สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 620
บทที่ 620 ฝนตกหนัก
ทันใดนั้น เฉินเป่ยแอ่นตัวประหนึ่งคันธนู! ร่างเปลี่ยนเป็นเงาร่าง! ทุกที่ที่ย่างผ่าน พื้นก็แตกเป็นเสี่ยงๆ! !
“ซ้วบ–!” เงาร่างหมุนควงสว่านเข้าไป เร็วปานสายฟ้าแลบ บรรยากาศสะท้าน! !
ลิ้นของเซียวเข้อเซิงยังไม่ทันโดนใบหน้าเซี่ยถิงถิง..ใบหน้าเขาก็โดนพลังน่ากลัวกระแทกเข้าให้…จนบิดเบี้ยว! ! ฟันหลุดกระเด็นออกมาซี่หนึ่งเลย! ร่างของเขาโดนพลังน่ากลัวกระแทกจนกระเด็นเหมือนกัน! เลือดสดไหลทะลักออกมา! !
“โครม–!” ร่างเซียวเข้อเซิงลอยไปกระแทกผนัง…ผนังยุบลงไปเลยทีเดียว!
“นายน้อย! !” คนตระกูลเซียวร้องด้วยความโกรธ! ทั้งหมดพุ่งเข้ามาโจมตีอย่างแรง! หมัดเท้าเตะต่อยสะท้านมาก!
พวกเขาเป็นลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเซียว พวกเขาคนมาก! ทุกคนต่างพกรังสีอาฆาตมาด้วย! ต้องการฆ่าเฉินเป่ยให้ตายคาที่!
เฉินเป่ยสะบัดร่างหลบ! !
“โครมโครมโครม–!” ทุกที่ที่ร่างเขาพาดผ่าน คนตระกูลเซียวค่อยๆลอยกระเด็นทีละคน…เลือดสดไหลรินกลางอากาศ! ร่างมากมายหล่นกระแทกกับพื้น…พื้นยุบตัวไปตามๆกัน…สภาพดูเละเทะมาก…
ท่ามกลางการยุบตัวของกำแพงที่อยู่ไม่ห่างไกลนัก สีหน้าเซียวเข้อเซิงบิดเบี้ยว เขาปีนขึ้นมาอย่างสั่นๆ…แทบจะวิ่งหนีออกไปเลย.. ตอนนี้เองเขาตกตะลึงแล้ว! ผู้ชายในชุดสูทน่ากลัวตรงหน้านี้…เป็นปีศาจร้ายชัดๆ! เป็นปีศาจร้ายที่คนละระดับกับเขาโดยสิ้นเชิงเลย! เขาไม่มีทางรับมือได้เลย! ตอนนี้ต้องหนีเอาตัวรอดก่อน!
เฉินเป่ยปราดร่างเข้าไป กลายเป็นเงาร่าง พุ่งไปอยู่ต่อหน้าเซียวเข้อเซิง… !
เซียวเข้อเซิงสีหน้าเปลี่ยนทันที! ประกายคมของฝ่ามือปรากฏขึ้น และพุ่งแทงไปที่เฉินเป่ยเอาดื้อๆ!
เฉินเป่ยขยับตัวเร็วปานสายฟ้าแลบ จับหมับเข้าทันควัน “พลั่ก!” แขนของเซียวเข้อเซิงโดนแรงน่ากลัวจับบิดเบี้ยวจนข้อต่อหลุดเอาดื้อๆ!
เซียวเข้อเซิงเจ็บปวด พยายามจะขัดขืน…กำหมัดชกไปที่เฉินเป่ย! แต่ละกระบวนท่ากะเอาตายเลย! นี่เป็นกระบวนท่าฆ่าคนที่โหดร้ายที่สุด!
เฉินเป่ยพลิกตัวจับหมับที่กำปั้นเขา ออกแรงบิด! สะบัดผ่านไหล่ลงพื้นเลย!
“โครม–!” เซียวเข้อเซิงโดนสะบัดลงพื้นอย่างแรง พื้นยุบทันที…ฝุ่นผลคละลุ้งไปทั่ว!
“ไอ้เลว! แกไปตายเดี๋ยวนี้เลย! !” เซียวเข้อเซิงคว้าเข็มของหมัดที่พื้น และคิดจะลุกขึ้นมา เอาเข็มนั่นแทงไปที่เฉินเป่ยอีกครั้ง!
ทันใดนั้น เฉินเป่ยยกหมัดขึ้นซัดออกไปทันที!
“โครม–!” หนึ่งหมัดเข้าไปที่ใบหน้าเซียวเข้อเซิงเต็มแรง! มันช่างน่ากลัวซะจริง!
หัวของเซียวเข้อเซิงมุดเข้าไปในพื้นเอาดื้อๆ…ดั้งจมูกหักทันที! เลือดสดไหลรินทั่วใบหน้า! !
ใบหน้าโดนชกซะบิดเบี้ยว…เปลี่ยนรูปไปเลย!
ความเงียบเข้าครอบงำทันที!
บนพื้น…สภาพน่าอนาถมาก คนตระกูลเซียวต่างนอนระเนระนาดบนพื้น…ร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด…มีบ้างสลบไปแล้ว…เลือดสดยังคงไหลริน…
เวลาสั้นๆแค่ไม่ถึงนาที…คนตระกูลเซียวที่เย่อหยิ่งพวกนั้นแพ้หมดแล้ว… !
เฉินเป่ยค่อยๆลุกขึ้น สีหน้าเขาเรียบเฉย ไร้อารมณ์ฆ่าใดๆ…ทั้งหมดนี้เหมือนกับเป็นไปตามธรรมชาติเท่านั้น
เขาปัดฝุ่นบนชุดสูทออก จากนั้นก็ค่อยๆเดินมาข้างเซี่ยถิงถิง ถามเสียงเบาว่า “บาดเจ็บหรือเปล่า”
เซี่ยถิงถิงหน้านิ่งตะลึงซีดขาว ยังคงไม่ได้สติกลับมา…
เฉินเป่ยเริ่มเก้อเขิน สงสัยอยู่หลายวินาที เขายื่นมือไปกุมมือน้อยของเซี่ยถิงถิง…หวังว่าจะสามารถให้ความรู้สึกอุ่นใจกับเธอได้
ผ่านไปสักพัก เซี่ยถิงถิงถึงได้สติกลับมาจากความน่ากลัวนั่น และรีบส่ายหัวไม่หยุด…
“พ่อหนุ่ม นายเก่งมากเลยนะ…” ในตอนนี้เอง เซี่ยเจี้ยนกั๋วที่ได้รับบาดเจ็บกระอักเลือดเดินเข้าหาด้วยสีหน้าดีใจ และคว้าจับมือเฉินเป่ยอย่างตื่นเต้น พูดอย่างตื่นเต้นว่า “มีนายอยู่ วิทยายุทธหู้ไห่มีความหวังแล้วนะ…”
“เธอเป็นลูกสาวฉัน…” เซี่ยเจี้ยนกั๋วพูดยังไม่ทันจบ สายตาเบนไปจบที่มือที่กุมกันไว้ของเฉินเป่ยกับเซี่ยถิงถิง…เขาเห็นเฉินเป่ยกำลังกุมือเซี่ยถิงถิงอยู่…
ทันใดนั้น เซี่ยถิงถิงใบหน้าแดงเรื่อขึ้นทันที…
ชิ้ง! เฉินเป่ยมีสีหน้าเก้อเขิน รีบปล่อยมือเซี่ยถิงถิงทันที!
“คุณอย่าพึ่งเข้าใจผิดนะ ผมแค่ผ่านมาพอดี และเผอิญเห็นคนพวกนี้ก่อเรื่องอยู่…เลยเข้ามาสั่งสอนพวกมันซักหน่อยเท่านั้นเอง” เฉินเป่ยกลับมามีสีหน้าเย็นชาเหมือนเดิม พลางอธิบายอย่างเย็นชา
“อ๋อ งั้นบังเอิญจริงนะ” เซี่ยเจี้ยนกั๋วพยักหน้าอย่างมีนัยยะ เพียงแต่แววตาดูแปลกนิดหน่อย…
“คนบนพื้นพวกนี้ คุณจะจัดการเองไหม?” เฉินเป่ยมองเขานิ่งๆ ยิ้มมุมปากน้อยๆ
เซี่ยเจี้ยนกั๋วพยักหน้า เฉินเป่ยมองซ้ายมองขวา เห็นไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เลยหมุนตัวเดินจากไป
ตอนที่เดินผ่านเซียวเข้อเซิง เฉินเป่ยชะงักเท้าลงมองเซียวเข้อเซิงเล็กน้อย
“เดี๋ยว” เซียวเข้อเซิงพยายามจะลุกขึ้น เขามองเฉินเป่ย “แกเป็นใครกันแน่?”
แต่เซียวเข้อเซิงยังพูดไม่ทันจบ เฉินเป่ยก็ถีบลงไปหนึ่งที ทำเขาสลบลงไปเลย
พอเห็นเฉินเป่ยจากไป เซี่ยถิงถิงอดเสียดายไม่ได้ เหมือนอยากเรียกเขาไว้..แต่เธอลังเลอยู่นาน…สุดท้ายได้แต่ก้มหน้าลง..บางที เขาอาจจะมีความลับอะไรบางอย่างล่ะมั้ง
ไม่นาน รถMaybachสีดำแล่นจากไป…เหลือแต่สภาพอนาถของที่นี่
เซี่ยเจี้ยนกั๋วทำความสะอาดสถานที่ ก่อนส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ…ตั้งแต่เขาขึ้นดำรงตำแหน่งเกียรติยศบ้าบอนี่…ก็มีแต่ปัญหาไม่หยุดไม่หย่อน…
เซี่ยเจี้ยนกั๋วเดินมายืนต่อหน้าคนตระกูลเซียวที่นอนร้องครวญครางกันอยู่ เหล่าพวกเขาอย่างไม่แคร์หนึ่งที
“ตระกูลเซียวของเรา…จะต้อง…ไม่มีทาง…ปล่อยพวกแกไปแน่…ไม่ยอมปล่อยสมาคมบู๊แห่งหู้ไห่แน่…” คนตระกูลเซียวคนหนึ่งพูดเสียงสั่นเทาด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เซี่ยเจี้ยนกั๋วไม่เปลืองน้ำลาย เหยียบลงหน้าอกเขาไปหนึ่งที “ยังจะปากเก่งอีก… !” พูดจบปุ๊บ ก็มีเสียงแคร่กดังขึ้น กระดูกหน้าอกของคนนั้นโดยเหยียบหักเรียบร้อย…
คนตระกูลเซียวที่เหลือหุบปากเงียบทันที…พวกเขานอนแบบกับพื้น แทบไม่กล้าพูดอะไร…เหมือนเป็นศพเลย…
…
ระหว่างทางขับรถกลับบริษัท เฉินเป่ยปากคาบบุหรี่กลับไปห้องทำงาน
ตอนพึ่งเปิดคอม จะเข้าไปเล่นเกมส์…ประตูห้องทำงานก็โดนเคาะเบาๆ
“เชิญ” เฉินเป่ยตะโกนอย่างแปลกใจ
คนที่เข้ามาคือร่างอรชรอ้อนแอ้น
“มีอะไร?” เฉินเป่ยอึ้งเล็กน้อย ระหว่างมองสาวสวยตรงหน้า
ซุนเจียเจียซึ่งเป็นเลขาคนใหม่ของประธานสาวถือชุดเสื้อผ้าสีดำชุดหนึ่ง เธอเดินเหยียบรองเท้าส้นสูงเข้ามาเบาๆ
“รบกวนคุณหรือเปล่าคะ?” ซุนเจียเจียเลขาสาวถามเสียงเบา
“เปล่า ฉันกำลังเบื่อเลย กำลังเล่นเกมส์” เฉินเป่ยอธิบาย
ซุนเจียเจียยืนอยู่ตรงนั้น สองมือจับกันแน่น เหมือนกำลังลังเล มีอะไรอยากพูด แต่ก็พูดไม่ออก
“ทำไมหรอ? เจียเจีย” เฉินเป่ยถามอย่างสงสัย
ซุนเจียเจียกัดปากลังเลอยู่นาน ถึงพูดเสียงเบาว่า “ประธานเฉิน…เพื่อนนักเรียนฉันจะมีงานปาร์ตี้วันเกิดในอีกไม่กี่วัน…เธอบอกให้ฉันพาแฟนไปด้วย…ฉันพึ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ไม่มีเพื่อนที่ไหน…ดังนั้น…”
ซุนเจียเจียเก้อเขินเล็กน้อย ไม่รู้จะพูดยังไงดี เธอพึ่งเข้าทำงานได้ไม่นาน แถมยังเป็นพนักงานใหม่ ไม่สนิทกับเฉินเป่ย เธอคิดไปคิดมา ทั่วทั้งองค์กรมีแต่เฉินเป่ยที่ดูธรรมดานี่แหละถึงกล้าเชิญเขามาแสดงเป็นแฟนหลอกๆให้เธอ ทำให้เธอค่อนข้างสับสนและเก้อเขิน
เฉินเป่ยได้ยินอย่างนั้น หัวเราะเบาๆว่า “ได้สิ ฉันนึกว่าเรื่องใหญ่อะไรซะอีก…ปลอมเป็นแฟนเธอใช่ม้า ไม่มีปัญหา”
ซุนเจียเจียได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มอ่อนหวานขึ้นมา “ขอบคุณค่ะ”
ซุนเจียเจียยื่นถุงในมือให้เฉินเป่ย พูดว่า “นี่เป็นเสื้อผ้าใหม่หลายชุด…ตัดทำตามรูปร่างคุณหมดแล้วค่ะ…”
เฉินเป่ยอึ้ง “นี่คือชุดทำงานที่ใหม่ที่สุดหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ…” ซุนเจียเจียหน้าแดงเรื่อเล็กน้อย อธิบายเสียงเบาว่า “ฉันได้ยินมาว่า..คนที่เคยติดคุกมาก่อน…ต้องใส่เสื้อผ้าใหม่…ถึงจะล้างคราบและโชคร้ายออกไปไปได้…คุณอย่าโกรธนะคะ…ฉันไม่ได้คิดเป็นอื่น ก็แค่…” ซุนเจียเจียเองไม่รู้จะอธิบายยังไงดีแล้ว
เฉินเป่ยมองเธอเขม็ง เหมือนจะซาบซึ้งและก็สับสน
“ฉันคิดว่า…น่าจะมีคนให้เสื้อผ้าใหม่กับคุณแล้ว…เสื้อผ้าของฉันพวกนี้ไม่ได้ราคาแพงอะไร..คิดซะว่าเอาฤกษ์เอาชัยละกันค่ะ…” ซุนเจียเจียพูดเสียงเบามาก กลับมีแววไม่คุ้นแต่อ่อนโยน
วินาทีนี้ อารมณ์เฉินเป่ยหมุนวน จู่ๆเขาก็เข้าไปจับตัวซุนเจียเจียไว้ และรั้งเธอมาไว้ในอ้อมแขน!
“อ๊า—!” ซุนเจียเจียตะลึง ทำอะไรไม่ถูก…
เฉินเป่ยกอดเธอแน่น เหมือนไม่อยากจะปล่อยอีก!
เฉินเป่ยกอดร่างอรชรของซุนเจียเจีย รับรู้ถึงความหวานและอ่อนนุ่มของเธอ นี่เป็นผู้หญิงที่คาดหวังความรักจากใครทุกคน วินาทีนี้เฉินเป่ยหวั่นไหวจริงๆ
เขายื่นหน้ามาหน้าซุนเจียเจียแผ่วเบา ผิวเธอขาวใสละเอียด เหมือนผิวเด็กแรกเกิด ใบหน้างามเธอในตอนนี้มีแววอึ้งตะลึง ดูน่ารักมาก
เฉินเป่ยลูบผมยาวเธอแผ่วเบา มองดูใบหน้าสวยงามของเธอ ซุนเจียเจียดูสับสนเล็กน้อย เหมือนอยากหนี
จู่ๆเฉินเป่ยก็ยื่นหน้ามาหน้าเธอแผ่วเบา รับรู้ถึงการหอบหายใจเบาๆของเธอ มันช่างอ่อนนุ่มราวดอกกุหลาบ
“เจียเจีย ขอบคุณนะ ที่เป็นห่วงฉันขนาดนี้…” เฉินเป่ยพูดอย่างอ่อนโยน
วินาทีนี้ซุนเจียเจียรู้สึกสับสนแล้ว ดวงตางามไม่รู้จะมองไปทาไหนดี ..
“เจียเจีย ฉัน…ฉันขอจูบเธอ…” เฉินเป่ยยื่นหน้าเข้าใกล้ริมฝีปากของซุนเจียเจีย ถามเสียงอ่อนโยน
ซุนเจียเจียยิ่งบื้อหนักขึ้น…กัดปากลังเลอยู่นาน..เธอพยักหน้าเบาๆทั้งๆหน้าแดง…แต่ก็รีบส่ายหัวเบาๆ..นี่ตกลงยอมหรือไม่ยอมกันล่ะเนี่ย? ขนาดตัวเธอเองยังไม่รู้เลย…เธอสับสนอลหม่านในใจมาก…
เฉินเป่ยยิ้มบางๆ…ต้องลำบากใจขนาดนี้เลย? เขายื่นหน้าเข้าไปและจูบเธออย่างแผ่วเบา
วินาทีนี้ซุนเจียเจียสับสนสุดขีดเลย ทั้งร่างอ่อนยวบในอ้อมแขนเฉินเป่ย
ภายในห้องทำงาน อุณหภูมิค่อยๆสูงขึ้น นำพาความอ่อนนุ่มที่มีความรู้สึกมาด้วย แม้แต่พระอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะตกข้างหน้าต่างก็ยังดูแดงเย้ายวนเป็นพิเศษ ประหนึ่งกุหลาบยามค่ำคืน
ทั้งสองคลอเคลียแนบชิด เฉินเป่ยค่อยๆลิ้มรสหลายของเจียเจีย…เธอหวานมากจริงๆ เหมือนกับขนมสายไหมเลย ทำให้คนกินแล้วติด ไม่อยากจากไปอีก
ทันใดนั้น นอกห้องทำงานมีเสียงรองเท้าส้นสูงค่อยๆเดินเข้ามา…และเริ่มใกล้เข้ามาขึ้นเรื่อยๆ
เฉินเป่ยกับซุนเจียเจียต่างตกใจประหนึ่งเป็นหญิงชายชู้ลอบพลอดรักกัน…ทั้งคู่รีบแยกจากกัน…ซุนเจียเจียหน้าแดงก่ำ ปากชุ่มชื้น เหมือนโดนรังแกมา
หลายวินาทีผ่านไป ประตูห้องทำงานเปิดออก
หลีชิงเยียนยืนอยู่หน้าประตู เห็นบรรยากาศในห้องทำงานแล้วอดสงสัยไม่ได้…ซุนเจียเจียทำไมมาอยู่ที่นี่? แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
เธอเดินเหยียบรองเท้าส้นสูงเข้ามา และวางเอกสารกองหนึ่งไว้บนโต๊ะทำงานเฉินเป่ย “ฉันค้นข้อมูลสองวันก่อนที่นายจะโดนจับมาได้ และพบว่ามีบางอำนาจจงใจแกล้งนาย”
แววตาเฉินเป่ยหรี่ลงเล็กน้อย “บางอำนาจ?” เขาหยิบข้อมูลขึ้นมาเปิดอ่านดู…นั่นไง ข้อมูลพวกนี้ละเอียดมาก ไม่ต่างจากที่เฉินเป่ยคาดเดาเลย…
ซุนเจียเจียเห็นดังนั้น ก็ค่อยๆโค้งตัวแผ่วเบา คิดจะจากไป “ประธานหลี ฉันออกไปก่อนนะคะ”
หลีชิงเยียนกลับพูดขึ้นมาดื้อๆว่า “ไม่เป็นไร เจียเจียเธอเป็นคนกันเอง อยู่ฟังก็ไม่เป็นไร”
พอได้ยินคำนี้ ซุนเจียเจียอึ้งไปเล็กน้อย…คนกันเอง? ประธานหลี…เห็นเธอเป็นคนกันเองหรอ?? พอคิดอย่างนี้ เธอเริ่มสับสนขึ้นมา…
พอเห็นข้อมูลพวกนี้ เฉินเป่ยหรี่ตามอง
“พวกนี้น่าจะไม่พอให้โล้ก้วนจองลงมือนะ..งแถมยังไม่แคร์ที่จะทำหลักฐานปลอมอีกด้วย…นี่เป็นพฤติกรรมที่จะเสียหัวได้เลย…”เฉินเป่ยพูดเสียงหนักแน่น
“นายคิดว่า น่าจะเป็นใคน?” หลีชิงเยียนถามขึ้น
เฉินเป่ยส่ายหน้า คำถามนี้…เขายังไม่อยากรู้ และขี้เกียจไปคิดด้วย..ไม่ว่ายังไงก็ตาม เป็นงูเป็นมังกร ก็ต้องมีวันโผล่หางออกมาแน่…แค่รอเวลา และล่อศัตรูออกมา
หลีชิงเยียนพยักหน้า “นายลองดูละกัน” ระหว่างพูด เธอลุกขึ้นทำท่าจะออกไป
พอเห็นประธานสาวทำท่าจะออกไป…ภายในห้องทำงาน เฉินเป่ยกับซุนเจียเจียสบตากันหนึ่งที มีความรู้สึกร้อนตัวไงพิกล!
ซุนเจียเจียผ่อนลมหายใจแผ่วเบา รู้สึกสับสนแปลกๆ…เธอไม่รู้ว่าทำแบบนี้มันถูกไหม..เพราะเธอรู้สึกได้กลายๆว่า เฉินเป่ยเป็นผู้ชายของประธานหลี…เธอทำแบบนี้เท่ากับทำผิดต่อประธานหลีหรือเปล่า?
เฉินเป่ยขยับตัวมาหน้าซุนเจียเจีย พูดเสียงอ่อนว่า “เจียเจีย เมื่อกี้ฉันยังกินไม่อิ่มเลย…ยังหิวอยู่เลย ยังอยากกินอีก..”
ใบหน้าซุนเจียเจียแดงก่ำ อยากจะหนี..แต่จากนั้น ร่างเธอทั้งร่างก็โดนเฉินเป่ยกดทับกับผนัง..
“อุ๊..” ซุนเจียเจียร้องออกมาหนึ่งคำ…ยังไม่ทันขัดขืน ทั้งสองคนพัวพันนัวเนียเข้าหากัน..
นอกหน้าต่าง พระอาทิตย์ยามเย็นค่อยๆโดนก้องเมฆบดบัง..แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องไปทั่วขอบฟ้า จากนั้นเสียงเสียวแก้วหูของสายฟ้าฟาดก็ดังขึ้น
ซุนเจียเจียร่างสั่นสะท้าน เหมือนตกใจกับเสียงฟ้าผ่านี่ เฉินเป่ยโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน และลิ้มรสความหวานของเธอต่อ ออกแนวปกป้องคุ้มครองซะด้วย
ด้านนอกหน้าต่าง ฝนเริ่มตก…จากนั้นก็กลายเป็นพายุฝน…ทำให้ท้องฟ้ายามเย็นเต็มไปด้วยความมีด…
คืนนี้มีพายุฝน…
ซุนเจียเจียอยู่ในห้องทำงานเฉินเป่ย โดนเฉินเป่ยลวนลามอยู่นาน ถึงรีบผลุนผลันหนีออกมา..
เวลานี้ก็ใกล้จะเลิกงานแล้ว
เฉินเป่ยแลบลิ้นเลียริมฝีปาก รับรู้ถึงความหวานที่หลงเหลืออยู่ จากนั้นถือถุงเสื้อผ้าที่เธอใส่ลงลิฟท์ไป
พอลงมาเตรียมรถ ไม่นาน ประธานสาวก็ลงมา…เธอเข้าไปนั่งที่นั่งด้านหลังเหมือนเดิม
รถMaybachค่อยๆขับเคลื่อนไปท่ามกลางพายุฝน
ฝนรอบนี้ตกหนักมาก ท้องฟ้ามีก้อนเมฆสนิทบดบังแน่นหนา เสียงฟ้าผ่าไม่หยุด เสียงฟ้าแลบผ่านท้องฟ้า…ฝนตกใหญ่ไปทั่วทุกท้องถนน…
“คุณผู้ฟังทุกท่านครับ คืนนี้พายุฤดูร้อนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ามา อาจจะเกิดพายุฝนขนาดใหญ่ก็ได้…สถานการณ์ตอนนี้ได้กระทบจนเกิดเป็นพายุไต้ฝุ่นพัดผ่านทุกพื้นที่ของเมืองหู้ไห่แล้ว ขอให้คุณผู้ฟังทุกท่านระมัดระวังเรื่องการเดินทางและความปลอดภัยกันด้วยนะครับ…”ในรถแข่ง มีเสียงการอัพเดทพยากรณ์อากาศออกมาจากช่องวิทยุ
“ที่แท้ก็พายุนี่เอง…อากาศของพื้นที่ติดทะเลก็แย่แบบนี้แหละ มีพายุตลอดปี…” เฉินเป่ยปากคาบบุหรี่ ขับรถแข่งอย่างระมัดระวัง…ในเวลานี้บนถนนมีแต่พายุฝนเต็มไปหมด ถนนด้านหน้าแทบจะมองไม่เห็นปลายทางเลย…ระดับการมองเห็นต่ำมาก…