หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting - บทที่ 969 ดาวเคราะห์เต๋าหวนคืนตำแหน่ง!
- Home
- หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting
- บทที่ 969 ดาวเคราะห์เต๋าหวนคืนตำแหน่ง!
ดาวเคราะห์เต๋าเองก็มีแบ่งระดับชั้น ดังเช่นดาวเคราะห์เต๋าที่ดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าหลอมออกมานี้ ระดับของพวกมันเห็นได้ชัดว่าอยู่ในขั้นสูงสุด เพราะเหล่าบุคคลที่อนุญาตให้มันก่อกำเนิด ต่างก็ไม่ธรรมดาจริงๆ!
ต้นตระกูลแห่งนครดาวตกที่เข้าสู่ที่แห่งนี้พร้อมกันกับหวังเป่าเล่อผู้นั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังฝึกปรือหรือว่าโชควาสนาก็มากพอสั่นสะเทือนทั้งแผ่นดิน อีกทั้งยังเสริมด้วยพลังจากจักรพรรดิแห่งดาวตกในรัชกาลปัจจุบัน รวมถึงพลังเสริมจากประชาราษฎรแห่งนครดาวตก ทั้งหมดประกอบกันเป็นโชคหนุนจากอาณาจักรนี้อีก
แรงเสริมเช่นนี้เดิมทีก็มากพอจะสั่นสะเทือนทุกทิศ เมื่อรวมเข้ากับเจตจำนงแห่งจักรวรรดิดาวตกเองแล้ว การอนุญาตของตัวจักรวรรดิยิ่งทวีน้ำหนักมากกว่า เพราะตัวมันย่อมหมายถึงจักรพิภพดาวตกทั้งระบบนี้ ยินยอมเป็นสักขีพยานผูกพันนิรันดร์
และนี่ยังไม่จำต้องกล่าวถึงปรมาจารย์แห่งไฟผู้นั้น ผู้เป็นถึงผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งจักรวาลก็ยังให้การยอมรับและเป็นสักขีพยานแก่ดาวดวงนี้ สถานภาพของเขาเพียงพอที่จะก่อให้เกิดผลกระทบกับจักรวาลดาราไม่รู้สิ้นได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีเฉินชิงจื่อ…การอนุญาตของเขานั้นเหนือยิ่งกว่าคนก่อนหน้าใดๆ แทบจะถือว่าเป็นระดับสูงสุดของจักรวรรดิดาราไม่รู้สิ้นเลย
เพราะว่าเบื้องหลังของเฉินชิงจื่อถือเป็นตัวแทนสำนักแห่งความมืด ระดับการอนุญาตของเขานั้น ก็ถือเป็นการอนุญาตจากสำนักแห่งความมืดไปโดยปริยาย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แม้ในตอนแรกจะเห็นว่าพลังของดาวเคราะห์เต๋าดวงนี้แผ่วเบา แต่จริงๆ แล้วมันกลับพรั่งพร้อมด้วยเงื่อนไขทั้งมวล รอเพียงแค่เวลาเท่านั้น ขอเพียงให้เวลาแก่มันมากพอ ดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าดวงนี้ย่อมสามารถเลื่อนระดับได้สำเร็จ
และในเวลานี้…การยอมรับจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์นอกพิภพทำให้ทั้งจักรวาลดาราไม่รู้สิ้นสั่นคลอน การยอมรับของเขาไม่เพียงแต่ทำให้การหลอมรวมเวลานี้สำเร็จผล ยังเป็นผลให้ในจักรพิภพดาราไม่รู้สิ้น ได้กำเนิดดาวเคราะห์เต๋าเลื่อนระดับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่จักรพิภพเกิดขึ้น
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทั้งที่ดาวเคราะห์เต๋าดวงนี้เพิ่งปรากฏ ก็ถูกขานว่าเป็นมหาดาราที่อยู่เหนือหมู่ดาวเคราะห์เต๋าด้วยกันแล้ว!
ในยามนี้ สิ่งที่ตามมาจากแสงเจิดจ้า บนท้องนภาแห่งนครดาวตก หมู่ดาวกำลังค้อมคำนับ อาณาประชาราษฎรแห่งนครดาวตกทุกคนล้วนหัวใจสะท้านไหว พวกเขาล้วนแต่ก้มหน้า
ในหมู่ผู้ที่กำลังตื่นตะลึงเช่นเดียวกัน ยังมีชายหนุ่มผู้สง่างามและชายหนุ่มชุดดำ พวกเขาทั้งสองคนเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างชัดเจน และกำลังแหงนหน้ามองหวังเป่าเล่อที่อยู่กลางท้องฟ้า สีหน้าของพวกเขาค่อยๆ มืดครึ้ม แม้ในใจไม่ยินยอมแต่ก็พวกเขาก็ก้มหน้าตามเช่นกัน
กระทั่งแม่นางน้อยที่ใช้ศาสตร์มืดก็ด้วย ในเวลานี้นางมีสีหน้าเคร่งขรึม ส่วนลึกๆ ในหัวใจนางสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคย ในยามที่ดาวเคราะห์ทั้งเก้าร่วงหล่นและหลอมรวมกัน
ในส่วนคนอื่นๆ เองก็เช่นกัน โดยเฉพาะเหล่าคนที่เลือกหลอมร่างเข้ากับดวงดาวที่ตนเลือกแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างเลื่อนเป็นระดับดาวพระเคราะห์ พวกเขาถึงขั้นถูกแรงกระทบจากภายนอกจนพากันตื่นขึ้นมาภายในดวงดาวของมัน เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังภายนอก และวัตถุทรงกลมเก้าสีเบื้องหน้าหวังเป่าเล่อแล้ว แต่ละคนก็ตกตะลึงรุนแรงสุดขีด!
“เป็นไปไม่ได้!” เจ้าอ้วนน้อยลู่เสี่ยวไห่แทบจะลูกตาหลุดออกมาจากเบ้า ในใจนั้นเจ็บปวดสาหัส เขารู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เหตุใดตนจึงได้ดาวเคราะห์พิเศษระดับที่ต่ำที่สุด แต่เจ้าเซี่ยต้าลู่จอมชั่วช้ากลับได้สิทธิ์ในการผนึกและสรรค์สร้างดาวเคราะห์เต๋าดวงใหม่!
แต่สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดมากที่สุด ก็คือดาวเคราะห์พิเศษซึ่งเขาเลือกหลอมรวมดวงนี้ กฎของมันคือเต๋าแห่งลม เต๋านี้…ถึงกับมีกฎซ้ำกับหนึ่งในดาวเคราะห์เต๋าทั้งเก้าดวงนั้นด้วย เป็นหนึ่งในกฎแห่งดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้านั้น
มองดูแล้วไม่ว่าจะเป็นด้านไหน…ต่อให้พลังดาวพระเคราะห์ของเขายกระดับก็ตามที แต่อีกฝ่ายก็ชนะเขาทุกประตู!
ส่วนผู้ที่มีอาการตรงกันข้ามกับเขา กลับเป็นหญิงสวมหน้ากาก ดวงตาของนางเพ่งมองอยู่ครู่แล้วพลันยกยิ้ม เอ่ยเสียงเบา
“หวังเป่าเล่อ…” กล่าวแล้ว นางก็หลับตาลง ไม่ได้ไปสนใจอีก และพยายามฝ่าระดับของตนเองต่อไป
เสียดายว่าตอนนี้หวังเป่าเล่อไม่อาจรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวใดๆ ของหญิงสวมหน้ากากในดาวดวงนั้นเลย ไม่อย่างนั้นล่ะก็ จิตใจของเขาคงบ้าคลั่งในทันทีแน่ เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นระบบดาวเคราะห์ดวงเนตรสวรรค์หรือแม้แต่ในจักรวรรดิดาวตกแห่งนี้ เกรงว่าแทบจะไม่มีคนรู้จักนามนี้ของเขา
แต่จู่ๆ…หญิงสวมหน้ากากเอ่ยนามนี้ออกมา!
ส่วนในนครดาวตกนั้น คนทุกผู้นามที่อยู่ในจักรวรรดิล้วนแล้วแต่แสดงท่าทีคำนับด้วยอาการสั่นเทา ท้องฟ้าพร่างแสงดาวราวกับจะต้อนรับดาวดวงใหม่ ส่วนแม่นางกระพรวนยังคงอยู่ในภาวะสลบไสลเหมือนเดิม กลับกันดาวเคราะห์เต๋าที่อยู่ในร่างนางนั้นสั่นเทารุนแรง ในความสั่นเทานี้หมายรวมถึงความไม่ยินยอม โกรธเคือง และก็ยังมีความรู้สึก…เสียใจด้วย!ไอรีนโนเวล
เพราะมันสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากความห่างระดับชั้น แม้ทางนั้นจะเป็นดาวเคราะห์เต๋าเช่นกัน แต่ว่าในยามนี้เมื่อมันจ้องดาวเคราะห์ทั้งเก้าเบื้องหน้าหวังเป่าเล่อแล้ว มันกลับรู้สึกว่ามันต้องแหงนหน้ามองอีกฝ่ายอย่างไรอย่างนั้น
ความรู้สึกเช่นนี้ มันพลันกระจ่างแจ้งในจิต แม้เทียบแล้วสถานภาพของตนและฝ่ายนั้นจะเหมือนกัน แต่ตำแหน่งกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง นี่ก็เหมือนเทียบผู้ดำรงตำแหน่งราชาทั่วๆ ไป ย่อมมีราชาแห่งประเทศเล็กๆ แล้วก็มีราชาแห่งประเทศขนาดใหญ่ ชื่อสถานภาพแม้เรียกขานเป็นราชาเช่นเดียวกัน แต่ระดับชั้นและพละกำลังเหมือนกันที่ไหนเล่า
และสิ่งที่ทำให้ตัวมันสั่นเทานั้นก็คือ หลังจากที่ดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าก่อกำเนิดเป็นเต๋าแล้ว มันก็สัมผัสได้บางเบาถึงกฎเพียงหนึ่งเดียวที่ดาวทั้งเก้าก่อกำเนิดออกมา สัญชาตญาณของดาวเคราะห์เต๋าบอกมันว่า กฎเพียงหนึ่งเดียวนี้…จะเป็นภัยคุกคามและข่มขวัญต่อมันอย่างมหาศาล!
ท่ามกลางผู้คนที่กำลังน้อมคำนับ และดาวเคราะห์เต๋ากระดาษที่กำลังสั่นเทา ลมหายใจของหวังเป่าเล่อกลับกระชั้นตื่นเต้น ในใจเขานั้นกำลังเฝ้ารอ ในขณะเดียวกันก็ทุ่มความสนใจทั้งหมดไปยังดาวเคราะห์เต๋าเก้าสีเบื้องหน้า
สีสันทั้งเก้าของดาวเคราะห์เหล่านี้ นอกจากสีสันทั้งเจ็ดที่เป็นปกติแล้ว ยังมีสีขาวและดำ
มองดาวเคราะห์เต๋าดวงนี้แล้ว เขาสัมผัสได้ถึงความเคารพที่อีกฝ่ายมีให้ตนเอง อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงความซาบซึ้งและคำสาบานจะเคียงข้าง นอกจากนี้เหมือนว่าในดาวเคราะห์เต๋าดวงนี้มีตราประทับที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาคนเดียวอยู่ด้วย
ตราประทับนี้ ย่อมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากปณิธานเต๋าสาบานของหวังเป่าเล่อ และแสดงให้เห็นว่าใครคือนายแห่งดาวเคราะห์เต๋าดวงนี้ เจตนารมณ์นี้ไม่อาจบิดพลิ้วตลอดกาลเพราะว่าเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งหลายยินยอมเป็นสักขีพยานให้การนี้ อีกทั้งยังรวมพลังมาประทับใส่บนปณิธานเต๋าสาบานของหวังเป่าเล่อ พูดให้ง่ายๆ ก็คือพวกเขาเป็นสักขีพยานในการทำให้ความปรารถนาของหวังเป่าเล่อสำเร็จ
ดังนั้นหากดาวเคราะห์เต๋าทรยศ หรือสูญเสียปณิธานแห่งเต๋าสาบานของหวังเป่าเล่อไป มันจะต้องสูญสิ้นทุกสิ่งไปด้วย ร่างดาวเคราะห์จะแตกสลายในทันที!
เมื่อเข้าใจถึงทุกสิ่งในยามนี้ จากแรงส่งของตราประทับ หวังเป่าเล่อพลันสัมผัสได้ถึงกฎซึ่งแฝงอยู่ในดาวเคราะห์เต๋าเก้าสีดวงนี้!
สีนั้นมีเก้าสี แต่ละสีย่อมหมายถึงตัวกฎแห่งดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าดวงซึ่งแตกต่างกัน แต่ในยามที่พวกมันหลอมรวม และเลื่อนระดับเป็นดาวเคราะห์เต๋านั้น กฎทั้งเก้าเองก็ยกระดับตามไปด้วย
การยกระดับนี้ เป็นเพราะแรงส่งจากตัวของดาวเคราะห์เต๋าเอง ดังนั้นแล้วหากให้นำเรื่องการแบ่งแยกด้านกฎมาเปรียบเทียบล่ะก็ ในใต้หล้านี้ เมื่อไม่เคยปรากฏดาวเคราะห์เต๋าเก้ากฎมาก่อน เช่นนั้นการยกระดับพลังแห่งดาวเคราะห์เต๋าทั้งเก้าในยามนี้ จึงประดุจดังจักรพรรดิ!
นี่อาจจะมิใช่หนึ่งเดียวก็เป็นได้ บางทีใต้หล้าก็อาจจะมีดาวเคราะห์ที่ถือครองกฎเก้าประการอยู่ แต่เงื่อนไขนั้นก็อยู่ที่ว่าผู้ถือครองดาวเคราะห์เต๋าจะสามารถสำแดงพลังอันยิ่งใหญ่ และทำให้กฎพลังเทพเก้าประการนี้แสดงบารมีได้มากแค่ไหน ปัจจัยนั้นคือต้องไม่มีแรงต่อต้านทั้งจากในและนอก จึงจะสามารถใช้กฎทั้งเก้านี้ต่อกรกับศัตรูได้มากเท่านั้น
หนึ่งจุดแข็งหนึ่งจุดอ่อนนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ล้วนแต่ทำให้หวังเป่าเล่ออยู่ในจุดสูงสุดของระดับดาวพระเคราะห์เช่นกัน และหากนำไปเทียบกับดาวเคราะห์เต๋ากฎกระดาษของแม่นางกระพรวนแล้ว ก็นับว่าไม่ด้อยไปกว่ากันเลย
เพราะว่ากฎแห่งเก้าสิ่งนี้ โดยพื้นฐานแล้วได้ควบรวมพลังกึ่งหนึ่งแห่งวิชาเทพวิถีเต๋าซึ่งเซียนผู้ถือครองสามารถใช้ได้ด้วย!
พูดง่ายๆ ว่านับแต่บัดนี้ ในบรรดาเหล่าผู้ที่ถือครองกฎเก้าประการ หากประจันหน้ากับหวังเป่าเล่อ ย่อมไม่มีใครในระดับเดียวกันที่จะเป็นคู่มือของเขาได้เลย เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะมีพลังฝึกปรือที่สูงล้ำกว่าจริงๆ หรือมีกำลังเหนือกว่าหวังเป่าเล่ออย่างมาก!
ทว่าเรื่องราวพวกนี้…กลับยังไม่ใช่สิ่งที่หวังเป่าเล่อได้รับทั้งหมดจริงๆ พูดให้ชัดเจนคือเรื่องพวกนี้เล็กจ้อยราวขนวัว สิ่งที่เขาได้รับมาจริงๆ ในคราวนี้ ก็คือ…กฎอันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดิม ซึ่งก่อกำเนิดในจักรพิภพดาราไร้ที่สิ้นสุด อันได้รับมาภายหลังจากดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าดวงหลอมรวมสร้างอิทธิพลแห่งกฎแล้ว เป็นกฎที่ถือกำเนิดขึ้นจากการอนุญาตของเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์มากมาย
กฎของดาวดวงนี้คือสิ่งใด เพราะกำลังก่อร่าง ดังนั้นแล้วต่อให้เป็นหวังเป่าเล่อก็สัมผัสได้เพียงรางๆ เท่านั้น ต้องให้เขาไปหลอมรวมพลังภายในดวงดาว แล้วทดสอบยกระดับพลังดาวพระเคราะห์เสียก่อน ถึงจะบอกได้อย่างแน่ชัด เมื่อเป็นเช่นนี้ เหล่าคนนอกยิ่งยากจะรู้เข้าไปอีก!
แต่สิ่งที่บอกได้แน่ชัดก็คือกฎทั้งเก้าของดาวเคราะห์บรรพกาลเมื่อก่อนหน้า ในส่วนของกฎเอกลักษณ์นั้น…เขาได้แต่เดา
“ข้าเหมือนสัมผัสได้ร่ำไร…กฎอันเป็นเอกลักษณ์นี้ น่าสนใจดีแท้…” หวังเป่าเล่อพึมพำในใจ ดวงตาทอประกายแสง ในพริบตานั้นเขาแหงนหน้ามองดวงดาวทั้งเก้าสีเบื้องหน้าตน แล้วก็เอ่ยคำพูดที่ราวกับเป็นคำสั่งนิ่งๆ
“ดาวเคราะห์เต๋าเก้าสี ทำไมยังไม่ประจำที่อีก จะรอจนถึงเมื่อไหร่เล่า!”
เมื่อคำนี้กล่าวออกไป ดาวเคราะห์เต๋าเก้าสีพลันสั่นสะท้าน ราวกับตอบรับคำสั่งนั้น มันพลันเปล่งแสงเจิดจ้าเสียดแทงนัยน์ตา พุ่งเข้าไปกลางหว่างคิ้วของหวังเป่าเล่อ ในพริบตานั้น…ก็เข้าสู่ร่างของเขา!
…………………………………………