สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 623
บทที่ 623 แผนของแก๊งยามาโมโตะ
ทาเคดะคุงจ้องดาบซามูไรตรงหน้า บนดาบซามูไรที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลมีร่องรอยอันน่ากลัวมากมาย นี่..นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน
ดาบซามูไรที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูล มันหล่อจากเหล็กที่แข็งแกร่งที่สุดกว่าร้อยปี มันแข็งแกร่งเป็นอย่างมากจนไม่มีอะไรทำลายได้ แต่ว่าวันนี้ เมื่อทาเคดะคุงเห็นดาบซามูไรเต็มไปด้วยร่องรอยเขาถึงกับเบิกตาโพลง
“บ้าเอ๊ย ไอ้กระจอกหัวเซี่ย ตระกูลสัตว์ ตายซะเถอะ!” สีหน้าของทาเคดะคุงเต็มไปด้วยความโมโห ร่างกายของเขาเหมือนกระบี่ที่บ้าคลั่ง ดาบซามูไรในมือของเขาลอยอยู่ในอากาศ ประกายของดาบสว่างวาบ ดาบแหวกไปกลางอากาศ พายุฝนถึงกับแยกเป็นทาง
เฉินเป่ยแสยะยิ้ม ความเย็นชาปรากฏขึ้น
“หัวเซี่ยคือแผ่นดินอันสูงส่ง จะปล่อยให้พวกโจรอย่างแกมาดูถูกได้ยังไง!” ทันใดนั้น เฉินเป่ยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ร่างทั้งสองปะทะกันท่ามกลางพายุฝนอย่างดุเดือด
ประกายไฟสว่างวาบขึ้นมาท่ามกลางความมืด
ดาบซามูไรของทาเคดะคุงปะทะกับมีดหลงหยา
“สวบๆๆ” ดาบซามูไรพุ่งออกมาจากรอบๆ จากนั้นมันก็พุ่งเข้าไปล้อมตัวของเฉินเป่ยเอาไว้ เป็นกองสนับสนุนทาเคดะคุงในการฆ่าเฉินเป่ย
มีดหลงหยาเคลื่อนไหวรวดเร็วดั่งสายฟ้า
“ฉิ้งๆๆ” ประกายไฟสว่างวาบอยู่บนท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง มันน่ากลัวเหมือนกับระเบิด ถึงแม้เฉินเป่ยจะสูญเสียการมองเห็น แต่ในตอนนี้เขากลับแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ในการต่อสู้ที่เหล่านินจาเป็นฝ่ายได้เปรียบ สนามรบที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้
ดาบซามูไรในมือของทาเคดะคุงเป็นรูพรุนเต็มไปหมด ตัวมีดกำลังร้อนระอุและสั่น โลหะค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่างจนบิดเบี้ยว!
“แกร๊ง” เสียงของโลหะหักดังสนั่น ดาบของทาเคดะคุงหัก
“พลั่ก” ตัวของทาเคดะคุงกระเด็นไปเพราะแรงมหาศาล จากนั้นก็กระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง พื้นใต้ร่างกายของเขาแตกและยุบลง
“สวบๆๆๆ” แสงดาบนับไม่ถ้วนสว่างวาบไปรอบๆ ดาบซามูไรที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งออกมา และทันใดนั้นก็เปล่งแสงที่น่ากลัวออกมาท่ามกลางพายุฝนที่กำลังกระหน่ำ เพื่อปิดล้อมเฉินเป่ยให้ยอมจำนนและสังหารเขา
ทาเคดะคุงกระอักเลือดออกมา เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาจากพื้น และหยิบดาบที่หักขึ้นมา จากนั้นก็พุ่งออกมาจากความมืดอีกครั้ง อากาศแปรปรวนไปหมด สายฝนทำให้ดาบแยกออกเป็นสองส่วน แรงอาฆาตแผ่ซ่านไปทั่ว
เฉินเป่ยแสยะยิ้มร้ายกาจ ทักษะของเขาถูกปลดปล่อยออกมาท่ามกลางสายฝน เขาหลบการโจมตีได้ทุกอย่าง ตอนนี้การรับรู้ของร่างกายอยู่ในจุดที่น่ากลัว
“ฉึบๆๆๆ” ที่ๆ มีดหลงหยาเคลื่อนตัวผ่าน เต็มไปด้วยเลือด
ศพของเหล่านินจาล้มระเนระนาดท่ามกลางพายุฝน เลือดนองเต็มพื้น แต่ไม่นานมันก็ถูกฝนชะล้างไปจนหมด
ทาเคดะคุงยังคงถือดาบหักอยู่ในมือ สีหน้าของเขาโหดเหี้ยม และพุ่งเข้ามาหาเฉินเป่ยอย่างบ้าคลั่ง หมายจะให้เขาตายที่นี่
“บ้าเอ๊ย ตายซะเถอะ!” ราวกับดาบที่หักนั่นมีความน่ากลัวและพลานุภาพมากขึ้น มันหลอมรวมกับลมที่พัดอย่างรุนแรง
เฉินเป่ยแสยะยิ้ม มีดหลงหยาพุ่งออกไปโจมตีอีกครั้ง
“แกร๊ง” ดาบซามูไรที่หักอยู่แล้ว กลับหักอีกครั้ง
ทาเคดะคุงสั่นไปทั้งตัว
“แกร๊ง” เสียงหักดังขึ้นอีกครั้ง ดาบซามูไรของทาเคดะคุงถูกทำลาย หลงเหลือไว้เพียงด้ามจับเท่านั้น
“พรวดด” ทาเคดะคุงกระอักเลือดออกมาทางปากอีกครั้ง ศักดิ์ศรีของวิถีซามูไรทั้งหมดถูกทำลายลงจนหมดสิ้น สายเลือดแดนอาทิตย์อุทัยพังทลายลงในพริบตา
เฉินเป่ยใช้เท้าถีบออกไป ร่างของทาเคดะคุงปลิวออกไปไกลหลายสิบเมตร ด้ามจับดาบที่อยู่ในมือก็ตกลงสู่พื้น เฉินเป่ยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาเหยียบลงไปบนยอดอกของทาเคดะคุงเต็มแรง
“โจรญี่ปุ่น ฉันใช้ชื่อของหัวเซี่ยทำให้แกพ่ายแพ้ แกยอมจำนนหรือยัง” ถึงเฉินเป่ยจะปิดตาอยู่ แต่น้ำเสียงของเขายังคงดังกึกก้อง
ทาเคดะคุงนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นที่ยุบลงไป เขากระอักเลือดออกมา ตัวของเขาสั่นไม่หยุด เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาคือนักสู้ชั้นยอดของญี่ปุ่น เหล่าคนที่มาในวันนี้ล้วนเป็นนินจาชั้นยอดของแก๊งยามาโมโตะ
แต่ทว่าภายในสงครามที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดี กลับต้องพังทลายลง เขาไม่สามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน
พายุฝนกระหน่ำลงมาไม่หยุด เสียงลมพัดอย่างรุนแรง เหล่านินจาชุดดำถือดาบซามูไรเอาไว้ในมือ พวกมันอยู่รอบๆ และจ้องเฉินเป่ยเขม็ง ปลายดาบต่างชี้ไปที่ตัวของเฉินเป่ย คืนนี้จะต้องเกิดการนองเลือดเท่านั้น!
แต่ทว่า เหล่านินจาไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ตัวเฉินเป่ย หัวใจของพวกเขาเต้นตึกตักและพากันจ้องเฉินเป่ย
ผู้ชายคนนี้เป็นปีศาจร้ายชัดๆ
ภายในรถยนต์มายบัค หลีชิงเยียนยังคงมองออกมาข้างนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ผู้ชายคนนั้นเปลี่ยนไปราวกับคนละคน เปลี่ยนไปจนน่ากลัว!
นี่คือราชาหลงอย่างนั้นเหรอ หลีชิงเยียนพึมพำในใจ เธอแทบจะหายใจไม่ออก แววตาของเธอจ้องไปที่ผู้ชายคนนั้น จนเกือบลืมหายใจ
พายุฝนยังคงกระหน่ำอยู่นอกหน้าต่าง
ทาเคดะคุงนอนแผ่หลาอยู่บนพื้น เขาเปียกฝนไปทั้งตัว เลือดสดไหลออกมาไม่หยุด สีหน้าของเขาเหี้ยมโหดเป็นอย่างมาก เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“บอกฉันมาว่าแกเป็นใคร…” เสียงของทาเคดะคุงสั่นระรัว “แก๊งยามาโมโตะไม่ปล่อยแกเอาไว้แน่! ตระกูลทาเคดะ ไม่ปล่อยแกไว้แน่!” การพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งของแก๊งยามาโมโตะในญี่ปุ่น เขาเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลซามูไรอย่างตระกูลทาเคดะ ทั้งชีวิตไม่มีใครสามารถเทียบกับเขาได้ ในญี่ปุ่นชื่อของทาเคดะคุงคือสัญลักษณ์ของพละกำลัง
เมื่อได้ยินดังนั้น เฉินเป่ยก็แยะยิ้มเย้ยหยันออกมาที่มุมปาก
“แก๊งยามาโมโตะจะไม่ปล่อยฉันเอาไว้อย่างนั้นเหรอ ตระกูลตระกูลทาเคดะอย่างนั้นเหรอ” เฉินเป่ยแสยะยิ้มเย้ยหยันออกมา จากนั้นจึงพูดประชดออกมาว่า “ใครที่ไม่ปล่อยใครไปกันแน่..”
ทาเคดะคุงสีหน้าโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก เขาแผดเสียงออกมาว่า “แกเป็นใครกันแน่!”
“แกอยากรู้จริงเหรอ ว่าฉันคือใคร” เฉินเป่ยค่อยๆ แสยะยิ้มออกมา
“บอกชื่อของแกมาเดี๋ยวนี้!” ทาเคดะคุงโกรธจนสั่นไปทั้งตัว ตอนนี้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาเป็นซามูไรที่ภักดีต่อประเทศ เขาไม่พอใจที่ตัวเองต้องมาพ่ายแพ้ภายใต้น้ำมือของไอ้กระจอกที่หัวเซี่ย
เฉินเป่ยยืนมือออกมาดึงผ้าที่ปิดตาออก ตอนที่เขาลืมตาขึ้นมา ทาเคดะคุงถึงกับสั่นไปทั้งตัว เพราะเขาเห็นความกระหายเลือดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในแววตาของเฉินเป่ย แววตาของเขาเหมือนกับบุคคลที่มีอำนาจคนหนึ่งในแก๊งยามาโมโตะ
“ในเมื่อแกอยากรู้ งั้นฉันบอกแกก็ได้” เฉินเป่ยแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว สีหน้าของเขายังคงราบเรียบ แต่มันกลับเย็นชาและน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ขณะเดียวกัน เหล่านินจาค่อยๆ เขามาใกล้ตัวเฉินเป่ยอย่างเงียบๆ เมื่อครู่ทาเคดะคุงแค่ยื้อเวลาให้เหล่านินจาเท่านั้น ตอนนี้เฉินเป่ยอยู่ในวงล้อมของเหล่านินจา เขาไม่มีทางหลบหนีได้อีกแล้ว เหล่านินจาหมายจะเอาชีวิตของเขา
เมื่อเห็นเหล่านินจาเขามาล้อมเฉินเป่ย ทาเคดะคุงก็หัวเราะออกมาอย่างร้ายกาจ
“ตอนนี้แกเป็นใครก็ไม่สำคัญกับฉันอีกแล้ว ฮ่าๆๆ ไอ้กระจอกหัวเซี่ย แกต้องตายภายใต้คมดาบซามูไรของประเทศฉันเท่านั้น แกต้องกลายเป็นวิญญาณของหัวเซี่ยที่พ่ายแพ้ต่อแก๊งยามาโมโตะของฉัน” น้ำเสียงของทาเคดะคุงร้ายกาจและน่ากลัวเป็นอย่างมาก
“งั้นเหรอ” สีหน้าของเฉินเป่ยราบเรียบ เขาแสยะยิ้มออกมา และทันใดนั้นมีดหลงหยาก็พุ่งออกไปโจมตี
มีดดำขลับฟาดฟันไปในอากาศ มันเร็วราวกับสายฟ้า อากาศที่รุนแรงเสียดสีกับเขี้ยวบนมีดทำให้เกิดกระแสลมแรง กระแสลมแรงพัดไปมา จนทำให้เกิดเสียงคำรามที่แสบแก้วหูออกมาเบาๆ
เสียงคำรามดังก้องท่ามกลางพายุฝน มันชัดเจนและน่ากลัวเป็นอย่างมาก
มันเหมือนเสียงคำรามของมังกรที่แท้จริง!
มีดหลงหยาฟาดฟันไปในอากาศราวกับสายฟ้า มันเคลื่อนตัวผ่านเหล่านินจาพวกนั้นอย่างรวดเร็ว เสียงคำรามราวกับฟ้าผ่า ทุกคนพากันตกตะลึง มันดังอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีท่าทีที่จะหยุด
เสียงคำรามด้วยความโมโหท่ามกลางพายุฝนยามค่ำคืน มีดหลงหยาสีดำสว่างวาบขึ้นมาตามเสียงคำราม มันลอยไปในอากาศ สุดท้ายจึงลอยกลับไปอยู่ในมือของเฉินเป่ย
ตอนนี้พายุฝนเทกระหน่ำลงมาไม่หยุด แต่ทว่าตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบ เหมือนลมหยุดพัด เหมือนพายุฝนถูกหยุดเอาไว้
ทุกคนมีเพียงเสียงคำรามที่แสบแก้วหูดังกึกก้องอยู่ในหัว เสียงคำรามที่ทำให้คนตกตะลึง
ทาเคดะคุงนอนแผ่หลาอยู่บนพื้น ตอนที่ได้ยินเสียงคำรามนั้น เขาถึงกับเบิกตาโพลง มันเหมือนแรงสั่นสะเทือนอันมหาศาลและน่ากลัวเป็นอย่างมาก เขาสั่นไปทั้งตัว สีหน้าที่โหดเหี้ยมแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือด
เหล่านินจาต่างพากันกลัวจนตัวสั่น ถึงขนาดที่มีนินจาบางคนกลัวจนทรุดลงไปกับพื้น เหมือนเสียงคำรามแฝงไปด้วยแรงอาฆาต จนทำให้เหล่านินจาสติแตก
“กะ…แกคือมังกร..” ทาเคดะคุงดวงตาแดงก่ำเป็นสีเลือดเพราะความกลัว ใครบางคนที่น่ากลัวลอยเข้ามาในหัวของเขา คนคนนั้นทำให้เขาตัวสั่น ตอนนี้เขาถูกล้อมรอบไปด้วยความตายอันน่ากลัว
เฉินเป่ยมองเขาด้วยแววตาราบเรียบ “ฉันจะฆ่าแกในฐานะของประชาชนหัวเซี่ย แกจะยอมจำนนไหม!”
ขณะนั้นทาเคดะคุงตัวสั่นเข้าไปอีก มันเป็นความกลัวที่มาจากนรก ตอนนี้เขาไม่กล้าแม้แต่จะขัดขืน เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือราชาหลง!
ขณะเดียวกัน เหล่านินจาที่อยู่รอบๆ ต่างตัวสั่นเทา จากนั้นเลือดสาดออกมาจากลำคอของพวกเขา ศีรษะนับไม่ถ้วนหล่นลงบนพื้น
หลีชิงเยียนที่นั่งอยู่ในรถมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่เข้าใจ เธอมองอะไรไม่เห็นเพราะข้างนอกพายุฝนรุนแรงมาก เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผ่านไปนานกว่าเธอจะมองเห็นอะไรได้บ้าง เหมือนจะมีเลือดอยู่ไกลๆ
หลีชิงเยียนไม่รู้แน่นอนว่าเหตุการณ์นองเลือดข้างนอก คือสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถรับได้ เป็นสัญลักษณ์ของความกระหายเลือด
หลีชิงเยียนตัวสั่น เธอหลับตาลง แต่ในหัวของเธอกลับมีเสียงคำรามเมื่อครู่ดังขึ้นมาไม่หยุด เธอได้ยินอย่างชัดเจนว่านั่นคือเสียงคำรามของมังกร บนโลกนี้มีมังกรอยู่จริงเหรอ ตอนนี้หลีชิงเยียนสับสนไปหมด นี่มันเกินกว่าขอบเขตที่ประธานเทพธิดาจะสามารถรับรู้ได้
ข้างนอกหน้าต่างเต็มไปด้วยเลือด ร่างไร้หัวนอนกองอยู่ท่ามกลางกองเลือด พายุฝนชะล้างคราบเลือดไปจนหมด เสียงลมกระโชกแรงราวกับเสียงโหยหวนของปีศาจร้าย ภาพที่เกิดขึ้นราวกับภาพในนรก
“ฉันจะฆ่าแกในฐานะของประชาชนหัวเซี่ย แกจะยอมจำนนไหม!” เสียงของเฉินเป่ยดังก้องท่ามกลางพายุฝน น้ำเสียงของชายหนุ่มแฝงไปด้วยความอาฆาตและข่มขู่ หัวเซี่ยคือราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนนี้อำนาจของหัวเซี่ยปะทุขึ้นมาเหมือนการลงโทษ
ทาเคดะคุงตกใจกลัวจนน้ำตาไหลออกมาเป็นสายเลือด
“ฉัน..ฉันยอมแล้ว” น้ำเสียงของเขาสั่นระรัว คล้ายกับเสียงร้องก่อนตาย “ท่านราชาหลง ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะครับ”
ทาเคดะคุงกำลังร้องขอชีวิต ซามูไรผู้สูงส่งแห่งญี่ปุ่น ผู้มีฝีมือแข็งแกร่งแห่งวิถีซามูไร ตอนนี้เขาล้มไม่เป็นท่า และกำลังอ้อนวอนขอชีวิตจากเฉินเป่ย
เมื่อได้ยินทาเคดะคุงอ้อนวอนร้องขอชีวิต แววตาของเฉินเป่ยก็แสดงออกถึงการเยาะเย้ย
“นี่คือสิ่งที่นายเอาแต่พร่ำบอกว่าเป็นผู้มีฝีมือแข็งแกร่งแห่งวิถีซามูไรอย่างนั้นเหรอ” เฉินเป่ยมองเขาด้วยสายตาเยาะเย้ย แววตาของเขาขุ่นมัว
ทาเคดะคุงหน้าซีด และสั่นไปทั้งตัว “ท่านราชาหลง ผมมันก็แค่หมากระจอกตัวหนึ่ง นายท่านไว้ชีวิตผมด้วยเถอะครับ”
เฉินเป่ยหรี่ตาลง “ช่างเถอะ ก็แค่หมาตัวหนึ่งในแก๊งยามาโมโตะ ฆ่าแกไป อาวุธของฉันก็แปดเปื้อนเปล่าๆ” เฉินเป่ยพูดพลางเหยียบออกไปเต็มแรง
“กรอบ” เสียงกระดูกดังสนั่น กระดูกแขนของทาเคดะคุงแตกละเอียด
“วันนี้ฉันแค่หักแขนทั้งสองข้างของแก รีบไสหัวออกไปจากหัวเซี่ย ถ้าแกยังมาก่อความวุ่นวายอีก ฉันเชือดคอแกแน่นอน!” น้ำเสียงของเฉินเป่ยแฝงไปด้วยความอาฆาตจนไม่มีใครสามารถเทียบได้
ท่ามกลางพายุฝนและลมกระโชกแรง คาวเลือดได้ถูกชะล้างออกไปอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าความอาฆาตกลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ความโกรธของราชาหลง สั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน
หลงหยากลับเข้ามาในมือ เฉินเป่ยเหยียบลงบนศพเหล่านั้นและเดินไปที่รถยนต์มายบัค
“ชิงเหยียน คุณกลับบ้านไปก่อน” น้ำเสียงอันเย็นชาของเฉินเป่ยเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนภายในชั่วพริบตา เมื่ออยู่กับหลีชิงเยียน เขามักจะอ่อนโยนเสมอ
“นาย..นายล่ะ นายจะไปไหนอีก” หลีชิงเยียนถามออกไปตามสัญชาตญาณ
เฉินเป่ยหรี่ตาลง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “ผมยังมีเรื่องที่ต้องจัดการนิดหน่อย” พูดจบ เขาก็เดินออกไป
“เฉินเป่ย…” หลีชิงเยียนสีหน้าตื่นตระหนก เหมือนเธออยากจะพูดอะไร แต่มันก็จุกอยู่ที่ลำคอของเธอ
พายุฝนกระหน่ำ เสียงลมยังคงรุนแรง
เฉินเป่ยกวาดตามองไปบนพื้น เลือดสดถูกฝนชะล้างออกไปจนหมด หลงเหลือไว้เพียงศพอันเย็นยะเยือก ทาเคดะคุงหนีเอาตัวรอดไปแล้ว
เฉินเป่ยแหงนหน้ามองฟ้า “สวบบ” ทักษะของเขารวดเร็ว เขาโน้มตัวไปข้างหน้าและพุ่งออกไปราวกับสายฟ้า มันเร็วจนกลายเป็นเงา เขาใช้ความเร็วที่เหนือมนุษย์วิ่งไปบนถนนในเมืองหู้ไห่ สุดท้ายเขากระทืบเท้าอย่างรุนแรงจนพื้นแตก จากนั้นเขาก็หายไปในตึกท่ามกลางความมืด
ภายในห้องชุดของโรงแรมจินเม่าที่ตั้งอยู่ในเมืองหู้ไห่
ยามาโมโตะ อิจิโร่นั่งนิ่งอยู่ตรงหน้าโซฟา เขากำลังเคลิ้มกับการนวดของสองสาวงาม
เขาได้รับการร้องขอให้กลับมาที่เมืองหู้ไห่อีกครั้ง ไม่เพียงแค่จะทำภารกิจที่ได้รับการร้องขอให้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่เขารู้ว่าประเทศญี่ปุ่นพ่ายแพ้อยู่ที่นี่ เขาต้องฉีกเนื้อไอ้คนนั้นเป็นหมื่นชิ้น และเอาเลือดมาชะล้างความอับอายของแก๊งยามาโมโตะ
ไม่เพียงแค่นั้น ยามาโมโตะ อิจิโร่ยังคิดมาอย่างดี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป แก๊งยามาโมโตะจะใช้โอกาสนี้ตั้งหลักในหัวเซี่ย และทำตามปณิธานอันยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นต่อไป
เมื่อได้รับการดูแลอย่างดีจากสองสาวงาม ยามาโมโตะ อิจิโร่ก็ยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ มือปลาหมึกก็ยื่นเข้าไปหาส่วนหน้าของร่างกายพนักงานสาว
ขณะนั้นเอง ยามาโมโตะ อิจิโร่ก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง
ยามาโมโตะ อิจิโร่ไม่ใช่แค่บุคคลสำคัญที่ถูกส่งมายังหัวเซี่ย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นนักฆ่าที่มีฝีมือน่ากลัวอีกด้วย
เขามีสัมผัสที่หกรับรู้ได้ถึงอันตรายได้แม่นยำมาก
เขาจ้องไปยังบานกระจกและรู้สึกว่าอันตรายบางอย่างกำลังเคลื่อนที่เข้ามา
ข้างนอกยังคงมีพายุฝนและลมกระโชกแรง
ทันใดนั้นตาของยามาโมโตะ อิจิโร่ก็จ้องเขม็ง เมื่อกี้เขาเห็นเงาดำ เงาดำนั่นพุ่งลงมาจากตึกสูงฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว และเงาดำกำลังพุ่งมาทางหน้าต่างห้องเขา
ยามาโมโตะ อิจิโร่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารีบไปหยิบดาบซามูไรที่แขวนอยู่อีกด้าน เขาชักดาบออกจากฝักทันที
“เพล้ง” เงาดำพุ่งชนกระจกอย่างรุนแรง
เศษกระจกแตกกระจัดกระจายไปทั่ว
“กรี๊ดด” ภาพตรงหน้าทำให้พนักงานสาวทั้งสองคนตกใจจนหน้าซีด
ยามาโมโตะ อิจิโร่ฟันดาบซามูไรในมือไปยังเงาดำอย่างโหดเหี้ยม
“แกร๊ง” เสียงโลหะแตกดังขึ้น
ดาบซามูไรในมือของยามาโมโตะ อิจิโร่หักเป็นสองท่อน
เขาเบิกตาโตจ้องดาบซามูไรในมืออย่างตกตะลึง เขาเหวี่ยงดาบซามูไรใส่เงาดำ จากนั้นก็หันหลังหนีอย่างรวดเร็ว
แต่เงาดำนั่นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ตู้มม” ยามาโมโตะ อิจิโร่ถูกเงาดำกดตัวไว้กับกำแพง กำแพงหนาแตกออกทันที
ยามาโมโตะ อิจิโร่ถูกเงาดำบีบคอเอาไว้ เขาสั่นไปทั้งตัวและหน้าซีดเผือด
ตอนนี้เขามองเห็นใบหน้าของเงาดำได้อย่างชัดเจน เขาถึงกับเบิกตาโพลง