หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting - บทที่ 1108 ได้!
ภายในอวกาศ ขณะที่ดาราจักรกระดาษพับทบอย่างต่อเนื่อง และหายลับไปจากสายตาของทุกคนโดยสมบูรณ์แล้ว ณ อีกแห่งภายในความว่างเปล่า โลกเบื้องหน้าของหวังเป่าเล่อก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน
มันยังคงเป็นทะเลกระดาษกว้างใหญ่ไพศาลผืนเดิม เพียงแต่ไม่ได้เป็นสีดำอีกต่อไป แต่เป็นสีขาว ส่วนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ ไปจนถึงมวลวิหคนกนางนวล ทั้งหมดล้วนแต่แปลงมาจากกระดาษอันคุ้นเคย
ความปรารถนาดีจากความตั้งมั่นของทั่วโลกแผ่ออกมาระหว่างฟ้าดินและภายในทุกสรรพสิ่ง ก่อนกระจายไปยังรอบตัวของหวังเป่าเล่อ ราวกับกำลังเบิกบาน ราวกับกำลังต้อนรับ
ทะเลกระดาษรอบด้านก็มีคลื่นซัดสาดกระเซ็น ราวกับกำลังคารวะเขา ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้หวังเป่าเล่อรู้สึกสบายทั้งภายในและภายนอกอย่างยิ่ง ยิ่งกว่านั้นคือความใกล้ชิดสนิทสนม
“ยินดีต้อนรับกลับมายังสุสานดวงดารา” หวังเป่าเล่อหันหน้า จุดที่เขาอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ความว่างเปล่าอีกต่อไป แต่มีเรือลำหนึ่งอยู่ตรงนั้น กระดาษรูปมนุษย์ที่พายเรืออยู่ด้านหน้าเป็นคนคุ้นเคยเมื่อคราวนั้น ตอนนี้กระดาษรูปมนุษย์ผู้นี้กำลังหันหน้ามาหาหวังเป่าเล่อ
“ผู้อาวุโสสบายดีหรือไม่ขอรับ” หวังเป่าเล่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วประสานหมัดคำนับ
กระดาษรูปมนุษย์แย้มยิ้มแล้วประสานหมัดไปทางหวังเป่าเล่อเช่นกัน จากนั้นก็พายเรือกระดาษฝ่าคลื่นไปข้างหน้า ลมที่พัดโบกมาพัดผ่านปอยผมของหวังเป่าเล่อ แต่กลับไม่ได้พัดจากไป ทว่ากลายเป็นความอ่อนโยนตามติดอยู่รอบกายเขา ราวกับกำลังเริงระบำ
หวังเป่าเล่อยิ้ม เขาที่กลับมายังสุสานดวงดาราสัมผัสได้ถึงความปรารถนาดีของโลกใบนี้ สัมผัสได้ถึงความอิสระไร้สิ่งผูกมัดและความปลอดภัย จึงนั่งลงบนดาดฟ้าเรือ ยกมือขวาขึ้นหยิบน้ำเย็นหล่อวิญญาณมาหนึ่งขวด ทอดมองไปยังผืนฟ้าและแผ่นดินทั้งสี่ทิศ ดื่มทีละคำๆ อย่างสุขสบายใจราวกับร่ำสุรา
“แขกผู้มีเกียรติมาเยี่ยมเยียน แล้วจะปล่อยให้แขกดื่มเพียงลำพังได้อย่างไร” หวังเป่าเล่อยังไม่ทันดื่มได้หลายคำ รอบกายของเขาก็มีเสียงดังสะท้อนขึ้นมา ขณะที่ฟองคลื่นสาดซัดอีกครั้ง กระดาษรูปมนุษย์ตนหนึ่งก็ผุดขึ้นมาจากผิวน้ำแล้วเดินมายังเรือทีละก้าว จนกระทั่งหยุดอยู่ข้างกายหวังเป่าเล่อ ก่อนจะยกมือขวายื่นมาหาเขา
แม้ว่ากระดาษรูปมนุษย์ส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ตอนนี้หวังเป่าเล่อแยกแยะได้ตั้งนานแล้ว เพียงแค่ชำเลืองตามองก็รู้ว่ากระดาษรูปมนุษย์ที่เดินมาหาเขาตนนี้ก็คือจักรพรรดิองค์แรกแห่งจักรวรรดิดาวตกที่อยู่ในกระเป๋าคลังเก็บของของตนนั่นเอง
ตอนนั้นหลังจากหวังเป่าเล่อได้รับดาวเคราะห์เต๋าแล้วจากจักรวรรดิดาวตกไป จักรพรรดิองค์แรกผู้นี้เลือกที่จะอยู่ต่อ เขาสถิตอยู่ที่ปากกระแสวนผืนกระจกที่ถูกปิดผนึกไว้
หวังเป่าเล่อมองมือที่ยื่นออกมาของจักรพรรดิองค์แรก เขายกยิ้มแล้วลุกขึ้นมาคำนับ จากนั้นก็หยิบน้ำเย็นหล่อวิญญาณหนึ่งขวดส่งไปให้ ส่วนอีกฝ่ายจะดื่มได้หรือไม่ หวังเป่าเล่อไม่กังวล สำหรับผู้เยี่ยมยุทธ์เช่นอีกฝ่าย ร่างกายราวกับเป็นเพียงเสื้อผ้า ทั้งสำคัญ และไม่สำคัญ
ความจริงเป็นเช่นนั้นแหละ หลังจากที่รับน้ำเย็นหล่อวิญญาณมาแล้ว กระดาษรูปมนุษย์จักรพรรดิองค์แรกก็เงยหน้าดื่มลงไปอึกใหญ่ ขณะที่กำลังเตรียมจะทอดถอนใจหลังดื่มสุราตามปกติ สีหน้าเขากลับแปลกประหลาด เขาก้มหน้ามองน้ำเย็นหล่อวิญญาณในมืออย่างละเอียดแล้วหันไปมองหวังเป่าเล่อ
“นี่มันของอะไรกัน หวานขนาดนี้เชียว”
“อร่อยไหม นี่คือเครื่องดื่มที่ข้าชอบที่สุด ทั่วทั้งจักรวาลมีเพียงสหพันธรัฐเท่านั้นที่ผลิตออกมาได้ มันชื่อว่าน้ำเย็นหล่อวิญญาณ” หวังเป่าเล่อกะพริบตามองกระดาษรูปมนุษย์
กระดาษรูปมนุษย์เงียบไปหลายอึดใจ แล้วลิ้มชิมน้ำเย็นหล่อวิญญาณในมือเงียบๆ ครู่ต่อมาก็เบ้ปากแล้ววางมันไว้ข้างๆ ก่อนจะหันไปหาหวังเป่าเล่อ
“เจ้ามาเร็วไปแล้ว”
“ผู้อาวุโสเหมือนจะไม่แปลกใจที่ข้ามานะขอรับ” หวังเป่าเล่อได้ยินอย่างนั้นก็คลี่ยิ้มออกมา
“วันนั้นที่เจ้าจากไป ข้าก็สังหรณ์แล้วว่าสักวันเจ้าจะต้องกลับมาที่นี่เพื่อตามหาวังน้ำวนในทะเลกระดาษ”
หวังเป่าเล่อไม่ได้ตอบทันที แต่ก้มหน้ามองทะเลกระดาษ ก้นบึ้งของทะเลกระดาษมีวังน้ำวนแห่งนั้นอยู่ และเป็นเป้าหมายที่เขามาที่นี่ในครั้งนี้เช่นกัน
เขาคิดจะไปตรวจสอบดูสักหน่อยว่าวังน้ำวนนั่นใช่สิ่งเดียวกับวังน้ำวนที่ไม้ดำสามฉื่อปรากฏออกมาในชาติที่หนึ่งของตนหรือไม่ แต่เขาไม่ได้ตั้งใจจะไปตอนนี้ ทุกอย่างต้องรอให้ตนทะลวงถึงระดับดารานิรันดร์ก่อนแล้วค่อยไปตามหา
ดังนั้นหลังจากเงียบไป หวังเป่าเล่อก็มองไปที่จักรพรรดิองค์แรกตรงหน้าแล้วประสานหมัดให้เบาๆ
“ผู้น้อยมาที่นี่ครั้งนี้เพราะต้องการขออนุญาตท่านจักรพรรดิและจักรวรรดิดาวตก ให้ข้าเรียกใช้ดวงดาราพิเศษ แล้วเลื่อนขั้นเป็นดารานิรันดร์…ที่นี่!” สีหน้าของหวังเป่าเล่อเคร่งขรึม เขามองกระดาษรูปมนุษย์ผู้เป็นจักรพรรดิองค์แรก Aileen-novel
“เรื่องเล็กน้อย เจ้าต้องการกี่ดวงล่ะ” น้ำเสียงของกระดาษรูปมนุษย์จักรพรรดิองค์แรกผ่อนคลาย ด้านหนึ่งหวังเป่าเล่อตรงหน้านี้มีบุญคุณต่อจักรวรรดิดาวตก อีกด้านภูมิหลังของตัวเขาก็น่าตะลึง ดังนั้นสำหรับคำขอเช่นนี้ เขาย่อมไม่ปฏิเสธ ถึงอย่างไรในจักรวรรดิดาวตกก็มีดวงดาราพิเศษมากเป็นหมื่นๆ ดวง ให้ออกไปสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไร
“นี่ก็…ต้องใช้ราวๆ หนึ่งหมื่นน่ะ” หวังเป่าเล่อเอ่ยเสียงเบาด้วยความเกรงใจ
“…” กระดาษรูปมนุษย์จักรพรรดิองค์แรกนิ่งเงียบ นำน้ำเย็นหล่อวิญญาณที่เดิมวางไว้ข้างๆ ยกขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากดื่มลงไปอึกใหญ่ก็เอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้
“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะเลื่อนระดับเป็นดารานิรันดร์”
“ข้าตั้งใจจะใช้ดวงดาราพิเศษนับหมื่นดวงมาตกแต่งและแปลงเป็นจักรวาลพร้อมกัน ส่งเสริมและยกระดับดาวเคราะห์เต๋าของข้าให้ทะลวงจากระดับดาวพระเคราะห์และพัฒนาเป็นดารานิรันดร์” หวังเป่าเล่อก็รู้ดีว่าโดยพื้นฐานแล้วคำขอของตนก็คือการขุดเอารากเดิมของจักรวรรดิดาวตกออกไปจนเกลี้ยงประมาณเก้าส่วน ดังนั้นหลังจากเอ่ยจบ เขาก็เสริมอีกประโยค
“มีสิ่งใดต้องการให้ข้าทำท่านพูดมาได้เลย อีกอย่าง…ถ้าไม่อาจให้ได้มากขนาดนั้น ลดน้อยลงหน่อย…ย่อมได้…”
“ถ้าต่ำกว่าพันดวง ข้าสามารถให้ได้ทันที แต่ถ้าเป็นหมื่นดวง…จักรวรรดิดาวตกตอนนี้ไม่ได้อยู่ในความดูแลของข้า…ดังนั้นถึงข้าอยากจะให้ แต่ก็ตัดสินใจไม่ได้หรอก จักรพรรดิมาโน่นแล้ว เจ้าถามเอาเองเถอะ” กระดาษรูปมนุษย์จักรพรรดิองค์แรกกระแอมออกมา มองไปที่ไกลๆ เหมือนจะโยนหม้อ[1] หวังเป่าเล่อย่อมเห็นถึงปัญหา จึงรู้สึกปวดหัวนิดหน่อย ขณะที่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรให้อีกฝ่ายเห็นด้วย เขาก็เงยหน้ามอง ไม่นานพวกเขาก็เห็นพื้นที่ระหว่างผืนฟ้าและแผ่นดินที่ไกลๆ มีกระดาษรูปมนุษย์นับร้อยคนกู่ร้องเข้ามาหา
กระดาษรูปมนุษย์ที่เป็นผู้นำด้านหน้าก็คือจักรพรรดิองค์ปัจจุบันของจักรวรรดิดาวตก คลื่นจักรพิภพบนร่างแข็งแกร่งมหาศาล เขาก้าวมาอยู่บนเรือโดยตรง มองหวังเป่าเล่อแล้วยิ้มแผ่วเบา
หวังเป่าเล่อแย้มยิ้มเข้าคารวะ จากนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยคำพูดแบบเดียวกับเมื่อครู่ออกมา ส่วนจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิดาวตกก็ลังเลเมื่อได้ยินดังนั้น หลังจากแลกเปลี่ยนสายตากับผู้อาวุโสองค์แรก แต่ละคนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องลำบากใจเล็กน้อย และกำลังจะเอ่ยปฏิเสธอย่างสุภาพ
แต่ตอนนั้นเอง…ท้องฟ้าที่เดิมเป็นยามกลางวันก็เกิดเสียงดังลั่นขึ้นมาในพริบตา ระลอกคลื่นบิดเบี้ยวยิ่งกว่าเดิมกระเพื่อมอยู่บนฟ้า ราวกับม่านสีขาวถูกยกขึ้นจนเผยให้เห็นนภาสีดำ!
ยิ่งกว่านั้น แสงดาวแต่ละดวงบนท้องฟ้าก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งดวงดาราทุกระดับชั้นรวมเข้าด้วยกัน เป็นจำนวนเกินกว่าหนึ่งล้าน ก่อนแผ่ไปทั่วทั้งจักรวาล ในความเลือนรางเจตจำนงที่มาจากทั่วทั้งสุสานดวงดาราก็คล้ายจะกลายเป็นสุ้มเสียงดังสะท้อนอยู่ในจิตใจของหวังเป่าเล่อและกระดาษรูปมนุษย์จักรพรรดิทั้งสององค์ว่า
“ได้!”
เสียงสะท้อนของเจตจำนงนี้ทำให้จักรพรรดิกระดาษรูปมนุษย์ทั้งสองตนหันมามองหน้ากันอีกครั้ง ในบรรดาคนทั้งคู่ จักรพรรดิองค์ปัจจุบันมีสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย
“เป่าเล่อ อย่าโทษที่ก่อนหน้านี้เราลังเล ความจริง…”
“ลังเลอะไร ข้าก็บอกแล้วว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหา หวังเป่าเล่อเป็นผู้มีพระคุณของจักรวรรดิดาวตกของข้า คำขอของเขา อย่าว่าแต่หนึ่งหมื่น ต่อให้เป็นหนึ่งแสน พวกข้าก็ยินดีให้ เป็นคนต้องรู้จักตอบแทนคุณ!” เห็นได้ชัดว่าผิวหน้าของผู้อาวุโสองค์แรกของกระดาษรูปมนุษย์นั้นหนาพอๆ กับอายุของเขา ดังนั้นหลังจากสัมผัสได้ถึงความยินยอมจากเจตจำนงของทั้งโลก เขาก็เอ่ยอย่างเคร่งขรึมราวกับเพิ่งจะมีปฏิกิริยา และถือโอกาสตำหนิชนรุ่นหลังผู้นั้นของตนอีก
“ต้องให้ผู้อาวุโสสั่งสอนแล้ว” จักรพรรดิองค์ปัจจุบันของจักรวรรดิดาวตกได้ยินแล้วก็ยิ้มขำ โค้งคำนับจักรพรรดิองค์แรกด้วยธรรมเนียมของผู้น้อย ส่วนทางฝั่งจักรพรรดิองค์แรก ตอนนี้เขากระแอมไอแล้วโบกมือใหญ่ของตน
“เป่าเล่อ อวกาศผืนนี้ ข้าผู้เฒ่ามอบให้เจ้าแล้ว ไม่ร้องขอสิ่งใด เพียงหวังว่าถ้าหากวันหนึ่งเจ้ามีพลังและโอกาสเข้าไปในวังน้ำวนนั่นได้จริงๆ ก็ให้พาข้าผู้เฒ่าไปด้วย!” คำพูดรื่นหูยิ่ง หลังจากหวังเป่าเล่อกะพริบตา เขาก็กลั้นยิ้มเอาไว้แล้วรีบคำนับขอบคุณ ขณะเดียวกันก็พยักหน้าอย่างจริงจัง หลังจากเห็นด้วยกับเรื่องนี้แล้ว เขาก็สูดหายใจเข้าลึก ไม่รีรออีกต่อไป ร่างกระโจนขึ้นตรงไปยังอวกาศทันที!
ในสายตาของกระดาษรูปมนุษย์ที่อยู่รอบๆ ตอนนี้หวังเป่าเล่อคล้ายกับดาวตกดวงหนึ่ง บินขึ้นไปยังอวกาศไม่หยุดยั้ง ด้านนอกร่างกายของเขามีดาวเคราะห์เต๋าปรากฏออกมา
ดาวเคราะห์เต๋าดวงนี้ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ใหญ่ถึงระดับที่พอจะทำให้รู้สึกสะพรึงกลัวแล้ว ดาวบรรพกาลเก้าดวงรอบๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปคล้ายกำลังกู่ร้อง และคล้ายกำลังปรารถนา มันหลอมรวมเข้าไปในอวกาศตามตัวหวังเป่าเล่อ
ในอวกาศ ตอนนี้เองแสงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนก็หรี่แสงลงด้วยตัวเอง ราวกับไม่กล้าสู้ความสว่าง ราวกับกำลังคารวะ แต่ก็เหมือนกับสะกดความตื่นเต้นของตนเอาไว้ คล้ายกับว่าพวกมันมีปัญญาและจิตวิญญาณอยู่ระดับหนึ่ง คล้ายกับสัมผัสได้ว่า…โอกาสนี้ สำหรับพวกมันแล้ว เป็นโอกาสเปลี่ยนรูปดวงดารา!
จนกระทั่งเงาร่างของหวังเป่าเล่อหลอมรวมเข้าไปในอวกาศโดยสมบูรณ์ เสียงของเขาก็ดังสะท้อนออกมาทันที
“ขอให้ทุกท่านเป็นพยานด้วย วันนี้ข้าแซ่หวัง เลื่อนขั้นเป็นดารานิรันดร์ ณ ที่แห่งนี้!”
ทันทีที่เอ่ยออกมา ดวงดาวนับล้านบนจักรวาลก็สาดประกายแสงออกมาคล้ายจะตื่นเต้นยินดี!
…………………………………
[1] โยนหม้อ หมายถึง โยนความผิดไปให้ผู้อื่น