สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 622
บทที่ 622 รำลึกถึง
พายุฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง พายุยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ เสียงลมกระโชกแรงดังขึ้นไม่หยุด
“ตู้มมม” จู่ๆ ป้ายโฆษณากว้างไม่กี่เมตรบนตึกที่อยู่ไม่ไกล ถูกลมพัดจนปลิวลงมา ป้ายโฆษณาหมุนไปตามแรงลม มันลอยอยู่ในอากาศอย่างน่ากลัว ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้าไปหาเฉินเป่ย
เฉินเป่ยจ้องเขม็ง
ทักษะของเขารวดเร็วเป็นอย่างมาก มีดหลงหยาในมือสั่นเบาๆ อยู่ท่ามกลางความมืด
“สวบบ” มีดหลงหยาแหลมคมเป็นอย่างมาก มันแหวกทะลุอากาศและพุ่งไปที่ป้ายโฆษณานั้น
ทันใดนั้น มีดอันแหลมคม พุ่งขึ้นมาจากด้านหลังป้ายโฆษณา มันเร็วราวกับสายฟ้า เฉินเป่ยรีบชักมีดออกมาและหมุนตัวไปสกัดเอาไว้
“ฉิ้ง” เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น ประกายไฟกระเด็นออกมา เฉินเป่ยโดนโจมตีจนกระเด็นถอยหลัง แต่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ต้องตะลึง
ประกายดาบนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืด ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้ามา แรงอาฆาตแผ่ซ่านไปทั่ว มันเหมือนเขี้ยวเล็บอันแหลมคมที่จะกลืนกินพายุฝน
เฉินเป่ยยกมีดหลงหยาที่อยู่ในมือขึ้นมา เขาฟาดฟันมันไปในอากาศจนกลายเป็นแนวป้องกันที่แน่นหนาท่ามกลางพายุฝน
“ฉิ้งๆๆๆ” ประกายไฟนับไม่ถ้วนกระเด็นออกมา ดาบซามูไรมากมายหยุดอยู่กับที่ มันถูกมีดหลงหยาในมือของเฉินเป่ยสกัดเอาไว้ได้
แต่ทว่าเฉินเป่ยไม่สามารถรับแรงอันมหาศาลแบบนี้เอาไว้ได้ เขาถูกกระแทกจนกระเด็นออกไป
“ตู้มม” ตัวของเฉินเป่ยล้มลงกับพื้นจนพื้นแตกกระจาย
สายฟ้าผ่าลงมาท่ามกลางความมืด เงาดำปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
ความเร็วของเงาดำราวกับสายฟ้า “ฉิ้งง” เสียงคำรามดังขึ้นเบาๆ ดาบซามูไรถูกดึงออกจากฝัก มันพุ่งลงมาเหมือนกับแรงอาฆาตที่น่ากลัว
เฉินเป่ยจ้องเขม็ง เฉินเป่ยจับทิศทางของเงาดำนั่นได้ เขายกมีดหลงหยาขึ้นมากันทันที
“ตู้มม” เสียงปะทะอย่างรุนแรงดังขึ้น พื้นใต้ร่างกายของเฉินเป่ยยุบลงทันที ทักษะของเงาดำรวดเร็วเป็นอย่างมาก
ดาบซามูไรมีแรงอาฆาตที่น่ากลัว มันฟาดฟันไปมาท่ามกลางพายุฝนจนเกิดเป็นเงาที่น่ากลัว มันหมายจะเอาชีวิตของเฉินเป่ย
เฉินเป่ยถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายยังคงจู่โจมไม่หยุด จากการที่ได้วางแผนมาอย่างแยบยล ทำให้เฉินเป่ยถูกล็อกอยู่ท่ามกลางความตาย เขาไม่มีช่องว่างที่จะตอบโต้กลับได้เลย
หลีชิงเยียนนั่งอยู่ในรถมายบัคด้วยสีหน้าซีดเผือด เธอจ้องไปท่ามกลางความมืดที่อยู่นอกหน้าต่าง เพราะพายุฝนทำให้เธอมองเห็นใครบางคนอย่างเลือนราง อีกทั้งยังมีประกายของมีดนับไม่ถ้วน ดูเหมือนว่าเฉินเป่ยกำลังเสียเปรียบ
ข้างนอกหน้าตารถ พายุฝนกระหน่ำและลมกระโชกอย่างรุนแรง
ดาบซามูไรนับไม่ถ้วนสว่างวาบอยู่ท่ามกลางความมืด
เฉินเป่ยสกัดดาบพวกนั้นเอาไว้ ทักษะของเขารวดเร็วเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำได้เพียงหลบคมดาบของเหล่านักฆ่าเท่านั้น
เพราะท่ามกลางพายุยามค่ำคืน มันเป็นสงครามในกำมือของพวกเขา นี่เป็นสงครามที่วางแผนมาอย่างดี เฉินเป่ยเป็นได้เพียงเป้าของพวกเขาเท่านั้น
เงาดำยิ่งใช้ทักษะมีดเร็วขึ้นเรื่อยๆ มีดแต่ละอันพุ่งเข้ามาที่คอของเฉินเป่ย เพื่อหมายเอาชีวิตของเขา
เฉินเป่ยหลบอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความมืดและพายุฝน เหมือนเขาจะเห็นแววตาของฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน แววตาที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวและคุ้นเคย อีกฝ่ายอำพรางใบหน้าจนเขาไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เขาเห็นแค่ดวงตา แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เฉินเป่ยสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
ทักษะของเฉินเป่ยรวดเร็ว มีดหลงหยาฟาดฟันแสงดำ ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มีดหลงหยารวดเร็วดั่งสายฟ้า ทันใดนั้นมันก็พาดผ่านไปที่ข้างใบหน้าของเงาดำนั้น
ผ้าสีดำที่อำพรางใบหน้าขาดออก ใบหน้าอันโหดเหี้ยมปรากฏขึ้นท่ามกลางพายุฝน
“คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นนาย” แววตาของเฉินเป่ยลุ่มลึก เขาเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครได้ตั้งแต่เมื่อครู่
องค์กรซูซาน แก๊งที่เคยลอบฆ่าเฉินเป่ย พวกเขาไม่พอใจ จึงมาลอบฆ่าอีกครั้ง
ทาเคดะคุงยกดาบซามูไรในมือขึ้นมา มันแวววาวจนน่ากลัว
“คนกระจอกในหัวเซี่ย ตระกูลทาเคดะของฉัน ไม่เคยฆ่าคนกระจก แต่วันนี้แกได้มาตายเพราะดาบของฉัน ถือว่าเป็นเกียรติของแกนะ” ทาเคดะคุงใช้ภาษาญี่ปุ่นพูดออกมาอย่างเย็นชา เหมือนกำลังพูดพึมพำกับตัวเองและเหมือนพูดประชดออกมา
เฉินเป่ยแสยะยิ้ม แล้วใช้ภาษาหัวเซี่ยตอบกลับไป “แก๊งยามาโมโตะของพวกแกนี่ไม่สามารถเปลี่ยนได้จริงๆ เลยนะ ในเมื่อพวกแกรนหาที่ตาย งั้นวันนี้ฉันจะสงเคราะห์พวกแกเอง”
เมื่อได้ยินเฉินเป่ยพูดออกมาอย่างโอหัง ทาเคดะคุงจ้องเขม็ง เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะฟังภาษาญี่ปุ่นออก แต่หลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็เย็นชา ความอาฆาตแผ่ซ่านออกมา
“ตายซะ!” จู่ๆ ดาบซามูไรในมือของเขาก็พุ่งเข้ามา
ดาบของทาเคดะคุงพุ่งออกไป ดาบของเขารวดเร็วและแหลมคมเป็นอย่างมาก มันหมายถึงการฆ่าที่เร็วที่สุดในศิลปะการต่อสู้ของจักรวรรดิญี่ปุ่น
“สวบบบ” ทันใดนั้น มีดหลงหยาในมือของเฉินเป่ยก็พุ่งออกไป ความกระหายเลือดแผ่ซ่านไปทั่ว
“ฉิ้งๆๆๆ” เสียงโลหะปะทะกันดังสนั่น ประกายไฟกระเด็นไปทั่ว
ทักษะของทาเคดะคุงรวดเร็วเป็นอย่างมาก เขาหายตัวไปมาท่ามกลางพายุฝนยามค่ำคืน นี่คือสงครามของเขา สงครามใหญ่ท่ามกลางความมืดคือวิถีของนินจา เมื่ออยู่ในความมืดไม่มีใครสามารถสู้นินจาได้
เฉินเป่ยกับทาเคดะคุงต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทาเคดะคุงแสยะยิ้มร้ายกาจ คืนนี้ดาบของเขาต้องได้กินเลือด
ในขณะเดียวกัน รอบๆ เต็มไปด้วยความเงียบ ดาบซามูไรนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันพุ่งเข้ามาหาเฉินเป่ย เขารีบใช้มีดหลงหยาสกัดเอาไว้
“ฉิ้งๆๆ” เสียงมีดปะทะกับมีดหลงหยาดังสนั่น มันรับการโจมตีอันน่ากลัวได้ สีหน้าของเฉินเป่ยจริงจังเป็นอย่างมาก หลงหยาพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า พวกเงาดำนั่นก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางพายุฝน นินจาที่มาอย่างไร้เงาและจากไปอย่างไร้ร่องรอย
ภายในรถยนต์มายบัค หลีชิงเยียนหน้าซีดเผือด ดวงตาคู่สวยจ้องออกไปนอกหน้าต่าง พายุฝนบดบังการมองเห็นของเธอ หยดฝนกระทบลงมาที่หน้าต่างรถยนต์อย่างต่อเนื่องจนทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย
ตอนนี้เธอเป็นห่วงเฉินเป่ยเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้ว่าเฉินเป่ยเป็นอย่างไรบ้าง และก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วย ตอนนี้เธอทำได้เพียงนั่งอยู่ในรถไม่กล้าขยับไปไหน ตามที่เฉินเป่ยได้บอกไว้
ขณะนั้นเอง ดาบซามูไรปรากฏขึ้นท่ามกลางความเงียบและพุ่งไปที่คอของเฉินเป่ย
มันเร็วเหมือนสายฟ้า จนเฉินเป่ยตั้งตัวไม่ทัน เพราะดาบของฝ่ายตรงข้ามเงียบจนหลอมรวมไปกับเสียงของพายุฝน เขาไม่ทันได้สังเกตอะไรเลย
ร่างกายของเฉินเป่ยถอยหลบไปข้างหลัง แต่ดาบซามูไรโดนตรงส่วนหน้าของเสื้อ
เสื้อของเฉินเป่ยขาดเป็นรู อีกเพียงแค่หนึ่งมิลลิเมตร ดาบซามูไรเล่มนั้นก็จะแทงเข้ามาที่หน้าอกของเขา
“คนกระจอกหัวเซี่ย วันนี้แกหนีไม่รอดหรอก!” ดาบซามูไรของทาเคดะคุงชี้ไปที่ตัวเฉินเป่ย มันแฝงไปด้วยแรงอาฆาตและเย้ยหยัน เมื่อดาบของตระกูลทาเคดะออกจากฝัก จะต้องได้ดื่มเลือดอย่างแน่นอน
“ชีวิตของเหล่าซามูไรแก๊งยามาโมโตะ ต้องรำลึกด้วยเลือดของแก!”
เฉินเป่ยจ้องเขม็ง มีดหลงหยาพุ่งออกไป
แต่วินาทีต่อมา ร่างของทาเคดะคุงก็หายไปท่ามกลางความมืด พายุฝนและลมกระโชกแรงบดบังการมองเห็นของเฉินเป่ย เขาไม่สามารถต่อสู้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ และตอนนี้เขาต้องเผชิญกับนินจาที่เชี่ยวชาญในยามค่ำคืน การที่จะโจมตีพวกเขาเป็นเรื่องที่ยากมาก
อย่าบอกนะว่าขนาดราชาหลง ราชาทหารรับจ้างที่แกร่งที่สุดในโลก จะต้องพ่ายแพ้ที่นี่
เสียงฟ้าคำรามและฝนเทกระหน่ำลงมาไม่หยุด เฉินเป่ยยืนอยู่ท่ามกลางอันตราย จุดอ่อนของเขาถูกเปิดเผยออกมาท่ามกลางความมืด
จู่ๆ เฉินเป่ยก็แสยะยิ้มออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่ลุ่มลึก
จู่ๆ เขาก็ฉีกเสื้อของตัวเองออก จากนั้นจึงฉีกผ้าออกมาหนึ่งชิ้น และนำผ้ามาปิดตาของตัวเองไว้
เมื่อผ้าปิดลงมาที่ตาของเขา ภาพตรงนี้มีเพียงความมืดเท่านั้น
ข้างนอกหน้าต่างรถพายุฝนยังคงพัดกระหน่ำ พายุพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ลมหมุนเศษดินและน้ำขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แม้แต่ต้นไม้ที่อยู่ข้างทางก็โดนลมพัดถอนรากถอนโคนขึ้นมาด้วย กำลังของแรงลมน่ากลัวเป็นอย่างมาก
แต่ทว่าคนที่ปิดตาอยู่ท่ามกลางพายุอย่างเฉินเป่ยกลับนิ่งสงบจนประหลาด เขาปิดตาทำให้สูญเสียการมองเห็น แต่ทว่าการได้ยินของเขากลับดีมาก
เมื่อพระเจ้าปิดทางของเราไปทางหนึ่ง แต่ท่านก็จะมอบทางอื่นให้เราเสมอ เฉินเป่ยสูญเสียการมองเห็น แต่ทว่าเขากลับมีความสามารถในการได้ยินอย่างดีเยี่ยม
เฉินเป่ยหลับตาสนิท ถึงข้างหน้าจะมีเพียงความมืด แต่จิตใจของเขากลับจมลงไปในความเงียบ รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบตกลงมา เสียงลมกระโชกแรง เสียงพายุกระหน่ำค่อยๆ หายไปเรื่อยๆ โลกของเขากลับมาสงบจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง
ท่ามกลางพายุฝน จู่ๆ ก็มีวัตถุอันเยือกเย็นพุ่งออกมาจากมุมที่แปลกประหลาด ดาบซามูไรพุ่งมาอย่างรวดเร็ว ประกายของดาบและพายุฝนรวมกันจนแทบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ใบหูของเฉินเป่ยกระตุกขึ้น เขาเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณ
“ฉิ้ง” ดาบซามูไรเคลื่อนตัวผ่านหน้าเขาไปเพียงหนึ่งมิลลิเมตร และพุ่งไปในอากาศ
จากนั้นก็มีแสงสว่างวาบจากข้างหลัง ดาบซามูไรนับไม่ถ้วนแหวกความมืดออกมา มันสว่างวาบจนน่ากลัวและพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
พายุกระหน่ำท่ามกลางความมืด หูของเฉินเป่ยสัมผัสได้ เขาเด้งตัวขึ้น
“สวบๆๆ” ตอนที่เขาเด้งตัวขึ้นไป ดาบซามูไรฟาดฟันกันข้างล่างตัวเขา ดาบซามูไรนับไม่ถ้วนหล่นลงบนพื้น
เหมือนร่างกายของเฉินเป่ยเข้าไปในดินแดนที่ไม่สามารถสัมผัสได้ ถึงเขาจะสูญเสียการมองเห็น แต่การรับรู้ในร่างกายของเขาทั้งความรู้สึก การรับรู้และการได้ยินกลับดีเยี่ยม เขาสามารถได้ยินเสียงฝีเท้าท่ามกลางพายุฝนที่กำลังกระหน่ำ เขารับรู้ทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
ดวงตาคู่สวยของหลีชิงเยียนที่นั่งอยู่ภายในรถจ้องเขม็งออกมานอกหน้าต่าง เมื่อเฉินเป่ยปิดตาเขากลับกลายเป็นคนละคน เงาของเขาสว่างไสวท่ามกลางความมืด ความรู้สึกแบบนี้มันช่างแปลกประหลาด เหมือนไม่ใช่เฉินเป่ย
พายุฝนกระหน่ำแรงขึ้นเรื่อยๆ เสียงลมพายุพัดอย่างรุนแรงราวกับเสียงคำรามของปีศาจ เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น
“ฉิ้งๆๆๆ” ทันใดนั้นดาบซามูไรนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าไปหาเฉินเป่ย หมายที่จะเอาชีวิตเขาท่ามกลางความมืด
เฉินเป่ยปิดตายืนอยู่ตรงนั้นอย่างนิ่งเฉย เขาไม่มีท่าทีแม้แต่จะหลบแม้แต่น้อย
จู่ๆ เขาก็แสยะยิ้มออกมา หลงหยาพุ่งเข้าไปจู่โจม
“ฉิ้งงง” มีดหลงหยาพุ่งออกไปท่ามกลางพายุฝน มันพุ่งแหวกอากาศจนกลายเป็นสายฟ้าสีดำ
แววตาของนินจาพวกนั้นเปลี่ยนไปทันที พวกเขารีบเก็บมีดและล่าถอยไปในความมืด
“ฉึบๆๆๆ” แต่พวกเขาไม่ทันได้ถอยก็ได้ยินเสียงเส้นเลือดที่ลำคอขาด จากนั้นเลือดก็นองเต็มพื้น กลิ่นความเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่ว แต่ไม่นานมันก็โดนฝนชะล้างออกไปจนหมด
หลงหยาลอยวนอยู่บนท้องฟ้า จากนั้นมันก็ลอยเข้าไปในมือของเฉินเป่ย บนตัวมีดไม่เปื้อนเลือดสักหยด มันดำขลับและแฝงไปด้วยความลึกลับ
ทันใดนั้นมีดนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้น มันล้อมรอบตัวของเฉินเป่ยเอาไว้ มีดซามูไรท่ามกลางพายุฝนน่ากลัวราวกับปีศาจที่มีเขี้ยวอันแหลมคม
เหล่านินจาเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้ความมืด ทักษะการเคลื่อนที่ของพวกเขา วิถีของทุกส่วนโค้ง ผสานเข้ากับวิถีของฝนที่กำลังกระหน่ำอย่างรุนแรง ราวกับมันสะท้อนกับธรรมชาติจนไม่สามารถสัมผัสได้ เฉินเป่ยยืนอยู่ในความมืด หูของเขาสั่นอย่างกะทันหัน เขาจับเสียงรอยเท้าบนพื้นได้อย่างชัดเจน แม้ว่าฝีเท้าของเหล่านินจาจะรวมเข้ากับจังหวะของพายุฝน แต่ทว่ามันก็หนีไม่พ้นการได้ยินของเฉินเป่ย
ทันใดนั้น ราชาที่แท้จริงเริ่มการโจมตี
ร่างกายของเฉินเป่ยเคลื่อนไหวไปมา มีดหลงหยาในมือเหมือนแสงดำที่กำลังเต้นระบำท่ามกลางเลือดที่กระเด็นไปทั่ว
“ฉึบๆๆ” เลือดสาดกระจายท่ามกลางความมืด เหล่านินจาพวกนั้นกลายเป็นเป้า หัวของพวกเขาขาดออก เลือดสดๆ กระเด็นออกมา ดาบซามูไรหล่นลงบนพื้นเล่มแล้วเล่มเล่า บนพื้นเต็มไปด้วยเลือดสดๆ คืนนี้เต็มไปด้วยการนองเลือด
“บ้าเอ๊ย” เหล่านินจาเต็มไปด้วยความโกรธ ดาบซามูไรนับไม่ถ้วนฟาดฟันอยู่ท่ามกลางอากาศและพุ่งเข้าไปหาเฉินเป่ย หมายจะเอาชีวิตของเขา
“ฉิ้งๆๆ” มีดหลงอย่างสว่างวาบและเข้าไปต่อสู้กับมีดซามูไรนับไม่ถ้วน
เสียงโลหะแตกกระจายดังสนั่น ดาบซามูไรธรรมดาๆ จะสู้กับมีดหลงหยาได้อย่างไร
เหล่านินจาพากันตกใจและพากันถอยกรูดไปท่ามกลางความมืด
เฉินเป่ยตามไล่ล่าอย่างรวดเร็ว ราชาที่แท้จริงกำลังโมโห
นินจาคนหนึ่งถอยหลบท่ามกลางความมืดและพายุฝน ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็กระตุกวูบ
เพราะว่ามีดสีดำขลับพุ่งเข้ามาที่หัวใจของเขาราวกับกระสุนปืน
เขาก้มหน้าลงด้วยความมึนงง เอื้อมมือไปสัมผัสรูที่มีดแทงเข้ามา จากนั้นเขาก็ล้มลงทันที
เหล่านินจาหลบอยู่ท่ามกลางความมืด แต่วินาทีต่อมาพวกเขาก็ต้องเบิกตาโต
เงาดำเคลื่อนตัวผ่านหน้าของพวกเขาไป จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกที่ความร้อนที่ลำคอของตัวเอง เลือดไหลทะลักออกมาจากลำคอจนไม่สามารถหยุดได้
เงาดำค่อยๆ หยุดลง มีดหลงหยาในมือของเฉินเป่ยยังคงส่องแสงสีดำท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำโดยไม่เปื้อนหยดน้ำแม้แต่น้อย
ส่วนเหล่านินจาต่างนอนกองอยู่บนพื้น ตอนนี้พวกเขากลายเป็นร่างไร้วิญญาณ
“ไอ้คนกระจอกหัวเซี่ย ตายซะ!” ทาเคดะคุงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วท่ามกลางพายุฝน มันรวดเร็วเหมือนจะหลอมรวมกับสายฟ้า ดาบซามูไรอันน่ากลัวพุ่งออกมา
เฉินเป่ยแสยะยิ้มออกมา เขาพุ่งตัวเข้าไปพร้อมกลิ่นคาวเลือด
“ฉิ้งๆๆๆ” เสียงโลหะกระทบกันดังสนั่นท่ามกลางความมืด โลหะกระทบกันจนทำให้เกิดประกายไฟอันน่ากลัว
เฉินเป่ยปิดตา แต่ตอนนี้เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนเปิดตา เขาสามารถรับรู้ได้ถึงทุกความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม หลงหยาคำรามเบาๆ ท่ามกลางความมืด มันฟาดฟันไปมาบนอากาศ จนทำให้เกิดความน่ากลัว
“ฉิ้งๆๆๆ” เสียงอันน่ากลัวดังขึ้น ทาเคดะคุงไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป เขาถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดรอยเท้าลงพื้นยุบลงไป
เขาเอาดาบซามูไรขึ้นมากันไว้ข้างหน้า เมื่อทาเคดะคุงเห็นดาบซามูไรที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง เขาก็ถึงกับเบิกตาโต