สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 78
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่78 วิกฤตตระกูลหลี!!
บรถนน รถไมบัคเคลื่อนไวราวไฟฟ้า ระดับความเร็วไวที่สุด เฉินเป่ยเกือบเหยียบคันเร่งไว้ตลอด
“นายไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง!” หลีชิงเยียนร้องตะโกน เทือกเขาที่สูงตระหง่านสั่นสะเทือน ผมยาวยิ่งสยายอย่างยุ่งเหยิง กระเซอะกระเซิงสุดจะทน
เฉินเป่ยเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ รถไมบัคไม่มีลดความเร็วสักนิด
ระยะห่างของรถไมบัคกับอาคารตระกูลหลี ถูกระดับความเร็วดึงให้ใกล้กันแล้ว!
ทันใดนั้น!
เสียงไซเรนดังเสียดแก้วหู แผดเสียงก้องมา เห็นเพียงรถตำรวจสองคัน ตามขึ้นมาจากด้านหลัง
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้!” หลีชิงเยียนใบหน้าซีดเซียว ขาเรียวขาวสั่นเทานิดหน่อย เธอคาดไม่ถึงว่าขับรถเร็ว ยังสามารถดึงรถตำรวจมาได้
หลีชิงเยียนหันหน้ามองทางท้ายรถ มีรถตำรวจสองคันกำลัง ไล่ตามมาอย่างทรหดอดทน
“รถไมบัคสีดำด้านหน้า ป้ายทะเบียนหู้BXXX……คุณได้ขับเร็วเกินและผิดกฎความปลอดภัยจราจร ขอให้หยุดรถด้วย! กรุณารีบจอดรถเดี๋ยวนี้! กรุณารีบจอดรถเดี๋ยวนี้!” ในลำโพงบนหลังคารถตำรวจ ขยายเสียงที่เย็นชาดุเดือดออกมา ลอยเข้าหูของเฉินเป่ย!
“เป็นเรื่องงามหน้าที่นายก่อ” หลีชิงเยียนถลึงตาคู่งามใส่ทางเฉินเป่ยอย่างเหี้ยมโหด
ถ้าไม่ใช่เฉินเป่ยขับรถเร็วบนถนน จะดึงรถตำรวจให้ไล่ตามมาได้อย่างไรกัน
“รีบจอดรถ!” หลีชิงเยียนตวาดเสียงดุ
แต่ทว่ามุมปากของเฉินเป่ยกลับโค้งความหมายอันธพาลขึ้น กำเริบเสิบสาน……เฉินเป่ยเอ่ยปากทันใด ยิ้มบอกอย่างแฝงความหมายลึกซึ้ง “ประธานหลี กรุณารัดเข็มขัดให้ดี……”
“สรุปนายอยากทำอะไรกัน?” หลีชิงเยียนพูดเสียงโกรธ
หลีชิงเยียนพึ่งพูดจบ ทันใดนั้น! เฉินเป่ยมองผ่านกระจกสะท้อน กวาดตามองรถตำรวจที่ตามมาไม่เลิก เผยการหยอกล้อที่ล้ำลึกออกมา
จากนั้นเฉินเป่ยเหยียบเบรกฉับพลัน ล้อของรถไมบัคกับพื้นเสียดสีด้วยความรวดเร็ว รอยล้อรถสีดำสองรอย ปรากฏขึ้นในชั่วพริบตา
ซ่า!
ชั่วพริบตาเดียว รถตำรวจสองคันที่ความเร็วราวกับไฟฟ้า เดิมทีรถตำรวจไม่ทันเหยียบเบรก ชั่วขณะนั้นเลยผ่านรถไมบัคไปแล้ว
ส่วนหลีชิงเยียน ถูกความเฉื่อยดึงลอยไปยกใหญ่ อยู่ที่นั่งแถวหลัง ล้มจนสับสน……
ภายในตาของหลีชิงเยียนเผยแรงอาฆาตเต็มไปหมด เธอถลึงตาใส่เฉินเป่ย เกือบแสดงความโมโห
ถ้าไม่ใช่เวลานี้เฉินเป่ยกำลังขับรถ หลีชิงเยียนนำกระเป๋าในมือขว้างใส่ศีรษะของเขาไปนานแล้ว
เฉินเป่ยเหยียบคันเร่ง ตัวรถขับด้วยความเร็วร้อยแปดสิบ ขับออกไป
บนถนน คนขับรถมากมายที่กำลังรถติดอยู่ประหลาดใจ สีหน้าตื่นตระหนก!
ช่างกล้าเหลือเกิน! ไม่รู้ว่าใครขับรถไมบัค คาดไม่ถึงไล่ตามกับรถตำรวจอย่างโจ่งแจ้ง
จิตใจคนนับไม่ถ้วนเกิดความหวาดผวา รถไมบัคนั้น ภายใต้สายตามากมายที่จับจ้อง เครื่องยนต์คำราม ราวกับธนูยิงออกจากสายธนู ขับพุ่งไปยังที่แสนไกล
ส่วนรถตำรวจสองคันเลี้ยวรถกลับอย่างงุ่มง่าม กลับพบว่ารถไมบัคหายไปบนถนนห่างไกล ไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว
…………
เอี๊ยด!
การหมุนตัวอย่างสมบูรณ์แบบ จอดลงตรงหน้าประตูของอาคารตระกูลหลีอย่างเท่ ดึงดูดความสนใจมากมาย
รถไมบัคเป็นรถส่วนตัวของประธานนางฟ้า ทั้งบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปมีเพียงคันเดียว……แต่ว่าวันนี้ ฝีมือการขับรถไมบัคนี้ ทำไมถึงเปลี่ยนมาดีได้ขนาดนี้แล้ว?
หลีชิงเยียนจ้องเฉินเป่ยเขม็งทีหนึ่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาตที่เย็นเฉียบน่ากลัว
เฉินเป่ยเล่นอันตราย สะบัดรถตำรวจสองคันทิ้ง ตั้งแต่ต้นจนจบลื่นไหลไม่ขัดเขิน แต่เธอกลับลำบากยากเย็นอยู่ยังที่นั่งแถวหลัง!
“รอตอนเย็นฉันจะกลับบ้านไปจัดการนาย!” หลีชิงเยียนทิ้งประโยคหนึ่งไว้อย่างเย็นชา ช่องว่างภายในรถถูกความหนาวเย็นอัดแน่น
ดวงตาของหลีชิงเยียนคล้ายกับปลายมีดคม ทำให้ในใจเฉินเป่ยสั่นอย่างแรง ทำได้เพียงยิ้มสู้
“ประธานหลีเดินดีๆ”
พอประตูรถเปิดออก ขายาวที่เซ็กซี่งดงามมากก้าวออกมา รองเท้าส้นสูงงดงามเหยียบบนพื้น ภาพสาวสวยผมยาว เดินออกไปจากในรถ
“สวัสดีค่ะประธานหลี”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านประธาน”
พนักงานมากมายทักทายด้วยความเคารพ และหลีชิงเยียนที่มักตอบกลับตลอดมา วันนี้แม้แต่พยักหน้าก็ไม่ขยับสักนิด เหยียบบนรองเท้าส้นสูงเอาเป็นเอาตาย ทั้งตัวแพร่บุคลิกยิ่งใหญ่ราวกับราชินี ทำให้พนักงานนับไม่ถ้วนหุบปากอย่างว่านอนสอนง่าย
หลีชิงเยียนใบหน้าเย็นยะเยือก หน้าเหมือนเกล็ดน้ำแข็ง เธอกัดฟันแน่น ทนไม่ไหวอยากเอาเฉินเป่ยมาสับให้แหลกเป็นชิ้นๆ
แต่เธอแค่ยังหาเหตุผลออกมาไม่ได้ เป็นเธอเองที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย……โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉินเป่ยก็พาเธอมาส่งที่อาคารตระกูลหลีได้ตามที่สัญญาไว้
ตั้งแต่ต้นจบเหรอ ใช้เวลาเพียงเจ็ดนาทีเท่านั้น!
และจากคฤหาสน์มาถึงอาคารตระกูลหลี เต็มที่ต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมง
ฝีมือขับรถของเฉินเป่ยเหนือชั้นอย่างน่าประหลาดใจ ราวกับเป็นมืออาชีพที่คุ้นเคยกับรถยนต์……แต่จากกำลังทรัพย์ของเฉินเป่ย จะสามารถซื้อรถได้อย่างไร……
หลีชิงเยียนฉงนอยู่ภายในใจ เธอย่อมไม่รู้แน่ว่า……เฉินเป่ยขับรถไมบัคไม่เก่งเท่าไรนัก แต่รถคันอื่น เฉินเป่ยกลับควบคุมได้อย่างผ่อนคลาย
เหมือนรถถังเรดาร์ รถขนขีปนาวุธ ทั้งยังมีรถหรูระดับโลกรุ่นลิมิเต็ดบางส่วน……รถไมบัคระดับแบบนี้ นอกจากเฉินเป่ยจะไม่ถนัดอยู่บ้าง พอขับขึ้นมายังง่ายราวกับพลิกฝ่ามืออย่างยิ่ง
พูดถึงฝีมือขับรถ ซูเหลยเหนือชั้นแค่ไหน เทียบกับเฉินเป่ยแล้วก็ยังคงเป็นคนที่แตกต่างราวฟ้ากับดิน……
หลังจากหลีชิงเยียนเดินเข้ามาในห้องทำงานประธาน พึ่งนั่งลง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกะทันหัน
หลีชิงเยียนรับสาย หลังจากที่เธอวางสายโทรศัพท์ ใบหน้างดงามเผยสีหน้าที่เคร่งขรึมออกมา
บริษัทตระกูลหลีพึ่งเปิดราคา หุ้นก็ราคาตกฮวบอย่างกับเป็นบ้าไปแล้ว โดนลงโทษอย่างโหดเหี้ยมอีกครั้ง
ทุกอย่างนี้ดูขึ้นมาช่างเป็นความเสื่อมถอยที่ไม่สามารถทวงคืน……
มือถือหลีชิงเยียนดังขึ้น มีข้อความหนึ่งส่งเข้ามา: ชิงเยียน พ่อติดต่อเพื่อนๆมากมายไปแล้ว ไม่มีสักคนให้ยืมเงินได้ บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป……คงยันต่อไปไม่ไหวแล้ว
หลีชิงเยียนถอนหายใจเบาๆ หลีหยางยอมบากหน้าไปขอความช่วยเหลือมาหมด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเธอเลย
กลางดึกนั้น เธอโทรศัพท์ไม่รู้กี่สาย ผลลัพธ์คือตระกูลร่ำรวยเหล่านั้น บริษัทการเงินชั้นนำ บางสายเหมือนปรึกษาหารือดี บางสายไม่รับโทรศัพท์ของหลีชิงเยียนเลย……
หลีชิงเยียน ได้นอนทั้งหมดเพียงสามชั่วโมง
หลีชิงเยียนลุกขึ้น เดินไปที่ขอบกระจกชมวิว มองทางCBDที่กว้างใหญ่ ใบหน้างดงาม สีหน้าซับซ้อน
บริษัทฮวยเถิงกรุ๊ปบีบคั้นเข้ามา บดขยี้อย่างบ้าระห่ำ บริษัทตระกูลหลีพอถอยก็ถอยอีก ไม่มีลักษณะที่ยิ่งใหญ่สูงส่งแบบอดีตแล้ว
แต่ทว่าชั่วข้ามคืน ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป
ในเวลานี้ เลขาฯ หลินเฉว่พุ่งเข้ามาในห้องทำงานกะทันหัน บนใบหน้าที่บริสุทธิ์สะอาดเขียนความมหัศจรรย์และความตื่นเต้นไว้เต็ม “ประธานหลีคะ มีข่าวดีค่ะ”
“มีอะไร?” หลีชิงเยียนถามอย่างไม่เงยหน้าขึ้น
“คุณชายหลีมาแล้วค่ะ คุณชายหลียังบอกว่าเขามาช่วยคุณค่ะ” หลินเฉว่เอ่ยปาก ผู้จัดการสองสามคนที่ยืนอยู่ในห้องทำงานประธานชั่วขณะนั้นอึ้งค้าง
“เขามาช่วยฉัน?” หลีชิงเยียนขมวดคิ้วขึ้นสายตาประกายความสงสัยนิดๆ ระหว่างเธอกับหลีเช่าเทียนเกิดความขัดแย้งไม่น้อย หลีเช่าเทียนจะช่วยเธอ?
“ชิงเยียน บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปลำบาก ฉันเห็นแล้วไม่ช่วยได้ยังไงกัน?” เสียงที่นิ่งสงบลอยเข้ามาจากด้านนอกห้องทำงาน มือทั้งคู่หลีเช่าเทียนไพล่หลัง เดินมาด้วยความเงียบ สีหน้าผ่อนคลาย ในสายตาที่มองทางหลีชิงเยียนมีแรงเกาะติดที่แปลกนิดๆ
ด้านนอกห้องทำงาน พนักงานไม่น้อยรอบล้อมเข้ามา มองทางหลีเช่าเทียน ท่าทางตื่นเต้นเลื่อมใส ลักษณะที่หลงใหล
คุณชายหลีแห่งเยี่ยนจิง วันนี้มาเพียงลำพัง มาถึงบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปแล้ว
“คุณมาช่วยฉัน?” หลีชิงเยียนสีหน้าเย็นชา ในเสียงเผยความห่างเหินที่หนาวเย็น
เธอไม่เชื่อแน่นอนว่าหลีเช่าเทียนจะมาช่วยเธอ!
“แน่นอนว่าครั้งนี้ฉันอยากช่วยเหลือเธอจากใจจริง ช่วยเหลือบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป” หลีเช่าเทียนสีหน้านิ่งขรึม “ถ้าบริษัทตระกูลหลีล้มแล้วตกไปอยู่ในมือของฮวยเถิง อนาคตเมืองหู้ไห่จะเปลี่ยนไปเป็นแบบไหน ไม่มีใครรู้ได้……บริษัทตระกูลหลีเป็นสติปัญญาและกำลังของเธอและพ่อเธอ ฉันไม่สามารถมองเห็นมันพังลงไปต่อหน้าต่อตา……”
หลีชิงเยียนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ตอนที่หลีเช่าเทียนพูดเรื่องพวกนี้ดูจริงจังมาก คล้ายออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ ไม่เหมือนคำหลอกลวง
“คุณ……คิดจะช่วยยังไง?” หลีชิงเยียนสีหน้าผ่อนคลายนิดหน่อย ถามขึ้น
หลีเช่าเทียนปรบๆ มือ ลูกน้องด้านข้างยกกล่องของขวัญที่งดงามขึ้นอย่างนอบน้อม
พอเปิดกล่องออก แบล็กการ์ดขอบทองใบหนึ่งนอนนิ่งอยู่ในกล่องของขวัญ!
“ชิงเยียน เงินในบัตรธนาคารใบนี้ เพียงพอที่เธอจะใช้รับมือวิกฤติครั้งนี้” หลีเช่าเทียนเอ่ยปาก ทั้งห้องตกตะลึง!
“คุณ……” หลีชิงเยียนตกใจค้างถึงที่สุด บัตรธนาคารใบนี้ดูคุ้นเคยมาก นั่นคือใบนั้นที่งานเลี้ยงต้อนรับครั้งแรก แต่ว่าจำนวนเงินในนั้นกลับไม่เหมือนกัน เวลานี้ความหมายในการปรากฏตัวยิ่งไม่เหมือนกัน
บัตรธนาคารใบนี้สามารถช่วยชีวิตหลีชิงเยียน ช่วยชีวิตหลีหยาง ช่วยทั้งบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป
บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป สำหรับหลีชิงเยียนความหมายไม่ธรรมดา……ส่วนหลีเช่าเทียน ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุดนี้ กลับส่งฟืนท่ามกลางหิมะ แก้เรื่องจวนตัวของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป!
สีหน้าหลีชิงเยียนเกิดความประทับใจ เธอจ้องมองหลีเช่าเทียนด้วยสีหน้าซับซ้อน
“ชิงเยียน รีบรับไว้เถอะ” หลีเช่าเทียนหัวเราะนิดหน่อย พูดเสียงนุ่ม
“รีบรับไว้เถอะ ชิงเยียน นี่เป็นเงินช่วยชีวิตนะ” ทันใดนั้นเสียงที่ไม่ประสานกันลอยมา ทำให้หลีเช่าเทียนสีหน้าลำบาก แข็งตัวฉับพลัน