สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 61
บทที่61 โยนตัวเองเข้าไปในแห(2)
บุคคลท่านนี้ได้เดินทางไปมาระหว่างหู้ไห่และเยี่ยนจิงสองที่นี้อยู่บ่อยครั้ง จึงรู้ถึงชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่คับฟ้าของตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิงได้เป็นอย่างดี! ดังนั้นแล้วจะยังกล้ายืนนิ่งอยู่ตรงนี้อยู่หรือ!
แต่พวกนักเลงอันธพาลพวกนั้นเห็นได้ชัดว่ายังคงไม่รู้ ถึงได้หัวเราะเสียงดังลั่นอย่างชั่วร้ายออกมา “แม่ง เอาเยี่ยนจิงมาขู่ฉัน? แกคิดว่าคนอื่นเขาจะโง่ปัญญาอ่อนกันหรือไงหา ถ้างั้นฉันก็คงมาจากทำเนียบขาวของสหรัฐฯแล้วล่ะมั้ง!”
ในตอนนั้นเอง รถเบนซ์สีดำคันหนึ่งค่อยๆทะยานออกมาจากที่ไกลออกไปด้วยความเร็วสูง
รถเบนซ์สีดำคันนั้นหยุดจอดตรงข้างถนน ประตูรถเปิดออก มีชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาคนหนึ่งก้าวออกมาจากรถด้วยท่าทีสบายๆ
“พวกคุณ นี่มันอะไรกัน?” การปรากฏตัวออกมาของชายหนุ่มหล่อเหลาสง่างามผู้นั้น ได้ทำเอาคนที่ถูกล้อมเอาไว้กลุ่มนั้นตื่นเต้นดีใจกันขึ้นมา
“เช่าเทียน ฉันเอง ป้าใหญ่ของเธอไง!”
“เช่าเทียน ทำไมเธอเพิ่งมาล่ะ พวกเรามาเจอพวกมิจฉาชีพกันแล้วเนี่ย”
คนกลุ่มนั้นส่งเสียงดังจ้อกแจ้กกันออกมา พูดกันออกมาไม่จบไม่สิ้น หลีเช่าเทียนขมวดคิ้วอย่างนิ่งคิดออกมาเล็กน้อย เอื้อมมือออกไปกดนวดลงไปทันที
ทันใดนั้นเองก็มีรังสีของไฟโทสะที่รุนแรงระเบิดออกมาจากร่างของเขา ทำเอาผู้คนโดยรอบนิ่งสงบลงทันที
“แกเป็นลูกหลานคนที่เท่าไหร่กันวะ?” ชายร่างสูงใหญ่กำยำผู้นั้นได้หันมามองหลีเช่าเทียนเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอย่างเหยียดหยามออกไป
“ฉันเป็นเพื่อนของพวกเขา” หลีเช่าเทียนยกยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ดี งั้นแกก็จ่ายเงินมาซะ พวกมันทำร้ายเพื่อนของฉันจนบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้น แกก็อย่าคิดว่าจะหนีไปไหนพ้น!” ชายร่างใหญ่เอ่ยพูดออกมา สีหน้าเหี้ยมโหดขึ้นมาทันที ความบ้าบิ่นทะยานสูงมากขึ้น!
ชายร่างใหญ่พูดไปพลาง พลางเอื้อมมือไปทางหลีเช่าเทียน แล้วคว้าคอเสื้อของเขาเอาไว้!
ทันทีที่ชายร่างใหญ่คนนั้นคว้าไปที่คอเสื้อของหลีเช่าเทียน สีหน้าของหลีเช่าเทียนก็ได้เยือกเย็นออกมาทันควัน!
ความเยือกเย็นจากร่างของหลีเช่าเทียนแผ่กระจายออกมา คิ้วของหลีเช่าเทียนขมวดแน่น “ปล่อย!”
ชายร่างใหญ่ยิ้มเยาะออกมาเล็กน้อย “ดูจากเสื้อผ้าพวกนี้ของแกก็ดูมีเงินมากอยู่ เอาอย่างนี้ ส่งเงินมาก่อนห้าหมื่นหยวน ไม่อย่างนั้น…”
ชายร่างใหญ่ผู้นั้นยังไม่ทันได้พูดออกมาจนจบ ทันใดนั้นเอง เสียงร้องตกใจก็เรียกความสนใจจากเขาไปโดยทันที
เห็นเพียงว่าในบริเวณที่ไกลออกไปบนท้องถนนสายนั้น มีรถเก๋งสีดำทะยานเข้ามาด้วยความเร็วสูงคันแล้วคันเล่า! ดูคล้ายราวกับว่าเป็นภาพลวงของถนนสายสีดำ ทำเอาชายรางสูงมีสีหน้านิ่งตะลึงออกมา!
“เอี๊ยด!” แต่ละคันดริฟต์กันเข้ามาอย่างสวยงาม รถเก๋งสีดำเข้ามาจอดตรงด้านหน้าของชายร่างใหญ่คนนั้นทีละคันๆ ชายร่างใหญ่กวาดตามองไปยังรถเก๋งสีดำพวกนั้น แววตาหดกลัวขึ้นมาทันที!
ป้ายทะเบียนรถของรถเก๋งเหล่านี้ล้วนเป็นสีขาวทั้งหมด!
ป้ายทะเบียนรถสีขาว นั่นหมายความว่ามีสถานะในเมืองหู้ไห่ไม่เหมือนกับรถเก๋งทั่ว ๆไป ยิ่งบ่งบอกได้ถึงสถานะที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี!
พูดได้เลยว่า ป้ายทะเบียนรถสีขาวนั้นมีความหมายว่าในเมืองหู้ไห่แห่งนี้ไม่มีใครสามารถเข้ามาหยุด ไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางได้!
ในวันปกติรถเก๋งป้ายสีขาวนั้นเป็นที่หาดูได้ยากยิ่ง แต่ในเวลานี้ กลับปรากฏออกมาให้เห็นพร้อม ๆกันเป็นสิบๆคัน!
นักท่องเที่ยวที่ใจกล้าจำนวนไม่น้อยเห็นภาพอันน่าตื่นตกใจฉากนี้เข้า แข้งขาทั้งสองข้างก็อ่อนแรงกันขึ้นมา ช็อกตกใจเสียจนฉี่แทบแตกกันออกมา!
ทั้งหมดล้วนเป็นชาวบ้านธรรมดากันทั้งนั้น จะไปเคยเจอภาพเหตุการณ์อย่างนี้ที่ไหนกัน บรรยากาศนิ่งแข็งขึ้นมาทันใด ส่วนมุมปากของหลีเช่าเทียนในตอนนี้นั้นก็ได้แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย…
“จัดการพวกมันให้ฉัน!” คนวัยกลางคนก้าวออกมาจากรถ รองเท้าหนังเหยียบลงบนพื้น ชี้ไปทางพวกนักเลงมิจฉาชีพเหล่านั้น สีหน้าเยือกเย็น กระโชกเสียงเข้มออกมา
“พรึบ!” เพียงชั่วพริบตาเดียว การ์ดจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าไปล้อมตัวเป้าหมายทันที มือถือปืนสีดำขลับอยู่ในมือ ทำเอาชายร่างใหญ่ผู้นั้นนิ่งอึ้งไปทันที!
เขามันก็แค่สมาชิกเล็ก ๆ ของอื้อจูถังเท่านั้น จะไปเคยเจอการ์ดที่อาวุธครบมือเตรียมเข้าต่อสู้อย่างนี้ที่ไหนกัน…สุดท้ายเขาก็รู้ตัวแล้วว่า…ดูเหมือนว่าเขาจะเล่นผิดคนเสียแล้ว!
“แก…ทำเสื้อฉันสกปรก…” หลีเช่าเทียนค่อยๆเอ่ยออกไปอย่างช้า ๆ สายตาจ้องมองลึกไปยังชายร่างใหญ่ผู้นั้นอย่างเยือกเย็น
“พวกแก ตกลงพวกแกเป็นใครกันแน่…” สุดท้ายชายร่างใหญ่ก็ได้ตื่นตระหนกขึ้นมา พยายามร้องตะโกนขัดขืนออกไปอย่างสุดชีวิต
“แม้แต่คุณชายหลีแกยังกล้าแตะต้อง คงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วล่ะมั้ง!” ชายวัยกลางคนเตะไปที่ร่างของชายร่างใหญ่ผู้นั้นทันที ชี้ไปทางป้ายทะเบียนรถสีขาวแล้วเอ่ยเสียงเข้มออกไปว่า “แกคิดว่าฉันเป็นใครล่ะ!”
จากนั้น ชายวัยกลางหันก็หันกลับไปเอ่ยพูดเอาใจหลีเช่าเทียนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างระมัดระวังทันที“คุณชายหลี ผมจะต้องดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมอย่างแน่นอนครับ จะลงโทษคนพวกนี้ให้หนัก คุณเป็นผู้ใหญ่ก็อย่าไปถือสาหาความกับเด็กเลยนะครับ อย่าเอาเรื่องเล็ก ๆ พวกนี้มาคิดมาก…”
“เลขาโจว เรื่องวันนี้ ผมไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นมาอีกครั้ง” คุณชายหลีชำเลืองมองชายวัยกลางคนเล็กน้อย พร้อมทั้งเอ่ยเสียงเรียบออกไป
ทันใดนั้น ทางอีกฝั่งหนึ่งก็มีชายที่ร่างเต็มไปด้วยเลือดปีนป่ายเชือกเข้ามาด้วยร่างที่สั่นเทา “เช่าเทียน เช่าเทียน!”
หลีเช่าเทียนหันร่างกลับไป เห็นชายที่ทั้งร่างเต็มไปด้วยคราบเลือดคนนั้น แววตานิ่งลึกก็แข็งค้างขึ้นมาทันที รังสีของความเยือกเย็นแวบผ่านออกมาทางแววตาของเขา!
“พ่อ เกิดอะไรขึ้น?” หลีเช่าเทียนเอ่ยถามออกไป
“มัน! ทั้งหมดเป็นฝีมือมัน! จัดการมันให้ฉัน!” ชายผู้นั้นถูกหลีเช่าเทียนเข้าไปประคองร่างเอาไว้ ตอนนี้ได้ชี้ไปทางชายร่างใหญ่คนนั้น เสียงแหบแห้งกรีดร้องออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่เข้มข้น!
คุณชายหลีผันร่างกลับไปทันที มองไปยังชายร่างใหญ่ผู้นั้น สุดท้ายใบหน้าของเขาก็ได้ปรากฏความทะมึนเยือกเย็นถึงขีดสุดออกมา!
“ไอ้สารเลวเอ๊ย! นึกไม่ถึงเลยว่าแกจะกล้าทำร้ายคุณพ่อของคุณชายหลี ฉันว่าแกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วล่ะ!” เลขาโจวกล่าวโทษออกมาอย่างโกรธแค้น ชิงก้าวเข้าไปตะโกนออกไปก่อนใคร “สมควรโดนยิงให้ตายคาที่ไปซะ!”
“ปัง” การ์ดคนหนึงก้าวเข้ามา เสียงปืนดังผ่านชั้นบรรยากาศออกไป ดังก้องไปทั่วทั้งสนามบิน!
ฝูงชนจำนวนมากในที่ที่ไกลออกไป เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ก็ได้หลบกระเจิงกันไปทั่วทุกทิศทางตามสัญชาตญาณ!
หลังจากนั้น ก็มีเสียงปืนดังเสียดหูดังขึ้นมาอีกหลายนัด สีหน้าของคุณชายหลีนั้นเยือกเย็น แต่กลับไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
คุณชายหลีหันหน้าไปมองศพพวกนั้น เหลือบมองอยู่นาน จนกระทั่งเปร่งเสียงพูดออกมาว่า “เลขาโจว นายทำดีมาก…ต่อไปฉันไม่ต้องการเห็นเรื่องจำพวกนี้เกิดขึ้นมาอีก”
“ครับ แน่นอนครับ ผมจะจดจำและปฏิบัติตามคำสั่งของคุณชายหลีอย่างเคร่งครัดครับ” ร่างของเลขาโจวสั่นระรัว เขารู้สถานะของคุณชายหลีดี ถ้าเมื่อกี้เขาลงมือช้าไปสักก้าว คนที่ตาย คงไม่ใช่แค่เพียงไอ้พวกนักเลงมิจฉาชีพพวกนั้นแน่!
“ไป”
หลีเช่าเทียนผันร่างออกไป มือทั้งสองไขว้หลัง เดินเข้าไปยังรถเบนซ์สีดำ เงาร่างจากทางด้านหลังดูลึกลับ เหมือนอย่างกับความคิดความอ่านของเขาที่เฉียบแหลมไม่ธรรมดา จนไม่อาจมองทะลุเข้าไปได้…
รถเก๋งสีดำได้ขับตามกันออกไปทีละคันๆ เลขาโจวได้มองออกไปหลังจากที่รถเก๋งสีดำที่หายไกลออกไป ก็ได้ถอนหายใจยาวเหยียดออกมาทันที เสื้อเชิ้ตของเขาได้เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อไปอย่างไม่รู้ตัว
…………
ภายในคฤหาสน์หรู หลีเช่าเทียนและคนอื่น ๆได้กำลังนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนานกันอยู่ในห้องรับประทานอาหาร
“เช่าเทียน ดูเหมือนว่านายจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้ไม่เลวเลยล่ะมั้ง” คนวัยกลางคนพวกนั้นได้ถูกชายร่างใหญ่ผู้นั้นตบหน้ามาในตอนนี้ได้ติดผ้าก๊อซเอาไว้ สายตามองไปรอบ ๆอย่างพึงพอใจ
หลีเช่าเทียนยิ้มออกมาเล็กน้อย “พ่อ พวกเราอยู่ที่หู้ไห่ไม่ใช่เพื่อมาพักผ่อนชั่วคราว คงไม่อาจพักอยู่ที่โรงแรมไปได้ตลอดหรอกนะครับ เมื่อสองวันที่ก่อนก็เลยเพิ่งไปซื้อบ้านหลังนี้มา”
ชายวัยกลางคนท่านนั้นได้พยักหน้าออกมาอย่างพอใจ เขาเป็นบิดาของคุณชายหลี หลีเซิ่ง นั่นเอง
หลีเซิ่งมีลูกชายสองคน เป็นบุคคลที่มีอำนาจทั้งทางวงการการค้าและวงการการเมือง แต่ละคนต่างอยู่ในถิ่นของตัวเอง เป็นเจ้าแห่งวงการนั้น ๆ…
เพราะฉะนั้นแล้ว สถานะของหลีเซิ่งนั้น เมื่อน้ำบ้านตระกูลหลีขึ้นสูงขึ้นเรืออย่างเขาก็ย่อมลอยสูงขึ้นตาม
ส่วนคนอื่น ๆนั้น ก็เป็นญาติของหลีเช่าเทียน เป็นพวกเหล่าป้าๆช่างเมาท์ทั้งหลาย
“เช่าเทียน พวกเรามากันครั้งนี้ เป็นเพราะคุณปู่หลีหงของนายไงทำให้พวกเราต้องมา” หลีเซิ่งเอ่ยพูดออกมา
“คุณปู่ของผม? เขาไม่ได้อยู่ที่เยี่ยนจิงงั้นหรอ?” สีหน้าของคุณชายหลีมีประกายของความสงสัยออกมา
“คุณปู่ของนายได้เจอเรื่องที่น่าลำบากใจเรื่องหนึ่ง จึงได้มาอยู่ที่เมืองหู้ไห่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว” หลีเซิ่งพยักหน้าออกมาเล็กน้อย
ทันใดนั้นเอง ลูกน้องคนหนึ่งก็ได้เดินเข้ามาภายในตัวคฤหาสน์หลังหรู เอ่ยปากพูดออกมาว่า “คุณชายหลีครับ หลีชิงเยียนมาถึงแล้วครับ”
มุมปากของคุณชายหลียกยิ้มออกมา แขกคำสำคัญมาถึงแล้ว
เหมือนกับว่า งานเลี้ยงภายในครอบครัวครั้งนี้ได้จัดมาเพื่อเธอ
“หลีชิงเยียน? นังแพศยาคนนั้นก็มาด้วย?” ทันใดนั้น เสียงแหลมๆเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เป็นเสียงของป้าใหญ่ของหลีเช่าเทียนที่แค่นเสียงเย็นออกมา แสดงสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ออกมา
“ฉันจะรอให้เธอกระโดดหาที่ตายด้วยตัวเอง” หลีเช่าเทียนลอบพูดอยู่ภายในใจ เผยรอยยิ้มที่มุมปากที่ทั้งยากเกินจะคาดเดาและทั้งแปลกออกไป