หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting - บทที่ 1266 ฟันชะตา!
นิ่งเงียบเพราะความกะทันหันและความสับสนกับทุกสิ่ง
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสำแดงพลังที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นในการต่อสู้ที่ไม่อาจเลี่ยง
ไม่ว่าจะปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยหรือคนของสำนักแห่งความมืดหรือปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณรวมถึงหวังเป่าเล่อล้วนชัดเจนแล้วว่าวินาทีนี้…บุคคลที่ข่วงชิงร่างเฉินชิงที่ปรากฏตัวอยู่ในโลกศิลผู้นี้คือศัตรูที่ใหญ่ที่สุด!
หากไม่สามารถสยบเขาได้…บางทีจุดจบของโลกศิลาคงจะต้องมาถึงอย่างไม่อาจเลี่ยงได้เป็นแน่
ไม่มีใครอยากตายและน้อยคนนักที่จะทนดูตระกูลของตนพังพินาศอยู่เฉยๆ ได้ ดังนั้น…ศึกครั้งนี้ต้องสู้ ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร
และในที่สุด…อีกสามวันถัดมา ขณะที่เด็กหนุ่มชุดแดงที่ช่วงชิงร่างเฉินชิงไปท่องไปในจักรวาล การเตรียมการของปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยก็เสร็จสิ้นเป็นคนแรก
เขาจำต้องทำให้สำเร็จ เพราะทิศที่เด็กหนุ่มชุดแดงกำลังมุ่งหน้าไป…คือที่ที่ตระกูลเซี่ยตั้งอยู่ ดังนั้นในชั่วพริบตาร่างของปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยก็หายวับไปพร้อมเสียงถอนหายใจดังกังวาน และมาปรากฏตัว…ตรงหน้าเด็กหนุ่มชุดแดง
จักรวาลผันผวนจนเกิดความบิดเบี้ยว เด็กหนุ่มชุดแดงหยุดฝีเท้าพร้อมกับการปรากฏตัวของปรมาตระกูลเซี่ย ใบหน้าเผยรอยยิ้มแปลกๆ และมองปรมาจารย์ตระกูลเซี่ย
“ฝึกเต๋าชะตา? น่าสนใจนี่”
ปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยเงียบ นัยน์ตาเปยแสงแรงกล้าในฉับพลัน ไม่มีปฏิกิริยาทางวาจาแต่อย่างใด สองมือพลันโบกสะบัด ทันใดนั้นหมอกแห่งชะตาสีม่วงก็ระเบิดออกมาจากร่างของเขา จากนั้นก็หดตัวมารวมกันที่ดวงตาทั้งสองข้างและมองเด็กหนุ่มชุดแดง
ปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยจ้องมองพร้อมกับตัวสั่นเทิ้ม สิ่งที่เขาฝึกคือเต๋าชะตาจริงๆ และด้วยพลังทั้งหมด เขาจึงเห็นชะตาบนร่างเด็กหนุ่มชุดแดง ชะตานั้นเป็นสีแดงฉานซึ่งเป็นตัวแทนของหายนะ ขณะเดียวกันก็ยังไร้ขอบเขต ตะขาบสีเลือดที่ก่อตัวขึ้นนั้นราวกับจะดูดกลืนทั้งจักรวาล
เหมือนกับว่าเขาเพียงคนเดียวก็เหนือกว่าทั้งจักรพิภพเต๋าแล้ว
สิ่งที่เรียกว่าชะตานั้นเป็นมายายากจะเอ่ย แต่โดยรวมแล้วชะตากับโชคนั้นคล้ายกัน ผู้มีชะตามั่งคั่งทำสิ่งใดก็ราบรื่น ขณะที่ผู้อาภัพชะตาสะดุดตัวเองล้มตลอดเส้นทาง บางครั้งยังถูกสิ่งของที่ตกลงมาจากฟ้าฟาดตาย หรือขั้นสุดจริงๆ แค่หายใจก็ยังสำลักตายได้
สิ่งที่ปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยฝึกฝนคือเต๋าชะตา นั่นก็คือเหตุผลที่ตระกูลเซี่ยอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้นั่นเอง และเป็นจุดสำคัญที่เขาเลือกช่วยตระกูลไม่รู้สิ้นในตอนนั้น ตระกูลไม่รู้สิ้นในตอนนั้นมีชะตาเหนือกว่าสำนักแห่งความมืดอย่างเห็นได้ชัด
ขณะเดียวกันที่เขาไม่ได้ช่วยเว่ยยางจื่อในครั้งนี้ก็เพราะเหตุผลเดียวกัน เขาเห็นความอาภัพชะตาของตระกูลไม่รู้สิ้นจึงไม่อยากเข้าไปขัดชะตา มันไม่สอดคล้องกับเต๋าของเขา
แต่ตอนนี้ต่อให้ไม่สอดคล้องกับเต๋าของตน มองแวบเดียวก็สัมผัสสวรรค์ปั่นป่วนจนแทบบ้า แต่ปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยก็ยังคงยกสองมือขึ้นรวมชะตาสีม่วงของตนให้กลายเป็นดาบยาวแล้วฟันลงบนหัวเด็กหนุ่มชุดแดง!
“ฟัน!”
ฟันชะตา!
ดูเหมือนฟันอากาศ แต่จริงๆ แล้ว…สิ่งที่ฟันคือชะตาของคู่ต่อสู้
เด็กหนุ่มชุดแดงไม่ได้ขัดขืน เขายืนมองปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยอยู่ตรงนั้นพลางหัวเราะ ปล่อยให้คู่ต่อสู้ฟันชะตาของตน ทว่าในวินาทีต่อมา…ร่างกายเขาไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ชะตาก็เช่นกัน แต่ทางด้านปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยนั้น ในพริบตาที่ดาบยาวนั่นฟันลงมาก็ราวกับฟันถูกสิ่งที่ไม่อาจทำลายได้จนตัวมันแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ส่วนปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยก็เจอกับแรงสะท้อนกลับจนกระอักเลือด ปราณในตำนานอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
“หากเจ้าเป็นขั้นที่สี่ การฟันนี้ก็คงตัดชะตาข้าได้จริงๆ แต่พลังขั้นที่สามกระจอกๆ อย่างนี้ยังกล้าสู้กับข้าอีกหรือ” เด็กหนุ่มชุดแดงเหยียดยิ้มดูถูกและก้าวไปข้างหน้า ยกมือขวาขึ้น ก่อนที่หมอกเลือดจะกลายร่างเป็นตะขาบสีเลือดตรงหน้าเขาและกำลังจะกลืนกินปรมาจารย์ตระกูลเซี่ย
ทว่าในตอนนั้นเองปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยที่ดูอ่อนแอกลับมีแสงเย็นยะเยือกวาบผ่านดวงตา ก่อนจะหยิบธูปก้านหนึ่งออกมาปักในจักรวาลเบื้องหน้า จากนั้นสองมือทำผนึกมุทราอย่างรวดเร็ว ดวงตากลายเป็นสีม่วงโดยพลัน ส่งเสียงคำรามต่ำ
“ช่วงชิงชะตา!”
ในทันทีที่เอ่ยขึ้น เศษดาบจากชะตาสีม่วงที่ถูกเด็กหนุ่มชุดแดงพังไปก็เปล่งแสงระยิบระยับพร่างพรายในชั่วพริบตา และหยุดกระจัดกระจายก่อนจะกลายเป็นแมลงปีกแข็งสีม่วงราวกับว่ามันสามารถกลืนกินทุกสิ่งได้ มันส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะเปลี่ยนทิศพุ่งไปยังเด็กหนุ่มชุดแดงอย่างบ้าคลั่ง
มันเร็วมากจนเข้าใกล้เด็กหนุ่มชุดแดงได้ในชั่วพริบตาและดูดกลืนชะตาของเด็กหนุ่ม ยามที่ดูดกลืน ธูปตรงหน้าปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยก็กำลังเผาไหม้อย่างรวดเร็ว
“หืม?” เด็กหนุ่มชุดแดงหยุดชะงัก ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยและกำลังจะโบกมือ ทว่าในวินาทีต่อมามือขวาที่ยกขึ้นก็ตกลงข้างตัว
เมื่อมันตกลงก็มีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น พลังฝึกตนระดับจักรวาลระเบิดขึ้น นั่นก็คือเสวียนหัว เห็นได้ชัดว่าเขาแอบซ่อนตัวมาถึงที่นี่และตั้งใจลอบโจมตีในช่วงเวลาวิกฤติ หลังจากถูกเจอตัวเขาก็ทำได้เพียงขัดขวางด้วยกำลังทั้งหมด
ร่างของเสวียนหัวระเบิดออกพร้อมเสียงดังสนั่น แต่เขาก็เป็นคนโหดเหี้ยม แม้ตัวจะระเบิดก็ยังสำแดงพลังเทพกลายร่างเป็นหมอกดำแล้วก่อตัวเป็นปากขนาดใหญ่กลืนกินมือขวาของเด็กหนุ่มชุดแดง
ในตอนที่กำลังกลืนกินนั้นเอง อีกด้านของเด็กหนุ่มชุดแดง จักรวาลถูกฉีกก่อนที่กระบองยักษ์อันหนึ่งจะโผล่ออกมาต่อหน้าเด็กหนุ่ม
ด้านหลังกระบอง ปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณเดินออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว มือขวาชกกระบองนั่นทำให้อานุภาพของมันแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ทั้งสองลงมือพร้อมกันจนทำให้ชะตาของเด็กหนุ่มชุดแดงถูกแมลงปีกแข็งสีม่วงดูดกลืนได้ไวขึ้น ธูปตรงหน้าปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยก็เผาไหม้จนเกือบสุดปลาย
แต่ร่างกายของเด็กหนุ่มชุดแดงก็แข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อ แม้กระบองจะมีอานุภาพเทียมฟ้า แต่เมื่อมันเข้าไปใกล้ก็ถูกมือซ้ายของเด็กหนุ่มคว้าไว้ได้ก่อน
“แค่นี้?” เด็กหนุ่มชุดแดงผู้ช่วงชิงร่างเฉินชิงไปแค่นหัวเราะเย็นชา ก่อนจะบีบมือขวาอย่างแรง ปากที่เกิดจากเศษชิ้นส่วนร่างกายเสวียนหัวพังทลายลงอีกครั้ง ดวงวิญญาณเทพแผ่ซ่านและกำลังจะหนี ทว่ากลับถูกเด็กหนุ่มชุดแดงอ้าปากดูดกลืนมันเข้าไป ยามที่เคี้ยวก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของเสวียนหัว
ส่วนมือซ้ายก็บีบเข้าหากัน กระบองของปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณถูกเขาบีบจนระเบิดกระจายเป็นชิ้นๆ แสงสีแดงวาววับอยู่ในดวงตาก่อนจะทะลวงหว่างคิ้วของปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณในทันที
ปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า นัยน์ตาเผยแววดิ้นรน เด็กหนุ่มชุดแดงวาบร่างมาปรากฏตรงหน้าปรมาจารย์ตระกูลเซี่ย ดวงตาฉายแสงแปลกๆ ก่อนจะมีแสงสีแดงปรากฏขึ้นอีกครั้งและยิงทะลวงหว่างคิ้วปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยเข้าไปเพื่อทำการช่วงชิงร่าง
ทว่าในพริบตาที่แสงสีแดงทะลวงเข้าไป ดวงตาปรมาจารย์ตระกูลเซี่ยก็เผยแววดุร้ายและคำรามเสียงต่ำ
“เผา!”
เมื่อเขาพูดออกมา ธูปตรงหน้าก็เผาไหม้เร็วขึ้นในฉับพลัน จนกระทั่งไหม้หมดก้าน แมลงปีกแข็งสีม่วงที่แทรกซึมอยู่ในชะตาของเด็กหนุ่มชุดแดงก็ส่งเสียงกรีดร้องบาดหูและเผาไหม้ไปพร้อมๆ กัน ในพริบตาก็แทรกซึมไปทั่วทั้งชะตาของเด็กหนุ่มทำให้ชะตาถูกเผาไหม้ไปด้วย
นั่นทำให้เด็กหนุ่มชุดแดงขมวดคิ้วมุ่นและกำลังโจมตี ทว่าในวินาทีต่อมา…กระบี่สำริดโบราณก็แหวกออกมาจากความว่างเปล่า กระบี่เล่มนี้แหลมคม ขณะเดียวกันตัวมันก็ยังบรรจุกฎเต๋าธาตุทองบางส่วน พลังไม้และพลังน้ำพลันระเบิดออกมาพร้อมกัน
ธาตุทองก่อกำเนิดน้ำทำให้เต๋าธาตุน้ำพวยพุ่ง น้ำก่อกำเนิดไม้ทำให้พลังไม้ทรงอานุภาพ และจากนั้นเมล็ดพันธุ์เต๋าธาตุไฟยังถูกดาวเคราะห์เต๋าแปลง จึงเกิดเป็น…ไม้ก่อกำเนิดไฟ!
การก่อกำเนิดแต่ละขั้นยิ่งทำให้พลังธาตุไฟน่าสะพรึงกลัว พร้อมกับที่กระบี่สำริดโบราณฟัน…ชะตาของเด็กหนุ่มชุดแดง!
และกระบี่สำริดโบราณที่ผ่าความว่างเปล่าออกมาก็คือ…ร่างธรรมกายของหวังเป่าเล่อ!
ทุกสิ่งที่ทั้งสี่คนร่วมกันทำก็เพื่อการโจมตีนี้!
ข้างในมีเปลวไฟแห่งการเผาไหม้ชะตา ข้างนอกมีไฟจากธาตุทั้งสี่เกิดเป็น…พลังการฟันอันน่าทึ่งของชะตา!
…………………