สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 658 จบ
บทที่ 658 ความลับการฆ่าล้างพันธุ์ (จบ)
เฉินเป่ยไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะมีชื่อเสียงในต่างแดน แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็มาเจอคู่ต่อสู้ที่ฝีมือทัดเทียมกับเขาที่หัวเซี่ย!
ชายหนุ่มมองเฉินเป่ย ถึงเขาจะฝืนยิ้มออกมา แต่เขาเริ่มอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด “แกลองคิดดูสิว่าตอนนั้นแกเชื่อใจใครที่สุดล่ะ..”
มีเสียงกึกก้องดังขึ้นในใจของเฉินเป่ย ตัวของเขาสั่นไปหมด ทันใดนั้นใบหน้าชราและใจดีก็ปรากฏขึ้นมา
“ไม่ใช่เขาหรอก!” เฉินเป่ยกัดฟันและแผดเสียงออกมา
ชายหนุ่มหน้าซีดเผือด “ฉันอยู่เฉยๆ จนมาถึงทุกวันนี้ ก็เพราะต้องการหาคู่ต่อสู้ที่เกิดขึ้นมาใหม่ ถึงแม้ตายก็ไม่เสียใจ…”
ชายหนุ่มพูดจบ ก็เอามือล้วงเหรียญแห่งเกียรติยศออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
เฉินเป่ยก้มหน้าและหยิบเหรียญนั่นมา เหมือนฟ้าผ่าลงมาทันที
ตอนนั้นเขาก็เคยได้รับเหรียญเกียรติยศนี้ที่หัวเซี่ย
ความทรงจำในอดีตผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ดวงตาของเฉินเป่ยถูกแทนที่ด้วยเส้นเลือดสีแดงที่น่ากลัว
เฉินเป่ยก้มหน้าลง ห่างไปไม่ไกลซูเหลยกำลังจ้องเฉินเป่ย ในใจของเธอรู้สึกถึงความหวาดกลัว
อุณหภูมิเย็นยะเยือกลง ความรู้สึกที่เธอได้รับจากเฉินเป่ยยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง
ถ้าชิงเหนียนอยู่ที่นี่ด้วยจะต้องตกใจอย่างมากแน่นอน นี่คือความโกรธของราชาหลง
คนสนิทของราชาหลงต่างพลัดจากที่อยู่ไปอย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว จนถึงทุกวันนี้ราชาหลงก็ยังหาไม่พบ คืนฝนตกในตอนนั้น ราชาหลงเจอกับการชำระแค้นล้างเผ่าพันธุ์ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะคนที่เขาไว้ใจที่สุด!
นี่ทำให้ราชาหลงไม่รู้จะเชื่อ ไม่รู้จะยอมรับอย่างไร
ราชาหลงเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาของเขาแดงก่ำราวกับแววตาของสัตว์ร้าย
“ตู้มๆๆๆ”
พื้นแตกกระจายออกอย่างรุนแรง เฉินเป่ยหันขวับไปที่หน้าต่างที่แตกเป็นโพรง เขาเด้งตัวขึ้น
“อย่า!”
หลีชิงเยียนกำลังจะกระโจนเข้าไป แต่ทว่าถูกซูเหลยรั้งเอาไว้
เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปใกล้ ก็ไม่พบร่องรอยของเฉินเป่ยแล้ว
สถานที่แห่งหนึ่งในเมืองหู้ไห่
ภายในรถเก๋งโฟล์คสวาเกนแซนทาน่าธรรมดาทั่วไป มีชายสวมหมวกแก๊ปที่ดึงลงมาต่ำปิดหน้านั่งอยู่ตรงเบาะหลัง เสียงดังขึ้นมา ไฟแช็กในมือของเขาถูกจุดขึ้นจนไฟลุกขึ้นมา
เขาต้องการจะจุดบุหรี่ แต่จู่ๆ เปลวไฟที่ไฟแช็กก็ถูกเป่าจนดับ
เขาเงยหน้าขึ้นมา
คนยังไม่ทันมาถึง แต่ก็เกิดการกระทำขึ้นแล้ว
ในที่สุดก็มาแล้วสินะ
ภายในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจ ร่างของใครบางคนที่มาพร้อมกับแรงอาฆาตก็ปรากฏขึ้นไม่ห่างจากรถโฟล์คสวาเกนแซนทาน่า
เขาไม่ได้หันไปมอง แต่สัมผัสได้ เขาเปิดประตูลงจากรถ
ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นและอยู่ในสายตาของเฉินเป่ย ใบหน้าอันแก่ชรา
ใบหน้าอันแก่ชราที่คุ้นเคย คุ้นเคยจนทำให้เฉินเป่ยเจ็บปวดขึ้นมาในใจ เจ็บจนไม่อยากจะเชื่อ
“ใครจะไปเชื่อว่าในรถคันไม่ถึงแสนจะมีคนแบบไหนนั่งอยู่” ชายชราหัวเราะเยาะตัวเอง
“ผมควรจะเรียกคุณว่าหัวหน้าหรือศัตรูดีล่ะ” ดวงตาของเฉินเป่ยแดงก่ำ มีดหลงหยาที่อยู่ในมือกำลังสั่นราวกับรับรู้ได้ถึงความโกรธของเฉินเป่ย
“ฉันเป็นหัวหน้าและฉันก็เป็นศัตรู ฉันมีงานมากมาย หัวหน้าก็เป็นหนึ่งในงานของฉัน” หัวหน้าพูดเนิบๆ น้ำเสียงของเขาราบเรียบจนผิดปกติ
“ผมหาฆาตกรในตอนนั้นมาตลอด ผมจินตนาการถึงตอนที่พบเขาเอาไว้มากมาย ผมอยากรู้ว่าทำไมผมต้องโดนฆ่ายกครัวด้วย” เฉินเป่ยถามขึ้น
“น่าเสียดาย ที่นายจะไม่มีวันรู้ความลับนี้” หัวหน้าหัวเราะ
“ผมมีวิธีมากมายที่จะทำให้คนเปิดปากพูด ยิ่งไปกว่านั้น ผมสามารถทำให้คนอยากตายเร็วๆ อีกด้วย” ความบ้าคลั่งฉายออกมาทางแววตาของเฉินเป่ย เขาพุ่งเข้าไปหาหัวหน้า
“สวบ!”
ภายในพริบตา เฉินเป่ยก็ไปปรากฏตัวตรงหน้าของหัวหน้า มีดหลงหยาพาดผ่านลำคอของหัวหน้า
มันเร็วจนไม่สามารถบรรยายออกมาได้ แต่ความเร็วของหัวหน้าเหนือกว่าเฉินเป่ย ตอนที่เฉินเป่ยพุ่งเข้ามาหาหัวหน้า หัวหน้าก็หายตัวไปแล้ว
“ผัวะ!”
หัวหน้าปรากฏตัวขึ้นข้างหลังของเฉินเป่ย เขาถีบเฉินเป่ยจนกระเด็นออกไป
“ไม่แสดงออกเพราะกลัวจะเจอจุดอ่อน เป็นสิ่งที่คนมีตำแหน่งมั่นคงมักจะทำกัน นายคิดว่าฉันมีแค่วิธีกระจอกๆ พวกนั้นเหรอ” หัวหน้าแสยะยิ้ม
“คุณก็ใช้ยานั่นเหรอ” เฉินเป่ยหันไปมองหัวหน้า “ตอนนี้พื้นฐานร่างกายของเราเกินขีดจำกัดของมนุษย์ที่ควรจะมี”
“ยามันก็แค่สิ่งช่วยเสริม ถ้าร่างกายของเรามีปณิธานที่แน่วแน่พอ ถึงจะไม่ใช้ยาก็สามารถไปถึงจุดนั้นได้” หัวหน้าพูดเนิบๆ “พูดไปพูดมา ถ้าพ่อของนายไม่ตายอย่างน่าเวทนา ฉันก็คงจะไม่ได้ยานี้!”
“อ๊ากกกก” คำพูดของหัวหน้าแทงทะลุหัวใจของเฉินเป่ย ดวงตาของเฉินเป่ยดุร้ายขึ้นมาทันที มีดหลงหยาในมือพุ่งออกไป
หัวหน้าโยกตัวหลบได้อย่างง่ายดาย แถมยังยื่นมือออกไปคว้ามีดหลงหยามาไว้ในมือ
“พรึบ”
หัวหน้าปรากฏตัวข้างหลังของเฉินเป่ยอย่างน่าประหลาดใจ มีดหลงหยาพุ่งเข้าไปแทงที่หน้าอกของเฉินเป่ย
“อ๊ากก” เฉินเป่ยกระอักเลือดออกมา เขาหายใจไม่สม่ำเสมอ
“ลูกน้องของฉันมีเพียงวิญญาณเท่านั้น” เสียงของหัวหน้าดังอยู่ข้างหู
เฉินเป่ยเอามือยันพื้น ลมหายใจของเขาอ่อนแรง
“ราชาหลงที่มีชื่อเสียงโด่งดังในต่างแดน มาตายในมือของฉัน ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไป กลัวว่าทิศตะวันตกจะวุ่ยวายขึ้นมาน่ะสิ” หัวหน้ามองเฉินเป่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ถ้าจะให้ผมตายก็ต้องให้ตายอย่างชัดเจน” เฉินเป่ยกัดฟัน และฝืนเงยหน้าขึ้นมามองหัวหน้า
หัวหน้าอึ้งไป จากนั้นจึงถอนหายใจออกมา “ช่างเถอะ ในเมื่อนายกำลังจะเป็นคนที่ใกล้ตาย ฉันบอกให้ก็ได้..”
“นายก็รู้ว่ายาที่ฉันกับนายใช้เป็นยาที่พ่อของนายค้นพบ แต่การที่ทำลายขีดจำกัดของมนุษย์ พอนายรู้เห็นกว้างขวาง หลังจากที่ค้นพบในตอนนั้นก็ทำให้เกิดการสั่นคลอนไม่น้อย ฉันได้รับคำสั่งมาว่าจะต้องเอายานั่นมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”
“หากสามารถวิเคราะห์ส่วนผสมภายในออกมาได้ และผลิตมันขึ้นมาเป็นจำนวนมาก นายก็รู้ถึงผลดีผลเสียของมัน…” หัวหน้าพูดเนิบๆ “ฉันบอกไปแล้วว่าหัวหน้าเป็นแค่งานของฉัน แต่งานที่สำคัญของฉันคือเฉันสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อหัวเซี่ย ฉันเกลี้ยกล่อมพ่อนายแล้ว แต่พ่อของนายรู้ถึงภัยของยานี้ดี ไม่เพียงแค่ขีปนาวุธที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันจึงทำได้เพียงใช้วิธีที่แข็งแกร่ง”
“ต่อจากนั้น คุณก็ส่งคนมาทำลายคนทั้งตระกูลเฉิน เพื่อที่จะเอายาพวกนั้นไปเหรอ” เฉินเป่ยสั่นไปทั้งตัว มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเสียงสั่นจากความหนาว
หัวหน้าพยักหน้า “นี่คือการกระทำที่ไม่ยอมรับในครั้งแรก แต่พ่อของนายชิงทำลายยาส่วนใหญ่ไปเสียก่อน พวกเราจึงได้ยามาเพียงส่วนน้อยเท่านั้น อีกทั้งเทคโนโลยีของพวกเราในตอนนี้ มันไม่สามารถทำขึ้นมาใหม่ได้อีก”
“งั้นชิงเหนียนก็ใช้ยานี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ” เฉินเป่ยถาม ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง การที่ชิงเหนียนแข็งแกร่งเช่นนี้ เพราะใช้ยานั่นอย่างแน่นอน
หัวหน้าพยักหน้าและถอนหายใจ “ถ้าพ่อของนายเป็นฝ่ายส่งยานั่นมา คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้”
จู่ๆ เฉินเป่ยก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง รอยยิ้มของเขาเย็นชาและบ้าคลั่ง
“นายหัวเราะอะไร” หัวหน้าใจกระตุกวูบ เขารู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี
“ผมกำลังขำว่า ถ้าพ่อของผมส่งยาให้ คุณก็ไม่ปล่อยครอบครัวเราไปหรอก” เฉินเป่ยมองหัวหน้า “ผมยังขำอีกว่าลูกน้องของคุณน่าขำสิ้นดี พวกเขาวางยาผม ทำในสิ่งที่รู้ดีอยู่แล้ว…”
“นาย…” สีหน้าของหัวหน้าเปลี่ยนไป เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ลมหายใจของเขาอ่อนลง “นายวางยาตอนไหน”
“คุณเป็นหัวหน้าไม่ใช่หรือไง ขนาดลอบฆ่ายังไม่รู้ว่าทำยังไงเหรอ” เฉินเป่ยมองหัวหน้า
“ถึงนายจะฆ่าฉัน คนที่ใช้ยายังมีอีกมากมาย พวกเขาจะต้องตามหาต่อไป และไม่ปล่อยนายไว้แน่” หัวหน้ากัดฟันกรอด
“คุณวางใจเถอะ ผมจะจัดการมันทีละคน ทีละคนจนหมด!” น้ำเสียงของเฉินเป่ยเย็นชา มีดหลงหยาในมือสั่นขึ้นมา
ดวงตาของหัวหน้ามืดลง เลือดสาดกระจายไปทั่ว
“ข่าวใหญ่ เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเมืองหู้ไห่…”
ในคฤหาสน์ตระกูลหลี เขานอนพิงอยู่ในอ้อมอกของหลีชิงเยียน และดูข่าวที่ผู้สื่อข่าวกำลังรายงานอยู่ในทีวี ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
“นี่นายทำอีกแล้วใช่ไหม” หลีชิงเยียนถามขึ้น
“ผมจะทำได้ยังไงกัน ตอนนั้นผมกำลังซักผ้าลูกไม้สีดำตัวนั้นให้คุณภรรยา…”
“หยุด!” ใบหน้าสวยของหลีชิงเยียนแดงระเรื่อ
“อีกสามวันก็จะต้องไปทำความสะอาดหลุมศพของพ่อแม่นายแล้วสินะ”
“ตอนนี้นายควรจะบอกว่านายเจออะไรมาบ้าง และนายชื่ออะไรกันแน่” หลีชิงเยียนเอ่ยขึ้น
“ผมเป็นคนที่เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ในโลกนี้ผมชื่อเฉินเป่ย”
“นายบอกว่านายยังมีเหล่าพี่น้อง แล้วก็ยังมีลูกน้องที่ไว้ใจที่สุดด้วย นายแน่ใจเหรอว่าจะไม่พาฉันไปหาพวกเขา”
“ไปหาทำไมล่ะ ไอ้พวกนั้นเป็นผู้ชายที่ไม่เคยเจอผู้หญิงสวยๆ ถ้าพวกนั้นเจอภรรยาของผม มันต้องเรียกคุณว่าพี่สะใภ้ และเข้ามาเลียแข้งเลียขาคุณอย่างแน่นอน”
“แล้วพวกลูกน้องที่นายไว้ใจที่สุดล่ะ เมื่อวานมีผู้หญิงโทรมา เธอคงคิดถึงนาย”
“แค่ก แค่ก โทรผิดแน่นอน”
“โทรผิดแล้วทำไมถึงเรียกชื่อนายได้ล่ะ” สีหน้าของหลีชิงเยียนเต็มไปด้วยความสงสัยและเย็นชา
“โอ๊ยๆ อย่าหยิกหูผมสิ เจ็บๆๆๆ” เฉินเป่ยขบฟันเพราะความเจ็บปวด
“คืนนี้ไสหัวไปนอนบนพื้นซะ!”
(จบ