สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 230 ใครคือไป๋เยี่ย! (1)
บทที่ 230 ใครคือไป๋เยี่ย! (1)
เมื่อไป๋เยี่ยได้รู้ว่ารายชื่อของวารสารที่จะถูกนำเข้าเอสซีไอในปี 2018 กำลังจะถูกประกาศ เขาก็ลองทบทวนเนื้อหาในวารสารของสัปดาห์นี้อีกครั้งหนึ่ง
เอสซีไอเน้นวารสารภาษาอังกฤษ ถ้าต้องการให้คนนำไปอ้างอิง วารสารการแพทย์แผนจีนก็คงไม่ค่อยหวังผลได้สักเท่าไหร่ เพราะว่าแพทย์แผนจีนยังไม่เป็นที่ยอมรับในสากลโลกขนาดนั้น
ไป๋เยี่ยจึงตัดสินใจจะเลือกตีพิมพ์บทความที่มีอิทธิพลในระดับนานาชาติอย่างเทคโนโลยีใหม่ๆ ลงวารสารฉบับนี้ หลังจากพิจารณาดูแล้ว ไป๋เยี่ยก็ตัดสินใจตีพิมพ์บทความเรื่องความคืบหน้าล่าสุดของการวิจัยจุลชีพภายในลำไส้
หลังจากที่ทดลองมาระยะหนึ่งแล้ว ผู้รับผิดชอบของแต่ละทีมก็ดูจะคุ้นชินกับการทดลองบ้างแล้ว ความคิดมากมายหลั่งไหลเข้ามา เขียนอะไรก็น่าอ่านไปหมด จนค่อยๆ มีบทความส่งมาเรื่อยๆ
บทความเหล่านี้ไม่ใช่บทความลักไก่ แต่มีหลักฐานจากข้อมูลจริง อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นผลลัพธ์ชุดแรกจากการทดลองเชิงปฏิบัติก็ว่าได้
เมื่อบทความเหล่านี้ถูกตีพิมพ์ออกไปต้องดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน สิ่งที่วิทยาศาสตร์ให้ความสนใจมากที่สุดคืองานวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีและทฤษฎีล่าสุด
เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ปรากฏขึ้น กลุ่มนักวิจัยผู้กระตือรือร้นก็จะรุดไปศึกษามันทันที
อย่างไรก็ตาม ของดีๆ ย่อมไม่อาจเผยแพร่ออกมาในคราวเดียวได้ ไป๋เยี่ยจึงเลือกบางบทความขึ้นมา และค่อยๆ ดำเนินการไปตามขั้นตอนโดยไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอันใด
หลังจากที่ไป๋เยี่ยเลือกบทความแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของคนอื่นๆ แล้ว
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ไป๋เยี่ยใช้เวลาไปกับเกาเย่ว์หยางและคังเจี้ยนเซิงเพื่อทำงานใหม่เกี่ยวกับหนังสือสรีรวิทยา
คังเจี้ยนเซิงเป็นผู้นำด้านการสอนและวิจัยด้านสรีรวิทยาคนหนึ่งในประเทศ และเป็นผู้รับผิดชอบดูแลสื่อการสอนวิชาสรีรวิทยา
ตราบใดที่เป็นนักศึกษาแพทย์ ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใด ภูมิภาคใด หรือสถาบันใดก็ตาม ล้วนแต่ก็ต้องเรียนสรีรวิทยา
ด้วยความที่คังเจี้ยนเซิงเป็นถึงบุคลากรผู้รับผิดชอบการเรียนการสอนสรีรวิทยา ไป๋เยี่ยจึงได้รับประโยชน์จากตรงนี้และได้กลายเป็นรองบรรณาธิการให้กับหนังสือของเขาไปด้วย
กล่าวคือต่อไปบนหน้าปกของหนังสือที่นักศึกษาใช้เรียนจะมีชื่อรองบรรณาธิการ: ไป๋เยี่ย เขียนอยู่เด่นหรา ไป๋เยี่ยนึกภาพตามก็เหลิงขึ้นมานิดหน่อย
เมื่อไป๋เยี่ยกลับมาถึงห้องแล็บในตอนเย็น เขาก็ยังต้องบันทึกข้อมูลและเตรียมการทดลองครั้งต่อไป จากนั้นก็วางแผนงานวิจัยต่อ โชคดีที่ตอนนี้ทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้ใกล้จะสมบูรณ์แล้ว ทิศทางการวิจัยก็ชัดเจนมากขึ้นจนองค์ความรู้นี้เริ่มเป็นทางการ ไป๋เยี่ยก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งวิจัยแล้ว
ไป๋เยี่ยคาดเดาว่า หลังจากหนังสือ ‘สรีรวิทยา’ ฉบับปรับปรุงถูกตีพิมพ์ออกไป ถึงตอนนั้นทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้ก็จะสมบูรณ์แล้ว อย่างน้อยในประเทศจีนก็มีทฤษฎีที่มั่นคงและพัฒนาต่อยอดได้สักที
ส่วนรางวัลผลงานดีเด่นของสาขาทวารหนักแห่งสมาคมศัลยแพทย์นานาชาตินั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว รอให้วารสารถูกเผยแพร่ออกไปก่อน ทฤษฎีนี้ต้องประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกแน่นอน
ไป๋เยี่ยคิดแล้วก็นั่งทำงานทั้งคืน เขียนสรุปทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้เพื่อลดความซับซ้อนลงเหลือราวๆ ห้าพันคำ แม้ว่าจำนวนคำจะน้อย แต่ทุกคำล้วนอิงตามข้อเท็จจริง ไม่ว่าใครก็ไม่อาจคัดค้านข้อมูลของไป๋เยี่ยได้แล้ว
คืนนั้นไป๋เยี่ยจึงส่งต้นฉบับไปให้พี่หวังและขอให้เธอส่งมันต่อไปให้กองบรรณาธิการในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ทุกคนเพิ่มต้นฉบับนี้ลงไปในวารสาร
ทว่าสิ่งที่ไป๋เยี่ยไม่คาดคิดก็คือ หลังจากที่เขาส่งต้นฉบับไป ภายในกองบรรณาธิการก็เกิดการหารืออย่างดุเดือด ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่าจะเอารูปไป๋เยี่ยขึ้นปกวารสารโดยมีหัวข้อคือ ‘ยุคใหม่แห่งสรีรวิทยา: ทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้’!
หลังจากที่ทุกคนตัดสินใจกันแล้วก็นำผลมาบอกไป๋เยี่ย เดิมทีเขาอยากจะคัดค้าน แต่เมื่อพิจารณาดูแล้ว ตอนนี้ทั้งเขาและทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้ต่างก็เป็นตัวแปรสำคัญในสายตานานาชาติอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้สักหน่อย อย่างไรเสียตัวเขาก็เป็นหน้าปกให้กับวารสารชั้นนำมาสิบกว่าฉบับแล้ว ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่บ้าง…อืม นี่แหละคือการเกาะกระแสตัวเอง
ในฐานะที่หลีอวี่หรานเป็นผู้รับผิดชอบคนสำคัญของเอซีไออี แต่ละวันเธอจึงมีงานล้นมือ ไหนๆ ก็เพิ่งได้รับตำแหน่งก็ต้องกระตือรือร้นสักหน่อย
เธอมองว่าเรื่องของ ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ เป็นเรื่องน่าดีใจที่สุดสำหรับเธอ เพราะหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้วเธอจะได้เชิดหน้าชูตาได้อย่างสมฐานะสักที
อีกทั้งเธอยังเชื่อว่าสาเหตุที่เอเชียยังคงล้าหลังในแง่วิชาการคือสภาพแวดล้อมและระบบการทำงาน ทำให้วารสารอย่าง ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ สูญเสียการพัฒนาไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน สภาพแวดล้อมทางวิชาการอยู่ในระดับปานกลาง อีกทั้งยังมีการจัดระบบที่ซับซ้อน ทำให้วิทยาการในประเทศสูญเสียศักยภาพในการแข่งขันไป
เพราะฉะนั้นสิ่งที่หลีอวี่หรานทำลงไปนั้นไม่ใช่เพราะเธอเพ่งเล็งผู่เจ๋อ แต่เพราะต้องการปรับปรุงและนำสภาพแวดล้อมทางวิชาการที่ดีกว่ามาสู่แวดวงวิชาการของทวีปเอเชีย
หลีอวี่หรานมักจะสังเกตความเคลื่อนไหวของวารสารต่างๆ ภายในห้องทำงาน ทันใดนั้นก็มีชื่อคุ้นตาปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ “การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่?”
เธอขมวดคิ้วลง พวกเขาตีพิมพ์วารสารออกมาแล้วเหรอ
เธอมองภาพถ่ายบนหน้าปกพร้อมกับข้อความ ‘ยุคใหม่แห่งสรีรวิทยา: ทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้’
หลีอวี่หรานพอจะคุ้นชื่อทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้ที่กำลังเป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมาอยู่บ้าง เป็นทฤษฎีที่มีงานวิจัยจำนวนมาก แต่กลับไม่มีความคืบหน้าสักเท่าไหร่
วารสาร ‘การแพทย์แห่งเอเชีย’ ของญี่ปุ่นถือเป็นวารสารที่เหมาะสำหรับการนำมาอ้างอิงงานวิจัยทฤษฎีนี้ อย่างไรเสียวารสารฉบับนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และโรงพยาบาลหลายแห่ง
ส่วนผู่เจ๋อ…
หลีอวี่หรานส่ายหัวและพลิกวารสารไปอย่างไม่ไยดี ก็แค่อาศัยชื่อมาดึงดูดความสนใจเท่านั้นแหละ ลูกไม้เดิมๆ
วารสารฉบับหนึ่งมักจะมีทั้งเวอร์ชั่นกระดาษและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเวอร์ชั่นอิเล็กทรอนิกส์ต้องเสียเงินซื้อด้วย
ทว่าหลีอวี่หรานกลับไม่รู้สึกเต็มใจที่จะจ่ายเงินซื้อวารสารไร้คุณค่าเช่นนี้เลยสักนิด
แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบของเอซีไออี เธอจึงได้รับสิทธิพิเศษกับแค่วารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลเท่านั้น
แต่ระหว่างช่วงพักกลางวันนั้น เธอก็เผลอไปได้ยินเจ้าหน้าที่จาก ‘เซลล์’ กล่าวแนะนำวารสารฉบับหนึ่งอยู่ ซึ่งวารสารฉบับนั้นก็คือ ’การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ นั่นเอง
หลีอวี่หรานนิ่งงันไป ถึงขั้นให้วารสารชั้นนำอย่าง ‘เซลล์’ ออกมาขายให้เลยเหรอ
ผู่เจ๋อที่ว่านี่คงเส้นใหญ่จริงๆ
หลีอวี่หรานคิดแล้วพลันรู้สึกโกรธนิดๆ พร้อมกับลอบสบถออกมาเบาๆ ใช้วิธีสกปรกแล้วยังคิดจะไปสู่ระดับโลก
ถึงแม้ว่าคะแนนไอเอฟจะเพิ่มขึ้น แต่อย่าได้คิดว่าเอซีไอซีจะเก็บไว้เชียว แต่คิดดูดีๆ นี่เป็นประกาศทางการจาก ‘เซลล์’ ไม่เหมือนกับส่วนตัวนี่นา
ชื่อของ ‘เซลล์’ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ไม่มีทางที่คนเหล่านี้จะทำลายชื่อเสียงตัวเองเด็ดขาด!
และแล้วเธอก็ค่อยๆ ค้นพบว่าเรื่องราวมันคงไม่ธรรมดาอย่างที่คิด
เนื่องจากมีผู้ทรงอิทธิพลระดับนานาชาติจำนวนมากได้ออกมาพูดและแนะนำวารสารฉบับนี้ทีละคน
ตัวอย่างเช่น เจียลี่จากสาขาทวารหนักแห่งสมาคมศัลยแพทย์นานาชาติที่ออกมาประกาศว่าเขาได้ตีพิมพ์ความคืบหน้างานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับทวารหนักลงใน ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ แล้ว
นอกจากนี้สถาบันเอ็มไอโอซึ่งเป็นผู้นำด้านการวิจัยสัตว์ทดลองระดับโลกก็ยังออกมาแนะนำวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ อย่างเป็นทางการด้วย
นี่เป็นเหตุการณ์ที่พบเห็นได้ยากในโลกแห่งวารสาร การออกมาแนะนำวารสารสักฉบับแบบโจ่งแจ้งเช่นนี้ ไม่ควรมองเป็นเรื่องที่ดี
แต่ในตอนนี้กลับมีคนออกมาทำแบบนี้เยอะขึ้นเรื่อยๆ