หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - ตอนที่ 1058
หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1058 เนตรดับชีวิตปะทะพัดหงส์ฟ้าน้ำแข็ง
เมื่อพัดขนนกน้ำแข็งปรากฏขึ้นในมือของไป๋หมิง
อุณหภูมิระหว่างสวรรค์กับโลกก็ลดฮวบลง มากจนกระทั่งเกล็ดหิมะโปรยปรายลงมา แรงกดดันที่อธิบายไม่ได้ค่อยๆ เล็ดลอดออกมา
“ไอ้มนุษย์นั่นบีบให้พี่ใหญ่ไป๋หมิงต้องใช้พัดหงส์ฟ้าน้ำแข็ง” เมื่อไป๋ปิงเห็นภาพนี้ ใบหน้าก็มืดครึ้มลง พัดหงส์ฟ้าน้ำแข็งเป็นของขวัญที่ผู้อาวุโสในเผ่ามอบให้แก่ไป๋หมิงเนื่องจากความเป็นอัจฉริยภาพของเขา ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูธรรมดาไป๋หมิงไม่เคยคิดใช้ เขาจะใช้อาวุธนี้เฉพาะกับคู่ต่อสู้ในระดับที่เท่าเทียมกันเช่น ข่งหลิงเผ่านกยูงเก้าสีหรือจงชิงเฟิงเผ่าคุนเผิง
แต่ตอนนี้ไป๋หมิงถูกบีบให้ต้องนำออกมาเมื่อเผชิญหน้ากับมนุษย์ที่เพิ่งบรรลุระดับจื้อจุนขั้นเจ็ด ความหมายเบื้องหลังการกระทำนี้ชัดเจนมาก
มู่เฉินซึ่งพวกเขาดูถูกเหยียดหยามในตอนแรก มีพลังที่ไป๋หมิงไม่สามารถประมาทได้
“ไม่ว่ามันจะทรงพลังเพียงใด ก็ต้องจบลงตอนนี้แหละ!” ไป๋ปิงกัดฟันกรอดสายตาสาดไอชั่วร้าย พรสวรรค์และพลังที่มู่เฉินแสดงออกมาทำให้เขารู้สึกอิจฉา คนแบบนี้ในเมื่อเป็นศัตรูแล้ว พวกเขาก็ต้องกำจัดให้สิ้นซาก อัจฉริยะแบบนี้ต้องตายก่อนที่จะเติบใหญ่มากกว่านี้!
ด้วยพลังของไป๋หมิงที่อยู่ระดับจื้อจุนขั้นแปดบวกกับพัดหงส์ฟ้าน้ำแข็ง แม้แต่อสูรวิญญาณขั้นแปดก็จะถูกฆ่าทันที ไม่ต้องพูดถึงมู่เฉินเลย
อีกมุมหนึ่งจิ่วโยว หานซันและคนอื่นๆ ก็มองการต่อสู้ด้วยแววกังวลในดวงตา ตอนแรกพวกเขาคิดว่าไป๋หมิงจะใช้อาวุธในอีกสักพัก แบบนั้นมู่เฉินจะได้มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้นอีกหน่อย แต่ใครจะคิดว่าไป๋หมิงจะชี้ขาดแบบนี้ เมื่อพบว่ามู่เฉินไม่ได้เป็นจอมยุทธ์ธรรมดา เขาก็ตัดสินใจนำอาวุธเสมือนมหสวรรค์ออกมาทันที
ด้วยอาวุธเสมือนมหสวรรค์ พลังในการต่อสู้ของไป๋หมิงจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ไป๋หมิงยืนอยู่บนท้องฟ้าในขณะที่โบกพัดขนนกในมือเบาๆ สายตาอัดแน่นด้วยความเย็นเยือกเสียดแทงถึงแก่นกระดูก หลังจากพัดหงส์ฟ้าน้ำแข็งออกมาเขาก็ไม่ได้คิดจะพูดอะไรให้เปลืองน้ำลาย เทคลื่นหลิงลงไปภายในอย่างต่อเนื่อง
ครืน!
เมื่อสะบัดพัดหงส์ฟ้าน้ำแข็ง กระแสธารน้ำแข็งสีฟ้าก็กวาดออกอย่างยิ่งใหญ่เปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นโลกน้ำแข็ง
พายุทอร์นาโดเย็นจัดส่งเสียงกระหึ่มขณะที่พุ่งเข้าใส่มู่เฉิน ในทางผ่านแม้แต่อากาศยังกลายเป็นน้ำแข็ง
กระแสธารเย็นยะเยือกบรรจุด้วยความผันผวนของคลื่นหลิงน่ากลัวอย่างยิ่ง ความเย็นนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปดยังไม่กล้าดูถูก นอกจากนี้กระแสธารยังไหลเร็วมาก เพียงลมหายใจเดียวก็พัดไปถึงร่างเทพสุริยะแล้ว
แคร็ก!
ชั้นน้ำแข็งหนากระจายออกไปอย่างรวดเร็วบนร่างเทพสุริยะ ไม่กี่อึดใจร่างใหญ่โตก็กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งเสียแล้ว
ปัง!
แต่ชั้นน้ำแข็งหนาก็ปกคลุมได้เพียงชั่วครู่ ก่อนที่แสงสีทองรุนแรงจะระเบิดออกมาจากร่างเทพสุริยะ แตกสลายชั้นน้ำแข็งหนาจนแหลกลาญ
ร่างเทพสุริยะยืนตระหง่านบนท้องฟ้าขณะที่แสงสีทองมันวาวเปล่งประกายขึ้น แต่มู่เฉินที่ยืนอยู่ด้านบนใบหน้าก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เพราะเขารู้ชัดว่าตนเองใช้พลังงานจำนวนมหาศาลเพียงใดเพื่อทำลายชั้นน้ำแข็งเมื่อครู่
หลังจากใช้พัดหงส์ฟ้าน้ำแข็ง คลื่นหลิงเย็นเยือกของไป๋หมิงก็ยกระดับขึ้นหลายส่วน ในเวลาเดียวกันก็ยากที่จะรับมือมากขึ้น
สายตาของมู่เฉินวูบไหวก่อนที่จะประสานมือเข้าด้วยกันฉับพลัน แสงสีทองระเบิดออกก่อตัวเป็นคทาขวางฟ้าสองเล่มเบื้องหน้าร่างเทพสุริยะอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ซัดใส่ไป๋หมิงเต็มเหนี่ยว
ทว่าเผชิญหน้ากับการโจมตีที่ทำให้ตนเองต้องตกอยู่ในสภาพน่าอนาถก่อนหน้า ไป๋หมิงก็ไม่แม้แต่ยกคิ้วขึ้น เขาโบกพัดขนนกในมือ กระแสธารเย็นเยือกกวาดผ่าน คทาสีทองที่พุ่งเข้ามาก็ถูกเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งทันทีก่อนที่จะระเบิด
“เขาแข็งแกร่งขึ้นมากจริงๆ พัดขนนกในมือเจ้านั่นไม่ธรรมดา” มู่เฉินหรี่ตาลง คลื่นหลิงที่ไป๋หมิงฝึกฝนหนาวเย็นสุดขั้วบวกกับพัดหงส์ฟ้าน้ำแข็งในมือก็ราวกับพยัคฆ์ติดปีก ตอนนี้แม้แต่ในหมู่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปด ไป๋หมิงก็ถือว่าต่อกรด้วยยากแล้ว
“ถ้านี่คือทั้งหมดที่แกมี ก็รอความตายมาถึงได้เลย”
ไป๋หมิงโบกพัดเบาๆ จ้องมองมู่เฉินด้วยสายตาไม่แยแสพลางพูดขึ้น เขาไม่รอมู่เฉินจะได้ตอบโต้อะไร พัดขนนกก็ยกขึ้นอย่างช้าๆ ลอยอยู่ที่เบื้องหน้า
ไป๋หมิงวาดตราประทับด้วยมือทั้งสอง คลื่นหลิงไร้ขอบเขตพรั่งพรูออกมาจากร่างกายทันทีเทลงบนพัดขนนกอย่างต่อเนื่อง
เมื่อคลื่นพลังงานหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด พัดก็ขยายตัว ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจก็ขยายขนาดไปเป็นร้อยจั้ง ตัวพัดค่อยๆ กลายเป็นน้ำแข็งที่ดูงดงามมาก
มองพัดขนนกที่ราวกับอัญมณี มู่เฉินก็รู้สึกเจ็บปวดรุนแรงไปทั่วร่างกาย สีหน้าเคร่งเครียดลงหลายส่วน เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกถึงภัยคุกคามรุนแรง
รัศมีเย็นเยือกเชี่ยวกรากกวาดออกมาจากพัดขนนก สีฟ้าเย็นยะเยือกก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มลึกซึ่งเต็มไปด้วยพลังการทำลายล้าง
สายตาเย็นเยือกของไป๋หมิงจับจ้องไปที่มู่เฉิน รอยยิ้มอัดแน่นด้วยจิตสังหารยกขึ้นที่มุมปาก
“พัดหงส์ฟ้าน้ำแข็ง หงส์ฟ้าน้ำแข็งสังหาร!”
ตราประทับในมือไป๋หมิงเปลี่ยนแปลงเร็วรี่ พัดขนนกเอียงลงช้าๆ ก่อนที่จะพัดลมใส่มู่เฉินที่อยู่ไกลออกไป
ตู้ม!
ฟ้าดินกลายเป็นหนาวเย็นและดำมืดทันที กระแสธารเย็นเยือกสีน้ำเงินเข้มที่ไม่มีที่สิ้นสุดกวาดออกมาจากพัด นอกจากนี้เมื่อไอเย็นส่งเสียงครางกระหึ่มก็กลายเป็นหงส์ฟ้าน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้มที่มีขนาดประมาณหนึ่งพันจั้ง ไอเย็นเยือกที่ปกคลุมบนหงส์ฟ้าน้ำแข็งสามารถเปลี่ยนจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปดให้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งได้เลยทีเดียว
นอกลานประลอง ทุกคนตัวสั่นเทิ้มพร้อมกับความหวาดผวาฉายบนใบหน้า นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้สึกได้ว่าคลื่นหลิงในร่างกายกำลังแสดงสัญญาณค่อยๆ แข็งตัวลง
พวกเขาเพียงแค่ได้รับผลกระทบจากกระแสไอเย็นสุดขั้ว หากพวกเขาเผชิญหน้ากับมัน บางทีพวกเขาอาจจะกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งโดยไม่มีพลังใดๆ หลงเหลือ ก่อนที่หงส์ฟ้าน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้มจะร่อนลงมาเสียอีก
“ช่างเป็นไอเย็นที่น่าสะพรึงกลัว!”
ใบหน้าของทุกคนซีดไปหมด ไป๋หมิงไม่ไว้หน้าจริงๆ เขานำพลังของพัดหงส์ฟ้าน้ำแข็งออกมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์ การโจมตีนี้ ไม่ต้องพูดถึงมู่เฉิน แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปดอย่างข่งหลิงก็ต้องเผชิญหน้าอย่างเต็มกำลัง
“มันตายแน่!” ไป๋ปิงยิ้มกริ่ม แม้ว่ามู่เฉินจะค่อนข้างมีความสามารถ แต่ก็เป็นทุกขลาภในเวลาเดียวกันที่บีบให้ไป๋หมิงใช้กระบวนท่านี้
หงส์ฟ้าน้ำแข็งกวาดออกไป ใบหน้าของไป๋หมิงก็มืดดำลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการโจมตีที่น่ากลัวทำให้เขาอ่อนเพลียมาก แต่ก็ถึงเวลาที่จะจบการต่อสู้นี้แล้ว
หวือ! หวือ!
หงส์ฟ้าน้ำแข็งกวาดเข้ามา พื้นผิวบนร่างกายของมู่เฉินก็ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ไอเย็นเยือกที่เจ็บปวดเจาะกระดูกกัดกร่อนเข้ามาในร่าง แม้ว่าจะมีพลังกายทรงประสิทธิภาพก็ยังรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวสำหรับเขา
ถ้าปล่อยให้หงส์ฟ้าน้ำแข็งปะทะเข้ามาละก็ เขาได้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งแน่ แม้ว่าจะฝึกฝนกายามังกรหงส์ขั้นสองแล้วก็ตาม
ฮา
มู่เฉินพ่นลมหายใจออกมากลายเป็นน้ำแข็งที่เบื้องหน้าพร้อมกับตัวเขาค่อยๆ หลับตาลง
“ไม่คิดต่อต้านแล้วเรอะ?” พอเห็นท่าทางนั่น ไป๋หมิงก็หัวเราะเยาะ แต่รอยยิ้มก็อยู่เพียงชั่วครู่ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้ว เขาเห็นเส้นแนวตั้งค่อยๆ เปิดเป็นม่านตาสีดำบนหน้าผากของมู่เฉิน
“นั่นคืออะไร?” คนอื่นๆ ที่ตกใจกับการโจมตีของไป๋หมิง เมื่อเห็นฉากนี้ก็ต้องร้องอุทาน
จิ่วโยวและพรรคพวกรู้สึกโล่งใจ ในที่สุดมู่เฉินก็นำเนตรดับชีวิตออกมาใช้ นี่เป็นอาวุธเสมือนมหสวรรค์เช่นกัน ด้วยสิ่งนี้เขาอาจจะสามารถป้องกันการโจมตีของไป๋หมิงได้
เมื่อเนตรดับชีวิตเปิดออกก็ครอบคลุมไปด้วยแสงสีดำลึกลับ มู่เฉินสะบัดนิ้ว กระแสคลื่นกวาดออกมาส่งเสียงฮึมฮัมซึ่งบรรจุด้วยคลื่นหลิงที่ไร้ขอบเขตและบริสุทธิ์ เมื่อคนอื่นเห็นฉากนี้ ดวงตาก็แทบจะถลนออกจากเบ้า เนื่องจากพวกเขาพบว่ากระแสคลื่นนี้เกิดจากของเหลวจื้อจุน
ตัดสินจากขนาดของเหลวจื้อจุนนี้ต้องมีอย่างน้อยล้านหยด
ตราประทับของมู่เฉินเปลี่ยนแปลงเร็วจี๋ แรงดูดทรงพลังระเบิดออกจากเนตรดับชีวิตราวกับวาฬสูบน้ำ กลืนกินของเหลวจื้อจุนเข้าไปทั้งหมด
เมื่อของเหลวจื้อจุนล้านหยดซึมซาบลงไปในเนตรดับชีวิต แรงกระเพื่อมสีดำที่ผันผวนก็ราวกับหลุมดำเมื่อมองจากระยะไกล
“ก็แค่มายากล!”
เมื่อไป๋หมิงเห็นภาพนี้ ดวงตาก็หดลงแวบหนึ่ง แต่จากนั้นก็ยิ้มเย็นเยือก ไม่ว่ามู่เฉินจะทำแบบไหน เขาก็สามารถเอาชนะได้ด้วยกระบวนท่านี้แน่
ฮึ่ม! ฮึ่ม!
รัศมีทรงกลดสีดำเปล่งออกมาจากเนตรดับชีวิต ก่อนที่มู่เฉินจะเปิดดวงตาขึ้นในขณะนี้ เมื่อเขาลืมตามือทั้งสองก็วาดกระบวนท่า “เนตรดับชีวิต แสงเทพดับชีวิต!”
ม่านตาสีดำเปิดกว้าง ทันใดนั้นโดยรอบก็มืดฟ้ามัวดิน แสงทั้งหมดเหมือนจะถูกกลืนกินโดยดวงตาแนวตั้งนั่น
ลำแสงสีดำขนาดใหญ่ยิงออกมาจากรูม่านตา
ลำแสงสีดำมืดมนน่าสะพรึงกลัว ไม่มีคลื่นหลิงรุนแรงผันผวนออกมา แต่เมื่อแสงยิงออกไป ทุกคนในบริเวณนี้ก็รู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาเย็นเยือกและหนังหัวลุกชันไปหมด
พวกจิ่วโยวก็มีสีหน้าเคร่งเครียด ลำแสงที่ออกมาจากเนตรดับชีวิตครั้งนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนที่สังหารอสูรวิญญาณขั้นแปดเสียอีก!
เพียงแต่ไม่รู้ว่าการโจมตีนี้จะสามารถต้านทานการโจมตีที่น่ากลัวของไป๋หมิงได้หรือไม่?
อาวุธเสมือนมหสวรรค์ชิ้นไหนจะทรงพลัง คงสามารถบอกได้หลังจากที่ปะทะกันในกระบวนท่านี้
ภายใต้สายตากระวนกระวายใจ ลำแสงสีดำก็ทะลุผ่านเส้นขอบฟ้าก่อนที่จะปะทะกับหงส์ฟ้าน้ำแข็งที่ทะยานเข้ามา
พริบตานั้นทั้งสวรรค์และโลกก็เงียบสนิท