สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 72
บทที่72 ยืมมีดฆ่าคน
อากาศ……แข็งตัวฉับพลัน
หลีชิงเยียนกอดหน้าอกไว้ จ้องมองถังเต๋อ แล้วคิ้วดำขมวดขึ้น
และซูเสี่ยวหยุนที่อยู่ด้านข้าง ดวงตางามเซ็กซี่มีเสน่ห์กำลังมองทางหลีเช่าเทียน กะพริบตาเบาๆ อย่างไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
ตอนแรกเธอคิดว่าถังเต๋อเพียงแค่ขอบคุณที่เฉินเป่ยช่วยชีวิตเอาไว้เท่านั้นเอง ดังนั้นถึงเชิญพวกเขาเข้าร่วมงานเลี้ยงส่วนตัวที่หรูหราครั้งนี้
แต่ใครก็คาดไม่ถึงว่าถังเต๋อยังเชิญชวนหลีเช่าเทียนและทุกคนในตระกูลหลี นี่หมายความว่าอะไร?
บรรยากาศเงียบสงบ เหลือเพียงเสียงสะท้อนรองเท้าหนังของหลีเช่าเทียนเหยียบลงบนพื้น นับวันยิ่งดังขึ้น
หลีเช่าเทียนค่อยๆ เดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร มองเห็นหลีชิงเยียนและเฉินเป่ยที่สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไร ใบหน้าหล่อเหลาประกายอมยิ้มที่ล้ำลึก ก่อนจะพูดขึ้น “รบกวนทุกท่านแล้ว ผมนึกไม่ถึงว่าคืนนี้คุณท่านถังเชิญพวกเรามาด้วย กระผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
หลีชิงเยียนกอดหน้าอกไว้ ใบหน้างดงามราวกับเจียระไนจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของหลีเช่าเทียนอย่างเย็นเฉียบ ระดับความรู้สึกดีต่อหลีเช่าเทียนในใจเธอ ลดลงจนถึงจุดศูนย์
เฉินเป่ยหันหน้ามองทางถังเต๋อ ยกมุมปากแฝงความหมายอันธพาลขึ้น “นี่คุณท่านถังกลัวว่าคนน้อยแล้วจะเงียบเกินไปเหรอ? ถ้าคุณท่านถังชอบความคึกคัก บอกผมสักหน่อยก็ได้ ผมรับรองว่าจะเรียกสาวที่รูปร่างตรงตามใจมาให้คุณท่านถังได้ผ่อนคลายสบาย”
คุณท่านถังสีหน้าครุ่นคิด หัวเราะฮาๆ “ทั้งสองท่านเข้าใจผิดแล้ว ที่ให้คุณชายหลีมาด้วย เป็นความคิดของหลีหงเพื่อนผมคนนั้น……พรรคการเมืองมีเรื่อง เขาต้องกลับไปจัดการชั่วคราว หลีหงเลยให้ผมเชิญพวกคุณมาในงานเลี้ยงส่วนตัวนี้ บอกว่าพวกคุณเคยเกิดเรื่องเข้าใจผิดกันบางอย่าง……ไม่จำเป็นต้องแข็งอยู่ตลอด กินข้าวมื้อนี้แล้ว จากนี้ไปเป็นครอบครัวเดียวกัน”
ดวงตางดงามของหลีชิงเยียนหนาวเย็น เข้าใจผิด? เธอรู้เจตนาของหลีหงอย่างชัดเจน แต่เธอจะยอมขจัดไปขนาดนี้ได้อย่างไร ตระกูลหลี……ที่เต็มไปด้วยการวางแผนโค่นกันและกันนั้น แสนเย็นยะเยือกนั้น เธอไม่อยากกลับไปอีก ถ้าไม่ใช่เพราะความขัดแย้งภายใน……เธอจะตามบิดาหลีหยางมาที่เมืองหู้ไห่ได้อย่างไร
เธอตัดใจจากตระกูลหลีที่เยี่ยนจิงตั้งนานแล้ว สามารถพูดได้ว่าเธอเกือบจะกลายเป็นศัตรูของตระกูลหลี เป็นไปได้อย่างไรที่คำพูดประโยคเดียวของคุณท่านถัง จะทำให้ทั้งสองฝ่ายวางความแค้นลงได้
“เข้าใจผิด……” ดวงตาทั้งคู่ของชงหลีเช่าเทียนลึกล้ำคล้ายดาบกวาดมองเฉินเป่ยกับหลีชิงเยียน มุมปากฉีกเส้นรัศมีวงกลมขึ้น “ผมกับชิงเยียนเกิดความเข้าใจผิด ที่จริงค่อนข้างมาก ถ้าชิงเยียนวางลงได้ ผมย่อมไม่คิดเล็กคิดน้อยแน่”
“คุณ……” ใบหน้างดงามสง่าผ่าเผยของหลีชิงเยียนแข็งทื่อ น้ำเสียงหลีเช่าเทียนเรียบเฉยไม่สนใจ……ราวกับเรื่องในอดีตทั้งหมดนั้นล้วนเป็นหลีชิงเยียนที่ทำ
“เอาล่ะๆ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว รีบนั่งลงกัน ชิมฝีมืออาหารพวกนี้หน่อย” ถังเต๋อหัวเราะฮาๆ ทำลายบรรยากาศที่กระอักกระอ่วน
พวกหลีเช่าเทียนมานั่งแล้ว โต๊ะอาหารแถวยาวกว้างใหญ่ตัวหนึ่ง จัดวางอาหารที่ประณีตงดงาม อาหารพวกนี้ราคาแพง……ถึงแม้หลีชิงเยียนจะทานอาหารชั้นหนึ่งจนเคยชิน ทว่าตอนที่เห็นอาหารเหล่านี้ ใบหน้างดงามยังเกิดความประทับใจ
เพราะถังเต๋อเชิญพ่อครัวชั้นเลิศระดับประเทศจากเยี่ยนจิงมาแล้ว! พ่อครัวชั้นเลิศท่านนั้นเคยทำอาหารงานเลี้ยงระดับประเทศนับครั้งไม่ถ้วน อาหารที่ทำออกมาย่อมเป็นอาหารชั้นยอดในรายการอยู่แล้ว!
ถึงแม้จะเกิดในตระกูลผู้ดีที่หู้ไห่ เธอก็ถูกหลีหยางเลี้ยงให้เป็นไข่ในหินตั้งแต่เด็ก นี่เป็นครั้งแรกที่โชคดีได้ลิ้มรสอาหารชั้นเยี่ยมแบบนี้
ส่วนเฉินเป่ยที่อยู่อีกข้าง เห็นได้ชัดว่าไม่มีมารยาทบนโต๊ะอาหารสักนิด มือซ้ายขวาเริ่มทำงาน กินดื่มยกใหญ่ ไม่มีกิริยามารยาทท่าทางงดงามเลยสักนิดเดียว……
ภายในโถงงานเลี้ยงเฉกเช่นสังคมระดับสูงแห่งนี้ มีเพียงเฉินเป่ยที่เหมือนสัตว์ป่าหยาบคายคนเดียว ซึ่งดึงดูดสายตาทุกคนตระกูลหลีได้อย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นป้าใหญ่ก็เอ่ยปาก ทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบลงก่อน “ชิงเยียน สามีเธอกินข้าวแบบนี้เหรอ?”
หลีชิงเยียนหันหน้า มองเห็นเฉินเป่ยไม่มีท่วงท่าที่สง่างามใดๆ เลย มือซ้ายจับขาไก่ไว้ มือขวาถือช้อนซุป ซดน้ำแกงแบบซู๊ดๆ
แม้แต่ตอนที่กินน่องไก่ยังปากขยับจั๊บๆ กินอย่างดูไม่ดีที่สุด
“ชิงเยียน ถึงแม้พ่อเธอกับบ้านหลีจะเกิดความคิดต่างกัน แต่ก็ยังเป็นบุคคลชั้นสูง กิริยาท่าทางงดงาม การอบรมของเธอน่าจะไม่แย่ แต่สามีแบบนี้ของเธอ ตอนกินข้าวยังเหมือนกับคนใช้ ไม่เหมือนท่าทางที่ได้รับการอบรมมาสักนิดเดียว นี่ถ้าข่าวแพร่ออกไป คนที่ไม่รู้จะคิดว่าลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลหลีเป็นทาสชายเอานะ……” ภายในคำพูดป้าสองจ้องหลีชิงเยียนเต็มไปด้วยความหมาย ซึ่งเต็มไปด้วยความหมายเสียดสี
คำพูดของป้าสองลอยมาเข้าหูของเฉินเป่ยแล้ว ในดวงตาลึกที่เรียบนิ่งของเฉินเป่ยประกายมันวาวล้ำลึกพาดผ่าน
หลีชิงเยียนหันหน้า มองเห็นเฉินเป่ยซึ่งกินดื่มใหญ่โตอย่างกำเริบเสิบสาน ล้วนแล้วแต่ไม่มีการอบรมมาสักนิด เหมือนคิดว่าที่นี่เป็นบ้านตนเอง
“กุ๊ย……” หลีชิงเยียนบ่นภายในใจ แต่ภายนอกยังตอบกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ขอบคุณคำแนะนำของป้าสองนะคะ ต่อไปฉันจะให้เขาระวังให้มากขึ้นค่ะ”
เฉินเป่ยเบ้ๆ ปาก “กินข้าวก็กินข้าว วิธีไหนกินอร่อยก็ใช้วิธีนั้นไป ผมไม่สนใจเรื่องพวกนี้ โดยเฉพาะผมยังกินข้าวไม่อิ่ม ไม่ถึงขั้นจะมาสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องหรอก!”
เฉินเป่ยตอบกลับเรียบนิ่ง น้ำเสียงสงบ แต่ในคำพูดกลับเต็มไปด้วยสิ่งแหลมคมที่ดุเดือด
ถังเต๋อยกแก้วเหล้าขึ้น หัวเราะนิดหน่อย “เฉินเป่ย ครั้งนี้ต้องชมคุณแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นเกรงว่าชีวิตผมคงจะตกอยู่ในโลกยมบาลแล้ว……ไม่มีคุณกับคุณผู้ชายท่านนั้น ผมคงไม่อาจมีชีวิตได้ถึงวันนี้”
สีหน้าเฉินเป่ยแปรเปลี่ยนๆไปอย่างฉับพลัน ประกายความหมายยั่วเย้าผ่านไป ยกแก้วเหล้าขึ้น ชนแก้วกับถังเต๋อเบาๆ พูดด้วยความเคารพ “คุณท่านถัง นี่เป็นเพราะท่านชะตาดี โชคก็ดี ผมแค่บังเอิญเท่านั้น บังเอิญมีโอกาสช่วยท่านเอาไว้ได้ นี่……นี่เป็นเกียรติในชีวิตของผมเลยครับ!”
ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนที่อยู่ด้านข้างแข็งนิดหน่อย เธอมองทางเฉินเป่ยค้าง เฉินเป่ยนี่ช่างประจบสอพลอดีเหลือเกิน พูดเยินยอถังเต๋อยกหนึ่งอย่างไม่กระโตกกระตาก……เหมือนรู้ว่าผู้ที่มียศสูงในพรรคการเมืองจะชอบแบบนี้!
“ประจบสอพลอ……” หลีชิงเยียนแอบบ่นพึมพำ ริมฝีปากแดงเม้มแน่น ในดวงตางดงามประกายแสงหนาวเหน็บยากจะเห็น เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจอย่างยิ่ง
ถ้าเวลานี้เฉินเป่ยมองเห็นท่าทางนี้เข้า คงงงงันหาที่เปรียบไม่ได้อย่างเฉียบขาด เขาคงคาดไม่ถึงว่าหลีชิงเยียนจะหึงหวงแล้ว……
“คุณท่านถังช่วงนี้รู้สึกว่าร่างกายเป็นยังไงบ้างครับ?” เฉินเป่ยยิ้มแย้ม สายตาเต็มไปด้วยความห่วงใย
“ดีขึ้นมากแล้ว ใบสั่งยาจีนนั้นที่คุณให้ผมมา ผมกินมาโดยตลอด ทุกวันผมรู้สึกว่ามีชีวิตชีวามากกว่าเมื่อก่อน อาหารป่วยในตอนนี้นับวันยิ่งเบาลง” บนหน้าที่ซีดเซียวอ่อนแรงของถังเต๋อปรากฏรอยยิ้ม
“เฉินเป่ย ผมดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง ต่อไปมีเรื่องอะไร ขอเพียงผมสามารถช่วยเหลือได้ คุณรีบบอกมาได้เลย ผมถังเต๋อจะทุ่มเทจนถึงที่สุด” ถังเต๋อให้คำมั่นสัญญาหนักแน่น ทำให้เฉินเป่ยสีหน้าแข็งทื่อฉับพลัน!
ส่วนหลีชิงเยียน ใบหน้างดงามที่สง่าก็แข็งนิดหน่อยเช่นกัน เธอต่างคิดไม่ถึงทั้งนั้นว่าถังเต๋อจะรับปากเร็วขนาดนี้!
ลองเปลี่ยนเป็นคนทั่วไป เดาว่าคงตื่นเต้นดีใจแทบไม่ไหวไปนานแล้ว ถังเต๋อ! TMนั้นเป็นขุนนางชั้นใหญ่ในราชสำนักนะ! สามารถกอดขาใหญ่แบบนี้ได้ช่างเป็นความใฝ่ฝันของผู้คนมากมายเท่าไรกัน!!
“คุณท่านถัง ท่านแน่ใจนะว่าใบสั่งยาจีนนั้นเป็นสาเหตุที่ช่วยท่านเอาไว้?” ทันใดนั้นหลีเช่าเทียนก็ถามเหมือนไม่ค่อยสนใจนัก
“แน่นอนสิ ถ้าไม่มีใบสั่งยานั้น ผมเดาว่าตอนนี้คงไม่ฟื้นขึ้นมาแน่” ถังเต๋อพยักหน้า
หลีเช่าเทียนหัวเราะเบาๆ มองเฉินเป่ยอย่างแฝงความหมายทีหนึ่ง พูดเสียงละมุน “ท่านแน่ใจว่าเป็นเพราะใบสั่งยานี้ที่รักษาโรคที่ไม่มีทางรักษาของท่านให้หายได้เหรอครับ?”
“นี่คุณหมายความว่าอะไร?” คุณท่านถังสีหน้าตะลึงเล็กน้อย
“ไม่ได้หมายความว่าอะไรครับ ผมเพียงแค่สงสัย สองสามวันก่อนได้ส่งคนไปศึกษาวิจัยใบสั่งยานี้นิดหน่อย ผลที่ออกมาคือใบสั่งยานี้ไม่ได้เป็นเพียงใบสั่งยาจีนที่ดูแลระบบย่อยทั่วไปเหรอ” หลีเช่าเทียนเอ่ยปากเสียงละมุน น้ำเสียงน่าสะพรึงกลัว
ถังเต๋อขมวดหัวคิ้วขึ้น หลีเช่าเทียนเอ่ยปากต่อไป “ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยเชื่อ โดยเฉพาะคุณเฉินเป็นสามีของหลีชิงเยียน ต่อมาผมได้เชิญผู้เชี่ยวชาญการแพทย์จีนในเมืองหู้ไห่ทั้งหลายมา แต่ละท่านยืนยันว่านี่เป็นเพียงใบสั่งยาทั่วไป ไม่ใช่ยาวิเศษที่รักษาโรคที่ไม่มีทางรักษาหายได้อะไร”
หลีเช่าเทียนพูดอยู่ หัวคิ้วของถังเต๋อยิ่งขมวดแน่น สายตากวาดมองไปที่เฉินเป่ยกับหลีชิงเยียน รอยยิ้มแบบก่อนหน้านี้ได้หดหายไปแล้ว
“คุณท่านถัง ถ้าไม่เชื่อ……” คำพูดหลีเช่าเทียนหยุดชะงักนิดหน่อย ปรบๆ มือ ประตูใหญ่ทองชั้นดีถูกผลักเปิด ผู้เชี่ยวชาญมีอายุหลายท่านซึ่งสวมชุดกาวน์สีขาวค่อยๆ ก้าวเข้ามาจากด้านนอก
ภายในใจหลีชิงเยียนดังกุกกัก ทันใดนั้นเธอเข้าใจเจตนาที่หลีเช่าเทียนมาในวันนี้แล้ว เขามาวันนี้ เนื้อแท้คือก่อความยุ่งยาก
คุณชายหลีแห่งเยี่ยนจิงท่านนี้……ที่แท้ไม่คิดจะปล่อยพวกเขาไปตั้งแต่แรก!
“คุณท่านถัง หลายท่านนี้ล้วนเป็นอำนาจหน้าที่ของวงการแพทย์จีนที่เมืองหู้ไห่ครับ” หลีเช่าเทียนเอ่ยปากเรียบนิ่ง ค่อยๆ ยกมือขึ้น “บอกคุณท่านถังสักหน่อย สรุปว่าใบสั่งยานี้รักษาอะไรกัน?”
“พวกเรานำยาทุกตัวในใบสั่งยานี้ไปศึกษาวิจัยอย่างละเอียดมารอบหนึ่ง พบว่าไม่มีตรงไหนที่ไม่ปกติ ใบสั่งยานี้ไม่สามารถรักษาโรคที่รักษาไม่หายของคุณท่านถังได้อย่างเด็ดขาด!” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งในนั้นก้าวเท้าออกมา ชายตามองทางเฉินเป่ย “ต่อไปขอให้คุณท่านถังอย่าไปเชื่อพวกเสเพลพเนจรอะไรอีก ถ้าใบสั่งยานี้รักษาโรคที่ไม่สามารถรักษาหายได้จริง พวกเราหลายคนนี้ขอออกจากวงการแพทย์ตั้งแต่นี้!”
ซู่!
ในโถงงานเลี้ยง เสียงไวโอลินที่สง่างามลอยมาจากมุมหนึ่งพลางหยุดลง บรรยากาศเงียบสงบ
หลีเช่าเทียนหันหน้ามองทางเฉินเป่ยที่สีหน้าเฉยชามาแต่ไหนแต่ไร มุมปากฉีกเส้นรัศมีวงกลมทะมึนขึ้น เห็นได้ชัดว่าพิลึกอึมครึม!
“คุณเฉิน คุณยังมีอะไรจะแก้ตัวได้อีกมั้ย?” สายตาหลีเช่าเทียนเย็นชา เขาเตรียมการวันนี้มาอย่างดี ถังเต๋ออยากขอบคุณเฉินเป่ยที่ช่วยชีวิตไว้……เขาจึงต้องยืมมือของถังเต๋อกำจัดเฉินเป่ย!
เขาอยากให้ลูกเขยแต่งเข้าบ้านตระกูลหลีคนนี้ได้รับบทเรียนของการยืมมีดฆ่าคน!