หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting - บทที่ 1199 เคลื่อนไหวทุกทิศทาง!
ทันทีที่แผ่นเลื่อนระดับโลกาปรากฏ อวกาศก็ดังก้องกังวาน ปราณวิญญาณนับไม่ถ้วนพวยพุ่งออกมาจากในนั้น ขณะที่มันแพร่กระจายไปทั่วทั้งระบบสุริยะ ก็ทำให้ดวงดาวภายในระบบสุริยะแห่งนี้คล้ายจะถูกชะล้างจนเปล่งประกายแสงพร่างพราวออกมา
ดาวพระเคราะห์เจิดจรัส เปลวไฟแห่งดารานิรันดร์แผ่ไปทั่วทุกทิศ
พลังสยบกดดันปกคลุมทั่วทั้งจักรวาล ราวกับแช่แข็งทุกสรรพสิ่งในช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมที่สุด ถึงขั้นมีพลังป้องกันแผ่ออกมาจากตัวของมันด้วย ทำให้ในชั่วพริบตานี้เอง ระบบสุริยะก็กลายเป็นจุดรวมความสนใจของทั้งจักรวาลทันที!
ที่น่าตะลึงยิ่งกว่านั้นคือระบบสุริยะในชั่วขณะนี้คล้ายกลายเป็นหลุมดำแห่งหนึ่งที่ดึงดูดปราณวิญญาณในอวกาศของทั่วทั้งจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายเข้าไปเป็นวงกว้าง
ชั่วอึดใจ ปราณวิญญาณนับไม่ถ้วนก็ส่งเสียงเลื่อนลั่นราวกับโค่นภูเขาพลิกทะเลดังมาจากทั้งสี่ทิศแล้วไหลเข้าสู่ระบบสุริยะ เข้าสู่แผ่นเลื่อนระดับโลกาอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นกลิ่นอายของสหพันธรัฐ กลายเป็นขุมพลังเบื้องหลังของสหพันธรัฐ!
สิ่งนี้ทำให้ปราณวิญญาณของระบบสุริยะพุ่งถึงระดับน่าตะลึงทันทีและกลายเป็นหมอกทึบปกคลุมจากทุกสายตา
เส้นปราณวิญญาณหลายเส้นกำเนิดขึ้นภายในดาวพระเคราะห์แต่ละดวง ฝนวิญญาณก็ตกลงมาในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวย่อมสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย ดังนั้นเสียงร้องตกใจมากมายก็ดังออกมาจากภายในจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายทันที ภายในสำนักและตระกูลที่กำลังให้ความสนใจกับทางสหพันธรัฐอยู่อุทานออกมากะทันหัน เสียงแห่งความว้าวุ่นดังออกมาจากผู้เยี่ยมยุทธ์ในแต่ละดาราจักรอย่างต่อเนื่อง
พวกเขามองไม่เห็นสหพันธรัฐในขณะนี้แล้ว ดวงจิตเทพก็ตรวจสอบไม่ถึงระบบสุริยะเพราะอยู่ไกลเกินไป แต่ประสาทสัมผัสจากเต๋าก็ทำให้พวกเขารับรู้ถึงความผิดปกติได้ในทันที การสูญเสียปราณวิญญาณในดาราจักรต่างๆ ทำให้ภายในใจของพวกเขาเกิดคลื่นยักษ์ซัดโหม
“ไม่ถูกสิ ความรู้สึกเช่นนี้ผิดปกติมาก ปราณวิญญาณกำลังลดลงแล้วไหลไปยังสหพันธรัฐ!!”
“ก่อนหน้านี้หลังสหพันธรัฐผสานกับครามทองคำ ทั่วทั้งพิภพก็ไม่เสถียร พูดได้เพียงแค่ว่าพยายามประคับประคองเท่านั้น แล้วเหตุใดในชั่วอึดใจ…กลับมั่นคงขึ้นมาจนสมบูรณ์เหมือนกับดูดซับได้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้วอย่างนั้นล่ะ!”
“มีของสิ่งใดที่กำลังดูดซับปราณวิญญาณอย่างไม่รู้จบ สยบพิภพของสหพันธรัฐ ทำให้มันมั่นคงขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ได้อย่างนั้นหรือ!” ขณะที่เสียงร้องตกใจดังออกมาจากสำนักและตระกูลต่างๆ ตอนนี้สำนักใหญ่ห้าอันดับแรกอย่างเต๋าเก้ารัฐและอีกสี่สำนักจากทั่วทั้งจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายก็เปลี่ยนจากความตกใจเล็กน้อยก่อนหน้านี้เป็นท่าทีที่รุนแรงยิ่งขึ้น
สิ่งที่สำนักและตระกูลอื่นๆ สัมผัสได้ พวกเขาย่อมสัมผัสได้เช่นกัน ขณะเดียวกัน…สิ่งที่ตระกูลและสำนักอื่นๆ ไม่อาจรู้ได้เพราะความรู้จำกัด แต่สำหรับพวกเขาแล้วมันไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด ดังนั้นหลังจากที่สังเกตเห็นกลิ่นอายและความเสถียรของสหพันธรัฐแล้ว เต๋าเก้ารัฐและสำนักอื่นๆ อีกสี่แห่งก็พบคำตอบในทันที
“นี่คือสมบัติชั้นยอดอย่างหนึ่ง เป็นสมบัติที่สามารถสยบการเคลื่อนไหวของปราณและทำให้ดินแดนมั่นคงขึ้นมาได้ สมบัติเช่นนี้หาพบได้ยากมาก ไม่ว่าชิ้นไหนก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นสุดยอด!”
“จากบันทึก สมบัติชั้นสูงที่สามารถทำได้ถึงระดับนี้มีจำนวนนับนิ้วได้ นอกจากของบางอย่างที่มีเจ้าของอยู่แล้ว ของที่กระจัดกระจายอยู่ภายนอกก็มีอยู่ไม่เกินสามชิ้น!”
“ระฆังหลิงอี่ ธงวิญญาณเต๋า แผ่นเลื่อนระดับโลกา จะต้องเป็นหนึ่งในสามอย่างนี้แน่!”
“ไม่มีทางเป็นแผ่นเลื่อนระดับโลกาได้ นั่นเป็นสมบัติชั้นสูงสะเทือนฟ้าที่สามารถสยบจักรวาลได้และมีอยู่แต่ในตำนาน มีข่าวลือว่าปีนั้น ในการต่อสู้ของจักรพรรดิแห่งความมืด บรรพบุรุษไม่รู้สิ้นได้ทำลายมันไปแล้ว จึงได้ทำให้จักรพรรดิแห่งความมืดแตกดับ!”
ขณะที่สำนักตระกูลต่างๆ ประหลาดใจและห้าสำนักอย่างพวกเต๋าเก้ารัฐกำลังตกตะลึงอยู่นั้น ตอนนี้ภายในระบบสุริยะใหม่ การเลื่อนระดับพลังฝึกตนของทุกสรรพชีวิตได้มาถึงขีดสุดแล้ว พลังฝึกปรือของหลี่สิงเหวินพุ่งจากดารานิรันดร์ชั้นต้นไปเป็นดารานิรันดร์ชั้นกลางโดยตรง
ดูคล้ายว่านี่เป็นเพียงการเลื่อนระดับเล็กๆ เท่านั้น แต่เพราะระดับชั้นแตกต่างกัน ความยากของมันจึงเทียบได้กับผู้ฝึกตนดาวพระเคราะห์หลายสิบหรือหลายร้อยคนทะลวงระดับขึ้นหนึ่งครั้งเลยทีเดียว
ต่อจากนั้นก็คือเจ้าเยี่ยเหมิง ซึ่งก็ก้าวเข้าสู่ระดับดารานิรันดร์ชั้นกลางเช่นกัน หลินโยวน้อยกว่าอยู่สักหน่อย นางมาถึงขั้นสุดของดารานิรันดร์ชั้นต้น ส่วนอู๋เมิ่งหลิงและสหายเต๋ากุ้ย รวมไปถึงปรมาจารย์ตระกูลจิน ตอนนี้ต่างพากันปะทุพลังออกมาแล้ว นอกจากปรมาจารย์ตระกูลจิน สองคนแรกล้วนแต่มาถึงระดับดารานิรันดร์ชั้นต้น!
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในทั้งหกคนจึงมีห้าคนที่เป็นดารานิรันดร์ ถึงแม้ปรมาจารย์ตระกูลจินจะไม่ได้ก้าวเข้าสู่ระดับนี้ทันที แต่ด้วยขุมพลังเบื้องหลังของเขา หากฝึกตนอีกพักหนึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าจะก้าวสู่ดารานิรันดร์ได้แล้ว
ส่วนสิบสามคนนั้นที่เพิ่งจะเลื่อนขั้นเป็นดาวพระเคราะห์ก็เลื่อนระดับต่อไปเป็นดาวพระเคราะห์ชั้นกลางอย่างยิ่งใหญ่ ถึงขั้นที่ยังมีอีกสิบกว่าคนที่พลังฝึกตนทะลวงถึงดาวพระเคราะห์ภายใต้การผสานรวมของแผ่นเลื่อนระดับโลกาอีกด้วย
จำนวนการทะลวงระดับของผู้ฝึกตนระดับล่างๆ ยิ่งมีมากจนนับไม่ถ้วน ปรมาจารย์มหาทัณฑ์แห่งอารยธรรมดวงเนตร สววรค์ก็ได้รับผลมหาศาลเช่นกัน เขาบรรลุถึงจุดสูงสุดของดารานิรันดร์ชั้นกลาง ขาดเพียงแค่ครึ่งก้าวก็เป็นดารานิรันดร์ชั้นปลายแล้ว
และการเลื่อนระดับเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นช่วงเวลาอื่น พลังฝึกตนจะต้องไม่มั่นคงและมีข้อบกพร่องมากมายอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้…ในแง่หนึ่ง การพัฒนาของระดับชีวิตได้กำจัดความไม่เสถียรนี้ออกไปมากกว่าครึ่งแล้ว ยิ่งมีการสยบของสมบัติชั้นสูงอย่างแผ่นเลื่อนระดับโลกาอยู่ จึงทำให้พลังฝึกปรือของผู้ฝึกตนทั้งหมดเลื่อนขั้นได้มั่นคงอย่างยิ่ง!
วังเต๋าไพศาลก็เช่นกัน ผู้อาวุโสที่รักษาอาการบาดเจ็บแต่ละคนพากันออกจากด่านกักตน ดวงตาของประมุขซิงอี้ผู้นั้นยิ่งเผยประกายแสงแปลกประหลาดออกมา อาการบาดเจ็บของเขา…ก็หายดีขึ้นมากกว่าแปดส่วนทันที
สิ่งนี้ทำให้จิตใจของเขาตื่นเต้น การหายใจก็รุนแรงรวดเร็วด้วยเช่นกัน
พร้อมกันนั้น…ก่อนหน้านี้ตอนที่อารยธรรมครามทองคำได้ผสานเข้ามาในระบบสุริยะ พวกเขาเป็นฝ่ายมอบให้ ผู้ฝึกตนทั้งหมดภายในนั้นรวมถึงอารยธรรมที่แนบติดมาด้วยจึงไม่ได้ประโยชน์เลยสักนิด และยังเสียขุมพลังเบื้องหลังไปไม่น้อยในแง่หนึ่ง
แม้แต่พลังฝึกปรือของผู้ฝึกตนส่วนหนึ่ง ก็ดูเหมือนว่าพลังชีวิตของพวกเขาจะแห้งเหี่ยวเพราะการสั่นสะเทือนครั้งนี้ด้วย สิ่งนี้ทำให้ผู้ฝึกตนของอารยธรรมครามทองคำจำนวนไม่น้อยมีความไม่พอใจและความอัดอั้นแฝงอยู่ในใจ ยิ่งกว่านั้นคือความจนปัญญา
แม้แต่ภายในใจของปรมาจารย์ครามทองคำ มากน้อยก็ก็เกิดความรู้สึกเสียใจภายหลัง คล้ายรู้สึกว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของตนอาจจะผิดไป…
แต่ในชั่วพริบตานั้นเอง เมื่อปราณวิญญาณอันไร้ขอบเขตหลั่งไหลเข้ามาพร้อมกับการผสานรวมของแผ่นเลื่อนระดับโลกา การตอบกลับของปราณวิญญาณก็เริ่มเกิดขึ้นบนร่างของพวกเขาด้วยเช่นกัน!
ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ความสูญเสียก่อนหน้านี้ของอารยธรรมครามทองคำถูกเติมเต็มกลับมาทันที บรรดาผู้ที่ระดับชีวิตเหี่ยวเฉาล้วนจิตใจสั่นสะท้านขึ้นมาทั้งหมดแล้วฟื้นคืนเหมือนเดิม พลังฝึกปรือก็เริ่มเลื่อนระดับขึ้นภายใต้การตอบกลับครั้งนี้
เพียงแต่เนื่องจากระยะเวลาการเข้าร่วมนั้นสั้นเกินไปและลำดับก็แตกต่างกันมาก จึงเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่พวกเขาได้รับย่อมเทียบกับดวงเนตรสวรรค์และวังเต๋าไพศาลไม่ได้ แต่…ก็เพียงพอจะทำให้อารยธรรมครามทองคำและอารยธรรมขนาดเล็กนับร้อยเหล่านั้นตื่นเต้นยินดีได้แล้ว
ส่วนตอนนี้ปรมาจารย์ครามทองคำก็ตื่นเต้นยิ่งกว่าใคร เพราะแม้ว่าการป้อนกลับให้อารยธรรมครามทองคำจะไม่ได้มากมายนัก แต่ก็พอจะทำให้พลังฝึกปรือของเขาที่เดิมอยู่ในสภาพสิ้นหวังจะเลื่อนเป็นจักรพิภพมาตลอดเลื่อนระดับขึ้นมาอีกก้าวได้ แล้วบรรลุถึงจุดสูงสุดอย่างแท้จริง ทำให้มีความมั่นใจว่าจะทะลวงก้าวสู่ระดับจักรพิภพได้แล้ว ต่างจากก่อนหน้านี้ที่แทบจะเลื่อนขั้นไม่ได้ เขาก็กลายเป็นครอบครองความมั่นใจกว่าครึ่งหนึ่ง!
พลังต่อสู้ของเขาก็ยกระดับสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ขุมพลังเบื้องหลังอันล้ำลึกของเขาทำให้ในตอนนี้เขาพอจะมีคุณสมบัติต่อสู้กับจักรพิภพชั้นต้นได้แล้ว!
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือสิ่งนี้ทำให้เขามีความมั่นใจและความคาดหวังอย่างแรงกล้า ขณะที่ภายในใจของปรมาจารย์ครามทองคำตื่นเต้นยินดีนั้น เขาก็เงยหน้ามองไปทางดวงอาทิตย์ดารานิรันดร์ หลังจากมองเห็นรางๆ ว่ามีเงาร่างร่างหนึ่งนั่งทำสมาธิอยู่ในนั้น ก้นบึ้งจิตใจก็เปลี่ยนเป็นแน่วแน่และดีใจยิ่งกว่าใครต่อการผสานรวมกับสหพันธรัฐครั้งนี้แล้ว
เงาร่างที่เขาเห็นนั้นก็คือหวังเป่าเล่อ ในฐานะเจ้าของแผ่นเลื่อนระดับโลกา สิ่งที่เขาได้รับครั้งนี้ย่อมได้มากที่สุด ปราณวิญญาณที่ถูกสรรพชีวิตทั่วทั้งระบบสุริยะดูดซับมาเป็นเพียงสองสามส่วนเท่านั้น แต่อีกเจ็ดแปดส่วนที่เหลือล้วนไหลเข้ามาหาเขาทั้งหมด
ในชั่วพริบตา พลังฝึกปรือของเขาก็บรรลุระดับสามถึงห้าขั้นของดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักร แล้วเลื่อนระดับต่อไปถึงจุดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง!
ไม่นานก็มาถึงสิบสี่สิบห้าขั้นแล้ว ปราณวิญญาณที่ไหลเข้ามากลายเป็นวังน้ำวนพันวนอยู่นอกดวงอาทิตย์ จิตใจของหวังเป่าเล่อจมอยู่ในนั้น ตอนนี้ในหัวมีเพียงความคิดเดียว
เขาต้องการ…พยายามทะลวงระดับเข้าสู่ระดับจักรพิภพ แล้วใช้วิญญาณเทพ กายเนื้อ และพลังฝึกตนในระดับจักรพิภพมากลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่แท้จริงในจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้น เป็นฝ่ายที่ทำให้จักรพรรดิสวรรค์ต้องรู้สึกหวาดกลัว!
“ครั้งนี้จะต้องก้าวถึงจักรพิภพ!” หวังเป่าเล่อฉายแววแน่วแน่อยู่ในดวงตา สองมือผนึกมุทรา พลังฝึกปรือเลื่อนระดับอีกครั้งภายใต้การไหลหลั่งของปราณวิญญาณนับไม่ถ้วนเหล่านี้!
………………………………….