สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 70
ตอนที่ 70 พิชิตหู๋ไห่!
สายตาของหลีหงจ้องมองไปที่หลังของเฉินเป่ยอย่างใกล้ชิด ลึกเข้าไปในดวงตาของเขาความแหลมคมค่อยๆก่อตัวขึ้น
ความรู้สึกที่เฉินเป่ยให้เขามันคุ้นเคยมาก … แต่ว่า เขาคิดไม่ออกสักที
เฉินเป่ยนั่งอยู่ตรงหน้า หลีหง ออร่าที่มองไม่เห็นได้ส่งออกมาจากตัวของหลีหง ปกคลุม เฉินเป่ยไว้ ด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็นราวกับภูเขาที่ทับเขาอยู่
ดวงตาของเฉินเป่ยสงบ เขามองตรงไปที่ หลีหง หลีหงอยู่ที่พรรคการเมือง อยู่ในตำแหน่งที่สูงมาเป็นเวลานาน เขาจึงมีแรงกดขี่ออกมาโดยธรรมชาติ แต่ดูเหมือนว่าไม่มีผลใดๆกับเฉินเป่ย
“ ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้อย่างกะทันหันละ?” เฉินเป่ยยิ้มเบา ๆ
“ชิงเยียนเป็นหลานสาวของผม แม้ว่าผมจะทำตัวเหินห่างจากเธอเพราะเรื่องบางอย่าง แต่ผมก็ถือว่าเธอเป็นหลานของผมเอง ผมยอมไม่ได้ ที่จะให้ผู้ชายจากไหนก็ไม่รู้มาปรากฏตัวข้างๆเธอ” หลีหงเอ่ยปากพูดจางๆ
เฉินเป่ยครุ่นคิด “คุณพูดถูก”
“ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณถูกแนะนำมาจากเพื่อนของผม แต่ผมก็รู้ว่าตัวตนของคุณนั้นไม่ธรรมดา … แต่ผมก็ยังอยากแน่ใจว่า คุณไม่ได้คิดร้ายกับเธอ” หลีหงพูดช้าๆ หยิบกาน้ำชาขึ้นมาอย่างเบามือและเทน้ำชาสองถ้วย
เฉินเป่ยยิ้ม“ ทำไมตอนนั้นคุณไม่พูดแบบนี้กับผมละ”
หลีหงครุ่นคิด ความจริงแล้วตอนนั้นหลีหยางขอให้หลีหงรับสมัครชายที่ดีเยี่ยม เพื่อหาลูกเขยให้ตระกูลหลี … ต่อมาเพื่อนในพรรคการเมืองของหลีหงได้แนะนำเฉินเป่ยให้เขา ซึ่งเป็นทหารรับจ้างที่กลับมาจากต่างประเทศ ตอนนั้นเขาไม่คิดเรื่องนี้อย่างละเอียด จึงตอบตกลง
แต่ใครจะรู้ว่า จุดประสงค์ของหลีหยางและหลีชิงเยียนนั้น เป็นเพราะสัญญาการแต่งงานของหลีเช่าเทียน … หลังจากที่หลีชิงเยียนแต่งงานได้ไม่นาน หลีหงก็ส่งคนไปตรวจสอบรากเหง้าของเฉินเป่ย แต่ … ไม่พบอะไร!
หลีหง ได้ส่งยอดนักสืบที่เก่งกาจที่สุดออกไปรวมถึงเส้นสายของหลีหงกว้างขวาง แม้แต่แมลงวันก็สามารถพบได้ในที่ที่มันฟักออกมา
แต่ตอนนี้ เกี่ยวกับประสบการณ์ในอดีตของเฉินเป่ย กลับไม่พบข้อมูลใด มันว่างเปล่า!
ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต ราวกับว่าเฉินเป่ยไม่มีอยู่จริงในโลกใบนี้ … ไม่มีหลักฐานพิสูจน์การมีอยู่ของเขา
หลีหงจ้องไปที่เฉินเป่ย ตัวตนของเฉินเป่ย ตั้งแต่นั้นมา ก็กลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนขึ้นมาทันที
“เท่าที่ผมรู้ ด้วยฝีมือของคุณ หากคุณต้องการทำร้ายหลานสาวของผม ไม่ต้องรอถึงสามเดือน … แต่ ผมยังไม่รู้ว่า ทำไมคุณถึงยอมอยู่เคียงข้างลูกสาวผม … ” หลีหงเอ่ยปากพูดเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเฉินเป่ย … แต่ เขารู้สึกว่าเพื่อนของเขาจะไม่ทำร้ายเขา
“ คุณรู้หรือไม่ว่าการลอบสังหารที่เกิดขึ้นที่ทางเข้าของอาคารตระกูลหลีเมื่อครั้งก่อน?” เฉินเป่ยพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มช้าๆ
“ผมรู้” หลีหงพยักหน้า “ต้องการให้ผมส่งคนไปตรวจสอบหรือไม่?”
“ไม่จำเป็น” เฉินเป่ยส่ายหัว เขาส่งคนไปตรวจสอบเมื่อนานมาแล้ว แต่ผลสุดท้ายก็มีเพียงเบาะแสที่นายจ้างมาจากเยี่ยนจิง … ให้ หลีหงไปตรวจสอบ ยิ่งไม่ได้อะไร
“มีหลายคนที่ต้องการลอบสังหารหลานสาวของคุณเยอะมาก การลอบสังหารครั้งนั้น … เป็นเพียงหนึ่งในนั้น” เฉินเป่ยพูดอย่างลึกล้ำ
ร่างกายของหลีหงสั่น สายตาของเขามองไปที่เฉินเป่ยซึ่งฉายแววเฉียบคม“ ทำไม?” “ท่าเรือและสนามบินของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป เข้าใจหรือยัง?” เฉินเป่ยลุกขึ้น มองดูหลีหงที่จมอยู่ในความคิดและพูดเบาๆว่า “หลานสาวของคุณถูกล้อมรอบไปด้วยอันตรายแม้แต่กองกำลังจากต่างประเทศบางส่วนก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหว เรื่องเหล่านี้ ไม่มีบอกคุณไช่ไหม?”
“มันไม่สำคัญว่าผมเป็นใคร … สิ่งสำคัญคือ ตอนนี้หลานสาวของคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย” น้ำเสียงของเฉินเป่ยเรียบสงบ เขาหันหลังและเดินไปที่ประตู “เดี๋ยวก่อน” หลีหงเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม”ถ้าชิงเยียนไม่เป็นอะไร ผมจะขอบคุณด้วยรางวัลใหญ่” เฉินเป่ยหยุดและยิ้ม”ไม่จำเป็น ผมแค่มาตอบแทนบุญคุณคนๆหนึ่ง”
ทันทีที่เสียงนั้นลดลงหลีหงก็เหลือบไปมองไปที่ด้านหลังของเฉินเป่ย ดวงตาของเขาลึกล้ำและไร้ขอบเขต “หนี้บุญคุณ … ” หลีหงขมวดคิ้วและครุ่นคิด แต่จำไม่ได้สักทีว่าเฉินเป่ยเคยเป็นหนี้บุญคุณเขาเรื่องอะไร
การจ้องมองของหลีหงหล่นลงบนหลังของเฉินเป่ย ทันใดนั้น โครงหน้าที่คุ้นเคยทำให้ความทรงจำของหลีหงกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน
ร่างกายของหลีหงสั่นสะท้าน การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปทันที ราวกับว่าเขากำลังระลึกถึงบางสิ่งบางอย่าง ดวงตาที่มองไปที่ด้านหลังของเฉินเป่ยก็ตกตะลึงอย่างมาก
“เป็นไปได้ยังไง … เหมือนมากเกินไปแล้ว … คิดไม่ถึงว่าจะเหมือนขนาดนี้ … ” แขนของหลีหงที่ถือถ้วยน้ำชาสั่นสะท้าน ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงคนๆหนึ่งขึ้นมา นั่นคือหลังที่คล้ายกันมาก
คน ๆ นั้น เป็นตำนานที่ทำให้ตะวันตกกลายเป็นความมืดในต่างแดนสั่นสะเทือนพอสมควร
เขา ทำให้ประมุขของประเทศต่างและขุนศึกจากนานาชาติกลัวหนัก
ในปีนั้น ด้วยความบังเอิญ หลีหงได้รู้จักโดยบังเอิญ มีความประทับใจแรกที่ลบไม่ออก
แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือลูกเขยของตระกูลหลี ต่างจากบุคคลที่น่ากลัวอย่างสิ้นเชิง
เป็นไปไม่ได้ที่มีคนจะเชื่อมโยงสองคนนี้เข้าด้วยกัน ความแตกต่างนั้นมากเกินไป
เมื่อหลีหงมองอีกครั้ง ร่างของเฉินเป่ยก็หายไปและไม่รู้ว่าเขาไปไหนแล้ว
หลีหงหายใจเข้าลึก ๆ และค่อยๆหายใจออกยาว ๆพยายามสงบสติอารมณ์
ต้องเป็นเพราะตาตนเองพร่ามัว คนใหญ่คนโตคนนั้น อยู่สูง เขายอมลดตัวลงมาได้ยังไง … เป็นเพราะตนเองแก่แล้วสายตาเริ่มมัว ตนเองเคยเห็นใบหน้าของคนๆนั้นกับตา ไม่ใช่คนเดียวกันเลย
หลีชิงเยียนจะเก่งแค่ไหน แต่เธอก็เป็นแค่คนที่ถูกผู้คนในเมืองเล็กๆของหู๋ไห่ชื่นชมเท่านั้น ส่วนท่านนั้น เป็นตำนานในต่างประเทศทั้งหมด
เมื่อหลีหงคิดได้ เหงื่อแตกและเสื้อผ้าของเขาก็เปียกโชก
หัวใจของ หลีหงสั่นสะท้าน เขาอยู่ในพรรคการเมืองมาหลายปี ได้เห็นโลกที่ภายนอกมากมายนับไม่ถ้วน เขาได้พัฒนาจิตใจที่สงบไม่ว่าจะพบอะไร แต่เมื่อกี้ เขากลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากที่ เฉินเป่ยเดินออกจากห้องประชุมไม่นาน ป้าใหญ่และป้าสองก็รีบเข้ามาถามหลีหงว่า “พ่อ คุณคุยอะไรกับเขา ดูลึกลับ … ”
“ ผมแค่ถามว่าใบสั่งยาที่เขาเขียน มาจากไหน” หลีหงพูดจางๆ โดยไม่บอกความจริง
“เขาอธิบายอย่างไร” ดวงตาของหลีเช่าเทียนเย็นชา
“พูดเหมือนก่อนหน้านี้ หมอชราคนหนึ่งได้บอกเขาไว้” หลีหงพยักหน้า
“ฮึ่ม ฉันว่านะ เขาจะไปรู้อะไร ก็แค่แมวตาบอดได้พบกับหนูที่ตายไปแล้ว ทำให้เขาคว้าโอกาสนี้ไว้ได้” ป้าพูดอย่างเย็นชา
“คนโง่มีโชคของโง่ๆ เขาโชคดี แต่ครั้งต่อไป โชคจะไม่ดีเหมือนแบบนี้ก็ได้” ป้าสองกล่าว “ถังเต๋อยังไม่ได้ขอบคุณเขาตัวต่อตัว ถึงตอนนั้นนั้นเขาก็จะแสดงความโง่ของตนเองออกมาเองโดยธรรมชาติ ไม่รู้ทำเป็นรู้ ถังเต๋อจะต้องรังเกียจแน่นอน”
ทันใดนั้น รองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งก็เดินเข้ามาจากด้านนอกห้องประชุม จากนั้นร่างสูงก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูห้องประชุม ใบหน้าที่ขาวบริสุทธิ์บวกกับเครื่องแบบกระโปรงสั้นทรงเสน่ห์ คนนี้ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นเลขาหลินเฉว่!
“ ถ้าทุกคนมีความต้องการ ท่านประธานหลีให้ฉันพาพวกคุณไปเยี่ยมชมบริษัท ” หลินเฉว่ยยิ้มอย่างอ่อนหวาน ภูเขาที่สวยงามก็สูงขึ้นต่ำลงตามลมหายใจของเธอ
“ ต้องการแน่นอน ยังไงต่อไปเช่าเทียนก็ต้องมาปกครองดูแลตระกูลหลี ทางที่ดีก็ควรทำความคุ้นเคยกับมันก่อนดีกว่า” ป้าใหญ่ยิ้มและกล่าว ทำให้เลขาหลินคนสวย ใบหน้าชะงัก
ดูแล … ตระกูลหลี? หลินเฉว่ไม่เข้าใจ นี่คือสิ่งที่ญาติของประธานหลีควรพูดออกมาหรือ?
“ ดูหน่อยก็ดี” หลีเช่าเทียนพยักหน้า ดวงตาของเขาลึกล้ำและสงบ เขาก้าวออกไป เหมือนมังกรและเสือก้าวออกไปด้วยแรงผลักดันที่ท่วมท้น
ในฐานะคุณชายหลีในเมืองเยี่ยนจิง ความหยิ่งผยองที่มีอยู่ในตัวของเขากำลังเบ่งบานในขณะนี้จนหมด!
เขา เกิดเป็นกษัตริย์ มาที่หู๋ไห่ เดิมทีก็เพื่อปกครองดูแลตระกูลหลี ครอบครองท่าเรือและสนามบินในหู๋ไห่!
เดิมทีเขาต้องการที่จะสยบหลีชิงเยียน จากนั้นได้อำนาจดูแลตระกูลหลีโดยผ่านการแต่งงาน … แต่เขาคิดไม่ถึงว่าหลีชิงเยียนไม่รักดี กลับเพิกเฉยต่อการเลื่อนตำแหน่งและไม่ยอมรับข้อเสนอของเขา จากนั้นเขาก็ทำได้เพียง … ทีละขั้น… พิชิตหลีชิงเยียน พิชิตเมืองหู๋ไห่!
เมื่อเฉินเป่ยผลักเปิดประตูห้องปรธานออก เมื่อเดินเข้าไปเห็นหลิชิงเยียนนั่งอยู่ในห้องทำงานของประธาน เฝ้าดูเขาอย่างเย็นชา
เฉินเป่ยชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็รู้สึกผิดเล็กน้อยและฝืนยิ้ม“ ท่านประธานหลี หาผมมีธุระอะไรหรือ?”
“นั่งลง” หลีชิงเยียนเอามือกอดอก แสงเย็นชาฉายออกมาจากดวงตาที่สวยงามของเธอ
หลังจากที่เฉินเป่ยนั่งลงบนโซฟา หลีชิงเยียนก็ถามอย่างเย็นชาว่า “ตกลงว่าคุณรู้เรื่องแพทย์ไหม?”
“ผม…ผมรู้นิดหน่อย” เฉินเป่ยยิ้มอย่างประจบ
“ แล้วทำไมโรคที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษาไม่หาย ทำไมคุณสามารถเขียนใบสั่งยาออกและรักษาได้ โดยที่คุณรู้นิดหน่อยก็เก่งขนาดนี้แล้วเหรอ? “หลีชิงเยียนยกมุมปากขึ้นมีท่าทีเยาะเย้ยเล็กน้อย
“ตอนนั้นผมกำลังเล่นหมากรุกกับหมอจีนชราในสวนสาธารณะ หมอชราคนหนึ่งได้พบกับคนไข้ ผมก็ดูใบสั่งยาที่เขาจดไว้ เขาบอกว่าใบสั่งยานั้นตกทอดมาจากบรรพบุรุษ … ผมความจะดีจึงจดจำไว้ได้ ” เฉินเป่ยอธิบาย
“โชคดีที่คุณโชคดี ดีนะที่คนป่วยไม่ได้ถูกคุณรักษาจนตาย ไม่เช่นนั้นตระกูลหลี่จะต้องพังพินาศ!” หลีชิงเยียนขี้เกียจไปไล่ถามอีก หายใจออกยาวๆ ท่าทางดูเหมือนแม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านไปแล้วแต่ก็ยังหวาดผวา หวาดกลัวอยู่ดี
“คนนั้น ภูมิหลังของเขาใหญ่มากเหรอ?” สีหน้าเฉินเป่ยดูสงสัย ทำหน้าเหมือนไม่รู้อะไรเลย
“แน่นอน คุณไม่สามารถจินตนาการถึงสถานะของเขาได้เลย” สีหน้าหลีชิงเยียนเผยความเกรงกลัวออกมา”โชคดีที่คุณได้ช่วยเขาไว้ ไม่ได้ทำร้ายเขา”
“ งั้นคงดีต่อการยกระดับสถานะของคุณในตระกูลหลีใช่ไหม?”เฉินเป่ยถาม
หลีชิงเยียนพยักหน้า ทันใดนั้นเหมือนนึกขึ้นได้บางอย่าง มองไปที่เฉินเป่ย”คุณหมายถึงอะไร?”
“ ก็ไม่ได้อะไร ผมแค่อยากช่วยให้คุณได้รับตำแหน่งในตระกูลหลี มีศักดิ์ศรีและไม่ต้องอับอายขายหน้าและถูกเยาะเย้ยอีกต่อไป” สีหน้าเฉินเป่ยดูสงบและจริงจัง ทำให้ใบหน้าสวยงามของหลีชิงเยียนเหม่อเล็กน้อยในตอนนั้น
วินาทีนั้น แม้แต่หลีชิงเยียนเองก็ไม่ได้สังเกตเห็น ว่าหัวใจของเธอกระตุกอย่างรุนแรงไปหนึ่งครั้ง คำพูดของเฉินเป่ย สัมผัสเธอเป็นครั้งแรก
แม้แต่หางตาของเธอ ก็ชื้นเล็กน้อย
ในชีวิตของเธอ เฉินเป่ยเป็นคนแรกที่เต็มใจช่วยเหลือเธอ ตระกูลหลีได้กดขี่เธอและ หลีหยางมานานกว่า 20 ปีแล้ว … ไม่มีใครลุกขึ้นยืนและพูดเพื่อเธอกับหลีหยางพ่อของเธอ
แต่ตอนนี้ มีหลานเขยที่แต่งเข้ามาที่ใครๆก็ดูถูกก้าวออกมา และโจมตีศัตรูกลับเพื่อเธอ