สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 82
บทที่ 82 ขี้โรคแห่งเอเชีย
หลีเช่าเทียนกำลังมองโทรศัพท์เครื่องนี้ ท่าทางวางเฉยในสถานการณ์ที่เป็นเช่นนี้
ป้าใหญ่ป้ารองที่อยู่ข้างๆสบตากันแล้วยิ้ม พวกเธอมั่นใจในตัวของหลีเช่าเทียนมาก พวกเธอเชื่อมั่นหลีเช่าเทียน
หลีเซิ่งพยักหน้า “ก็ดี รอจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว พวกเราก็กลับเยียนจิงอย่างสบายใจได้แล้ว”
“เช่าเทียน รับโทรศัพท์เถอะ” ป้าใหญ่พูด
หลีเช่าเทียนยิ้มเล็กน้อย ยื่นมือไปถือโทรศัพท์ขึ้น “ฉันหลีเช่าเทียน เรื่องเป็นอย่างไรบ้าง?”
โทรศัพท์สายนั้น เสียงที่ตื่นตระหนกตกใจแพร่เข้ามา “คุณชายหลี ไม่ดีแล้ว! เรื่องไม่ดีแล้ว!”
“เกิดอะไรขึ้น?” หลีเช่าเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามขึ้น
“บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป……โค่นไม่ได้……” ลูกน้องคนนั้นพูดเสียงเบา ทำให้ใบหน้าที่มีรอยยิ้มของหลีเช่าเทียน ชะงักไปทันที!
“นายว่าอะไรนะ?” หลีเช่าเทียนสีหน้าเปลี่ยนไป ในความอึมครึมก็มีความดุร้ายปรากฏอยู่ด้วย!
“เพียงอีกเดียวบริษัทฮวยเถิงกรุ๊ปก็เกือบจะควบรวมกิจการได้แล้ว แต่จู่ๆไม่รู้ว่าเป็นไปได้อย่างไร……บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ไม่รู้ว่าไปเอาเงินมาจากไหน เริ่มตอบโต้กลับที่ตลาดหุ้น……” เสียงของลูกน้องสั่นไหว “จนกระทั่งถึงตอนนี้ บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปกำลังซื้อหุ้นกลับไปอย่างบ้าระห่ำ ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา มีเงินทุนอย่างมากมาย”
“นี่เป็นไปไม่ได้!” หลีเช่าเทียนโต้แย้งทันที สีหน้าหม่นหมองราวกับน้ำ “ฉันแจ้งให้ทุกคนรู้หมดแล้ว ห้ามใครก็ตามยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือตระกูลหลี…… ตระกูลหลีก็โดดเดี่ยวขาดคนสนับสนุน เป็นไปได้อย่างไรที่ยังรวบรวมเงินได้อีก!”
“คุณชายหลี คุณเปิดดูข่าวด้วยตนเองก็ได้ครับ ตระกูลหลีโต้กลับได้อย่างรุนแรงมาก สถานการณ์เกินกว่าความห้าวหาญ!” ลูกน้องในโทรศัพท์สายนั้นกล่าวออกมา
“ฉันรู้แล้ว……” หลีเช่าเทียนตัวสั่น แขนที่จับโทรศัพท์อยู่ ควบคุมความสั่นเอาไว้ไม่ได้!
“ปึ๊ก”
หลีเช่าเทียนวางโทรศัพท์อย่างรุนแรง ในดวงตาที่ลึกล้ำ เต็มไปด้วยความโหดร้ายดุเดือด!
“เป็นอย่างไรบ้าง?” ป้าใหญ่ป้ารองถาม สีหน้าของหลีเซิ่ง ก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ล้มเหลวแล้ว……” หลีเช่าเทียนค่อยๆเอ่ยปาก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยากที่จะเข้าใจ
“ห๊ะ? ล้มเหลวได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าชนะแน่นอนเหรอ? ตระกูลหลีเป็นลูกพลับที่นุ่มนิ่มอยู่แล้ว ตามที่พูดๆกันมาจะบีบอย่างไรก็ได้?!” ป้าใหญ่ป้ารองตะโกนอย่างตื่นตระหนกตกใจ ท่าทางไม่เข้าใจ
“หุบปาก” หลีเช่าเทียนพ่นคำออกมาอย่างเย็นชา หน้าตาดุร้ายบูดบึ้ง!
“เอ๋อตงเฉิน……” จู่ๆ ดวงตาของหลีเช่าเทียนก็เปล่งประกาย ปรากฏความดุร้ายที่ทำให้คนอื่นๆอกสั่นขวัญแขวน! ค่อยๆส่งเสียงออกมา!
ภายในคฤหาสน์ เพลงที่เปิดเฉลิมฉลองความสงบสุข บรรยากาศหรูหรา แต่กลับได้ยินเสียงแก้วแตกดังกังวาน แล้วเสียงก็ขาดห้วนหายไปอย่างฉับพลัน!
“ห้าหมื่นล้าน ไม่เหลือแล้ว!” หลีเซิ่งกัดฟัน ห้าหมื่นล้านนี้เป็นเงินของครอบครัว หากว่าคนในครอบครัวรู้เรื่อง ต้องเข้ามาก้าวก่ายแน่!
ไม่แน่ว่า แม้กระทั่งรวมไปถึงหลีเซิ่งหลีเช่าเทียนพวกเขากี่คน ฐานะในครอบครัว คงลดลงมาทันที!
หลีเซิ่งจัดการยืมห้าหมื่นล้านของครอบครัวมา เป็นเพราะว่าหลีเช่าเทียนมีความมั่นใจที่จะใช้ท่าเรือและสนามบินสร้างผลกำไรที่มากกว่า แต่ตอนนี้……ห้าหมื่นล้านก็เป็นการโยนหินลงไปในน้ำตั้งแต่แรกแล้ว จะได้รับกำไรอะไรกลับมาล่ะ!
หลีเช่าเทียนนึกถึงตอนที่อยู่ในห้องทำงานท่านประธาน หน้าตาเฉินเป่ยที่วอนหาเรื่องนั้นกลับมีรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมาย จึงค่อนข้างเข้าใจได้ในทันที
“โทรหาอีตาวหลิวให้ฉันที!” หลีเช่าเทียนเอ่ยปากอย่างอึมครึม น้ำเสียงแฝงไปด้วยความโหดร้ายและน่าสะพรึงกลัว!
…………
ประเทศหมู่เกาะ ภายในสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาแห่งหนึ่ง ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่บนเสื่อทาทามิ
หญิงสาวคนหนึ่ง กำลังเคลื่อนไหวร่างกายที่อ่อนช้อยน่าทะนุถนอม เพื่อรินน้ำชา ให้ชายวัยกลางคน
“หลงซื่อหลางติดต่อไม่ได้หลายวันแล้ว ก่อนไปพูดไว้ว่าจะไปหาประสบการณ์จากทั่วทุกที่ แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาโดยตลอด จะเป็นไปได้ไหม ที่จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ชายวัยกลางคนจิบชาร้อนคำหนึ่ง แล้วพูดกับตนเอง
“ทักษะฟันดาบของซื่อหลางยอดเยี่ยม จริงๆก็เป็นคนที่โดดเด่นกว่าฉันในเป่ยเฉินอีตาวหลิวเสียอีก แม้ว่าก่อนไปจะเอามีดไปด้วย แต่นั่นนักดาบทั่วไปก็ไม่สามารถเทียบได้” ชายวัยกลางคนกำลังคิดอย่างนี้ ก็สบายใจขึ้นมากในทันที
แต่แล้วจู่ๆ! ร่างของสักกี่คนด้านนอกก็รีบร้อนพุ่งเข้ามา!
“ท่านหลิว มีคนส่งข่าวมาจากหัวเซี่ย คุณชายน้อยโดนลอบสังหารอยู่ที่หัวเซี่ย โชคร้ายที่เขาเสียชีวิต”
ชายวัยกลางคนเบิกตาโพลงขึ้นมาทันที ในดวงตาที่เย็นชายากจะเข้าใจได้ ในตอนนี้ทั้งหมดโดนฆ่าฟันและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด!
“ขี้โรคแห่งเอเชีย!” ชายวัยกลางคนลุกขึ้นทันที เดินออกไปอย่างไม่ลังเล “ไป ไปหัวเซี่ยเดี๋ยวนี้ ขี้โรคแห่งเอเชีย ไม่นึกว่าจะกล้ากำเริบเสิบสานเช่นนี้ แม้กระทั่งหลงซื่อหลางก็กล้าฆ่า!”
“เวลานี้ ให้พวกเขาจดจำเอาไว้ว่าเคยโดนความน่าสะพรึงกลัวของมหาเอเชียบูรพาตี้กั๋วเข้าครอบงำ……” ชายวัยกลางคนก้าวออกไป ทางเข้าหินก็ส่งเสียงแตกระแหง! ชายวัยกลางคนเดินออกไปข้างหน้า ในแต่ละก้าว ทำให้พื้นแตกระแหงอย่างไม่ขาดสาย พลังของชายวัยกลางคน เรียกได้ว่าน่ากลัวเหลือเกิน!!
ลูกน้องเคารพนอบน้อมเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวตนของชายวัยกลางคน……ทรงเกียรติภูมิที่สุด!
ใครก็ไม่คาดคิด ว่าเรื่องนี้ จะกระตุ้นให้เขาลงมือ ไปฆ่าที่หัวเซี่ยด้วยตนเอง!
…………
ในห้องทำงานท่านประธาน หลีชิงเยียนกับซูเสี่ยวหยุนทั้งสองคนยุ่งอยู่กับการทำงาน ถกเถียงปัญหาบางอย่างอย่างกระตือรือร้นอยู่บ่อยๆ ทั้งสองคนเหมือนกับตกอยู่ในภวังค์ของการทำงานอย่างสมบูรณ์ ลืมเฉินเป่ยที่อยู่ด้านข้างไปอย่างหมดสิ้น
เฉินเป่ยนั่งอยู่บนโซฟาหนังแท้ เรียกได้ว่าไม่สบายใจเลย ทั้งช่วงบ่าย หลีชิงเยียนไม่พูดกับเขาแม้แต่คำเดียว!
จู่ๆ มือถือของเฉินเป่ยก็ดังขึ้น เฉินเป่ยหยิบมือถือออกมา มองสองคำที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอมือถือ “ถังโหรว”
สาวสวยผมยาวคนนั้น สวมลูกไม้สีดำ เสื้อผ้าที่เซ็กซี่เร่าร้อนร่างนั้น ดึงดูดสายตา ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินเป่ยมีสติดี คงโดนถังโหรวทำให้จิตใจเคลิบเคลิ้มหลงใหลไปตั้งนานแล้ว
ยังดีที่ข้างกายของเฉินเป่ยมีสาวสวยที่ดีที่สุดอย่างหลีชิงเยียนอยู่แล้ว จึงทำให้เขามีภูมิคุ้มกันต่อผู้หญิงสวยๆมากขึ้นเล็กน้อย
เฉินเป่ยอยากจะผลักประตูออกไปนอกห้องทำงาน ตอนที่รับโทรศัพท์ของถังโหรว ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ลอยมาจากบนเก้าอี้ทำงาน “ไม่อนุญาตให้ออกไป”
“ประธานหลี ผมคุยโทรศัพท์กลัวว่าจะรบกวนการทำงานของพวกคุณ” เฉินเป่ยยิ้มอย่างอึดอัด
“นายจะโทรก็โทรตรงนี้ ไม่มีใครจ้องนายสักหน่อย” ซูเสี่ยวหยุนส่งวิ้งค์จากดวงตาคู่สวย รอยยิ้มมีเสน่ห์
เฉินเป่ยจะกระอักเลือดอยู่แล้ว แม่เอ้ย……สาวสวยทั้งสองคนอยู่ตรงนี้ นี่จะไม่กระอักเลือดได้เหรอ?
หากว่าคราวนี้ถังโหรวนัดตนไปที่โรงแรม ตนก็จะทำโอกาสดีๆหลุดมือไปใช่ไหม?
นั่นก็สาวน้อยชั้นดี ตนจะพลาดไปได้อย่างไร!
“ก็แค่โทรศัพท์สายหนึ่งเท่านั้น ไม่รับก็ไม่รับ” เฉินเป่ยตัดสายโทรศัพท์ กลับไปนั่งบนโซฟา แต่กลับรู้สึกว่าเหมือนนั่งอยู่บนผ้าสักหลาดที่มีเข็ม ไม่ว่าเขาจะทำอะไร มักจะมีดวงตาสองคู่ จับจ้องตนเองอยู่
…………
จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน หลีชิงเยียนจับจ้องราคาหุ้นอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ค่อยๆเป่าปากอย่างผ่อนคลายแล้ว “บริษัทฮวยเถิงกรุ๊ปคงจะไม่มีเงินทุนสักเท่าไหร่ ในที่สุดบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปก็หลุดพ้นจากวิกฤติเสียที” หลีชิงเยียนพูดขึ้น
ซูเสี่ยวหยุนพยักหน้า “บริษัทฮวยเถิงกรุ๊ปจ่ายมาเกือบห้าหกหมื่นล้าน แต่กลับไม่ได้กำไรอะไรเลย นี่ก็คงจะทำให้พวกเขาเจ็บหนักอยู่นะ”
“ไม่แน่หรอก” เฉินเป่ยส่งเสียงออกมาอย่างกะทันหัน หลีชิงเยียนกับซูเสี่ยวหยุนพากันมองไปที่เฉินเป่ย
เฉินเป่ยสีหน้ายากจะคาดเดาได้ “ห้าหกหมื่นล้าน สำหรับบริษัทฮวยเถิงกรุ๊ปแล้วเป็นการโจมตีที่ถึงตายได้เลย……แต่หากว่า นี่ไม่ใช่เงินของบริษัทฮวยเถิงกรุ๊ปล่ะ?”
“นายหมายความว่าอะไร?” หลีชิงเยียนสีหน้างงงัน
“ผมคิดว่า ในเมื่อด้านหลังของบริษัทฮวยเถิงกรุ๊ปมีมือหนึ่งที่คอยสนับสนุนมาโดยตลอด มีความเป็นไปได้มากว่าเงินนี้จะไม่ใช่เงินของพวกเขา แต่เป็นของมือที่อยู่เบื้องหลัง” เฉินเป่ยเอ่ยปากอย่างแฝงไปด้วยความหมาย
“ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ พละกำลังที่อยู่ด้านหลังของบริษัทฮวยเถิงกรุ๊ป ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน” ซูเสี่ยวหยุนอดไม่ได้ที่จะคิดโยงไปถึง ท่าทางเคร่งขรึม “สามารถใช้ห้าหมื่นล้านจัดการตระกูลหลี ต้องไม่ขาดเงินแน่นอน แต่ในหัวเซี่ย ครอบครัวตระกูลขุนนางที่มีอิทธิพลมากมาย ก็ยากที่จะทำได้……”
“ตระกูลหลี ก่อเรื่องใหญ่เข้าแล้ว……” เฉินเป่ยพูดออกมา
หลีชิงเยียนพยักหน้า แล้วจู่ๆ ใบหน้าสวยๆละเอียดอ่อนนั้นก็เย็นชาขึ้นมาทันที ดวงตาคู่สวยจ้องไปที่เฉินเป่ย พูดออกมา ถามกลับ “แล้วใครอนุญาตให้นายนั่งตรงนั้น?”
“เอ่อ……” เฉินเป่ยมึนงง เธอนี่หาเรื่องทะเลาะได้ตลอดจริงๆ! ถ้าตนไม่นั่งโซฟาจะไปนั่งตรงไหน!
“ยืนสิ!” เสียงที่ดึงดูดของซูเสี่ยวหยุนกล่าวขึ้น ดวงตาที่แสนเซ็กซี่ลองส่งสายตา แสดงให้รู้
“ก็ได้” เฉินเป่ยเศร้าใจ ทำได้เพียงยืนขึ้นอย่างว่าง่าย
“กลับบ้าน” ตระกูลหลียืนได้อย่างมั่นคงจากวิกฤตแล้ว ทำให้หลีชิงเยียนอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อยเลย ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนเต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย
ในระยะวิกฤติ24ชั่วโมง เธอใช้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลไปนับไม่ถ้วน คิดวิธีการมากมาย เธอเหนื่อยมาก เหนื่อยมากเกินไปจริงๆ
ตอนนี้เธอแค่อยากจะผ่อนคลายให้เต็มที่สักหน่อย
และในตอนนี้ วงการค้าหู้ไห่ราวกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แต่ละเนื้อหาข่าวเกี่ยวกับตระกูลหลีและบริษัทฮวยเถิงกรุ๊ปแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว!
สองวันนี้ ในหนังสือพิมพ์ภาวะเศรษฐกิจทั้งหน้ากระดาษโดนตระกูลหลีกับบริษัทฮวยเถิงกรุ๊ปเข้ายึดครอง ทั้งสองบริษัทปะทะกัน ตั้งแต่เริ่มแรกตระกูลหลีก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ โดนบริษัทฮวยเถิงกรุ๊ปโจมตี นักวิเคราะห์การเงินส่วนใหญ่ ล้วนแต่คาดการณ์ว่าตระกูลหลีต้องตกที่นั่งลำบาก คิดว่าครั้งนี้ฮวยเถิงคงวางแผนจะกลืนกินตระกูลหลีมาล่วงหน้าแล้ว
แต่วันนี้ ตระกูลหลีทำให้ทุกคนคาดไม่ถึง ทั้งหมดกลับตาลปัตร ตระกูลหลี ตอบโต้อย่างเต็มที่!
วันนี้ ศูนย์ความเสี่ยงด้านการเงินของหู้ไห่ ฝูงชนรวมตัวกันอยู่ที่ทางเข้าอาคารตระกูลหลีอย่างนับไม่ถ้วน
รถหรูหราแต่ละคัน ที่มาจากทั่วทุกสารทิศของเมืองหู้ไห่ ครอบครัวตระกูลขุนนางผู้มีอิทธิพลก็มา คุณชายในวงการธุรกิจแต่ละคน ทยอยๆมาถึงอาคารตระกูลหลี เพื่อขอเข้าพบหลีชิงเยียนกับหลีหยาง รวมไปถึงคณะกรรมการแต่ละคน
ตอนที่ตระกูลหลีประสบปัญหา คนไม่น้อยท่ามกลางพวกเขาได้รับคำเตือนของคุณชายหลี ไม่อนุญาตให้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังมีบางส่วน ที่เป็นฝ่ายซ้ำเติมโดยเฉพาะ ไม่ยินยอมที่จะช่วยเหลือ
แม้กระทั่งบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากถึงขั้นที่ต้องการความช่วยเหลือ ต่อให้พวกเขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จะมีประโยชน์อะไร?
แต่วันนี้ บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปแค่พูดก็ถลุงเงินเป็นหมื่นล้านในตลาดหุ้นแล้ว เหมือนกับเป็นฝ่ามือ ที่ตบพวกเขาให้ตื่นขึ้นอย่างรุนแรงในทันที!
ถึงที่สุดตระกูลหลีก็ยังเป็นตระกูลหลี ผู้อำนาจเหนือใครของเมืองหู้ไห่ ปฏิเสธการมีอยู่ของพวกเขาไม่ได้เลย!
บริษัทฮวยเถิงกรุ๊ป ถอนตัวจากความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีท่าทางกำเริบเสิบสานตามอำเภอใจเหมือนก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
ในที่สุดพวกเขาก็รู้สึกตัว ตอนที่พวกเขาตัดสายโทรศัพท์ของหลีชิงเยียน ก็ได้ล่วงเกินหลีชิงเยียนกับหลีหยางไปแล้ว!
ตอนนี้พวกเขาเสียใจที่ทำผิดไปแล้ว อยากจะสานสัมพันธ์สนิทสนม
แต่ มีประโยชน์ไหม?
วันนี้ คณะกรรมการของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปได้ประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลภายนอกใดๆทั้งสิ้น!
ภายในของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปสั่นเทิ้ม ใครๆก็คิดไม่ถึงทั้งนั้น บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปที่อบอุ่นผ่อนคลายมาโดยตลอด จะประกาศคำสั่งที่เข้มงวดแปลกๆอย่างนี้!
…………
สนามบินนานาชาติหู้ไห่
เครื่องบินที่โอ่อ่าหรูหราลำหนึ่งค่อยๆลงจอด ห้องโดยสารของเครื่องบินเปิดออก ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมา ทั่วทั้งร่างกายแสดงออกถึงความโหดร้ายรุนแรงปะทุขึ้นมา!
ภายใต้แว่นดำที่ดำขลับ แฝงไปด้วยกลิ่นคาวเลือด น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง!
ด้านหลังของชายวัยกลางคน ตามมาด้วยเงาของรูปร่างสูงใหญ่กลุ่มหนึ่ง แต่ละคน ล้วนแต่ส่งกลิ่นความดุร้ายที่ทำให้หวาดผวา!
สายตาที่น่ากลัว ที่ๆร่างนั้นเคลื่อนผ่านไป ทำให้นักท่องเที่ยวนับไม่ถ้วนถอยหลบไปด้วยความหวาดกลัว!
“ขี้โรคแห่งเอเชีย!” ชายวัยกลางคนเอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ น้ำเสียงเหยียดหยามดูถูก แฝงไปด้วยความองอาจ แผ่กระจายออกไปในทันที!!