สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 93
ตอนที่93 นิ้วขาด
“ปล่อยนะ”หลีชิงเยียนพูด ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วดิ้นหนีสุดแรง
แตาดูเหมือนการดิ้นหนีของหลีชิงเยียนจะไม่ได้ผลอะไรเลย หนึ่งในชายฉกรรจ์ยิ้มชั่วร้าย “คนสวย อย่าทำอะไรที่ไร้ประโยชน์เลยดีกว่า แทนที่จะดิ้นหนีคนสวยควรจะมีความสุขไปด้วยกันถึงจะถูก เดี๋ยวพวกพี่จะทำให้คนสวยมีความสุขจนร้องไม่หยุดไปเลย”
ถึงเธอจะแต่งงานกับเฉินเป่ยมาหลายเดือนแล้ว แต่เขายังไม่เคยแตะต้องตัวเธอเลย… แต่วันนี้อันธพาลกลุ่มนี้… กลับทำแบบนี้กับเธอ
“พวกคุณอยากได้อะไรฉันยอมให้ทุกอย่าง… ขอแค่พวกคุณยอมปล่อยฉันไป”หลีชิงเยียนพูดเสียงสั่น แล้วหลับตาลง ร่างกายสั่นเทา
“พวกเราต้องการแต่ร่างกายของคนสวยนี่นา” กลุ่มอันธพาลหัวเราะออกมา แล้วจ้องมองอย่างหยาดเยิ้ม
“เอ๊ะ ทำไมกูรู้สึกคุ้นหน้าคนสวยคนนี้พิกล”ทันใดนั้นเอง หนึ่งในกลุ่มอันธพาลก็พูดขึ้นมา ก่อนจะตบมือเสียงดัง “อ๋อ จำได้แล้ว เธอเป็นประธานบริษัทอะไรสักอย่างนี่แหละ เป็นคนดัง”
“คนดังก็ดีสิ ตอนเล่นจะได้ตื่นเต้น สุดยอด วันนี้พวกเราได้เต็มอิ่มกันแน่ๆเลย”
“แคว่ก”
มือข้างหนึ่งออกแรงฉีกจนเสื้อที่ออกแบบมาอย่างหรูหราของหลีชิงเยียนฉีกขาดออกจากกัน
จนผิวขาวเนียนปรากฏสู่สายตา หลีชิงเยียนพยายามดิ้นหนี แต่กลับสู้แรงของพวกอันธพาลตรงหน้าไม่ได้
แรงดิ้นหนีของเธอเริ่มหมดลง แววตาของเธอเริ่มหมดหวัง
เธอรู้สึกเสียใจมาก ตัวเองไม่ควรจะออกมาจากบ้านเพื่อประชดและไม่ควรมาเดินที่ถนนเส้นนี้
และทันใดนั้นเอง มีเสียงรถตำรวจดังขึ้นมาจากถนน แล้วหยุดจอดอยู่ตรงบริเวณที่ว่าง
“ตำรวจมาแล้ว” กลุ่มอันธพาลสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
รถตำรวจขับตรงไปทางหลีชิงเยียน เห็นได้ชัดว่ามาเพื่อตามหาหลีชิงเยียนโดยเฉพาะ
“โธ่เว้ย ถือว่าวันนี้คนสวยโชคดี พวกเราถอย” ชายฉกรรจ์คนนั้นมองมาทางหลีชิงเยียนอย่างเสียดาย มือใหญ่ลูบไล้เรือนร่างของหลีชิงเยียนอีกหลายครั้ง ก่อนจะวิ่งหนีไป
หลีชิงเยียนกอดร่างกายตัวเองไว้ ก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่สั่นเทา ในดวงตาที่แสนงดงามเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา มีรถตำรวจคันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนน ส่วนอีกคันที่ขับตามมามีคนเปิดประตูรถออกมา ก่อนจะมีเงาร่างที่คุ้นเคยเดินลงมาจากรถ
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ” ร่างที่คุ้นเคยก้มตัวลง แล้วดึงหลีชิงเยียนเข้าไปกอดไว้
“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้” หลีชิงเยียนกระพริบตาปริบๆ ตอนที่เห็นว่าคนที่เดินลงมาจากรถตำรวจคือเฉินเป่ย
“หลังจากที่คุณออกจากบ้านคุณพ่อของคุณมา ผมก็ออกตามหาคุณมาตลอด เริ่มแรกหาไม่เจอ โชคดีที่คุณพ่อของคุณมีคนรู้จักอยู่ในสถานีตำรวจ ท่านก็เลยขอยืมคนมา แล้วออกค้นหาคุณไปทั่วเมืองหู้ไห่ จนในที่สุดก็หาตัวคุณเจอ” เฉินเป่ยพูดอธิบาย
แต่เขาไม่ได้บอกหลีชิงเยียน ว่าตอนที่หลีหยางติดต่อไปขอยืมคนจากสถานีตำรวจนั้น เฉินเป่ยก็รู้ตำแหน่งที่อยู่ของหลีชิงเยียนแล้ว ตอนรถตำรวจเริ่มออกตามหา ก็ค่อยๆตรงไปที่ตำแหน่งของหลีชิงเยียนเลย
เพราะถ้าตามหาโดยไม่รู้ทิศทาง ถึงจะตามหาทั้งคืน ก็คงหาหลีชิงเยียนไม่เจอ
“ขอบคุณค่ะ”หลีชิงเยียนมองไปทางเฉินเป่ย ใบหน้าที่ปกติจะขี้เล่น ตอนนี้กลับจ้องมองด้วยแววตาเป็นห่วงและจริงจัง
ปกติหลีชิงเยียนจะพูดแขวะเฉินเป่ยตลอด เพราะเธอไม่เคยคิดเลยว่า สักวันหนึ่ง ตัวเองจะได้รับความช่วยเหลือจากเฉินเป่ยแบบนี้
เธอคิดมาตลอด ว่าคนที่ช่วยเธอจากอันตรายทุกครั้งจะเป็นฮีโร่ลึกลับคนนั้นตลอด ไม่เกี่ยวกับเฉินเป่ยเลยแม้แต่น้อย
แต่วันนี้ เฉินเป่ยกลับช่วยเธอไว้
“คุณเป็นภรรยาของผมนะ ระหว่างเราสองคนยังต้องพูดคำว่าขอบคุณอีกเหรอครับ” เฉินเป่ยยิ้มบาง
“ไปกันเถอะ ดึกมากแล้ว ควรจะกลับบ้านกันได้แล้ว” เฉินเป่ยถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกมา แล้วคลุมไปที่ร่างของหลีชิงเยียน ก่อนจะพยุงหลีชิงเยียนเดินไปขึ้นรถตำรวจ
หลังจากนั้นรถตำรวจก็ขับออกไป ทำให้ถนนเส้นนั้นตกสู่ความเงียบอีกครั้ง
ในบ้านพัก หลังจากหลีชิงเยียนอาบน้ำเสร็จ เธอใส่ชุดนอนเนื้อบาง ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาห้องรับแขก แล้วเล่าเรื่องราวในวันนี้ให้ซูเสี่ยวหยุนฟัง
“อันตรายมากจริงๆ ถ้าพวกเฉินเป่ยไปช่วยไม่ทัน ครั้งนี้เธอมีอันตรายแน่ๆ”ซูเสี่ยวหยุนลูบหน้าอกตัวเอง ในใจรู้สึกหวาดกลัว
“อืม”หลีชิงเยียนถอนหายใจออกมาใบหน้าที่งดงามมองขึ้นไปบนฟ้า ยังคงดูงดงามน่าดึงดูดใจมาก
“ฉันเหนื่อยแล้ว ขอไปพักผ่อนก่อนนะ”
รอจนหลีชิงเยียนเดินขึ้นไปชั้นบนเรียบร้อย ซูเสี่ยวหยุนก็หาวออกมา แล้วมองไปทางเฉินเป่ย ก่อนจะยิ้มยั่วยวน
“นอนด้วยกันไหม”
“ผมต้องทำงานบ้านให้เสร็จก่อนถึงจะนอน”เฉินเป่ยใจสั่นคลอน แต่ก็ต้องปฏิเสธออกไป
เมื่อตอนเย็น ตัวเองเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ตอนอยู่บนรถ เฉินเป่ยไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นซ้ำสองที่บ้านเด็ดขาด
แต่ซูเสี่ยวหยุนสวยมากจริงๆ เสน่ห์ของหญิงสาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ของเธอ ทำให้เฉินเป่ยยากที่จะปฏิเสธได้
“โอเคค่ะ ราตรีสวัสดิ์”ซูเสี่ยวหยุนกระพริบตาให้ ก่อนจะหันหลัง เดินสะบัดสะโพกงอนงามขึ้นชั้นสองไป
รอจนหลีชิงเยียนกับซูเสี่ยวหยุนหลับ แววตาของเฉินเป่ยก็แข็งกร้าวขึ้นมา
เฉินเป่ยเดินไปที่หน้าต่างห้อง มองไปทางแสงไฟที่อยู่ห่างออกไป แสงไฟจากตึกใหญ่ แววตาที่คมเข้มเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวดุดัน
รอบตัวเฉินเป่ยแผ่รังสีสังหารออกมาครอบคลุม เหมือนดาบที่ถูกดึงออกจากฝัก
เฉินเป่ยเปิดบานหน้าต่างออก ก่อนจะกระโดดออกไป
ถ้าหลีชิงเยียนกับซูเสี่ยวหยุนเห็นภาพเหตุการณ์นี้ คงจะยืนอึ้ง นึกว่าเฉินเป่ยคิดสั้นทำอะไรโง่ๆแน่นอน
นี่มันหาที่ตายชัดๆเลย
กระโดดจากที่สูงขนาดนี้ ไม่มีทางรอดแน่นอน
แม้แต่ซูเหลย ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่ากระโดดลงไปจากความสูงระดับนี้ จะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
แต่เฉินเป่ยกลับกระโดดลงไปโดยไม่มีแม้แต่ความลังเลใจ ก่อนจะลงสู่พื้นหญ้าข้างล่างอย่างรวดเร็ว
“ปึก”
พื้นดินสั่นสะเทือน ตรงพื้นหญ้าปรากฏหลุมลึกที่มองได้ชัดว่าเป็นรอยเท้าออกมา
เฉินเป่ยกระโดดตัวขึ้น ก่อนจะหายตัวไปรวดเร็วเหมือนแสงไฟ
เฉินเป่ยในเวลานี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแววสังหาร เหมือนสัตว์ร้ายที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้
ร่างของเขาขายตัวไปจากบ้านพักอย่างรวดเร็ว จนทำให้หมวกของยามถูกพัดออกไป
ยามเฝ้าหมู่บ้านมีสีหน้ามึนงง ก่อนจะมองออกไป แล้วเหมือนจะเห็นเงาของคนเลือนๆ
เฉินเป่ยในเวลานี้ ไม่มีความขี้เล่นหลงเหลืออยู่เลย แต่กลับถูกรังสีสังหารครอบคลุมแทนที่ เหมือนเครื่องมือสังหารที่ไร้ความรู้สึก
ห้องตรงข้ามของเฉินเป่ย หลีชิงเยียนที่เพิ่งนอนลงบนเตียงได้ไม่นาน จึงรู้สึกได้ว่าพื้นดินสั่นสะเทือน เธอจึงเดินลงจากเตียงอย่างแปลกใจ แล้วเปิดประตูห้องของเฉินเป่ยช้าๆ
พบว่าหน้าต่างในห้องของเฉินเป่ยถูกเปิดไว้
…………
ในซอยแห่งหนึ่งของเมืองหู้ไห่ มีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกำลังนั่งอยู่ข้างถนน แล้วมองผู้หญิงที่เดินผ่านไปผ่านมา
“โธ่เอ๊ย ไม่มีคนไหนหน้าตาดีเหมือนผู้หญิงคนก่อนหน้านี้เลยสักคน” หนึ่งในกลุ่มอันธพาลพูด
“คนก่อนหน้านี้เป็นคนดัง จะเหมือนกันได้ยังไงล่ะ แค่ผิวเนียนนุ่มของเธอก็ไม่มีใครสู้ได้แล้ว”ชายฉกรรจ์อีกคนพูดออกมาอย่างเสียดาย “ซวยชิบหาย กำลังจะได้ลิ้มลองแล้วเชียว ตำรวจดันมาเจอเข้าซะก่อน… โธ่เอ๊ย”
“อย่าพูดมาก” หนึ่งในกลุ่มอันธพาลตะโกนห้าม ก่อนจะมองหนึ่งในหญิงสาวที่เดินผ่านไป ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
“พวกมึงดูคนนั้น โอเคไหม”
“โห หุ่นดีสุดยอด หน้าตาก็ไม่เลว”
“งั้นก็คนนี้แล้วกัน ไปจับเธอมาในซอย… ”กลุ่มอันธพาลยืนปรึกษากัน ก่อนจะเริ่มลงมือ
ไม่นาน หญิงสาวที่หน้าตาดีก็ถูกชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นบีบบังคับให้เดินเข้าไปในซอยตัน ภายในซอยมืดและเปลี่ยว ผู้หญิงคนนั้นมีท่าทางหวาดกลัว ไม่รู้จะทำยังไงดี
“พวกแก… คิดจะทำอะไร ในกระเป๋าฉันมีเงิน ฉันให้พวกแกทั้งหมดเลย…”หญิงสาวคนนั้นพูดเสียงสั่น
“พวกเราอยากได้คนสวยนี่นา”กลุ่มอันธพาลหัวเราะ แล้วยื่นมือไปจับใบหน้าที่น่ารักของหญิงสาว
หญิงสาวกลัวจนตัวสั่น
“ฉึบ”
ทันใดนั้นเอง ภายใต้ความมืดมิดก็มีแสงสว่างสีเงินพาดผ่าน ก่อนจะมีเสียงร้องโหยหวนของกลุ่มอันธพาลดังขึ้นมาอย่างเจ็บปวด
มือขวาของพวกเขานิ้วขาดกันหมดทุกคน
นิ้วมือทั้งสิบนิ้วถูกตัดออกมาติดต่อกัน ความเจ็บปวดนั้น ทำให้พวกเขาแทบจะทนไม่ได้
“ใคร ใครเป็นคนทำ” หนึ่งในกลุ่มอันธพาลทนเจ็บ แล้วมองไปรอบด้านด้วยสายตาดุร้าย
“ตึกตึกตึก”ในความมืด มีเสียงเดินดังขึ้น ก่อนจะมีเงาคนเดินออกมาจากความมืด แล้วจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา
“มึงเป็นใคร”หนึ่งในกลุ่มอันธพาลมองหน้าเฉินเป่ยอย่างละเอียด เขาไม่รู้สึกคุ้นหน้าเฉินเป่ยเลยแม้แต่น้อย
“ฉันคือ…”เฉินเป่ยเดินออกมา แล้วพูดต่อ “ลูกเขยแต่งเข้าบ้านตระกูลหลี”
“ตระกูลหลี”กลุ่มอันธพาลขมวดคิ้วครุ่นคิด ในบรรดาศัตรูของพวกเขา รู้สึกจะไม่มีตระกูลหลีนี่นา
“ รีบถอยไปซะ ไม่อย่างนั้นจะจัดการมึงด้วย”กลุ่มอันธพาลตะโกนใส่เฉินเป่ยอย่างดุร้าย
เฉินเป่ยพุ่งตัวเข้าไปยืนบังหญิงสาวคนนั้นไว้ “กล้ายุ่งกับเมียกู หาที่ตายชัดๆ”แววตาของเฉินเป่ยเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวและดุร้าย