หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting - บทที่ 1415 พิราบครองรัง
ร่างกายเจ้าปรารถนาทัศน์ถูกหวังเป่าเล่อดูดกลืนไปแล้วหกส่วน อีกสี่ส่วนจากการระเบิดตนได้กลายเป็นลำแสงโลหิตสี่สายกระจายตัวหนีไปด้วยความไวแสง
เพราะใช้ความผันผวนจากพลังระเบิดตน เจ้าปรารถนาทัศน์จึงหลบหนีไปได้เร็วมาก แต่หวังเป่าเล่อและเจ้าทั้งสามแห่งเจ็ดอารมณ์ก็ตอบสนองไวมากเช่นกัน พวกเขาแยกกันไล่ตามแสงโลหิตไปคนละทางทันที
ทว่า ครู่ต่อมาเมื่อทุกคนกลับมารวมตัวกัน แต่ละคนต่างมีสีหน้ามืดมน
“สมกับเป็นเจ้าปรารถนาทัศน์ แม้จะระเบิดตนเหลือเพียงสี่ส่วนก็ยังสามารถหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยได้ แต่เขาไม่มีทางหนีพ้นหรอก เจ้าแห่งโกรธได้ปิดผนึกเมืองไว้แล้ว เขาจะต้องอยู่ในเมืองปรารถนาทัศน์แน่” เจ้าแห่งสุขเอ่ยเบาๆ พลางมองอีกสามคนที่เหลือ
เจ้าแห่งโศกและเจ้าแห่งแค้นต่างส่ายหน้า ส่วนหวังเป่าเล่อกำลังหรี่ตา การไล่ล่าเมื่อครู่เขาวางแผนว่าจะใช้สัมผัสเชื่อมต่อเพื่อกำหนดเป้าหมาย แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าปรารถนาทัศน์มีบทเรียนแล้ว ไม่รู้ว่าใช้วิธีใดถึงทำให้เขาไม่สามารถกำหนดเป้าหมายได้
โดยเฉพาะตอนนี้เขาต้องการเวลาในการย่อยกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์ของตนจึงไม่ได้ฝืนไล่ตามต่อ แต่มองไปทางพวกของเจ้าแห่งสุขแทน
“เจ้าแห่งสุข ข้าต้องการคำอธิบาย” หวังเป่าเล่อกล่าวช้าๆ
“ด้วยสติปัญญาของเจ้าคงไม่จำเป็นต้องให้ข้าอธิบายอะไรมากแล้วกระมัง เจ้าปรารถนาทัศน์กับข้าร่วมมือกัน เขาช่วยพวกข้าขัดขวางสาส์นที่เจ้าปรารถนาเสียงจะส่งให้อาณาจักรด้านบน ส่วนข้าก็ช่วยเขาชักนำเจ้า…มายังเมืองปรารถนาทัศน์แห่งนี้ อันที่จริงข้าก็ไม่ได้ทรยศและนำพาเจ้ามาที่นี่จริงๆ”
“ชักนำ?” หวังเป่าเล่อสีหน้าเรียบนิ่งและเอ่ยช้าๆ
“ใช่แล้ว ชักนำ เพราะเจ้าปรารถนาทัศน์นั้นพิเศษมาก เขาในสภาวะที่สมบูรณ์ไม่สามารถออกจากเมืองปรารถนาทัศน์ได้” เจ้าแห่งสุขตอบอย่างใจเย็น
“เพราะร่างกายนั้น?” หวังเป่าเล่อถามกลับทันที
“กฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์นั้นพิเศษ เพราะกฎเกณฑ์นี้ไม่ได้ถูกควบคุมโดยผู้ฝึกตนคนใดคนหนึ่ง มัน…มีเพียงร่างกายของคนผู้นั้นเท่านั้น หรือก็คือใครก็ตามที่ครอบครองร่างกายนั้นได้ก็จะเป็นผู้ควบคุมกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์และเปลี่ยนเป็นเจ้าปรารถนาทัศน์”
“ส่วนเจ้าปรารถนาทัศน์ผู้นี้ข้าก็บอกประวัติเขาให้เจ้าฟังได้ เดิมเขาเป็นศิษย์ของมหาเทพในโลกอาณาจักรด้านบน แต่ครั้งนั้นได้ตายในสงครามเหลือเพียงเศษซากวิญญาณ มหาเทพจึงใช้เลือดของตนหนึ่งหยดสร้างร่างกายหนึ่งขึ้นมา”
“อย่างไรก็ดี สารัตถะกลับไม่เหมือนกัน มหาเทพจึงถอดกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์และหลอมมันเข้ากับร่างกายนี้ ส่งผลให้ศิษย์ผู้นี้ครอบครองมันได้อย่างราบรื่น เพียงแต่เมื่อมหาเทพกักตน ร่างกายจึงค่อยๆ เน่าเฟะ”
“มันขาดการกระตุ้นและจำเป็นต้องหลอมรวมกับพลังชีวิตอย่างต่อเนื่องถึงจะรักษาเพลิงชีวีของตน และสภาพร่างกายต่อไปได้ แต่ช่วงนี้ก็ได้มาถึงขีดสุดแล้ว”
“แต่การปรากฏตัวของเจ้าทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป แม้ข้าจะไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็พอเดาออก หากเขากลืนกินเจ้ามันจะช่วยร่างกายนี้ได้มหาศาลและยืดเวลาออกไปได้อีกนาน”
“ข้าคิดว่านี่เป็นเหตุผลที่เขายอมร่วมมือกับข้า เขาไม่สามารถออกไปได้จึงจำเป็นต้องใช้คนนอกชักนำเจ้ามา ส่วนเหตุผลที่ข้าช่วยเจ้าก็เพราะ…เป้าหมายของเราน่าจะเหมือนกัน” คราวนี้เจ้าแห่งสุขไม่ได้ปิดบังและบอกทุกอย่างที่ตนรู้ให้หวังเป่าเล่อฟังจนหมด
หวังเป่าเล่อได้ยินเช่นนั้นก็เงียบไปเนิ่นนาน สิ่งที่เจ้าปรารถนาทัศน์ไม่ได้บอก ตอนนี้ก็ได้ยินจากปากเจ้าแห่งสุขแล้ว เมื่อรวมกับความเข้าใจและข้อสันนิษฐานของเขาเอง เขาก็พอนึกโครงสร้างที่ครอบคลุมมากขึ้นได้
ส่วนเหตุผลที่เจ้าแห่งสุขบอกว่าช่วยเขานั้น หวังเป่าเล่อยังไม่เชื่อสนิทใจ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายยังมีเหตุผลบางอย่างที่คนอื่นไม่รู้อยู่อีก แต่นั่นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ…หวังเป่าเล่อหรี่ตาสัมผัสร่างกายของตนเอง เขาสัมผัสได้ว่ามันต่างจากก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน
เขาในก่อนหน้านี้ดูจะเป็นอิสระและมีเพียงสติปัญญาเท่านั้น แต่หากวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งกายเนื้อก็ยังมีความเชื่อมโยงกับร่างต้นแบบอยู่ดี แต่ตอนนี้…ความเชื่อมโยงดังกล่าวเบาบางลงไปมากแล้ว
ในแง่หนึ่งเขาตอนนี้ก็นับว่าเป็นอิสระในระดับหนึ่ง
ความรู้สึกคุ้นเคยกับร่างกายทำให้ดวงตาหวังเป่าเล่อเผยแสงล้ำลึก และยังมีกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์…กฎนี้ต่างจากกฎเกณฑ์ปรารถนารสและกฎเกณฑ์ปรารถนาเสียงอย่างสิ้นเชิง
กฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์เป็นตัวแทนความสวยงามของทุกสิ่งที่ตามองเห็นและยังแสดงว่าร่างกายเขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อันที่จริงเขาในตอนนี้ก็นับเป็นต้นกำเนิดของกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์แล้ว เขาสามารถสัมผัสได้ถึงศิษย์ทุกคนที่ฝึกฝนกฎนี้ในเมืองปรารถนาทัศน์ได้ และเพียงพลิกฝ่ามือก็สามารถทำให้ความสวยงามกลายเป็นความอัปลักษณ์ได้หรือเปลี่ยนแปลงเป็นตรงข้ามได้
การใช้เคล็ดวิชาพลังเทพก็เช่นกัน
“ร่างกายที่ไม่เจ็บปวด…” หวังเป่าเล่อพึมพำ นี่คือลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดเจนมากของกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์ ในแง่หนึ่งของกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์…ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นภาพมายา
ภาพมายาลวงให้เชื่อทุกสิ่งที่ตาเห็น หากทำสำเร็จก็จะเปลี่ยนของปลอมนี้ให้เป็นของจริง!
และก็เพราะความพิเศษนี้ทำให้เขาสามารถซ่อนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ถูกเจ้าแห่งต้นกำเนิดกฎเกณฑ์คนอื่นล่วงรู้ตำแหน่ง
“น่าสนใจ” หวังเป่าเล่อตาวาววับ พริบตาต่อมาร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นร่างสูงใหญ่ของเจ้าปรารถนาทัศน์ที่เคยเห็นเมื่อครู่แล้ว
เขายืนอยู่ตรงนั้นทั่วทั้งร่างเปล่งแสงอักขระโบราณ พลังปราณของเจ้าปรารถนาทัศน์พลันระเบิดออก ทำให้พวกเจ้าแห่งสุขหรี่ตา สีหน้ายามมองหวังเป่าเล่อล้วนแตกต่างกันออกไป
หากไม่ใช่เพราะพวกนางเห็นการเปลี่ยนแปลงของหวังเป่าเล่อเองกับตาแล้วล่ะก็…คงแยกไม่ออกเป็นแน่ แท้จริงหวังเป่าเล่อที่ครอบครองกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์และร่างกายหกส่วนนั้น หากจะบอกว่าเขาคือเจ้าปรารถนาทัศน์ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงหวังเป่าเล่อก็พออกพอใจมาก ขณะเดียวกันก็ยิ่งตั้งตารอปราณโลหิตทั้งสี่สายของเจ้าปรารถนาทัศน์ด้วย
การคาดเดาของเขาเหมือนกับเจ้าแห่งสุข เขาไม่คิดว่าอีกสี่ส่วนจากการระเบิดตนของเจ้าปรารถนาทัศน์จะหนีออกไปจากเมืองได้ จึงน่าจะซ่อนตัวอยู่ในเมืองแห่งนี้
อีกอย่าง อีกฝ่ายคงไม่กล้าเผยโฉมหน้า ไม่กล้าเผยตัวตน ดังนั้น…ตอนนี้ตนก็เปรียบเสมือพิราบครองรัง ฉวยโอกาสเป็นเจ้าปรารถนาทัศน์…
“ศิษย์ทุกคนในเมืองปรารถนาทัศน์ฟังคำสั่ง!” หลังจากตัดสินใจแล้ว หวังเป่าเล่อก็ไม่สนใจพวกเจ้าแห่งสุขและทะยานร่างขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะส่งกระแสดวงจิตเทพปั่นป่วนไปทั่วทั้งเมือง
พริบตาถัดมาผู้ฝึกตนในเมืองปรารถนาทัศน์ที่สั่นกลัวเพราะเสียงคำรามจากวังใต้ดินก่อนหน้านี้และศิษย์สายตรงของเจ้าปรารถนาทัศน์ที่มาถึงแต่ไม่กล้าเข้าใกล้ต่างหัวใจสั่นสะท้าน หลังจากเห็นหวังเป่าเล่อกลางอากาศ ร่างที่คุ้นเคย ความผันผวนของกฎเกณฑ์ที่คุ้นเคยทำให้พวกเขาต่างโล่งใจและทยอยคุกเข่าลง
“คารวะเจ้าปรารถนาทัศน์!”
เมื่อมองไปรอบด้าน ผู้ฝึกกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์ทั่วทั้งเมืองมากกว่าหนึ่งแสนคนต่างกำลังคุกเข่า หวังเป่าเล่อที่พวกเขากำลังทำความเคารพก็ระเบิดกระแสพลังคล้ายกำลังครอบงำ ก้มหน้ากวาดมองไปทั่วทุกสารทิศ
“ผู้ฝึกตนทุกท่านฟังคำสั่ง มีกลุ่มกบฏสี่คนช่วงชิงปราณโลหิตจากสระโลหิตไปซ่อนกายอยู่ในเมือง จากนี้ไปพวกเจ้าจะถูกสอบสวนและตรวจค้นอย่างเข้มงวด สิ่งผิดปกติใดๆ จะถูกหยุดยั้งทั้งหมด”
“หากพบตัวสี่คนนั้นแล้ว ข้าจะนำกฎเกณฑ์ปรารถนาทัศน์ของเขามาให้รู้แจ้งสักครั้ง!” หวังเป่าเล่อกล่าวจบ ผู้ฝึกตนทั่วทั้งเมืองต่างก็ตอบรับ สายตาเผยความตื่นเต้นและคาดหวัง
เวลาเดียวกันทั้งสี่ทิศของเมือง ร่างแยกทั้งสี่ของเจ้าปรารถนาทัศน์กำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมองหวังเป่าเล่อที่อยู่ไกลๆ ด้วยสายตาเคียดแค้น