สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 119 โจวหู่[รีไรท์]
บทที่ 119 โจวหู่[รีไรท์]
ในขณะที่หุ่นฉู่เฟิงกำลังปรับสมดุลของตัวเอง ฉู่เหินก็ทำหอกอสรพิษไปด้วย เวลาค่อย ๆ ผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ซึ่งฉู่เหินเองก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะเสียเวลาไปทั้งวัน แต่ถึงอย่างงั้น ผลที่ได้มันก็คุ้มค่ากับที่เสียเวลาไปเช่นกัน
สิ่งที่ทำให้ฉู่เหินรู้สึกเหลือเชื่อคือ ทันทีที่เขากลั่นเสร็จ ฉู่เฟิงก็ได้รับการเลื่อนขั้นจากระดับเหล็กไปเป็นระดับทองแดงทันที ซึ่งนั่นก็เป็นจังหะวเดียวกันกับที่ของเหลวจากงาช้างถูกปรับแต่งให้เข้ากับร่างกายของเขาและกลายเป็นสมบัติประจำตัวไปในที่สุด ตอนนี้มันกลายเป็นดาบยาวที่มีสีราวกับหยกขาว ฉู่เหินอดตื่นเต้นไม่ได้ที่ได้เห็นมัน
อย่างไรก็ตาม การใช้งานดาบเล่มนี้ก็ไม่ได้ต่างจากดาบเล่มอื่น ๆ เช่นเดียวกับดาบวงพระจันทร์ที่เขาซ่อมเสร็จแล้ว อันที่จริงดาบถือว่าดีดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ฉู่เหินกะได้ว่าตอนนี้นั้น ดาบวงพระจันทร์น่าจะกลายเป็นของระดับ 4 ไปเรียบร้อยแล้ว
และสุดท้ายก็หอกที่เขาทำเสร็จเรียบร้อย ของที่อยู่ในมือฉู่เหินตอนนี้มันคือ ง้าวอสรพิษ ที่มีความยาวราว ๆ 1 ฟุต ซึ่งถ้าใส่พลังแห่งดวงดาวเข้าไป ง้าวก็จะสามารถเพิ่มความยาวของมันนั้นออกได้ถึง 8 เมตร
ในกรณีนี้ เจ้าง้าวนี่ก็อาจนับได้ว่าเป็นของวิเศษ เพราะนอกจากขนาดที่เปลี่ยนไปมาได้แล้ว พลังของมันเองก็ไม่มีขีดจำกัดอีกด้วย ถึงปกติง้าวจะเป็นแค่อาวุธทั่วไป แต่ของวิเศษก็ยังคงถือเป็นของวิเศษอยู่ดี
เมื่อฉู่เหินเอาง้าวให้โป๋อีกู่ อีกฝ่ายก็รับไปด้วยความตื่นเต้น โป๋อีกู่ไม่คิดเลยว่าการที่ตัวเขาติดตามอีกฝ่ายมาแค่ 2 ถึง 3 วัน ฉู่เหินก็ให้อะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้แล้ว เรื่องนี้เองทำให้โป๋อีกู่ตั้ดสินใจที่จะปฏิญาณกับตัวเองอย่างเงียบ ๆ ว่าจะขอติดตามฉู่เหินไปชั่วชีวิต
ต่างกับฉู่เหิน ตัวเขานั้นไม่ได้คิดไปไกลอะไรขนาดนั้น เขาก็แค่ให้อะไรโป๋อีกู่เพื่อไว้ช่วยดูแลคนใกล้ตัวของเขาเท่านั้น เพราะยังไงเดี๋ยววันพรุ่งนี้เขาก็กะว่าจะไปเยี่ยมพี่ชายที่โรงพยาบาล ซึ่งตัวฉู่เหินก็รู้ดีกว่ารอบ ๆ ตัวเขาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นฉู่เหินก็เลยอยากจะได้หลักประกันทางใจซักอย่างเวลาที่ตัวเขาต้องไปธุระข้างนอก ซึ่งเขาก็เลือกไว้วางใจโป๋อีกู่
ฉู่เหินรู้สึกเบื่อ เขาจึงควักโทรศัพท์ออกมาเล่น ก่อนที่ชายหนุ่มจะถูกดึงดูดโดยภาพถ่ายและคลิปวิดีโอของเพื่อน ๆ เขาในโลกออนไลน์ ถึงมันจะเป็นแค่อะไรเล็กน้อยที่เขาแทบจะไม่สนใจเลยก็ตาม
ฉู่เหินเห็นคนที่อยู่ในวิดีโอได้ชัดแจ๋ว หัวใจของเขาค่อย ๆ สงบลง ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นฉู่เหินละก็ คงจะไม่มีทางที่ใครจะสังเกตการณ์เห็นความเคลื่อนไหวในวิดีโอได้แน่ ๆ
คนที่โพสต์วิดีโอคลิปนี้ อันที่จริงแล้วฉู่เหินก็ไม่ได้สนิทมากนัก คนคนนี้เป็นคนที่เขาเคยเจอเมื่อ 5 เดือนก่อน ซึ่งฉู่เหินเองก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะสามารถทำสิ่งที่ฉู่เหินบอกไว้ได้ ทุกๆ เช้าเย็นนั้นชายคนนั้นจะไปสังเกตปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง เมื่อเห็นความมุ่งมั่นของเขา ฉู่เหินก็รู้สึกได้ว่าคนตรงหน้านี้เข้าใกล้ความเป็นยอดฝีมือเข้าไปทุกทีแล้ว
สิ่งที่ฉุดรั้งอีกฝ่ายไม่ให้ไปข้างหน้าก็มีแต่ความมุ่งมั่นที่เกินพอดีเท่านั้น ถ้าชายคนนั้นเลิกที่จะสนใจแค่เพียงกระแสน้ำที่รุนแรง และหันไปสังเกตปัจจัยโดยรอบอื่น ๆ ละก็ มันจะต้องมีประโยชน์กับตัวของเขาอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้เอง ฉู่เหินก็ได้เตือนอีกฝ่ายไป 2-3 ครั้งแล้ว
ชายผู้นี้นั้น ฉู่เหินได้มารู้ที่หลังว่าเขาชื่อ โจวหู่ ซึ่งตัวโจวหู่นั่นก็ได้เล่าว่าตัวเขาเคยเป็นศิษย์ของผู้ลึกลับคนหนึ่งบนภูเขาหลงหู ก่อนที่ต่อมาโจวหู่จะเผลอไปก่อเรื่องใหญ่จนถูกเนรเทศออกมาจากภูเขา ตั้งแต่นั้นมาโจวหู่ก็ต้องร่อนแร่ไปทั่ว เขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะบรรลุให้ถึงระดับยอดฝีมือให้ได้ด้วยตัวของเขาเอง
ซึ่งถ้ามันไม่เกิดเรื่องที่โจวหู่พบกับเม่ยซานเหนียงตอนนั้นละก็ ทุกวันนี้เขาคงไม่เป็นแบบนี้ หลังจากเล่าเรื่องจบ โจวหู่ก็ถามเรื่องกระท่อม และชายทะเลที่ตัวเขาต้องไปอยู่ เมื่อฉู่เหินบอกทางเสร็จ ชายผู้นั้นก็เริ่มใช้ชีวิตของตัวเองวนเวียนอยู่กับการกิน นอน และเฝ้ามองคลื่นลม
ตอนแรกโจวหู่คิดว่าโดนฉู่เหินหลอกเอาซะแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปตัวเขาก็พบปัญหาที่ทำให้ตัวเองนั้นไม่สามารถบรรลุไปอีกขั้นได้ จนถึงตอนนี้ ตัวของโจวหู่เองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ฉู่เหินสั่งให้ทำเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงมุ่งมั่น และจ้องมองคลื่นลมในทะเลด้วยความตั้งใจ
อย่างไรก็ตามมันก็ผ่านมา 1 เดือนแล้ว ที่เขานั้นไม่สามารถพัฒนาไปมากกว่านี้ได้
ดังนั้นโจวหู่จึงนั่งสมาธิอดทนและจ้องมองทะเลทุกวัน แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี วันนี้โจวหู่ได้โพสต์วิดีโอสั้น ๆ ลงไป และในตอนนั้นเองที่เขารู้สึกว่าท้องทะเลกำลังพูดอะไรบางอย่างกับเขา แต่นั่นก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก ทะเลมันไม่มีชีวิตเสียหน่อย
ขณะที่โจวหู่กำลังคิดมา เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น บนหน้าจอที่แสดงมานั่น ทำให้เขารู้ว่าคนที่โทรเข้ามาก็คือฉู่เหิน เมื่อเห็นที่มาของปลายสาย หัวใจของโจวหู่เต้นรัวด้วยความตื่นเต้น เขาไม่เลยคิดว่าปลายสายนั้นจะเป็นคนโทรมาหาเขาเอง
เมื่อโจวหู่กดรับสาย เขาก็รีบพูดอย่างรวดเร็วออกไปว่า “สวัสดีครับ คุณฉู่!”
“มี 2 สิ่งที่ขัดแย้งกัน ถ้าสังเกตให้ดี นายจะพบคลื่นที่ปั่นป่วน ปะการังที่ดูอ่อนโยนซึ่งกำลังแอบซ่อนอะไรบางอย่าง เช่นเดียวกับการที่สายลม และต้นไม้ที่เติบโต” คำพูดไม่กี่คำนั้นทำให้โจวหู่รู้ได้ในทันที
หลังจากนั้น ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ร่างกายของโจวหู่ก็ถูกรบกวนด้วยความรู้สึกบางอย่าง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทะเลนั้นต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างกับเขา ไม่โกรธคนที่เข้ามายุ่มย่ามอย่างงั้นเหรอ? โลกนี้นะทุกสิ่งมันเต็มไปด้วยสีขาวและดำ ดีและเลวในแบบของมัน
ตอนนี้ในที่สุดเขาก็รู้ตัวแล้ว ตอนนี้โจวหู่สามารถบรรลุและกลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญได้แล้ว นี่ถือได้ว่าเป็นจุดจบที่ดีแล้วสำหรับชะตากรรมที่น่าเศร้าในอดีต ตั้งแต่นี้จะไม่มีอะไรมาหยุดรั้งเขาได้อีก
“อ้าวคุณฉู่ ยังอยู่อีกเหรอครับ?” โจวหู่พูดอย่างตื่นเต้นกับปลายสาย
“เป็นยังไงบ้างล่ะ? ตอนนี้ผ่านมันมาได้แล้วนี่ นายยอดเยี่ยมมาก ความสำเร็จอันไร้ขีดจำกัดต้องรอนายอยู่แน่ๆ!” ฉู่เหินพูดออกมาแล้วก็ยิ้ม
“ขอบคุณมากจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมคงมาไม่ถึงขนาดนี้” คำพูดที่ตื่นเต้นดังออกมาทางโทรศัพท์
“ในเมื่อสำเร็จแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ที่นี่แล้วน่ะนะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย ฉันอยากให้นายไปที่เขตพัฒนาจิ๋งหมาน ที่วิทยาลัยไฟฟ้าฟูหยวนจะมีคนที่ชื่อว่า หลิวเสี่ยวชิง ไปปกป้องเธอซะ อย่าให้เธอรู้ตัวด้วยนะ อ้อ แล้วถ้าแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ก็ให้โทรหาฉันนะ”
ช่วงไม่กี่วันมานี้ฉู่เหินรู้สึกกระวนกระวายอยู่ตลอด ถ้าไม่อย่างงั้นเขาคงจะรีบให้คำแนะนำกับโจวหู่หรอก
“ไม่ต้องห่วงคุณฉู่ ผมจะปกป้องเธออย่างสุดกำลัง”
เมื่อให้สัญญากับฉู่เหินไปแล้ว โจวหู่ก็ตัวสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น อย่างไรก็เมื่อเขาหวนนึกถึงคำสั่งของฉู่เหินที่ห้ามทำอะไรผลีผลาม นั่นก็ทำให้เขาสงบลง หลังจากคุยกันอีกสักพัก ฉู่เหินก็วางสายไป
เดิมทีฉู่เหินวางแผนที่จะปล่อยพี่รองเอาไว้ที่บ้าน แต่ดูท่าว่าตอนนี้น่าจะยังก่อน เพราะว่าตอนนี้อันตรายเกินไป
ดังนั้นเขาจึงขอให้เมื่อเสี่ยวเฟิงจัดการบ้านของตัวเขาเสร็จเรียบร้อบแล้วเรียบร้อยก็ให้รีบพาพี่รองกลับไป การที่มีโป๋อีกู่อยู่ที่บ้านนั้นทำให้ไม่จำเป็นต้องกังวลกับอันตรายจากภายนอก เรื่องของหวงลี่ลี่เองก็ทำให้เขากังวลนิดหน่อย เพราะไม่ง่ายเลยที่จะส่งคนไปอารักขาเธอ
ในตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ขณะที่ฉู่เหินกำลังเดินอยู่ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีวงแหวนมิติโผล่ขึ้นมา มันเป็นเจ้าแมวที่กำลังตื่นขึ้นมานั่นเอง
ทันทีที่ฉู่เหินเห็น เขาก็รีบกวักมือให้เจ้าเหมียวเข้ามาหา ทันทีที่มันออกจากแหวน ฉู่เหินก็สังเกตได้ถึงขนาดตัวของมัน ตอนนี้เจ้าแมวดำตัวนี้ มันตัวใหญ่ราวกับเสือที่ยังโตไม่เต็มวัย ก่อนที่อะไรบางอย่างบนตัวของเจ้าแมวจะดึงดูดสายตาของฉู่เหิน มันคือก้อนเล็กๆ ที่อยู่ตรงหางของมัน