สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 654
บทที่ 654 โจมตีด้วยระเบิด
ณโรงงานร้างและผุพังที่ชานเมืองหู้ไห่
เย่ชวงอยู่ในโรงงานด้วยสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง เธอถูกลักพาตัวมาหลายชั่วโมงแล้ว ตอนนี้เธอดูอ่อนแรงเป็นอย่างมาก
จู่ๆ เธอได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังอยู่ข้างนอก
เย่ชวงมีสีหน้าดีใจ เขามาแล้วเหรอ
รถยนต์มายบัคเร่งเครื่องเข้ามา ดริฟต์จนท้ายสะบัดและจอดลงหน้าประตูโรงงาน
ประตูรถยนต์มายบัคถูกเปิดออก เฉินเป่ยก้าวลงมาช้าๆ
ภายในโรงงานเงียบมาก ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
ประตูโรงงานปิดสนิท ประตูที่หนักและหนาปิดกั้นทำให้ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้
เฉินเป่ยกวาดตามอง เขาตัดสินใจใช้เท้าถีบไปที่ประตูอย่างแรง
“ปึง!” ประตูขนาดใหญ่ถูกเฉินเป่ยถีบจนเปิดออก
เย่ชวงถูกมัดกับเสาในโรงงานและถูกพันด้วยโซ่เหล็กทั้งตัว เธอดูไร้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินเสียงดังสนั่น เธอก็ตกใจเป็นอย่างมาก
แต่ทว่าวินาทีต่อมา เธอเห็นร่างอันคุ้นเคย ร่างของอันธพาลคนนั้นกำลังยืนอยู่หน้าประตูและสูบบุหรี่ด้วยท่าทีอึมครึม
เมื่อเห็นร่างอันคุ้นเคย ดวงตาที่ตื่นตระหนกของเย่ชวงฉายแววความรู้สึกประหลาดออกมา ตอนที่เห็นผู้ชายคนนี้ ราวกับความตื่นตระหนกทั้งหมดหายไปทันที
เฉินเป่ยก้าวเข้ามาหาเย่ชวง ในโรงงานร้างเงียบมาก มีเพียงเสียงเท้าของเฉินเป่ยเท่านั้น รวมถึงลมหายใจที่ตื่นตระหนกของเย่ชวงก็ดังอยู่ในอากาศเช่นกัน
เฉินเป่ยเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แต่แววตาของเขาก็เย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
บนพื้นเต็มไปด้วยน้ำมันเครื่องทำให้เขาหวาดระแวงขึ้นมาในใจ
“ไม่เป็นไรใช่ไหมเย่ชวง” เฉินเป่ยเดินเข้ามาข้างเย่ชวงและย่อตัวลง
ผมยาวๆ ของเย่ชวงยุ่งเหยิงไปหมด เธอส่ายหน้าไปมา
“รู้ไหมว่าใครเป็นคนทำ” เฉินเป่ยถามขึ้น
เย่ชวงกัดริมฝีปาก เธอพูดอย่างสงสัยและตกใจว่า “ฉันไม่รู้ พวกมันใช้ข้อความล่อฉันออกมา จากนั้นฉันก็สลบไป พอฟื้นมาก็อยู่ที่นี่แล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด แววตาของเฉินเป่ยก็สับสนขึ้นไปอีก ตอนนี้เขาเริ่มมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง
นอกจากน้ำมันเครื่องที่อยู่บนพื้น ก็ไม่มีอะไรผิดปกติอีก
เฉินเป่ยสงสัยเป็นอย่างมาก เขามองเย่ชวง ตอนนี้เธอถูกมัดด้วยโซ่เหล็กติดกับเสาของคานรับน้ำหนัก ไม่มีส่วนไหนที่น่าสงสัย
เฉินเป่ยตัดสินใจพูดขึ้นอย่างหวาดระแวง “ฉันจะแก้โซ่เหล็กนี่ให้เธอ จำไว้ว่าหลังจากที่แก้มัด เธอต้องออกไปจากที่นี่ทันที”
ตอนนี้เฉินเป่ยจริงจังเป็นอย่างมาก ที่นี่เงียบมาก เงียบจนทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก
เย่ชวงก็รู้สึกถึงความผิดปกติเช่นกัน เธอรีบพยักหน้า
“นายจะแก้โซ่เหล็กนี่ยังไง” เย่ชวงถามขึ้นอย่างสงสัยและเป็นกังวล โซ่เหล็กที่พันอยู่บนตัวขนาดหนาพอๆ กับข้อมือ มันหนักเป็นอย่างมาก ข้อต่อที่ปลายทั้งสองข้างของโซ่ถูกเชื่อมอย่างแน่นหนา อีกฝ่ายไม่ต้องการให้เธอหนีออกไปได้ ที่นี่ไม่มีอุปกรณ์ที่จะเอามันออกได้ เขาจะเอาโซ่เหล็กออกได้ยังไง
เฉินเป่ยไม่พูดอะไร เขาคาบบุหรี่อยู่ในปาก และจับโซ่ที่อยู่บนตัวของเย่ชวงขึ้นมา เขาใช้แรงจากแขนทั้งสองข้างจนเส้นเลือดปูดขึ้นมา
“แกรก” เสียงหักของโลหะดังขึ้นมา โซ่เหล็กหนาที่อยู่บนตัวของเย่ชวงถูกแรงบิดจนเบี้ยว จากนั้น…
เสียงขาดของโลหะดังขึ้น
เย่ชวงถึงกับอึ้งไป เธอตะลึงกับวิธีของเฉินเป่ย แต่ไม่นานเธอก็ตั้งสติได้ ลุกขึ้นยืนด้วยอาการเหน็บชา
ขณะนั้นสีหน้าของเฉินเป่ยก็เปลี่ยนไปทันที
เฉินเป่ยรวบตัวเธอเข้ามาในอ้อมแขน
“ตู้มม” เสียงดังสนั่น
จู่ๆ เสาขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหลังเย่ชวงก็ระเบิดขึ้น กระสุนขนาดใหญ่ที่น่ากลัวเหมือนปีศาจร้ายพุ่งออกมา
เฉินเป่ยกอดเย่ชวงเอาไว้แน่น เขาใช้ตัวกันกระสุนที่กำลังพุ่งเข้ามา
ร่างของทั้งสองคนกระเด็นออกไปเพราะแรงอันมหาศาล
“ผัวะ!” เฉินเป่ยกอดเย่ชวงเอาไว้และกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง
ที่นี่เต็มไปด้วยกระสุน น้ำมันเครื่องที่อยู่บนพื้นติดไฟขึ้นทันที ไฟลุกโชนขึ้นมา
เฉินเป่ยกับเย่ชวงถูกทะเลเพลิงล้อมรอบเอาไว้
ตอนนี้เย่ชวงไม่รู้จะทำอย่างไร สีหน้าของเธอซีดเผือด
เฉินเป่ยอดทนกับความเจ็บปวดจากความร้อนที่อยู่ข้างหลัง เขาอุ้มเย่ชวงขึ้นมาทันที สีหน้าของเขาจริงจังเป็นอย่างมาก เขาก้าวข้ามทะเลเพลิงออกไปทั้งแบบนั้น
เย่ชวงมึนงงไปหมด เหมือนหัวใจของเธอหยุดเต้นไปชั่วคราว เธอพิงอยู่ในอ้อมอกของเฉินเป่ย เธอถูกโอบล้อมด้วยแผ่นอกของผู้ชายคนนี้ เขาปกป้องเธอและพาเธอฝ่าทะเลเพลิงนี้ออกไป
อุณหภูมิรอบๆ เหมือนกับเตาอั้งโล่ขนาดใหญ่ที่กำลังเผาไหม้ บนตัวของเฉินเป่ยมีไฟติดอยู่ แต่เขาไม่มีเวลามาสนใจ เขารีบเดินออกจากกองเพลิงอย่างรวดเร็ว
เย่ชวงอยู่ในอ้อมกอดของเฉินเป่ย ตอนนี้จิตใจของเธอสับสนวุ่นวายไปหมด ขณะนี้เธอไม่สามารถลืมท่าทางของผู้ชายคนนี้ไปตลอดชีวิต
จู่ๆ ก็มีของเหลวอุ่นๆ หยดลงมาบนใบหน้าของเย่ชวง เธอยกมือขึ้นมาลูบ มันคือเลือดสดๆ
เธอเงยหน้าขึ้นมาดูและเห็นว่าเลือดกำลังไหลออกมาจากหน้าผากของเฉินเป่ย
“นาย..บาดเจ็บ” เย่ชวงพูดอย่างเป็นกังวล
“ไม่เป็นไร” เฉินเป่ยส่ายหน้าช้าๆ จากนั้นสีหน้าของเขาก็โกรธขึ้นมา “พวกเรารีบออกจากที่นี่กันเถอะ!”
ขณะนั้นจู่ๆ เพดานของโรงงานก็เริ่มแตกออก
สีหน้าของเฉินเป่ยและเย่ชวงเปลี่ยนไปทันที เฉินเป่ยจ้องเขม็ง ระเบิดเมื่อกี้ทำให้เสาที่ค้ำคานพังทลาย เมื่อโรงงานที่ผุพังขาดที่ค้ำยัน มันก็จะพังลงมา
วินาทีต่อมา
“ตู้มมม” โรงงานทั้งโรงงานพังทลายลงมา
กรวด สังกะสีและอิฐนับไม่ถ้วนตกลงมากระแทกตัวของเฉินเป่ยกับเย่ชวง
ทันใดนั้นเฉินเป่ยพาเย่ชวงกระโจนลงไปบนพื้น เขาใช้ร่างกายของตัวเองเป็นโล่ป้องกันเย่ชวงที่อยู่ใต้ตัวของเขาจากบรรดาสิ่งที่ก่อสร้างที่กำลังพังทลายลงมา
อาคารตระกูลหลีในย่านธุรกิจเมืองหู้ไห่
เฉินเป่ยออกไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว ที่ประตูอาคารยังไม่มีความเคลื่อนไหวได้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนยืนหลังตรงอยู่หน้าป้อมเพื่อเข้าเวรรักษาความปลอดภัย
ขณะนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาที่ประตูอาคารตระกูลหลี ชายคนนั้นสะพายกล่องไม้ที่มีลักษณะยาวและแคบอยู่บนหลัง ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในกล่องไม้ มันลึกลับอย่างเห็นได้ชัด
ชายคนนั้นเดินมาที่อาคารตระกูลหลี ฝีเท้าของเขาสงบนิ่งจนน่าประหลาด เหมือนตัวของเขาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับอากาศ น่าแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
หน้าประตูป้อมยาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันเขาเอาไว้ จากนั้นจึงถามว่า “คุณมาหาใคร”
สีหน้าของชายหนุ่มราบเรียบและพูดออกมาว่า “ผมมาหาหลีชิงเยียน”
จางหยุ่งผู้จัดการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีแววตาสงสัย เขาจ้องชายคนนั้นเขม็ง ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก
จางหยุ่งเดินเข้าไปถามว่า “คุณชื่ออะไร มาหาประธานหลีทำไม”
“ผมแซ่หยาง” ชายหนุ่มกวาดตามองจางหยุ่งแล้วพูดว่า “พอดีมีเรื่องส่วนตัวนิดหน่อยเลยมาหาประธานหลีน่ะ”
จางหยุ่งยิ่งมีแววตาสงสัยเพิ่มเข้าไปอีก เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “รอสักครู่ ผมขอแจ้งประธานหลีสักครู่”
จางหยุ่งโทรไปหาเลขาของประธานหลี และบอกให้แจ้งประธานหลี ไม่นานเลขาก็มาบอกว่าหลีชิงเยียนปฏิเสธการเข้าพบ
“ขอโทษด้วยครับ ประธานหลีค่อนข้างยุ่ง เลยไม่สะดวกที่จะพบคุณ” จางหยุ่งเดินเข้าไปพูด ชายคนนี้ลึกลับมาก จางหยุ่งรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
ชายหนุ่มอึ้งเล็กน้อย “ไม่พบอย่างนั้นเหรอ งั้นผมจะเข้าไปหาเธอเอง”
สีหน้าของจางหยุ่งนิ่งไป เขากันชายหนุ่มเอาไว้ “นี่คุณ! ขอโทษด้วย ประธานหลีไม่ต้องการพบ…”
ชายหนุ่มกวาดตามองจางหยุ่งนิ่งๆ “สวบ!” ชายหนุ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเอี้ยวตัวผ่านจางหยุ่งราวกับสายฟ้า จู่ๆ เขาก็ปรากฏตัวห่างออกไปหลายสิบเมตร
สีหน้าของจางหยุ่งเปลี่ยนไปทันที เขาหมุนตัวอย่างรวดเร็วและพูดตะคอกออกมาว่า “หยุดนะ!”
ชายหนุ่มไม่สนใจและยังคงเดินเข้าไปข้างในอาคาร
จางหยุ่งส่งสัญญาณทางสายตาให้ลูกน้อง เหล่าลูกน้องตั้งสติได้และรีบพุ่งเข้าไปขวางหน้าชายหนุ่มคนนั้นทันที พวกเขาล้อมชายหนุ่มคนนั้นเอาไว้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่าสิบคนสีหน้าเย็นชา และยืนขวางทางของชายหนุ่มเอาไว้
ชายหนุ่มกวาดตามองนิ่งๆ เขาสงบเป็นอย่างมาก
“หลีกไป ผมไม่อยากทำร้ายพวกนาย” คำพูดของเขาราบเรียบ และแฝงไปด้วยความเฉยเมยที่แปลกประหลาด
จางหยุ่งพุ่งเข้ามากดไหล่ของชายหนุ่มเอาไว้ จากนั้นจึงพูดออกมาด้วยความโมโห “ประธานหลีบอกแล้วว่าไม่สะดวกพบคุณ คุณออกไปดีๆ เถอะ”
แววตาของชายหนุ่มนิ่งไป เขาค่อยๆ หันหน้าไปหาจางหยุ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เอามือออกไป”
“รีบออกไปซะ!” จางหยุ่งเอ่ยปากไล่
“ผัวะ!” มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มสะบัดจนเกิดเงา วินาทีต่อมาจางหยุ่งก็ถูกจู่โจมจนกระเด็นออกไป พร้อมกับเลือดที่สาดออกมา
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ในเหตุการณ์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที พวกเขาพุ่งเข้าไปจัดการ
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา จากนั้นตัวของเขาก็กลายเป็นเงานับไม่ถ้วน
“ผัวะๆๆ” เสียงร้องโอดครวญดังออกมา เลือดสาดกระเด็นออกมาในอากาศ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกถีบจนกระเด็นและไม่มีโอกาสได้ตอบโต้กลับเลย
เงาหายไปในอากาศ ร่างกายของชายหนุ่มกลับมาเป็นปกติและเดินเข้าไปในอาคารอย่างนิ่งๆ
“รีบแจ้งประธานหลีเร็ว..อันตรายแล้ว.. พรวด!” จางหยุ่งพูดสั่งออกมาอย่างสั่นๆ เขายังไม่ทันพูดจบก็กระอักเลือดออกมา การจู่โจมเพียงครั้งเดียวของชายหนุ่ม ทำให้เขารู้สึกเหมือนกระดูกซี่โครงหัก เจ็บปวดไปทั้งตัว
ชายหนุ่มกำลังจะเดินเข้าไปในประตูอาคารตระกูลหลี จู่ๆ ประตูกระจกบานใหญ่ทั้งสองบานก็ปิดลงและทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปได้
ประตูกระจกหนามาก และสร้างจากกระจกกันกระสุนที่แข็งแรง เพื่อรับมือกับการจู่โจมที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยเฉพาะ วันนี้มันได้ใช้งานแล้ว!
ชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่หน้าประตูกระจกกันกระสุน เขายื่นฝ่ามือออกไปกดลงบนประตูกระจกเบาๆ
“เพล้ง!” เสียงแตกดังสนั่น ประตูกระจกกันกระสุนไม่สามารถรับแรงกดเบาๆ ของเขาได้และแตกออกมา เศษกระจกกระจายเต็มพื้น มันน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ห่างไปไม่ไกล คนที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นอย่างจางหยุ่งเบิกตาโพลง นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว
เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทาและกดโทรไปหาเฉินเป่ย ตอนนี้มีเพียงพี่เฉินเท่านั้นที่จะช่วยชีวิตของประธานหลีได้
ซากปรักหักพังกลางโรงงาน ตอนนี้หลงเหลือเพียงความสยดสยอง สิ่งก่อสร้างพังทลายลงมากองอยู่ข้างล่างถึงแม้จะเป็นเทวดาที่ลงมาจากสวรรค์ก็ต้องถูกทับจนตาย
“ตู้มม” จู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น จนทำให้ซากปรักหักพังนั้นกระจายออกมา
ตัวของเฉินเป่ยเปื้อนเลือด เป็นภาพที่น่าสยดสยอง เขาอุ้มเย่ชวงอยู่ในอ้อมอก ตอนนี้เขาเหมือนสัตว์ร้ายที่น่ากลัวเขาพุ่งตัวขึ้นมาจากซากปรักหักพังที่กีดขวางอยู่
ตัวของเขาโคจรอยู่ในอากาศหนึ่งรอบ จากนั้นก็ลงมาอยู่บนพื้น
ในอ้อมอกของเขามีเย่ชวงที่หน้าซีดเผือด เธอหลบอยู่ในอ้อมกอดของเขาอยู่นาน จึงค่อยๆ ตั้งสติได้ นี่เธอยังไม่ตายอย่างนั้นเหรอ วินาทีที่สิ่งก่อสร้างพังลงมา เธอคิดว่าตัวเองจะตายแล้ว แต่ทว่าตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ในอ้อมกอดของชายคนนี้อย่างปลอดภัย
ทันใดนั้นมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเฉินเป่ยดังขึ้น
เฉินเป่ยวางเย่ชวงลงและหยิบมือถือออกมา จางหยุ่งโทรมาหาเขา เฉินเป่ยกำลังจะรับสาย
“ปัง!” จู่ๆ ก็มีกระสุนพุ่งมายิงมือถือในมือของเฉินเป่ย
“ตู้มม” มือถือถูกทำลายด้วยกระสุนจนระเบิดออกมา ตอนที่มือถือระเบิด เฉินเป่ยหลบอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่สามารถหลบได้ ฝ่ามือของเขาถูกระเบิดจนเป็นรอยแตกและเลือดไหลออกมา
แววตาของเฉินเป่ยนิ่งไป ถึงแม้เขายังไม่ทันได้รับสายของจางหยุ่งก็รู้สึกลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก เกิดอันตรายกับหลีชิงเยียน! พลันคิดเชื่อมโยงถึงเหตุการณ์ที่เย่ชวงบอก ความคิดที่น่ากลัวผุดขึ้นมาในหัวของเขา แผนล่อเสือออกจากถ้ำ!!
นี่เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำที่พุ่งเป้ามาที่เขาโดยเฉพาะ เป้าหมายทั้งหมดคือต้องการจะจัดการกับหลีชิงเยียน
“สวบ!” มีกระสุนพุ่งอยู่ในอากาศ วิถีของกระสุนคือตรงขมับของเฉินเป่ย
เฉินเป่ยง้างมือขวาขึ้นมา มีดหลงหยาปรากฏออกมาฟันลูกกระสุนนั้น
เย่ชวงหน้าซีดเผือด ดวงตาคู่สวยกวาดตามองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง ตอนนี้เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจแห่งความตาย
อีกฝ่ายมีพลซุ่มยิง!
“สวบบ!” ลูกกระสุนพุ่งออกมาอีก วิถีกระสุนพุ่งไปตรงกลางคิ้วของเย่ชวง มันรวดเร็วจนไม่สามารถหลบได้
เย่ชวงไม่รู้จะทำอย่างไร เธอเป็นเพียงตำรวจอาชญากรรมธรรมดาๆ เท่านั้น เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง คนธรรมดาไม่สามารถหลบวิถีของกระสุนได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นเป็นกระสุนที่น่ากลัวของพลซุ่มยิงอีกด้วย!!
เฉินเป่ยง้างมีดหลงหยาในมือรวดเร็วดั่งสายฟ้า
“ฉิ้ง” มีดหลงหยาทำให้กระสุนแตกเป็นสองท่อน
เย่ชวงอึ้งไป ทำให้กระสุนแตกเป็นสองท่อนอย่างนั้นเหรอ เธอไม่เคยเห็นการกระทำแบบนี้มาก่อน
“รีบไป!!” เฉินเป่ยตวาดออกมา และดึงเย่ชวงวิ่งไปที่รถยนต์มายบัคของตัวเอง
“ปังๆๆๆ” กระสุนถูกสาดออกมาเต็มไปหมด มันน่ากลัวเป็นอย่างมาก พลซุ่มยิงซุ่มอยู่เต็มไปหมด
นี่เป็นการลอบฆ่าที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ถ้าวันนี้ที่นี่มีเฉินเป่ยเพียงคนเดียว เขาสามารถหลบได้อย่างปลอดภัยและไม่ได้รับความสูญเสีย แต่ทว่าตอนนี้มีเย่ชวงอยู่ด้วย เฉินเป่ยจำเป็นต้องปกป้องเธอ
มีดหลงหยาในมือของเฉินเป่ยสะบัดอย่างรวดเร็วและทำลายกระสุนเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง กระสุนที่น่ากลัวถูกกำจัดออกไป
“สวบบ!” กระสุนถูกยิงออกมา เฉินเป่ยมัวแต่จะปกป้องเย่ชวง จึงไม่ทันได้ตั้งตัว
“ฉึบ!” กระสุนเฉี่ยวหัวไหล่ของเขาไป เลือดสีแดงสดไหลออกมา
สีหน้าของเฉินเป่ยเยือกเย็นเป็นอย่างมาก ความอาฆาตพลุ่งพล่านออกมาทันที
เขายกมือขวาขึ้นมา มีดหลงหยาปรากฏออกมา
“โฮกกก” เสียงคำรามของมังกรดังสนั่นไปทั่ว มีดหลงหยาแหวกทะลุอากาศ
“สวบๆๆๆ” เลือดสีแดงสดสาดกระจายไปทั่ว ที่ที่มีดหลงหยาเคลื่อนตัวไปจะต้องมีหัวคนหล่นลงมา
ตอนนี้เฉินเป่ยโมโหเป็นอย่างมาก
เย่ชวงจ้องไปที่ประกายแสงที่เหมือนสายฟ้าสีดำบนท้องฟ้า อาวุธเล่มนั้นมีเสียงคำรามออกมาจริงๆ เหรอ นี่มันสั่นคลอนความรู้พื้นฐานของเธอที่เคยมีมาทั้งหมด
มีดหลงหยาลอยกลับมา เหล่าพลซุ่มยิงกระเด็นตกลงมาบนพื้น และหลงเหลือเพียงเลือดที่เจิ่งนองเต็มพื้น
เฉินเป่ยดึงเย่ชวงพุ่งเข้าไปในรถมายบัค
“ตู้มมม” มีขีปนาวุธถูกปล่อยออกมาเพื่อที่จะทำลายรถยนต์มายบัค
“ขีปนาวุธ!” เย่ชวงสีหน้าซีดเผือด ตอนนี้เธอถึงกับหยุดหายใจและรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย
เฉินเป่ยไม่สนใจ เขารีบกลับหัวรถและเหยียบคันเร่งจนรถมายบัคพุ่งตัวออกไป
“ตู้มมม” ขีปนาวุธลูกนั้นพุ่งมาที่กระจกรถมายบัค แรงมหาศาลระเบิดออกมาและไฟลุกโชนขึ้นมาทันที
เย่ช่วงนั่งอยู่ข้างคนขับ หูของเธอสั่นสะเทือนจากแรงระเบิดที่อยู่ข้างนอกรถ
แต่ทว่าภายในรถกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่เย่ชวงกำลังอึ้ง รถมายบัคก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
เฉินเป่ยขับรถอย่างรวดเร็ว เขายกนาฬิกาดิจิตอลบนข้อมือขึ้นมาโทรหาซูเหลย
“ซูเหลย รีบไปที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปด่วน ไปรักษาความปลอดภัยให้หลีชิงเยียนเดี๋ยวนี้!” น้ำเสียงของเฉินเป่ยแฝงไปด้วยความกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
คนที่อยู่ในสายอย่างซูเหลยรับรู้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้ เธอรีบรับคำสั่งทันที
โรงพยาบาลผู่ตง
หวางอู๋ตี๋นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยมีลูกน้องสองสามคนยืนอยู่หน้าเตียง ลูกน้องแต่ละคนมีมือถืออยู่ในมือ เพื่อควบคุมสงครามจากระยะไกล นี่เป็นการจู่โจมที่น่ากลัว ในที่สุดตระกูลหวังและหวางอู๋ตี๋ก็ลงมือแล้ว
ไม่ต้องเหลือไว้ หวางอู๋ตี๋ได้ใช้แผนล่อเสือออกจากถ้ำ ล่อให้เฉินเป่ยออกไป วันนี้เขาจะต้องลักพาตัวหลีชิงเยียนให้ได้ จากนั้นค่อยเอาบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปมาไว้ในกำมือ
แผนแต่ละขั้นตอน กลยุทธ์แต่ละกลยุทธ์ ถูกวางไว้อย่างดี
ขณะนั้นก็มีสายโทรเข้ามา ลูกน้องรีบยื่นมือถือไปไว้ข้างหูหวางอู๋ตี๋
“คุณชาย เกิดเรื่องไม่ดีแล้วครับ ระเบิดที่ติดตั้งเอาไว้ในโรงงานไม่ทำให้เฉินเป่ยตาย มันพาเย่ชวงขับรถหนีไปแล้วครับ!!” เสียงร้อนรนของลูกน้องดังออกมาจากโทรศัพท์