หนึ่งกำเนิดสองสมบัติ : รักแสนหวานของมหาเศรษฐี - ตอนที่ 15
ตอนที่ 15 ที่แท้ก็ไม่ใช่สายเลือด
เธอสงสัยเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ถ้าคุณปู่มู่ไม่ตัดสินใจให้หมั้น ถ้าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้เป็นไปตามความต้องการของท่าน ผู้ชายคนนี้ก็คงไม่สนใจเธอมากกว่านี้แน่ๆ ถ้าเขารักเธอทำไมเขาถึงไม่ยอมให้เธอจูบและไม่แม้แต่จะพูดคำว่า “ฉันรักเธอ” กับเธอล่ะ?
แต่เธอรักเขาด้วยท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตนจึงยอมอดทนและยอมรับทุกอย่างของเขา เขาเป็นคนสูงส่งเย่อหยิ่งและเป็นคุณชายของตระกูลมู่ แม้ว่าเธอจะเป็นที่รักของคุณปู่ แต่ผู้ชายคนนี้ก็อยู่ไกลเกินเอื้อม
เธอจึงปลอบใจตัวเองอยู่บ่อยครั้ง เธอบอกตัวเองว่าเธอเป็นคู่หมั้นของตระกูลมู่ ในอนาคตเธอจะเป็นนายหญิงของตระกูล และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าพวกเราจะเข้าพิธีหมั้น ดังนั้นเธอไม่ควรเอะอะและควรจะพอใจกับสิ่งนี้ แต่น่าเสียดายที่เธอเป็นคนโลภ เธอไม่เพียงต้องการตัวเขา แต่ยังต้องการหัวใจของเขาด้วย!
มู่หว่านโหรวยิ้มอย่างขมขื่นและพูดด้วยเสียงต่ำ “เจ๋อ… คุณอยากอยู่กับฉันจริงๆใช่ไหม?”
มู่หย่าเจ๋อดูเหมือนจะเหม่อลอยและใบหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกของเธอก็กระพริบอยู่ต่อหน้าเขา เมื่อเห็นเขางุนงงมู่หว่านโหรวก็อดไม่ได้ที่จะคว้าคอเสื้อของเขาให้แน่นขึ้น
“เจ๋อ คุณเคยรักฉันจริงๆหรือเปล่า? ตอบฉันสิ”
มู่หย่าเจ๋อผลักเธอออกและกลับไปที่โต๊ะทำงาน พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอุ่นๆ “หว่านโหรว อย่าเอาแต่ใจ”
เขาลดสายตาลงอย่างเย็นชา น้ำเสียงเฉยเมยและทุ้มราวกับกำลังปลอมเด็กที่ไม่มีเหตุผล
แต่เธอไม่มีเหตุผลตรงไหน ?
มู่หว่านโหรวเป็นเด็กที่คุณปู่รับมาเลี้ยงดูในตระกูลมู่เมื่อสิบปีก่อน ซึ่งตระกูลนี้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจ และเธอก็ยังเป็นที่รักของคุณปู่อีกด้วย ท่านจึงกำหนดให้เธอและมู่หย่าเจ๋อหมั้นหมายกัน เธอรักมู่หย่าเจ๋อแต่เขาไม่ได้รักเธอกลับเลย
การหมั้นครั้งนี้สำหรับมู่หย่าเจ๋อที่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยแล้วมันไม่จำเป็นเลย เขาแค่ทำตามความต้องการของคุณปู่
ส่วนตัวเขาคิดว่าผู้หญิงไม่ใช่สิ่งจำเป็น การแต่งงานนี้เป็นเพียงรูปแบบสัญญาที่คุณปู่ต้องการและการหมั้นของเขากับมู่หว่านโหรวก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วย มันเป็นเพียงแค่ข้อต่อรอง ตอนนี้ธุรกิจของตระกูลมู่กำลังขยายตัวจึงมีหลายคนจับตามองตำแหน่งของเขา เขาจึงใช้การแต่งงานนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการขยายอิทธิพลของตระกูล ความรักเหรอ? สำหรับเขาคำนี้มันฟุ่มเฟือยเกินไป
ความรักคืออะไร? คือบรรดาหญิงสาวชั้นสูงที่เข้ามาทักทายเขาด้วยชื่อเสียงเงินทองเหรอ? คือมู่หว่านโหรวที่เอาแต่ใจและหยิ่งผยองเหรอ? หรือคือนางแบบและศิลปินที่ไม่มีประสบการณ์แต่อยากมีชื่อเสียงเหรอ?
ในโลกแห่งความปรารถนาทางวัตถุเงินทองและความปรารถนาทางความสัมพันธ์ ใครยังจะเรียกว่าความรัก?
นอกจากแม่แล้วเขาไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนอีกเลย เครือญาติและความรักล้วนไกลเกินเอื้อมสำหรับเขา เขาไม่แยแส เย็นชาและปิดโลกของตัวเอง
ในวงการธุรกิจเขาสามารถทำให้เกิดความปั่นป่วนได้ด้วยมือของเขาเองที่ด้วยท่าทางเย็นชาและมั่นคง สามารถเจรจาข้อตกลงหรือผลกำไรกับเขาเป็นการส่วนตัวได้ แต่อย่าคิดจะเข้าไปในหัวใจของเขาเชียว
พูดถึงความรักเหรอ?
ไร้สาระ…
และทันใดนั้นโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของเขาก็ดังขึ้น มู่หว่านโหรวรับสาย ทั้งได้ยินเสียงเลขาจากโต๊ะทำงานบอกว่า “ ท่านประธาน คุณหนูมาถึงแล้วค่ะ”
ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอก แล้วประตูก็ถูกเปิดออกและมีศีรษะเล็กๆโผล่มา
“แดดดี๊!” เมื่อเห็นว่ามู่หย่าเจ๋อไม่ว่างเด็กน้อยจึงเดินไปหามู่หว่านโหรว ความรู้สึกไม่สบายใจของเขาเกิดขึ้นและแพร่กระจายบนใบหน้าทันที เขาเรียกเธออย่างเรียบเฉยว่า “หม่ามี๊!”
เมื่อเห็นเช่นนี้มู่หว่านโหรวก็รู้สึกอึดอัดเนื่องด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าเธอจะมีศักดิ์เป็นแม่แต่ก็ไม่ได้สนิทกับเด็กชายคนนี้เลย บางทีอาจเป็นเพราะเขาไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ เพราะหากไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่แน่นแฟ้นเหมือนแม่ลูกแท้ๆอยู่ดี