สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 616
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 616 แม่เสือสาว
“ใช่เลย ไม่คิดว่ามาเดินเล่นตอนกลางคืน จะได้ของดีมาด้วย” หยวนเปียวยิ้มมุมปากมีเลศนัย
สายตาจับจ้องไปที่เจิงซือโก้อย่างจาบจ้วง สายตาหิวโหยของเขาปราดไปทั่วร่างอรชรของเจิงซือโก้ เรียกได้ว่าลามกหาใครเปรียบได้
เจิงซือโก้ไม่ได้สังเกตเห็นสายตาโลมเลียนี่เลย เธอจับจ้องอยู่แต่เนื้อแพะย่างในมือ
เธอเดินไปกินไป ไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่า ห่างไปไม่ไกลมีผู้ชายจับจ้องเธออยู่
เฉินเป่ยที่อยู่ข้างๆกลับรู้สึกได้ หันหัวมองมาทางหยวนเปียวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“แม่งเอ๊ย แม่สาวนั่นเหมือนจะมีผู้ชายมาด้วยนะ ท่าทางสนิทสนมกันแบบนั้นน่าจะเป็นแฟนเธอ” ลูกน้องคนหนึ่งข้างๆพูดขึ้น
หยวนเปียวปรายตามองจับจ้องไปที่เฉินเป่ย พอเห็นเฉินเป่ย หยวนเปียวตากระตุก ฉายแววอิจฉาออกมาอย่างไม่ปิดบัง!
สายตาหยวนเปียวเย็นเยียบ จ้องร่างผู้ชายน่าตายนั่นเขม็ง!
ท่าทางหงออย่างเฉินเป่ยกลับคู่ควรกับสาวสวยระดับนี้หรอ! มันเหมือนกับมีเข็มแทงเข้ามาที่หัวใจเขายังไงยังงั้น ทำให้เขาโกรธเลือดพล่าน!
หยวนเปียวขมวดคิ้ว สีหน้าถมึงทึง! เขาค่อยๆยกชายเสื้อขึ้น เผยให้เห็นท่อนแขนที่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นเลือดปูดโปนเล็กน้อย แฝงไปด้วยพลังความแข็งแกร่งของผู้ชาย
“เฮียหยวนเปียว? คิดจะจัดการมันยังไงดี?” ลูกน้องหลายคนด้านหลังถามขึ้น
หยวนเปียวหรี่ตามอง มีแววเย็นเยียบและซุกซนเล็กน้อย “จัดการยังไง? เอาให้น่วม!”
พูดจบ หยวนเปียวกำหมัดแน่น เดินไปหาเฉินเป่ยอย่างหาเรื่อง!
ลูกน้องด้านหลังสบตากันไปมา และขยับเสื้อพร้อมกัน! เผยให้เห็นท่อนแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ จากนั้นก็ล้อมกรอบเฉินเป่ยด้วยท่าทีโอหัง! พวกเขาร่างกายกำยำ ถ้าพูดเรื่องทะเลาะวิวาท? พวกเขาบอกอะไร ไม่มีใครกล้าพูดอีกอย่างหรอก!
คนกลุ่มใหญ่ขนาดนี้เดินไปทางพวกเฉินเป่ย! ทำลูกค้าคนอื่นๆบนถนนของอร่อยตกใจไปตามๆกัน…แต่ละคนพากันหลบเป็นพัลวัน
เฉินเป่ยกับเจิงซือโก้กำลังกินเนื้อแพะเสียบไม้ย่างอย่างเอร็ดอร่อย..คนกลุ่มนั้นก็ล้อมกรอบเข้ามา กักทั้งคู่ไว้ตรงกลาง!
เจิงซือโก้อึ้งเล็กน้อย มองผู้ชายกลุ่มนี้อย่างงงๆ..
“พวกนาย…ใครน่ะ?” เจิงซือโก้กระพริบตางามพลางถาม
ร่างสูงเมตรเก้าของหยวนเปียวยืนอยู่นั่น ประหนึ่งเทพสงคราม ทำให้คนหวาดกลัว!
ลูกน้องของเขาก็สูงไม่ต่ำกว่าเมตรแปด แต่ละคนร่างกายกำยำ แผ่ซ่านออร่าแข็งขันออกมา!
“สาวสวย วันนี้ไม่เกี่ยวกับคุณเลย… คุณแค่รออยู่ข้างๆเงียบๆก็พอนะ…” สีหน้าหยวนเปียวเย็นเยียบ
ชิ้ง! พอได้ยินแบบนี้ คนมุงรอบๆก็พากันวิพากษ์วิจารณ์กับเซ็งแซ่…
“เฮ้อ นี่หยวนเปียวไม่ใช่หรือไง อันธพาลคนดังของถนนฟู่ซิง……กร่างไปทั่ว…”
“ใช่ไง คนนำคนนั้นน่ะ…ก็คือหยวนเปียว…ได้ยินว่าเขามีที่มาเยอนะ…มีมาเฟียเป็นแบ็คด้วย..”
“ผู้ชายคนนั้นซวยแล้ว… หาเรื่องใครไม่หา ดันมาหาเรื่องเขา…”
เฉินเป่ยในมือถือไม้เนื้อแพะย่าง ท่าทางก้มหน้ากินเนื้อสบายๆนั้นเสมือนไม่เห็นคนพวกนี้ในสายตาเลย
พอเห็นเจ้าหมอนี่นิ่งแบบนี้ หยวนเปียวก็ยิ่งโมโห! เหมือนกำลังยิ้มเยาะเขายังไงยังงั้น!
หยวนเปียวกำหมัดแน่น เส้นเลือดปูดโปน ดูน่ากลัวนัก!
คนมุงในที่นั้นพากันถอยหลังไปหลายก้าว…พวกเขาตกใจกับออร่าน่ากลัวที่แผ่ซ่านมาจากตัวพวกหยวนเปียว… พวกเขาเล่นกร่างไม่สนใจใครแบบนี้…เรียกได้ว่าดุร้ายจนคนไม่กล้าหือ…เห็นได้ชัดว่าจะมีคนโดนอัดแน่… !
เฉินเป่ยเหล่หยวนเปียวหนึ่งที “หนุ่มน้อย การทะเลาะวิวาทเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี พ่อแม่นายไม่ได้สอนนายมาหรอไง?ไ
ชิ้ง! พอได้ยินคำนี้ สีหน้าหยวนเปียวดำเขียวอย่างโกรธจัด!
“หาเรื่องตาย!” หยวนเปียวยกหมัดที่เกร็งแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ พุ่งเข้าใส่เฉินเป่ยทันที!
“อุ๊!” หมัดของหยวนเปียวยังไม่ทันถึงตัวเฉินเป่ย ก็โดนขางามถีบเข้าให้!”
หยวนเปียวสะดุ้งเฮือก เจ็บจนสะท้านถอยไปหลายก้าว…
เจิงซือโก้ดึงขาตัวเองกลับ ถามอย่างไม่พอใจว่า “นายใครน่ะ เขาทำอะไรนาย มาถึงก็จะทำร้ายเขาเลย?”
“เธอ!” หยวนเปียวสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ กุมมือตัวเอง โกรธแทบกระอักเลือด! ! เขาโดนผู้หญิงคนหนึ่งถีบจนถอย… แถมที่โกรธมากกว่านั้นคือ! สาวสวยขนาดนี้กลับโผล่มาออกหน้าแทนผู้ชายคนนั้น? มันคู่ควรหรอ? มันทำให้หยวนเปียวยากที่จะรับได้! !
“ยังยืนบื้อไรกันอยู่? จัดการมันสิ!” หยวนเปียวโกรธจัดตะคอกเสียงดังใส่ลูกน้อง “เก็บผู้หญิงไว้ ไอ้ผู้ชายเอามันให้ตายเลย! !”
ลูกน้องได้สติกันกลับมา! แต่ละคนยกหมัดขึ้นมาพุ่งโจมตีเฉินเป่ย! รุมสกรัมเลย! !
เฉินเป่ยกัดกินเนื้อแพะช้าๆ ตอนกำลังคิดจะสวนกลับ…ร่างงามด้านข้างกลับลงมือก่อนซะแล้ว!
เจิงซือโก้สีหน้าเย็นชา คว้าหมับหมัดที่ผู้ชายคนหนึ่งชกเข้ามา และออกแรงบีบ!
“พลั่ก!” ข้อมือผู้ชายคนนั้นเคลื่อนทันที! เขาร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด สีหน้าซีดเผือดฉับพลัน!
กระบวนท่าที่ใช้ทางทหาร…วิชาหักกระดูกข้อ! เฉินเป่ยหรี่ตามอง ยิ้มมุมปากแบบมีนัยยะ
ผู้ชายอีกคนถีบขาเข้ามาด้วยความโกรธ เป้าหมายคือเฉินเป่ย! เพราะพวกเขาไม่ได้เห็นผู้หญิงอย่างเจิงซือโก้อยู่ในสายตา! เป้าหมายพวกเขามีแค่เฉินเป่ย!
“อุ๊!” เขาโดนขายาวของเจิงซือโก้ตวัดปาดหน้าเข้าให้ และล้มลงไปดื้อๆเลย!
เจิงซือโก้เคลื่อนร่างงาม วินาทีเธอเปรียบเสมือนเทพธิดาสาวไร้คู่ต่อสู้ ทุกที่ที่ขางามพาดผ่าน…จะปรากฎเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดขึ้น!
เฉินเป่ยยืนอยู่ตรงนั้น และขี้เกียจลงมือไปเลย…เด็กแบบนี้..เขายังไม่มีความคิดจะลงมืออะไร…ยกให้คุณหนูคนนี้ละกัน…ถึงฝีมือเธอจะไม่คล่องแคล่วอะไร แต่ยังไงซะก็เป็นทายาทที่หัวหน้าสั่งสอนมา ฝีมือแบบเธอ ต่อกรกับพวกอันธพาลแบบนี้…สบายหายห่วงได้เลย
หลายนาทีผ่านไป พวกอันธพาลที่แข็งแรงไม่มีใครเทียบโดนทำร้ายจนนอนร้องครวญครางอยู่บนพื้น!
คนมุงต่างมองฉากนี้กันตะลึงถ้วนหน้า!
พระ…พระเจ้า.. ! !
ทุกคนตะลึงกันหมด! ตะลึงกับฉากนี้นี่แหละ! พี่ชายร่างกำยำจำนวนมากขนาดนี้…กลับ…กลับโดนสาวสวยคนหนึ่งทำร้ายจนนอนครวญครางบนพื้น?? นี่มัน…เวอร์ไปหรือเปล่า? ! มันเหนือกว่าที่ใครจะคาดคิดได้เลย! !
หลังจากเจิงซือโก้ทำพวกอันธพาลนอนระเนระนาดบนพื้น ก็กลับเป็นสาวน้อยธรรมดา มายืนกินเนื้อแพะเสียบไม้ย่างข้างเฉินเป่ยเหมือนเดิม
ทุกคนที่เห็นภาพนี้มุมปากกระตุก…สาวน้อยคนนี้…แม่งเอ๊ย! แอ๊บได้อีกไหมเนี่ย? ! ต่อสู้ทุกทิศประหนึ่งเทพสงครามเมื่อกี้…เล่นละครเก่งไปไหมเนี่ย!
หยวนเปียวสีหน้าบิดเบี้ยว เขาควักมีดสั้นออกมาจากในเสื้อ แทงไปที่เฉินเป่ยอย่างไว!
“ไปตายซะ!”
เฉินเป่ยไม่เหลือบตาขึ้นมองด้วยซ้ำ เตะขาออกไปทันที!
“ปึ้ก–!” เลือดสดสาดกระเซ็น! หยวนเปียวโดนเตะลอยกระเด็นไปหลายเมตร!
หยวนเปียวกระอักเลือดออกมา กระดูกทั้งร่างเหมือนแตกสะบั้น…เขายังไม่ได้สติกลับมา…เงาร่างหนึ่งก็โผล่มาอยู่หน้าเขาแล้ว!
หยวนเปียวกระตุกเฮือก…รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ! !
“หนุ่มน้อย…เมื่อกี้ฉันอุตส่าห์เตือนนายไม่ให้ก่อเรื่องทะเลาะวิวาท…ทำไมนายไม่ฟังน้า…” เฉินเป่ยบอกยิ้มๆ
“แก… !ไอ้เลว! แกตายแน่ฉันบอกเลย! ลูกพี่ลูกน้องฉันคือหลงเทียนอ้าว! !” สีหน้าหยวนเปียวบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ แทบมีประกายไฟแผดเผาออกจากแววตา! แววข่มขู่ฉายชัด!
หลงเทียนอ้าว? เฉินเป่ยได้ยินก็ตะลึงก่อน…ทำไมเขารู้สึกว่าชื่อมันคุ้นหูนะ?? เหมือนเคยได้ยินที่ไหน?
หยวนเปียวเห็นท่าทางเฉินเป่ย นึกว่าเขากลัว ก็ยิ้มอย่างได้ใจ “กลัวแล้วสิ? ! ฉันจะบอกแกให้ วันนี้เรื่องนี้ไม่จบแน่! ถ้าแกพอรู้ตัว ก็รีบคุกเข่ายอมรับผิดกับฉันซะ! ให้สาวสวยคนนี้กับฉัน ไม่งั้น…ฉันจะทำให้แกไม่สามารถอยู่ที่หู้ไห่ได้อีกต่อไป!”
เฉินเป่ยหรี่ตาลง…เขานึกออกแล้ว..
เฉินเป่ยจำได้แล้ว…หลงเทียนอ้าวที่ว่า…ก็คือคนที่โดนเฉินเป่ยตบไปหนึ่งฉาดก่อนหน้านี้? เขาคลับคล้ายคลับคลาว่า ผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรนะ…หลงเทียนอ้าว..
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินเป่ยยิ้มมุมปากลึกขึ้น…ตอนนั้นเขาตบหลงเทียนอ้าวไปฉาดใหญ่…เฉินเป่ยจำได้ดี…ถ้าไม่ติดว่าหลีชิงเยียนออกมาห้ามไว้…เจ้าหลงเทียนอ้าวนั่นกลายเป็นผักไปแล้ว!
“หลงเทียนอ้าวเป็นลูกพี่ลูกน้องนายงั้นสิ?” เฉินเป่ยพูดเสียงเรียบ “งั้นก็ดี มาใช้แทนลูกพี่ลูกน้องนายเลยละกัน…” พูดจบ เฉินเป่ยคว้าคอเสื้อหยวนเปียวขึ้นมา ไม่พูดพล่ามทำเพลงก็ตบหน้าหยวนเปียวฉาดใหญ่ทันที!
“เพี๊ยะ!” เสียงตบสะท้อนดังในอากาศ! ใบหน้าด้านซ้ายของหยวนเปียวแดงบวมขึ้นทันที ปรากฏรอยฝ่ามือชัดเจนขึ้น!
“แก! แกกล้าตบฉัน? ! !” หยวนเปียวโกรธจนตัวสั่น! ! แววตาแดงก่ำ นั่นเป็นสัญญาณว่าอยากจะระเบิดความโกรธ! !
เขาไม่อยากเชื่อเลย! ทำยังไงก็ไม่กล้าเชื่อว่า ตัวเองพูดชื่อลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นนายน้อยของหลงเจ๋อกรุ๊ปออกมาแล้ว ผู้ชายคนนี้ยังกล้าลงมืออีก!
“ตบนายทำไมหรอ? ตบนายน่ะแหละ” เฉินเป่ยพูดเนิบๆ ก่อนตบเข้าให้อีกฉาด!
“เพี๊ยะ!” ตบฉาดนี้แรงมากกว่าเดิม! แก้มด้านขวาของหยวนเปียวบวมแดงทันที ตัวเขาตอนนี้เหมือนหมูตัวหนึ่ง! ! ไหนเลยจะยังเหลือท่าทีหล่อเหลาแบบเมื่อกี้?
ทุกคนที่นั่นมองตาค้าง.. !พระเจ้า! ผู้ชายคนนี้สุดยอดเลย…ขนาดหยวนเปียวก็กล้าตบ? ! ! พี่ชายเขาคือหลงเทียนอ้าวนะ! ! นายน้อยของหลงเจ๋อกรุ๊ปแห่งเมืองหู้ไห่…หลงเทียนอ้าว! !
“แก… ! แก! ! !ฉันจะไม่ปล่อย..” หยวนเปียวแผดเสียงด้วยความโกรธ..แต่พูดยังไม่ทันจบ…เฉินเป่ยก็ตบเข้าให้อีกสองฉาด! ตัวหยวนเปียวโดนตบจนเป็นหัวหมู เลือดกำเดาไหลทะลัก…สภาพน่าอนาถมาก!
“พี่ใหญ่…อย่าตบอีกเลย…ผมผิดไปแล้ว! !” หยวนเปียวทนไม่ไหวในที่สุด…เลือดกำเดาน้ำมูกไหลปะปนกับน้ำตาออกมา! เขาจะเก่งแค่ไหนมีหรือจะเก่งเกินหลงเทียนอ้าวล่ะ ผู้ชายคนนี้แม้แต่หลงเทียนอ้าวก็ไม่กลัว มีหรือจะกลัวเขา! ! เขาไม่เคยเจอสภาพน่าอนาถเท่านี้มาก่อน…ใบหน้าเขาในตอนนี้ทั้งบวมแดง เหมือนใกล้จะตายแล้ว…เขารับไม่ไหวจริงๆ… !
เฉินเป่ยถีบเขากระเด็น ปรายตามองอย่างไม่ยี่หระ “ไสหัวไป”
หยวนเปียวกับพวกลูกน้องพากันล้มลุกคลุกคลานหนีไปอย่างน่าอนาถ…
เจิงซือโก้คล้องแขนเฉินเป่ยอย่างอ่อนหวานด้วยสีหน้าเลื่อมใสสุดๆ พูดเสียงอ้อนว่า “เฉินเป่ย นายเก่งมากเลย!”
เฉินเป่ยได้ยินเธอพูดแบบนี้ รู้สึกขนหัวลุกทันที! แม่คนนี้..ประสาทหรือเปล่า? ทำไมต้องใช้น้ำเสียงเลี่ยนแบบนี้พูดด้วยเนี่ย…
ตัวเขายังไม่มีอะไรกับเธอด้วยซ้ำ…อยู่ดีๆมาพูดอ้อนแบบนี้ เขาไม่คุ้นชินเลย
“พูดดีๆ” เฉินเป่ยเตือน
“เหอะ ฉันล้อนายเล่นก็ไม่ได้หรอ!” เจิงซือโก้มองค้อนเขา ท่าทางไม่พอใจ
พอเห็นสาวเจ้าทำท่าโมโห เฉินเป่ยเองก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ระหว่างทางซื้อของกินอร่อยๆมากมายให้เธออีก เจิงซือโก้ถึงพอใจ
ผ่านการทะเลาะวิวาทเมื่อกี้มา ถนนของอร่อยก็กลับสู่สภาพปกติ คึกคักสนุกสนาน…ฉากนั้นเป็นเหมือนแค่จุดเบรกเล็กๆเท่านั้นเอง…ผู้คนยังคงสนุกสนานกับค่ำคืนและอาหารอร่อยแบบนี้
“ของอร่อยเมืองหู้ไห่ รสออกหวานนะ ไม่อร่อยเท่าของเยี่ยนจิงเรา” เจิงซือโก้จูงมือเฉินเป่ย พูดอย่างเดียดฉันท์
“ใช่ไง ไม่อร่อยเท่าของเยี่ยนจิงเรา” แววตาเฉินเป่ยฉายแววสับสน ความคิดเริ่มล่องลอยไปไกล
เจิงซือโก้หันกลับมามองเขาอย่างสงสัย “นายเคยบอกว่านายไม่ใช่คนเยี่ยนจิงไม่ใช่หรอ?”
เฉินเป่ยอึ้ง เปลี่ยนเรื่องคุยฉับพลัน “ทางนั้นมีแผ่นแป้งทอด ไปลองกัน” พูดจบก็ลากเจิงซือโก้วิ่งไปดู
ระหว่างทาง ดวงตางามของเจิงซือโก้จับจ้องมองผู้ชายคนนี้อย่างสงสัย..ไม่รู้อธิบายความรู้สึกในใจยังไง…เหมือนจะทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้า?
ทั้งคู่เดินช็อปปิ้งของกินสองชม.กว่า ถนนของอร่อยนี่ก็ยาวพอดู…คนเดินไปมา…เจิงซือโก้แทบจะกินหมดทุกอย่างในถนนของอร่อยนี้แล้ว…ปากสีชมพูซากุระก็เต็มไปด้วยน้ำมัน ดูแย่นิดหน่อย เธอใช้กระดาษทิชชู่ทาบเช็ดไปหลายรอบแล้ว…
“ฉันว่านะ เธอน่ะชอบกินจริงๆเลยนะ ทำยังไงก็ไม่อิ่มเลยสักที” เฉินเป่ยกระเซ้าแหย่
เจิงซือโก้ชกหมัดใส่เขาทันที “นายสิชอบกิน หัวหมู ไอ้หมูเฉิน!”
เฉินเป่ยรับรู้ถึงการโจมตีของหมัดเล็กๆนั่น ออกจะหวานสักหน่อย นานแค่ไหนนะที่เขาไม่ได้รับรู้ความรู้สึกหวานหอมแบบนี้? ตั้งแต่ตัวเองไปจากหัวเซี่ย ทั้งหมดนี่ก็…หายไปหมดแล้ว…
“ไม่เดินแล้ว เหนื่อยจะตาย” เจิงซือโก้สองมือคล้องแขนเฉินเป่ย เอาน้ำหนักทั้งหมดเอนพิงไปที่เฉินเป่ย
เฉินเป่ยพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้…ทำไมทำตัวเด็กแบบนี้ ดื้อด้านขึ้นมาที่ทำให้คนแทบบ้า…เป็นปีศาจสาวพันหน้าชัดๆ…
หัวหน้าดูจะตามใจเธอมากไปหน่อยล่ะมั้ง…
“ทางนั้นมีม้านั่ง ไปนั่งพักกันเถอะ” เฉินเป่ยลากเธอไปนั่งที่ม้านั่งหน้ากระถางดอกไม้
เจิงซือโก้นั่งลงที่ม้านั่ง แบบนี้ค่อยสบายขึ้นมาหน่อย
เฉินเป่ยตามมานั่งข้างๆ ในมือเขายังถือของกินอยู่หลายถุง หยั่งกับแม่นมแหน่ะ
เจิงซือโก้พาดขางามไว้บนตักเฉินเป่ยอย่างไม่เกรงใจ พูดเสียงอ้อนว่า “นวดให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
เฉินเป่ยได้ยินอย่างนั้น อดอึ้งไม่ได้
“เธอนี่นะ ไม่คิดจะเกรงใจกันเลยใช่ไหม?” เฉินเป่ยหันมองเจิงซือโก้ ยิ้มอย่างล้อเลียน
เจิงซือโก้ค้อนเขาหนึ่งที “อะไรล่ะ? เมื่อวานฉันใช้พลังไปมากกว่าจะเอานายออกมาได้ คุณปู่ก็ให้ฉันมาเลี้ยงข้าวนายอีก เมื่อกี้ฉันก็ช่วยนายจัดการอันธพาลไป นายไม่คิดจะตอบแทนฉันบ้างหรือไง? แค่นวดเท้าให้ฉันมันทำไมหรอ?”
เฉินเป่ยแสยะยิ้มบอก “ไม่กลัวฉันจับเธอกินหรือไง? ฉันน่ะหมาป่าตัวใหญ่เลยนะ?”
เจิงซือโก้ถลึงตาใส่เขา “นายกล้า? ฉันเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตนายนะ ถ้านายกล้ากินผู้มีพระคุณ งั้นนายก็ไร้ศีลธรรมไปละ เหอะ! อย่ามัวแต่อึ้งสิ ช่วยนวดให้หน่อยน้า มันปวดมากเลย”
เจิงซือโก้พูด ขาเรียวงามคู่นั้นก็วางพาดบนตัวเฉินเป่ย แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย
เฉินเป่ยรู้สึกคอแห้งผากขึ้นมา…ผู้หญิงคนนี้ของเกรดท็อปเลยนะ! เฉินเป่ยไม่เกรงใจละ ยังไงซะอีกฝ่ายพูดแบบนี้แล้ว มีโอกาสแต๊ะอั๋งแต่ไม่ทำ เขาก็โง่แล้วสิ!
ต้องยอมรับจริงๆว่า ขาของเจิงซือโก้สวยมาก ความขาวใสเรียบลื่นทำให้เฉินเป่ยชื่นชอบนัก…สัมผัสนี่มันระดับท็อปจริงๆ!
เหมือนจะรับรู้ถึงความผิดปกติของเฉินเป่ยได้ เจิงซือโก้ออกปากเตือน “นี่…นายกำลังนวดใช่ไหม?”
“ใช่ไง” เฉินเป่ยยิ้มมีเลศนัยแปลกๆ จนทำให้เจิงซือโก้อดสยิวไม่ได้
เจิงซือโก้รีบดึงขาตัวเองกลับ ดวงตางามถลึงใส่เขา “ลามก!”
พูดจบ เจิงซือโก้เดินไปแบบไม่หันหัวกลับเลย…
เฉินเป่ยยิ้มบาง ดมกลิ่นหอมอ่อนที่หลงเหลือในมือตัวเอง…จากนั้นก็วิ่งตามไป…
ทั้งคู่เดินแทบทั้งคืน เจิงซือโก้จากเดิมที่สบายๆ จนเหน็ดเหนื่อยปวดขา สุดท้ายเธอทนไม่ไหวแล้ว…ผู้หญิงพอเดินนานก็จะเหนื่อย เจิงซือโก้เองก็ไม่ยกเว้น
ทั้งคู่ถือถุงของกิน กลับไปที่รถแข่ง
นั่งที่ที่นั่งข้างคนขับ เจิงซือโก้นวดขาและเท้าตัวเองเป็นการใหญ่ เธอรู้สึกปวดขามาก
“นายมาช่วยฉันนวดอีกเถอะ ฉันปวดขามากเลย” เจิงซือโก้พูดอ้อนปากแดง
เฉินเป่ยพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้…เอาเข้าไปสิ…
“เหอะ ไม่ยอมก็ช่างเถอะ งก” เจิงซือโก้เบ้ปากหันหน้าหนี
เฉินเป่ยหันข้างเบาๆ จากนั้นก็ยกขาคู่งามของเธอขึ้นมา