าหลีชิงเยียนตะลึง ดึงสติคืนไม่ทัน “นาย นายจะเอาเทปพลาสติกไปทำอะไรน่ะ?”
เฉินเป่ยยิ้มมุมปากพลางว่า “เล่นมายากลน่ะ”
หลีชิงเยียนงงเป็นไก่ตาแตก ควานหาเทปพลาสติกจากในห้องทำงานมาได้หนึ่งม้วนหนาๆ โยนให้เฉินเป่ย
เฉินเป่ยรับเทปพลาสติกมา ไม่พูดพล่ามทำเพลง ก็ดึงเทปออกพันรอบตัวริชาร์ดเลย!
ริชาร์ดตกใจมาก! สั่นสะท้านไปทั้งตัว! “อย่าฆ่าฉัน! อย่าฆ่าฉัน! ขอร้องล่ะ…ไว้ชีวิตฉันด้วย!”
เฉินเป่ยไม่แยแสเขาสักนิด พันเทปพลาสติกรอบแล้วรอบเล่า ตัวริชาร์ดโดนพันจนแทบจะกลายเป็นมัมมี่ มือเท้าโดนพันไว้หมด ขยับตัวไม่ได้สักนิด!
ผ่านไปสักครู่…
“เทปไม่พอ ขอผมอีกสักหลายม้วนนะ” เฉินเป่ยพูดขึ้นดื้อๆ
เลขาได้สติกลับมา รีบวิ่งออกจากห้องทำงานไป และหยิบเทปใสจากด้านนอกมาหลายม้วน
เฉินเป่ยดึงเทปออก พันรอบตัวริชาร์ดหลายรอบมาก! เทปพันไปรอบแล้วรอบเล่า พันรอบริชาร์ดกลายเป็นบะจ่าง ดูน่าอนาถมาก!
ริชาร์ดโดนพันซะกลายเป็นบะจ่าง เขาตกใจจนตัวสั่นเทา! น้ำมูกน้ำตาไหลปะปนกันลงมา แม้แต้กางเกงก็ยังเปียก…เขาฉี่ราดแล้ว!
“ขอร้องล่ะ…ปล่อยฉันไปเถอะ…ราชาหลง…ขอร้องล่ะ!” ริชาร์ดขอร้องออกมาอย่างน่าอนาถ!
“เพี๊ยะ!” เฉินเป่ยตบไปหนึ่งฉาดเลย ตัดบทคำพูดของริชาร์ด!
เพียงแต่ประธานสาวขมวดคิ้วสงสัยแล้ว ใช่! เมื่อกี้เธอได้ยินชัดเจนถึงคำพูดนั้นของริชาร์ด..ราชาหลง! เขาเรียกเฉินเป่ยว่าราชาหลง!
วินาทีนี้ประธานสาวแววตาสับสนมาก เธอจ้องมองเฉินเป่ยเขม็ง..เขามีฉายาว่าราชาหลงจริงๆด้วย! ราชาหลง? ! ฉายานี้หมายถึงฐานะอะไร? ! ! หลีชิงเยียนรู้สึกว่าเธอเข้าใกล้สถานะนั้นของเฉินเป่ยเข้าไปใกล้ทุกทีแล้ว แต่ความจริงดูจะสับสนอยู่มาก!
เฉินเป่ยไม่ธรรมดาจริงๆ…เขาปิดบังอะไรเธออยู่กันแน่…หลีชิงเยียนเข้าโหมดครุ่นคิด…
เฉินเป่ยพันริชาร์ดจนกลายเป็นบะจ่างอันใหญ่ จากนั้นก็หิ้วริชาร์ดออกไปถึงข้างหน้าต่างชั้นเก้าสิบเก้า
“ชิงเยียน ไม่ถือสาถ้าผมจะทำลายหน้าต่างใช่ไหม?”
หลีชิงเยียนอึ้ง ดึงสติมาไม่ทัน…แต่เธอก็พยักหน้าตามสัญชาตญาณ…เธอไม่เข้าใจว่าเฉินเป่ยคิดจะทำอะไร?
เฉินเป่ยเอาหัวเทปที่พันตัวริชาร์ดทั้งหมดมารวมกันไว้ที่พื้น
ริชาร์ดตัวสั่นเทา “ขอร้องล่ะปล่อยฉันไปเถอะ! อย่าฆ่าฉันเลย! อย่าฆ่าฉัน!”
เฉินเป่ยยิ้มอย่างมีเลศนัยว่า “วางใจเถอะ ฉันไม่ฆ่าแกหรอก ฉันจะให้แกได้ลิ้มรสการบันจี้จั้มป์ที่สวยที่สุดในโลกไง”
เฉินเป่ยพูดจบ ก็หิ้วร่างริชาร์ดโยนไปทางหน้าต่างเอาดื้อๆ!
“เพล๊ง!” หน้าต่างกระจกแตกดัง! แตกจนกระจกหน้าต่างหล่นลงพื้นแตกกระจาย!
ร่างบะจ่างของริชาร์ดโดนโยนชนหน้าต่าง และดิ่งลงพื้นตามกระจกที่แตกกระจาย!
จากชั้นเก้าสิบเก้า ความสูงกว่าห้าร้อยกว่าเมตรพุ่งเร็ว…ดิ่งลงพื้น!
“อ๊า—!!” ระหว่างตกดิ่งด้วยความเร็ว ริชาร์ดสีหน้าซีดเผือด ตกใจจนขีดสุด! มันเป็นการร้องโหยหวนก่อนตาย! การร้องโหยหวนครั้งสุดท้ายของเขา! !
เทปใสที่พันอยู่บนตัวริชาร์ดหนาๆหลายครั้งโดนดึงพรืดด้วยความเร็วสูง คลายตัวกลางอากาศ เหมือนเชือกที่คลายตัวจากเขาออก…ตัวเขาเหมือนหมุนติ้วไม่หยุด…พุ่งดิ่งลงพื้นที่ห่างไปร้อยเมตรนั่น!
ในห้องทำงานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป เพื่อนร่วมงานกลุ่มหนึ่งกำลังประชุมอยู่เลย จู่ๆได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังข้างหน้าต่างดิ่งลงล่าง! เพื่อนร่วมงานในห้องประชุมต่างพากันตะลึงอึ้ง! ! แต่ละคนพุ่งไปที่หน้าต่าง มองฉากนี้ด้วยอาการตกตะลึง!
วินาทีนี้ ริชาร์ดกลายเป็นจุดเด่นเพียงจุดเดียว! พนักงานหลายพันคนของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป แทบจะกว่าครึ่งตึกอยู่ติดชิดหน้าต่าง มองภาพริชาร์ดในสภาพบะจ่างร่วงตกตึก!
เทปสันแต่ละชั้นค่อยๆคลายตัวออก และแสดงพลังในการคลายแต่ละชั้นออกมา!
ริชาร์ดสีหน้าซีดเผือด! ตาแทบถลน! จ้องมองพื้นด้านล่างเขม็ง! ร่างเขากำลังพุ่งดิ่งลงพื้นด้านล่าง!
วินาทีนี้เขาคิดว่าตัวเองไม่รอดแล้ว! คงเละเป็นโจ๊ะแน่นอน!
ในที่สุด เทปที่พันร่างริชาร์ดก็คลายตัวออกหมด…มันช่วยลดแรงปะทะไปได้มาก! ร่างเขาล้มลงพื้นอย่างแรง!
“โครม–!” พื้นสะท้านเป็นหลุม ร่างริชาร์ดแทรกเข้าพื้นเป็นรูปตัวเขาเลย ฝุ่นคลุ้งกระจาย!
ห้องทำงานกรรมการผู้จัดการชั้นเก้าสิบเก้า หลีชิงเยียนกับเลขาสีหน้าซีดเผือด มองภาพหลุมฝุ่นคลุ้งกระจายที่ดำดิ่งไปหลายร้อยเมตรนั่น…ทั้งคู่บื้อไปเลย! !
“คุณ..คุณฆ่าคนหรอ…?” เลขาสีหน้าซีดเผือด พูดพึมพำเสียงเปลี่ยน
เฉินเป่ยจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบพูดเสียงเรียบว่า “วางใจเถอะ ไม่ตายหรอก…” เขาเหยียบๆเทปส่วนปลายที่แปะไว้ที่พื้น
เทปหลายรอบนี้ช่วยลดแรงได้มหาศาล ต่อให้นายริชาร์ดนั่นอยากตายก็ตายไม่ได้! เฉินเป่ยเดิมก็ไม่อยากให้เขาตายอยู่แล้ว… เฉินเป่ยแค่อยากให้บทเรียนที่เขาจะลืมไม่ลงไปตลอดชีวิตเท่านั้นเอง! และเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูกับตระกูลริชาร์ดด้วย!
ตึกชั้นล่างที่ห่างไปห้าร้อยเมตร หลุมขนาดใหญ่ สมาชิกรุ่นที่หกตระกูลริชาร์ด…เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด นอนอ้าขาหลาในหลุม เขาเบิกตากว้าง…ตกใจเป็นลมไป! ขนาดสลบไปยังเบิกตากว้าง! รู้ได้เลยว่าวินาทีที่เขาสลบไป…เขาตกใจมากแค่ไหน! !
คฤหาสน์ริชาร์ด ณ ประเทศอังกฤษที่ห่างไกลไปหลายหมื่นกิโลเมตร
บนยอดโดมปราสาทสูงหลายสิบเมตร เป็นโบสถ์คริสที่ใหญ่มาก วันนี้เป็นวันทำพิธีมิซา สมาชิกตระกูลริชาร์ดทั้งหมดพากันนั่งหน้าโบสถ์ ฟังคำสอนของบาทหลวง
แถวที่นั่งแถวหน้าของโบสถ์ ไจล์สคุณชายใหญ่ของตระกูลในชุดสูทเป็นทางการ นั่งสงบอยู่ที่นั่น ร้องเพลงคริสไปด้วยท่าทางสงบนิ่ง
คริสเตียนเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนของตระกูลริชาร์ด ทุกคนต่างเชื่อมั่นในความอิสระ และเป็นคำอธิษฐานของพวกเขาที่มีต่อตระกูลด้วย
ในตอนนี้เอง จู่ๆก็มีลูกน้องคนหนึ่งผลักประตูใหญ่ของโบสถ์ทะเล่อทะล่าเข้ามาด้วยสีหน้าแตกตื่น!
บาทหลวงที่นิ่งสงบโดนลูกน้องคนนี้ทำให้แตกตื่น ไจล์สคุณชายใหญ่ค่อยๆลืมตาขึ้น แววตานิ่งเฉย
ลูกน้องคนนั้นวิ่งหน้าตื่นมาที่หน้าไจล์ส คุกเข่าข้างเดียวร้องว่า “คุณชายใหญ่ เกิดเรื่องแล้วครับ!”
ไจล์สดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย คล้ายกับจะโมโห แต่บาทหลวงยิ้มน้อยๆให้เขาเป็นเชิงว่า อย่าโมโห ทุกอย่างแค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ต่อหน้าพระเยซู ต้องการความเงียบสงบ
ไจล์สวางไบเบิ้ลในมือลงช้าๆ พึมพำภาวนาว่า “สวรรค์ก็คือนรก นรกก็คือสวรรค์…” พูดจบ เขาหันไปโค้งคำนับต่ำให้กับสัญลักษณ์ไม้กางเขนหน้าโบสถ์ เป็นการเคารพ
เวลานี้ คุณชายใหญ่ตระกูลริชาร์ดสงบลงแล้ว ทุกอย่างประหนึ่งลมพัดผ่าน ไม่ข้องเกี่ยวกับโลก
“มีอะไร? ว่ามา” ไจล์สพูดเสียงเรียบ
ลูกน้องสีหน้าตื่นเต้นมาก รายงานอย่างระมัดระวังว่า “ริชาร์ด…ริชาร์ดโดนคนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส…ที่หัวเซี่ย…อาการร่อแร่!”
“พลั่ก!” ไจล์สตบโต๊ะดังปั้ง ทำเอาโต๊ะภาวนาด้านหน้าแตกเละในพริบตา!
“แกว่า…อะไรนะ? !” สีหน้าไจล์สบิดเบี้ยว ณเวลานี้เขาไหนเลยจะมีความสงบหลงเหลืออยู่อีก! สีหน้าเปลี่ยนแปลงเต็มสุด! !
“ตอนริชาร์ดรับคำสั่งไปที่หัวเซี่ย…ไปเจรจากับบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป..โดนราชาหลงทำร้ายอาการสาหัส..คาดว่าปางตาย…อัมพาตตลอดชีวิต…”ลูกน้องรายงานเสียงสั่น เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมา!
วินาทีนี้ คุณชายใหญ่ตระกูลริชาร์ดคนนี้ ศิษย์ที่จงรักที่สุดของคริสเตียน..พิโรธถึงขีดสุด! เขากำหมัดแน่น จนเกิดเสียงกรอดกรอด! ไจล์สระเบิดความโกรธแล้ว! มาดสุภาพและความนิ่งของศิษย์คริสตจักรหายวับไปในพริบตา..เขาในตอนนี้โกรธจนขาดสติแล้ว!
บาทหลวงเห็นอย่างนั้น ก็เดินเข้ามาเกลี้ยกล่อมอย่างใจเย็นว่า “คุณชาย ทุกสิ่งล้วนมีทั้งสวรรค์และนรก…ขอพระเยซูคุ้นครอง…คุณไม่ควรจะโกรธ..ต้องรักษาความสงบนิ่ง ใจเย็นไว้…สวรรค์และนรกต่างกับแค่เส้นบางของความคิดเท่านั้น…”
“ไสหัวไป!” สีหน้าไจล์สบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขาชกหมัดหนึ่งออกไปอย่างแรง!
“ฮุ!” หมัดหนึ่งชกเข้าที่หน้าอกของบาทหลวง! ตัวบาทหลวงกระเด็นลอยออกไป!
คุณชายใหญ่ตระกูลริชาร์ดคนนี้โกรธสติหลุดแล้ว! โกรธจนขาดสติ!
…..
ตกเย็น เฉินเป่ยขับรถ พาประธานสาวส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย
วันนี้หลีหยางอยากดื่มเหล้าอีกแล้ว แต่โดนภรรยาและลูกสาวห้ามเอาไว้ได้
ดังนั้นหลีหยางเลยได้แต่กินข้าวเฉยๆ และเพราะไม่ได้ดื่ม อาหารเย็นมื้อนี้เลยกินกันไวมาก พอกินเสร็จ หลีชิงเยียนพูดกับเฉินเป่ยว่า “นายตามฉันขึ้นมาข้างบน”
พูดจบ ประธานสาวเดินเหยียบรองเท้าแตะขนนุ่ม ขึ้นบันไดไป
หลีชิงเยียนพาเฉินเป่ยขึ้นชั้นบน…
เฉินเป่ยโดนหลีชิงเยียนพาเข้าห้องทำงาน และปิดประตูลง
“นั่งสิ” หลีชิงเยียนเรียกเฉินเป่ยนั่งลง จากนั้นตัวเองก็นั่งลงบนโซฟาในห้องทำงาน
“ทำไมหรอ?” เฉินเป่ยรู้สึกไม่ชอบมาพากล เลยถามขึ้น
หลีชิงเยียนชงชาเขียวให้เขาแก้วหนึ่ง ทำให้เฉินเป่ยอดขนลุกไม่ได้ กลิ่นชาหอมกรุ่นลอยกำจาย ด้านข้างมีประธานสาวร่างนุ่มนิ่มนั่งอยู่ด้วย..ชีวิตดูสมบูรณ์ขึ้นมาทันที
“เกี่ยวกับเรื่องตระกูลริชาร์ดในวันนี้น่ะ นายจะเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม?” หลีชิงเยียนมองเฉินเป่ยเขม็ง ถามเสียงต่ำ
เฉินเป่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้…หลีชิงเยียนต้องถามเรื่องนี้แน่
“ตระกูลริชาร์ด…ที่จริงเป็นแค่ตระกูลเล็กๆในยุโรปเท่านั้นเอง..ปกติอาศัยลงทุนด้านธนาคาร ทำธุรกิจด้านการลงทุนเป็นหลัก” เฉินเป่ยอธิบายเสียงเนิบ แต่ก็ยังมีหมกเม็ดอยู่บ้าง ไม่ได้เล่าเรื่องตระกูลนี้ออกมาจนหมดเปลือก…เพราะเขาไม่อยากให้หลีชิงเยียนเป็นห่วง
พอได้ยินคำอธิบายของเขา หลีชิงเยียนอึ้งไป…พลางถามอย่างสงสัยว่า “ง่ายๆแค่นี้เลย?”
เฉินเป่ยพยักหน้า “ใช่ไง..แค่ตระกูลหนึ่งของเมืองนอกเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก คุณวางใจเถอะ”
“คนที่เคยใช้ชีวิตในเมืองนอกน่ะรู้กันทั้งนั้นแหละ” เฉินเป่ยเสริมด้วยรอยยิ้ม กลบเกลื่อนความสงสัยของหลีชิงเยียน
หลีชิงเยียนขมวดคิ้วแน่น เธอเองก็เคยไปเรียนเมืองนอก ทำไมเธอไม่เคยได้ยินเลยล่ะ?
หลีชิงเยียนกระพริบตาปริบๆ มองเขาเหมือนจะจับผิดอะไรบางอย่าง แต่เฉินเป่ยกลับสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีช่องโหว่เลยสักนิด
จิตใจเธอสับสนอยู่บ้าง..วางใจหรอ? แม้แต่ศัตรูเป็นใครเธอก็ยังไม่รู้…จะวางใจได้ยังไงกัน? ยิ่งไปกว่านั้น…วันนี้เจ้าริชาร์ดบ้านั่นพูดปาวๆถึงอำนาจบาตรใหญ่ของตระกูลริชาร์ดมันน่ะ…ก่อนคิดโยงไปถึงอาวุธที่แปลกประหลาดบนตัวมันอีก…สายตาหลีชิงเยียนขมวดแน่นด้วยความสงสัยขึ้นมา ถ้าเป็นตระกูลธรรมดา..จะมีอาวุธระดับนี้ได้งั้นหรอ? ของพวกนี้เป็นตัวแทนความลึกลับของตระกูลริชาร์ดนั่นแหละ!
เฉินเป่ยจิบชาเขียวหนึ่งคำ ลิ้มรสชาติที่สาวสวยชงให้ หอมมาก หอมหวาน
“ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก มีผมอยู่ นายริชาร์ดนั่นไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่คือหัวเซี่ย…ตระกูลเมืองนอกอย่างพวกเขาจะทำอะไรได้?” เฉินเป่ยพูดอย่างราบเรียบ
จิตใจหลีชิงเยียนกลับเป็นกังวลหนักขึ้น…เธอรู้สึกลางๆว่า..ตระกูลนั้นต้องไม่ใช่ธรรมดาแน่! วิธีการอหังการ์มุทะลุแบบนี้…จะเป็นตระกูลธรรมดาตระกูลหนึ่งงั้นหรอ?
“ฉันยังมีอีกคำถามหนึ่ง นายจะบอกฉันได้ไหม?” หลีชิงเยียนเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ดวงตางามจับจ้องมองเขาแน่วแน่
เฉินเป่ยอึ้งเล็กน้อย ก่อนพยักหน้า
“วันนี้ ฉันได้ยินกับหูว่าผู้ชายต่างชาติคนนั้นเรียกนายว่า ราชาหลง! ราชาหลงเป็นฉายาของนายใช่ไหม?” หลีชิงเยียนพูดประโยคนี้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่กลับอานุภาพราวกับสายฟ้าแลบก็ไม่ปาน! หัวใจเฉินเป่ยกระตุกทันที! ถ้วยชาในมือหล่นลงพื้นทันที น้ำชากระฉอกออกมาเต็มพื้น น้ำชาร้อนนั้นยังกระเซ็นมาโดนรองเท้าแตะของสาวเข้า ทำเอาความนุ่มของรองเท้าเปียกไปหมดเลย
เฉินเป่ยรีบคว้ากระดาษย่อลงมาที่ข้างตัวหลีชิงเยียน ค่อยๆเช็ดเท้าเธออย่างระมัดระวัง เขาถอดรองเท้าแตะออก และค่อยๆเช็ดคราบน้ำบนขาเธอ
“ไม่ต้องให้นายเช็ดหรอก…ฉันเช็ดเองได้…” หลีชิงเยียนอึ้งเล็กน้อย อยากปฏิเสธ
เฉินเป่ยกลับไม่ยอมปล่อย “ไม่เป็นไร ผมเช็ดให้แล้ว” ระหว่างที่พูดเขาก็หยิบทิชชู่มาค่อยๆบรรจงเช็ดคราบน้ำ เหมือนจะนวดไปในตัวด้วย
หลีชิงเยียนจิตใจสับสน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เธอควบคุมอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว ดวงตางามจับจ้องเฉินเป่ย และถามเสียงเรียบว่า “ราชาหลงเป็นฉายาของนายใช่ไหม? นายไม่ต้องหาทางเปลี่ยนเรื่องนะ และไม่ต้องหนีด้วย ฉันแค่อยากรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่”
เฉินเป่ยคุกเข่าอยู่หน้าสาวเจ้า เช็ดเท้างามเธอไปพลาง..หัวใจเต้นรัวไปพลาง..เขาไม่รู้จะตอบยังไงดี? คำถามนี้ คำถามที่เขาพยายามปิดบังมาเนิ่นนาน…วันนี้กลับโดนหลีชิงเยียนค้นพบเข้าและจับผิดจนได้
“นายไม่พูด เท่ากับยอมรับนะ?” เธอสะบัดหัวเบาๆ ผมยาวสยาย มองเขานิ่ง
เฉินเป่ยจิตใจว้าวุ่นไปหมด ไม่รู้จะตอบยังไงดี…เขาจับเท้าเธอไว้อย่างทะนุถนอม…คราวน้ำบนนั้นเช็ดสะอาดนานแล้ว..ตอนนี้เขาทำเหมือนแต๊ะอั๋ง..
ทันใดนั้น ประตูห้องทำงานเปิดออก!
หลีหยางถือถาดผลไม้มายืนหน้าประตู เขาอึ้งไปเลย! มองฉากนี้อย่างอึ้งๆ! เดิมเขาแค่คิดจะเอาผลไม้มาให้เฉินเป่ย..แต่ไหนเลยจะรู้ว่าพอเปิดประตูออกจะเจอฉากนี้?? เฉินเป่ยจับเท้าลูกสาวไว้..นี่กำลังนวด?? ทำอะไรกันเนี่ย??
เฉินเป่ยและหลีชิงเยียนต่างพากันอึ้ง! หลีชิงเยียนรีบชักเท้าตัวเองกลับมา สีหน้าแดงเรื่อ
เฉินเป่ยไหวหัวอย่างเก้อเขิน ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี…
“เอ่อคือ…พ่อเข้าผิดห้องน่ะ…พวกลูกต่อกันละกันนะ…” หลีหยางพูดพลางปิดประตูห้องทำงานให้…
ในห้องทำงานเต็มไปด้วยบรรยากาศเก้อเขิน! !
หลีชิงเยียนจ้องเฉินเป่ยตาถลนอย่างโมโห “เพราะนาย…”
เฉินเป่ยเบ้ปากอย่างหน่ายใจ จับเท้าเธออย่างแผ่วเบา ช่วยใส่รองเท้าแตะให้เธอ จำต้องยอมรับเลยว่า เท้านุ่มของเธอเป็นผลงานศิลปะที่สวยที่สุดในโลก ห่อหุ้มด้วยความนุ่มของรองเท้าแตะขนนุ่ม ยิ่งดูมีเสน่ห์ดึงดูด…เดิมเฉินเป่ยไม่ได้ชอบเท้าเท่าไหร่…แต่ตอนนี้เขารู้สึกชอบมันขึ้นมาบ้างแล้ว
พอเห็นสายตาหยาดเยิ้มของเฉินเป่ยที่มองเท้าของตน หลีชิงเยียนอดด่าอย่างโมโหไม่ได้ว่า “ลามกที่สุด…ยังไม่รีบออกไปอีก? ฉันจะทำงานแล้ว…”
เฉินเป่ยโดนเธอไล่ออกมาแบบนี้เอง…ตอนออกจากห้องทำงาน เขาดมมือตัวเองนิดๆ…ด้านบนยังมีกลิ่นหอมของเท้าสาวอันอ่อนนุ่มเหลืออยู่จางๆ หอมมากเลย..
พอเห็นเฉินเป่ยออกไป เธอก็ควบคุมอารมณ์ที่สับสน…เธอเดินมาที่หน้าคอมพิวเตอร์ เปิดBaiduออกมา เธอเริ่มต้นค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลริชาร์ด…
แต่ค้นไปมาบนBaidu กลับไม่เจอข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับตระกูลริชาร์ดเลย?
หลีชิงเยียนหลุบตางามอย่างสงสัย ถ้าตระกูลริชาร์ดใหญ่จริง…ไม่ควรจะค้นข้อมูลไม่เจอในอินเทอร์เน็ตนี่นา?
คิดๆดังนั้น เธอเลยเปิดIP เพื่อเปิดVPNของเมืองนอก มาลองค้นหาข้อมูลตระกูลริชาร์ดต่อ..พอเธอกดค้นหน…ข้อมูลมากมายพรั่งพรูออกมา…และสีหน้าของประธานสาวก็เริ่มขมวดมุ่นขึ้นมา!