สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 87
บทที่ 87 มือใครยาว สาวได้สาวเอา
“ปัง!”
คนเอ้อระเหยไปวันๆหลายคนได้หันหัว มองเห็นรอยแตกที่ได้ปรากฏคล้ายกับลักษณะของใยแมงมุมนับหลายแห่งบนกำแพงโดยฉับพลัน จากนั้นก็ได้ตะลึงต่อภาพที่พบเห็น น่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้!
“พี่ใหญ่!” พวกเอ้อระเหยไปวันๆได้ประคองผมทองลงมาจากบนกำแพง ร่างกายของผมทองได้สั่นระริก และได้พ่นเลือดสดออกมาคำหนึ่ง!
“แม่มรึง!” ผมทองได้เงยหัวขึ้น มองไปทางเฉินเป่ย ลูกตาดำที่เยือกเย็น เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด!
“เอามันทำให้ตายให้ฉัน!” ผมทองได้ตะโกนออกคำสั่ง
“นี่……นี่เกรงว่าจะไม่ดีมั้ง?” พวกคนเอ้อระเหยไปวันๆหลายคนต่างก็มองหน้ากันเลิกลั่ก เวลานี้ผู้คนในบาร์มากมายเช่นนั้น ผมทองสั่งให้พวกเราก่อความไม่สงบต่อหน้าสาธารณชน
“กลัวอะไร เจ้าของบาร์แห่งนี้ฉันรู้จัก ถ้าเกิดเรื่องฉันรับผิดชอบ!” ผมทองได้พูด
“พวกเราไปเถอะ” สีหน้าของใบหน้าที่สวยงามของถังโหรวได้มีการเปลี่ยนแปลง เธอคิดไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะออกมือเด็ดขาดแบบนี้
“ไม่เป็นไร” มือใหญ่ๆที่อบอุ่นข้างหนึ่งได้คว้าจับมือที่เล็กและเรียวยาวขาวและอ่อนโยนนั้นของถังโหรวไว้ด้วยความใจกว้างโอบอ้อมอารี ภายในใจของถังโหรวได้สั่นไหวกระเพื่อมเมื่อมองเห็นสีหน้าที่สงบเงียบของเฉินเป่ย
ลูกตาดำคู่ที่ลึกซึ้งราวกับดาบนั้นของเฉินเป่ย คล้ายกับว่าได้มีเวทมนตร์ที่ทำให้คนหลงใหลที่แปลกประหลาด ทำให้ถังโหรวหลงใหลหมกมุ่นอย่างหาสาเหตุไม่ได้
มือของถังโหรวได้ถูกเฉินเป่ยบีบไว้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ใบหน้าของเธอได้แดงขึ้นเล็กน้อย จิตใจภายในใจก็ได้เพิ่มอัตราความเร็วในการเต้น
“วันนี้ฉันเห็นแก่สาวสวยคนนี้ จึงจะไม่สร้างความยุ่งยากให้กับนาย รีบออกไปจากที่นั่งนี้ มิเช่นนั้นก็พึ่งลำแข้งตัวเอง!” ร่างกายที่สั่นระริกของผมทอง ไปเดินไปทางเฉินเป่ยทีละก้าวทีละก้าว ในมือคาดไม่ถึงว่าจะบีบกริชที่แหลมคมไว้เล่มหนึ่ง!
ลูกตาดำของเฉินเป่ยได้เย็นชาเล็กน้อย “ไสหัวออกไปจากที่นี่ทันที ฉันสามารถไม่ไต่ถามอีกได้”
“ไสหัวออกไป? ให้พวกเราไสหัวออกไป?” ผมทองคือได้ชะงันงักก่อน ทันทีหลังจากนั้นก็ได้มองซึ่งกันและกันกับคนเอ้อระเหยไปวันๆคนอื่นหลายคนทีหนึ่ง จากหัวก็ได้หัวเราะฮ๋าๆเสียงดัง “แม่มรึง นายให้ใครไสหัวออกไปล่ะ? ก็อาศัยนาย?”
“นายรู้ว่าฉันเป็นใครไหม? มาบาร์นี้ครั้งแรกล่ะสิ? เจ้าของที่นี่ก็ล้วนไม่กล้าให้ฉันไสหัวออกไป!” ผมทองได้ยืมอารมณ์ครึ้มเมา เปิดปากพูดเสียงดัง สีหน้าที่กำเริบเสิบสาน เต็มไปด้วยความเหน็บแนม!
“ฉันให้โอกาสไปพวกนายแล้ว รบกวนฉันดื่มเหล้า ยังมาลงมือทางเพื่อนของฉัน” เฉินเป่ยได้จิบบลัดดี้ แมรี่ไปคำหนึ่ง ในลูกตาดำที่สงบเงียบ ได้มีความหมายที่ลึกซึ้งพรวดพราดออกมา และได้เตรียมการอย่างช้าๆ……
“พี่ใหญ่ พูดไรสาระอะไรกับพวกแม่ง ทำเขาให้ตาย!” คนเอ้อระเหยไปวันๆที่อยู่ทางด้านหนึ่งได้กวัดแกว่งกริชในมือไว้ ภายในบาร์ทุกคนได้เห็นฉากนี้ สีหน้าได้ช็อกตะลึงงัน จากนั้นก็ได้พากันทยอยหลบหลีก!
เพราะว่าวันนี้เป็นผมทองที่อยู่ที่นี่!
นอกจากเจ้าของบาร์ของที่นี่แล้ว ผมทองก็กล้าเรียกว่าเป็นที่สอง ไม่มีใครที่กล้าเรียกว่าเป็นที่หนึ่ง!
ขอเพียงคือมักมาที่บาร์แห่งนี้ก็ล้วนรู้……บรรยากาศของบาร์ที่นี่ดีมาก เหล้าก็ดีมาก แต่ว่าแม้จะดีแต่ก็ยังมีจุดขาดตกบกพร่องอยู่ คือที่นี่ได้มีผมทองคนหนึ่ง!
มีวิธีการพูดมากมาย พูดว่าผมทองเคยฆ่าคน มักสามารถเห็นถึงผมทองเก็บศพอยู่ตรงประตูคลับบาร์ ไม่รู้ว่าทำให้ร่างกายของผู้หญิงวัยรุ่นที่สวยงามด่างพร้อยไปแล้วเท่าไหร่
ใครก็ไม่กล้ายุงกับผมทอง ได้ยินว่าในบ้านของผมทองมีเบื้องหลังอยู่บ้าง ความสัมพันธ์กับเจ้าของคลับบาร์ก็ดีเป็นอย่างมาก ทุกครั้งเมื่อตอนที่เขาอยู่ในบาร์โอ้อวดก่อเรื่อง บาร์ก็มักจะจ้องมองข้างหนึ่งปิดตาลงข้างหนึ่ง
และตอนนี้ก็มีคนแอบถอนหายใจ ผู้หญิงที่ผมทองเห็นความสำคัญ มีไม่กี่คนที่ไม่พบถึงความด่างพร้อย
สายตาแต่ละคู่ได้ตกไปอยู่บนตัวของถังโหรวด้วยความสงสารเห็นใจ คล้ายกับว่าถังโหรวถูกพึงพอใจ ก็ได้ลิขิตชะตากรรมของเธอเอาไว้แล้ว
มือของผมทองได้ถือกริช และได้จ้องมองเฉินเป่ยไว้ สายตาทั้งหมดได้เย็นยะเยือกน่ากลัว!
ทันใดนั้น เท้าของผมทองก็ได้ก้าวเหยียบออกไป พุ่งเข้าไปทางเฉินเป่ยแล้ว ทันทีหลังจากนั้นคนเอ้อระเหยไปวันๆกี่คนที่อยู่ด้านข้างผมทอง มือก็ได้ร่วมกันถือกริช และได้พุ่งไปยังเป้าหมายในเวลาเดียวกัน!
กริชแต่ละเล่ม แสงสะท้อนของคมมีดที่ได้กระจายออกไปสะดุ้งให้คนตื่นกลัว และได้แทงเข้าไปทางเฉินเป่ยแล้ว!
ขนละเอียดตามผิวหนังของถังโหรวได้ตั้งขึ้น ลูกตาดำที่สวยงามได้ปรากฏถึงความสะดุ้งตื่นกลัว! ผมทองนี้เห็นได้ชัดว่าต้องการเอาจริงแล้ว!
เฉินเป่ยได้นั่งอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ มองเห็นการโจมตีของพลังของความมุทะลุดุดันและโหดร้ายที่ออกมาจากผมทองกับคนเอ้อระเหยไปวันๆหลายคนด้านข้าง หนังตากะพริบก็ไม่ได้กะพริบเลยแม้แต่น้อย
กริชได้ดิ้นหันไปทางด้านหน้าของเฉินเป่ยอย่างรุนแรง รวดเร็วมาก! จับจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ให้แน่นและเริ่มโจมตีอย่างรุนแรงเพื่อชัยชนะ!
ก็อยู่ในเวลานี้ ลูกตาดำทั้งคู่ของเฉินเป่ยก็ได้แข็งตัว บนหน้าของเฉินเป่ยได้ปรากฏการณ์เหยียดหยามหนึ่งออกมา และได้ออกมือโดยฉับพลัน กำปั้นหนึ่งยิงออกไป ตีไปอยู่ที่คางของผมทองอย่างรุนแรง!
กำปั้นที่ยกขึ้นอย่างสวยงามได้นำผมทองบินไปอีกครั้งอยู่ในอากาศ คาดไม่ถึงว่าจะยังได้ยินเสียงกระดูกหักอย่างชัดเจน!
คนเอ้อระเหยไปวันๆกี่คนนั้นได้อืดอาดเชื่องช้า บนใบหน้าได้มีความสั่นสะเทือนด้วยความตกใจที่เข้มข้นลอยขึ้นมา!
เฉินเป่ยเหมือนกับเทพแห่งสงครามที่ได้อยู่ยงคงกระพัน แค่กำปั้นคู่หนึ่งก็นำอาวุธแหลมคมที่ผมทองถือในมือขัดขวางแล้วอย่างฉับพลัน!
“ยังต้องตีอีกไหม?” มุมปากของเฉินเป่ยได้โค้งขึ้น นั่นคือรัศมีของความเหยียดยามถากถาง!
สีหน้าของคนเอ้อระเหยไปวันๆพวกนั้นไม่น่าดูแล้ว……นี่ ตียังไง?
ผมทองที่เก่งที่สุดก็ได้ถูกขัดขวางอย่างสบานๆ ผู้ชายตรงหน้าคนนี้จะต้องเป็นศิลปะการต่อสู้คนหนึ่ง!
“ไสหัวไป!” เฉินเป่ยตะโกนเสียงเย็นชา ในลูกตาดำทั้งคู่ ได้ส่องแสงความสนใจความเยือกเย็นหนึ่งของความกระหายเลือดออกมาอย่างฉับพลัน!
คนเอ้อระเหยไปวันๆหลายคนนั้นกล้าดูแคลนที่ไหน รีบประคองผมทองที่หลั่งเลือดทั่วตัวขึ้นมา จากนั้นก็ได้อับอายตกใจจากไปทางประตูของบาร์
“แก้ไขแล้ว” เฉินเป่ยหันหัว มองเห็นถังโหรวที่กำลังยันคางไว้ด้วยมือทั้งคู่ มุมปากก็ได้แขวนรอยยิ้มไว้ และได้มองเขาไว้อย่างสนใจ
“คิดไม่ถึงว่านายยังเป็นกังฟูอีกล่ะ?” ในลูกตาดำที่สวยงามใสสะอาดสีดำของถังโหรวเต็มไปด้วยคว่มอ่อนโยนแล้ว
“เทคนิคการต่อสู้พวกหนึ่ง เธออยากเรียน?” เฉินเป่ยพูดหยอกล้อ
“อืม ฉันก็อยากเรียนกังฟู” ถังโหรวพยักหน้าไปมา มุมปากที่แดงฝาดได้ยกขึ้นเล็กน้อย สวยงามเหลือเกิน
“ฉันสอนเธอเอง เธออยากเรียนกังฟูอะไร บนเตียงหรือว่าล่างเตียง?” เฉินเป่ยเข้าใกล้ใบหน้านั้นที่ไม่มีใครเทียบได้ จากนั้นก็ได้พูดถามเบาๆ
“บนเตียงฉันก็เป็นทั้งหมด นายอยากได้เห็นสักหน่อย?” ถังโหรวได้หัวเราะแล้วหัวเราะอีกอย่างมีความหมายลึกซึ้งจากนั้นก็ได้เปิดปากพูดเบาๆด้วยน้ำเสียงที่น่าดึงดูด
เฉินเป่ยจ้องมองลูกตาดำที่สวยงามของถังโหรวนานมาก ทันใดนั้น เฉินเป่ยก็ยื่นมือออกไปข้างหนึ่งโดยฉับพลัน จากนั้นก็ได้พรวดพราดจับเอวที่ผิมบางนั้นของถังโหรวยึดไว้!
ใบหน้าที่อ่อนช้อยของถังโหรวได้เชื่องช้า ในลูกตาดำที่สวยงามมีความลนลานกะพริบขึ้นแย่างรวดเร็ว! เธอคิดไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะกล้าลงมือจริงๆ!
“เอามือออกไป!” คิ้วดำของถังโหรวได้ขมวดขึ้น
“เธอไม่ใช่ว่าต้องการให้ฉันเห็นกังฟูของเธอสักหน่อยงั้นเหรอ?” เฉินเป่ยยิ้มเล็กน้อย ในน้ำเสียงเปลี่ยนไปเป็นคนเสเพลอย่างมาก
“นาย……” ถังโหรวไร้คำพูด ตัวเองก็เพียงแค่ล้อเล่น แต่กลับคิดไม่ถึงว่าล้อเล่นมากเกินไปแล้ว
และก็อยู่ในเวลานี้ ตรงด้านนอกบาร์ ก็มีรถเบนซ์สีดำคนหนึ่งห้อตะบึงมาจากบนถนนที่ไกลออกไป สุดท้ายก็ได้จอดอยู่ข้างถนนอย่างช้าๆ
“ก็คือที่นี่เหรอ?” หลีเช่าเทียนหันหัว มองไปทางประตูของบาร์ น้ำเสียงมีความเงียบสงบจืดจาง
“ใช่ ทุกวันในช่วงเวลานี้เธอก็จะมาดื่มเหล้าที่นี่ มีบางครั้งมาคนเดียว มีบางครั้งก็จะเรียกเพื่อนมาจำนวนหนึ่ง” ลูกน้องของบ้านหลีพูด “ถังเกอมักจะยุ่งกับเรื่องสำคัญต่างๆ ไม่มีเวลาว่างอยู่เป็นเพื่อนเธอ ดังนั้นทั้งวันยันค่ำเธอก็จะเดินเตร่บ้าอยู่ด้านนอก……
มุมปากของหลีเช่าเทียนได้โค้งยกขึ้น ภายในใจของผู้หญิงที่โดดเดี่ยว ก็จะเชื่อคนอื่นง่ายมากที่สุด เขาเคยเล่นกับผู้หญิงที่ได้รับความเจ็บปวดก็นับไม่ถ้วนมาตั้งนานแล้ว
มั่นใจมากต่อเธอ
เปิดประตูรถออก หลีเช่าเทียนเดินเข้าสู่ในบาร์ที่มีเสียงจ้อกแจ้กยุ่งเหยิง ลูกน้องสองคนของบ้านหลีซ้ายคนหนึ่งขวาคนหนึ่งได้ตามอยู่ข้างตัว เพื่อปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยในเวลานี้ให้กับหลีเช่าเทียน
สายตาของหลีเช่าเทียนได้กวาดมองตลอดทาง ทันใดนั้นสายตาของหลีเช่าเทียนก็ได้หยุดชะงักอยู่ตรงประตูห้องน้ำของบาร์
เห็นเพียงตรงประตูห้องน้ำของบาร์ มีเงาที่สวยเซ็กซี่เงาหนึ่งยืนอยู่ เกือบจะแวบเดียวก็ทำให้หลีเช่าเทียนจำได้แล้ว
หลีเช่าเทียนจัดการสูทให้เป็นระเบียบไปแล้วครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้เดินเข้าไปทางถังโหรว
“คุณถัง” หลีเช่าเทียนเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ได้ยิ้มและเปิดปากพูด
“คุณคือ?” ถังโหรวหันหัว กวาดตามองไปยังหลีเช่าเทียนแวบหนึ่ง
“ฉันคือหลีเช่าเทียนจากเยี่ยนจิงบ้านหลี ก่อนหน้านี้กี่วันคุณท่านถังเพิ่งจะอยู่ในงานเลี้ยงส่วนตัวเอ่ยเธอขึ้นมากับฉัน คิดไม่คิดว่าจะบังเอิญเช่นนี้เจอกันที่นี้แล้ว” ใบหน้าที่หล่อของหลีเช่าเทียนได้ยิ้ม “ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ที่เยี่ยนจิงก็อยากรู้จักคุณถัง แต่ว่าก็ไม่มีโอกาสมาตลอด คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะมีวาสนาเช่นนี้……”
รอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์นี้ของหลีเช่าเทียน เคยใช้มันทำให้สาวสวยสับสนไปมากขนาดไหน บวกกับการมีมารยาทเช่นนี้ของเขา เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งที่อยู่ในสังคมชั้นสูงที่สง่าน่าเกรงขามมานาน
“อ้อ” ถังโหรวพยักหน้าไปมา ลูกตาดำที่สวยงามมักจะชำเลืองมองไปยังห้องน้ำชายบ่อยๆ
ในใจของหลีเช่าเทียนมีความประหลาดใจอยู่บ้าง ดูแล้วถังโหรวไม่ได้มีความสนใจต่อเขาเลยสักนิด
“คุณถังกำลังรอคนเหรอ?” หลีเช่าเทียนยิ้มและถาม
“อืม” ถังโหรวพยักหน้าไปมา ถัดไปหลีเช่าเทียนกับถังโหรวก็ได้พูดคุยกันแล้วไปกี่ประโยค ก็เห็นได้ชัดว่าถังโหรวไม่สนใจ ไม่มีท่าทางที่มีความสนใจต่อหลีเช่าเทียนเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้ารูปงามของหลีเช่าเทียนมีความอึมครึมอยู่บ้าง เขานี้คือชมเชยให้ความพอใจแต่คนอื่นกลับไม่สนใจ! คาดไม่ถึงว่าถังโหรวจะไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย!
ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ได้? หลีเช่าเทียนไม่เข้าใจ รูปแบบธรรมเนียมที่เขาใช้มาไม่เคยไม่ได้ผล แต่วันนี้กลับเป็นข้อยกเว้นหนึ่ง……
ที่แท้เป็นขั้นตอนไหนที่มีปัญหาแล้ว? ในใจของหลีเช่าเทียนได้ขบคิด แต่สุดท้ายกลับรู้สึกว่าตัวเองทำได้สมบูรณ์แบบ ไม่มีความผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย
ก็ผ่านไปแล้วครู่หนึ่ง เงาหนึ่งได้เดินออกมาจากห้องน้ำ ในที่สุดมุมปากของถังโหรวก็มีรอยยิ้มหนึ่งยกขึ้น มองไปทางเงานั้น
“ทำไมนายเพิ่งออกมาล่ะ? ฉันก็ใจร้อนจะตายอยู่แล้ว ห้อวก็เปิดเสร็จแล้ว” ใบหน้าที่อ่อนช้อยของถังโหรวมีความไม่สบายใจ
“ฉันมาช้ามาก ไม่ว่าจะเป็นบนเตียงหรือว่าข้างใต้เตียง” เฉินเป่ยเปิดปากพูดอย่างจืดจาง ทันใดนั้น ลูกตาดำทั้งสองคู่ของเฉินเป่ยกับหลีเช่าเทียนก็ได้มองซึ่งกันและกัน สีหน้าของหลีเช่าเทียนเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน!
“ทำไมนายอยู่ที่นี่?” หัวคิ้วของหลีเช่าเทียนได้ล็อกแน่น และเฉินเป่ยก็ได้เปิดปากด้วยเสียงอันธพาล
“คุณชายหลี ทำไมไปที่ไหนก็ล้วนได้พบคุณล่ะ ห้องน้ำในบาร์ยังได้พบคุณ เด็กรับใช้ของคุณไม่ใช่ว่าทั้งวันยันมืดก็ได้ติดตามอยู่ทางด้านหลังตูดของฉันใช่ไหม?”
สีหน้าของหลีเช่าเทียนได้อึมครึม “ฉันก็ยังอยากจะถามกลับล่ะ ทำไมที่ไหนต้องมีนาย”
“เธอนัดฉันมาดื่มเหล้า” เฉินเป่ยยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็พรวดพราดยื่นมือไปจับเอวเล็กๆผอมๆของถังโหรวยึดเอาไว้แล้ว
ลูดตาดำของหลีเช่าเทียนได้กวาดตามองผ่าน จ้องเฉินเป่ยกับถังโหรวไว้อย่างเยือกเย็น สายตาสองคู่ได้ปะทะชนกันอยู่ในอากาศ มือคู่ของหลีเช่าเทียนไก้กำกำปั้นไว้แน่น ในลูกตาดำได้มีฉายภาพการสังหารที่น่ากลัว!
เอ๋อตงเฉินคนนี้ที่สมควรตาย มือใครยาว สาวได้สาวเอาไปแล้ว!
“หลีเช่าเทียนพวกเราดื่มเหล้า เปิดห้อง นายก็คงจะไม่สนใจใช่ไหม?” มุมปากของเฉินเป่ยได้ชำเลืองไป ในรอยยิ้มที่เย็นชาได้มีความถากถางหนึ่งมากขึ้นแล้ว
“แน่นอนว่าไม่” หลีเช่าเทียนกดความโกรธอยู่ในใจ มุมปากก็ได้ยกรอยยิ้มหนึ่งขึ้นมา “ขอให้พวกเธอเล่นกันอย่างมีความสุข”
ทันทีหลังจากนั้นหลีเช่าเทียนก็หมุนตัว ก็หายไปในกลุ่มคนอย่างรวดเร็ว
“นายรู้จักเขา?” ตอนที่มองภาพหลังที่ค่อยๆหายไปของหลีเช่าเทียนไว้ เฉินเป่ยก็ได้พูดถาม
“ไม่รู้จัก ก็แมงดาคนหนึ่งมาชวนคุย” ถังโหรวพลิกสายตามองค้อน เรื่องจริงเธอก็ไม่ได้นำหลีเช่าเทียนมาอยู่ในสายตา
เหมือนกับวิธีชวนคุยแบบนี้ของหลีเช่าเทียน เธอก็ได้พบมามากมามากแล้วตอนที่อยู่ที่เยี่ยนจิง……เคยชินมาตั้งนานแล้ว
นอกบาร์ มือคู่ของหลีเช่าเทียนได้กำกำปั้นไว้แน่น จากนั้นก็ได้เดินออกมาจากบาร์อย่างรีบร้อน สีหน้าที่เขียวดำไม่น่าดู กำปั้นคู่ได้ทุบตีไปยังหลังคารถสีดำ ถัดไปหลังจากนั้นขาก็ได้ถีบไปอยู่บนล้อรถยนต์
“ปัง”
หลีเช่าเทียนระบายอารมณ์อย่างบ้าคลั่ง ล้อรถได้ส่งเสียงดังอย่างกลัดกลุ้ม แต่เร็วมาก ใบหน้าของหลีเช่าเทียนก็ได้บิดเบี้ยวอย่างฉับพลัน เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน!
“เอ๋อตงเฉิน”
หลีเช่าเทียนได้ระเบิดความโกรธอย่างโหดร้ายทารุณ บรรยากาศในรถมีเสียงตวาดด้วยความโกรธที่บ้าคลั่งของเขาดังก้อง!