สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 74
บทที่74 เจอผีแล้ว!
“ให้ฉันขอโทษพวกต่ำต้อยนี้ ฝันไปเถอะ! ฉันตายก็จะไม่ขอโทษ!” ป้าใหญ่ถลึงตาใส่เฉินเป่ยอย่างแรง สายตาแค้นเคืองเย็นชา ไม่มีความคิดที่จะยอมให้สักนิด
“จริงด้วย พวกเราไม่ได้ให้คนต่ำนั้นคุกเข่าให้ตระกูลหลีก็ดีแค่ไหนแล้ว นายเป็นเพียงแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน อย่าทำเกินไปหน่อยเลย” ป้าสองพูดคล้อยตาม
ญาติของตระกูลหลีท่านอื่นมองเฉินเป่ยเช่นกัน สายตาล้วนเมินเฉย
หลีชิงเยียนยังไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เขาที่เป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านมีสิทธิ์อะไร?
คนที่ไม่มีสิทธิ์ส่งเสียงมากที่สุดก็คือเขา คาดไม่ถึงยังกล้ามาสามหาวใส่ป้าใหญ่ของหลีเช่าเทียน อยากตายหรือไง?
ช่วยชีวิตถังเต๋อแล้วกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างนั้นหรือ?
แม้แต่หลีชิงเยียนยังมึนงงแล้วนิดหน่อย ใบหน้างดงามเผยความตื่นตระหนกออกมา
เจ้าหมอนี้กำลังคิดจะทำอะไร?
หลีชิงเยียนขมวดคิ้วแน่น ถังเต๋อยังอยู่ที่นี่ เฉินเป่ยให้ป้าใหญ่ป้าสองขอโทษ ช่างกำเริบเสิบสานจริงๆ ไม่เคยสนใจผลกระทบเลย
“เฉินเป่ย ไม่ต้องมาทำให้เธอลำบากใจที่นี่หรอก” หลีชิงเยียนขยับเข้าไปใกล้ พูดเสียงเบาๆ เบาจนถ้าไม่ใช่ขยับมาพูดข้างหูเฉินเป่ย เดิมทีคงฟังไม่ชัด
แต่เฉินเป่ยยังเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ จ้องมองคนตระกูลหลีเหล่านั้น น้ำเสียงนิ่งสงบ กลับไม่ยอมอ่อนข้อ “ขอโทษ”
ด้านข้าง ซูเสี่ยวหยุนมองด้วยความสนใจ ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่สัญชาตญาณอ่อนไหว เธอมักมีลางสังหรณ์บางอย่าง ที่นี่……ใกล้จะเกิดศึกใหญ่ฉากหนึ่งขึ้นแล้ว
“เมื่อกี้คุณด่าคุณหลีแล้วยังไม่ขอโทษอีก? ในโลกนี้ไม่มีเหตุผลแบบนี้หรอกนะ” ผู้เฒ่าด้านข้างรีบเอ่ยปากตามมา
หลีเช่าเทียนยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าเย็นชา เวลานี้ขมวดหัวคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเฉินเป่ยบีบบังคับพวกเขา……ส่วนหลีเช่าเทียน ในฐานะคนที่มีฝีมือมีโชค ทำไมถึงยอมแพ้ในการประจัญบานที่ไม่มีรูปฉากนี้กัน?
คุณชายหลีอย่างเขา แต่ไหนแต่ไรไม่เคยก้มหัวให้คนอื่น มีเพียงคนอื่นที่ก้มหัวให้เขา ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องก้มหัว!
เขาเป็นคุณชายรองตระกูลหลี อยู่เหนือมวลชนโดยกำเนิด แต่ไหนแต่ไรไม่มีใครกล้าใช้น้ำเสียงแบบนั้นมาพูดกับเขา มีเพียงหนึ่งเดียวคือเฉินเป่ย!
“เฉินเป่ย ฉันขอเตือนนาย……หยุดแค่หอมปากหอมคอ” หลีเช่าเทียนเอ่ยปาก นั่นเป็นการตักเตือนครั้งสุดท้าย
“ไสหัวไป!” เฉินเป่ยกวาดตาอย่างเย็นเฉียบ ทันใดนั้นพ่นคำหนึ่งออกมา
หลีเช่าเทียนสีหน้าทึมทึบหนาวเย็นทันใด เขามองเฉินเป่ยอย่างเย็นชา ดวงตาทั้งคู่ลึกลับ มีแสงหนาวเย็นที่น่าสะพรึงกลัวยิงออกมา
ความกล้าของเฉินเป่ย……นับวันยิ่งมากขึ้น!
“ได้ ได้ ได้……” หลีเช่าเทียนแสยะปาก ทันใดนั้นหัวเราะแล้ว!
แต่มีเพียงแค่คนตระกูลหลีเท่านั้นที่รู้……นี่คือการโกรธจัดถึงหัวเราะ คุณชายหลีโดนเฉินเป่ยยั่วให้เกิดโทสะถึงที่สุดแล้ว!!
“เช่าเทียน ช่างเถอะ ที่จริงเรื่องนี้เป็นเพราะป้าใหญ่ป้าสองทำให้เกิดเรื่อง ขอโทษไป เรื่องก็ถือว่าผ่านไปแล้ว” ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งลอยมาจากด้านข้าง หลีเช่าเทียนหันหน้า มองเห็นถังเต๋อค่อยๆ เอ่ยปาก เสียงเรียบนิ่ง
ดวงตาทั้งคู่ของหลีเช่าเทียนจ้องเขม็งเล็กน้อย ภายในแววตาที่ล้ำลึกประกายความตกใจ
ส่วนป้าใหญ่ป้าสองสีหน้าตระหนก เปลี่ยนมาเป็นซีดขาว มองถังเต๋ออย่างเหม่อลอย นี่มันคืออะไรกัน ถังเต๋อ……คาดไม่ถึงว่าจะพูดแทนเฉินเป่ย!
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนทั่วไป ตระกูลหลีย่อมไม่ต้องสนใจในสายตา……แต่ถังเต๋อไม่เหมือนกัน……นั่นคือขุนนางชั้นใหญ่ของประเทศ! คำพูดของถังเต๋อ พอที่ทำให้หัวเซี่ยเกิดพายุและคลื่นโหมซัดสาดได้
หลีเช่าเทียนจ้องมองถังเต๋ออยู่ ถังเต๋อท่าทางนิ่งสงบ ในสายตาแฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง
สายตาที่ไร้รูปทั้งสองพัวพันปะทะกันกลางอากาศ ว่างเปล่าสั่นเทา หลังจากที่ปะทะกันแบบที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า หลีเช่าเทียนค่อยๆ เอ่ยปาก “ป้าใหญ่ ป้าสอง ขอโทษเถอะ”
ซู่!
ทั้งฉากเงียบสงบ ป้าใหญ่ป้าสองค่อยๆ หันหน้ามองทางหลีเช่าเทียน สายตาตื่นตระหนก ระมัดระวัง สงสัย อารมณ์สารพัดระคนกัน
ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนงุ่มง่าม แต่ภายในใจกลับโล่งอกไปทีหนึ่ง
เพราะเธอรู้ว่าการประจัญบานครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าถังเต๋อชนะแล้ว
หลีเช่าเทียน ไม่ยอมผิดใจถังเต๋อ ยิ่งไม่กล้าพังประตูออกไป แบบนี้ตระกูลหลียิ่งเป็นศัตรูต่อถังเต๋อ……ถึงแม้หลีเช่าเทียนจะจิตใจหยิ่งยโสมากแค่ไหน ก็ไม่กล้าเสียการใหญ่เพราะเรื่องเล็กๆ
ถึงหลีเช่าเทียนจะเป็นคนที่มีฝีมือมีโชค แต่ถ้าถังเต๋อคิดแล้ว ไม่เพียงสามารถเค้นคอฆ่าภายในเปล แค่ระหว่างยกมือ ก็ทำให้ทุกอย่างล้มเหลวได้หมด
บุคคลเหนือชั้นแห่งเยี่ยนจิงท่านนี้ พอออกประกาศก็บังคับใช้ทันที……ถึงแม้จะเป็นหลีเช่าเทียนก็ไร้ความสามารถ!
คำพูดของเขา หลีเช่าเทียนกล้าไม่ทำตามหรือ?
ส่วนป้าใหญ่ป้าสองนั้นผมยาว ความรู้น้อย เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจ ตอนแรกพวกเธออยากจะต่อต้าน แต่ตอนที่สายตาของหลีเช่าเทียนซึ่งเต็มไปด้วยความกดดันมองมา กลับทำให้ภายในใจพวกเธอสั่นสะเทือน ไม่ยอมคงไม่ได้แล้ว
ป้าใหญ่ป้าสองหมุนตัว ถลึงตาใส่เฉินเป่ยและหลีชิงเยียนอย่างเย็นเฉียบ เสียงเบาจนเหมือนจะจมหายไม่มีในอากาศ
“ขอโทษ”
ป้าใหญ่กับป้าสองแข็งใจเอ่ยปาก ผู้คนมากมายของตระกูลหลีสีหน้าตะลึง บนใบหน้าร้อนแดง อับอายจนไม่มีที่ให้หลบอย่างยิ่ง
ป้าใหญ่ป้าสองของหลีเช่าเทียนขอโทษออกไปจริงๆ ด้วย!
คนตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิง เกิดมาอยู่เหนือมวลชน มีสักวันหนึ่งที่……คาดไม่ถึงว่าจะก้มหัวได้?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังก้มหัวให้กับลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้ต่ำต้อยคนหนึ่ง!
นี่คือเรื่องน่าตกใจที่สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วสังคม
ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป จะต้องขึ้นพาดหัวข่าวเมืองหู้ไห่พรุ่งนี้เป็นแน่! อาจจะถูกแพร่ไปอย่างบ้าระห่ำ
หลีเช่าเทียนกุมหมัดทั้งคู่ไว้ จ้องมองเฉินเป่ย ภายในใจสั่นสะท้าน กลิ่นอายสังหารตลบฟุ้งขึ้นมา
เขาจำเฉินเป่ยเอาไว้แล้ว ต้องมีสักวันที่เขาจะให้เฉินเป่ยชดใช้คืน!
หลีชิงเยียนจ้องมองป้าใหญ่กับป้าสอง ถึงแม้ใบหน้างดงามจะนิ่งสงบ แต่ภายในใจยังควบคุมอาการสั่นไม่อยู่ กระตุ้นคลื่นยักษ์ให้โหมซัดซาด!
เธอจะคิดถึงได้อย่างไรกันว่าจะมีวันแบบนี้เข้าจริง คาดไม่ถึง……จะขอโทษกับเธอจริงๆ แล้ว
ถึงแม้โดนบังคับ ถึงแม้จะเป็นคำพูดที่เบาๆ ขนาดนี้ แต่ยังคงทำให้หลีชิงเยียนยากจะลืมเลือน ความทรงจำเหมือนลึกมาก
“ไม่จริงใจพอ พูดอีก”
ทันใดนั้นเสียงที่เรียบนิ่งเอาแต่ใจลอยมาจากด้านข้าง ทำให้สีหน้าป้าใหญ่ป้าสองฝืดแข็ง
“คนที่แซ่เฉิน นายอย่าทำเกินไปหน่อยเลย” ป้าใหญ่เงยหน้า ตะโกนเสียงแหลม โมโหเดือดดาลจนพุ่งไปตรงหน้าของเฉินเป่ย ตีเขาไปยกหนึ่ง
เฉินเป่ยกวาดสายตาเย็นมา ค่อยๆ เอ่ยปาก “ผมให้พวกคุณ……ขอโทษ”
“เอ๋อตงเฉิน……” ในดวงตาล้ำลึกของหลีเช่าเทียนยิงแสงเย็นยะเยือกออกมา ดุเดือดน่าสะพรึง!
“เช่าเทียน ขอโทษอย่างจริงใจดีๆ เรื่องนี้ก็ถือว่าผ่านไปแล้ว” ในเวลานี้ถังเต๋อพูดแทรก ช่วยเฉินเป่ยอีกครั้งแบบคาดไม่ถึง
หลีเช่าเทียนมองเฉินเป่ยด้วยสายตาดุเดือดเย็นยะเยือก ทำได้เพียงแข็งใจกดไฟโกรธลง
“นายรอฉันเอาไว้เถอะ!” ป้าสองพูดขู่อย่างแค้นใจ ลดความโกรธลงกับป้าใหญ่ กัดฟันโค้งตัว “ขอโทษ”
ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนงงงวย มองป้าใหญ่ป้าสองที่ขอโทษอย่างใจลอย ในสมองดังอื้ออึง
อย่างไรเธอก็นึกไม่ถึง เฉินเป่ย……แค่ขอโทษครั้งเดียวยังไม่ยอมปล่อย นี่คือการตบหน้าตระกูลหลีอย่างโหดเหี้ยมเลยทีเดียว!
ตระกูลหลีคุณไม่ใช่เก่งกาจมากเหรอ! ตั้งแต่เช้าจนค่ำสูงสู่งเหนือใคร ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ราวกับเกิดมาในชั้นคนสูงศักดิ์ แต่ตอนนี้……ไม่ใช่ต้องมาโค้งตัวขอโทษให้คนอื่นอย่างว่านอนสอนง่ายเหรอ!
ความอหังการของตระกูลหลี เวลานี้ไม่มีค่าแม้แต่นิดเดียว
“ท่าทีแบบนี้ ยังถือว่าไม่เลว” เฉินเป่ยพยักหน้าอย่างพอใจ ยิ้มบอก
“นาย……” ป้าใหญ่ถลึงตาใส่เฉินเป่ยอย่างแรง ดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาต
ในที่สุดเธอก็ทำเสียงฮึดฮัด โมโหเดือดพล่านจนดึงป้าสองแล้วผลักประตูใหญ่ทองคำออก หายไปจากหน้าประตูแล้ว
“ครั้งนี้ถือว่านายได้แก้แค้นกับพวกเขาแล้ว” หลีชิงเยียนถอนหายใจยาวๆ ในดวงตางดงามเพิ่มความกังวล
เฉินเป่ยยิ้มจางๆ แววตาประกายความซับซ้อนล้ำลึกราวกับดาวบนฟ้า ตัวเขาเดาใจไม่ถูกเลย “ถึงแม้จะไม่แก้แค้น คุณคิดว่าพวกเขาจะปล่อยพวกเราไป?”
หลีชิงเยียนตะลึงนิดหน่อย มองทางเฉินเป่ย เฉินเป่ยกะพริบตา นี่หมายความว่า……ในคำพูดมีความนัย
“เอาล่ะ วันนี้เชิญทุกท่านมากินข้าว คิดไม่ถึงว่าจะมาเกิดเรื่องวุ่น ทำลายความสนุกของทุกท่าน ผมขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย” ถังเต๋อหัวเราะฮาๆ พูดขึ้น
หลีชิงเยียนส่ายหน้า “คุณท่านถังพูดตลกแล้ว เรื่องนี้ใครก็คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นได้ เป็นพวกเราที่เสียมารยาท ล่วงเกินแล้วค่ะ”
“กินข้าว กินข้าว พ่อครัวชั้นเลิศที่เชิญมาท่านนั้นยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่ไม่ได้เอามาเสิร์ฟล่ะ” ถังเต๋อยิ้มบอก
“กินเถอะ” ซูเสี่ยวหยุนพูดด้วยน้ำเสียงดึงดูด จับมีดกับส้อม หั่นสเต็กเนื้อชิ้นหนึ่งลงไป
หลังจากที่กินดื่มอิ่มหนำ เฉินเป่ยกับหลีชิงเยียนก็ออกไปก่อน คุณท่านถังเอ่ยปากพูดกับหลีชิงเยียนอีกครั้ง “คุณหลี ฝากทักทายพ่อคุณแทนผมด้วย ช่วงนี้ที่เยี่ยนจิงเกิดเรื่องนิดหน่อย ไว้มาที่หู้ไห่วันหลัง ผมจะต้องไปเยี่ยมเยือนเขาด้วยตัวเองแน่”
“ขอบคุณค่ะคุณท่านถัง” หลีชิงเยียนยิ้มอ่อนๆ
“ใช่แล้ว ต่อไปมีเรื่องอะไรรีบโทรศัพท์หาผมได้ทันที เดี๋ยวผมจะให้ผู้ช่วยเอาเบอร์โทรให้พวกคุณ……คุณเฉิน บุญคุณที่คุณช่วยชีวิต ผมถังเต๋อ จะไม่ลืมเด็ดขาด” ถังเต๋อหัวเราะเฮฮาอย่างกระตือรือร้น ยังยกกล่องของขวัญสองกล่องยัดใส่ในมือของหลีชิงเยียนอีก
“คุณท่านถัง นี่……นี่ฉันรับไว้ไม่ได้ค่ะ” ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนเปลี่ยนสีหน้า สถานะถังเต๋อสูงศักดิ์ ของขวัญที่มอบให้ย่อมเป็นของที่มีค่า……ตนเองกับถังเต๋อคบกันก็ดีแล้ว ไม่สามารถรับของขวัญใดๆ ได้
“คุณหลี นี่คือน้ำใจของผม ถือว่าเป็นคำขอโทษสำหรับวันนี้……ถ้าคุณหลีไม่รับ นั่นแสดงว่าคงไม่ยอมยกโทษให้ผมถังเต๋อแล้ว” ถังเต๋อพูดขึ้น
หลีชิงเยียนจำใจ จากนั้นถึงได้รับมา เอ่ยปากด้วยเสียงน่าดึงดูด “ขอบคุณคุณท่านถังสำหรับของขวัญมีค่านะคะ ไว้มีโอกาส ฉันจะต้องจัดงานเลี้ยงให้คุณท่านถังแน่ค่ะ”
หลังจากที่ทักทายปราศรัยกันอย่างครึกครื้นแล้ว ถังเต๋อก็ส่งเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนสองสามคนนี้ออกมาจากโรงแรม
หลังจากหลีชิงเยียนกับซูเสี่ยวหยุนนั่งเข้าไปในรถไมบัค เฉินเป่ยพึ่งจะมุดเข้าที่นั่งคนขับ ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
“คุณเฉิน ขอเวลาหน่อยครับ”
เฉินเป่ยหันหน้า มองเห็นผู้เฒ่าท่านหนึ่งตามออกมาจากโรงแรม
คนคนนี้คือประธานสมาคมการแพทย์แห่งหู้ไห่ ผู้เฒ่าท่านนั้นที่ช่วยรักษาถังเต๋อ
“คุณเอง?” ดวงตาทั้งคู่ของเฉินเป่ยแข็งนิดหน่อย มุมปากฉีกรอยยิ้มขึ้น “มีธุระอะไร ว่ามาเถอะ”
ผู้เฒ่ามองไปรอบด้าน พูดเสียงต่ำ “ไปคุยกันที่อื่น”
หลังจากเดินมาที่มุมหนึ่ง ผู้เฒ่ามองทางเฉินเป่ยถามว่า “คุณเฉินสามารถเขียนใบสั่งยานี้ออกมาได้ ซึ่งทั้งหัวเซี่ยมีไม่เกินสามคน……ไม่ทราบว่าสรุปแล้วคุณเฉินไปได้ใบสั่งยานี้มาจากที่ไหนกัน?”
“คุณทายสิ?” เฉินเป่ยยิ้มล้ำลึก ลึกลับมาก
“ตอนนั้นตอนที่พ่อของผมเผชิญหน้ากับโรคที่รักษาไม่หายหมดหนทาง ต่อมามีผู้วิเศษท่านหนึ่งปรากฏตัวขึ้น แล้วชี้แนะเขา ทำให้เขาถึงบางอ้อ เขียนใบสั่งยาครึ่งหนึ่งออกมา……” ผู้เฒ่าพูดเสียงละมุน “แต่พออยากหาผู้วิเศษนั้นให้พ่อของผม กลับหายังไงก็ไม่เจอ……”
ตาทั้งคู่ของผู้เฒ่าจ้องมองเฉินเป่ย สีหน้าตื่นเต้น “คุณเฉิน ถ้าใบสั่งยานั้นมีคนทิ้งไว้ให้คุณ เป็นไปได้มากว่าจะเป็นท่านนั้นที่ช่วยเหลือพ่อผมไว้……ไม่รู้ว่าคุณรู้ที่อยู่ของท่านนั้นหรือไม่?”
“พ่อของคุณ?” เฉินเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงได้สงบเรียบนิ่งลงมา “พ่อของคุณสียชีวิตเมื่อห้าปีก่อนสินะ?”
“คุณ……คุณรู้ได้อย่างไร?” ผู้เฒ่าสีหน้าตกใจซีดเซียว มองทางเฉินเป่ย อย่างกับเห็นผีแล้ว!!