หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - ตอนที่ 1094
หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1094 หญิงลึกลับ
ป้ายทองคำโบราณวางบนถาดเงิน
มีรอยด่างบ่งบอกถึงอายุ ในเวลาเดียวกันป้ายนี้ก็ดูธรรมดามาก แต่มีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ผู้คนจ้องมองที่ป้ายด้วยสายตาร้อนแรง คนส่วนใหญ่ที่นี่มาจากขั้วอำนาจต่างๆ และแรงจูงใจที่มาที่นี่ก็คือป้ายทองคำลึกลับนี้
มั่นถัวหลัวไม่ใช่คนเดียวที่รู้เกี่ยวกับเรื่องจอมพลสอง ขั้วอำนาจระดับต้นอื่นๆ ในทวีปเทียนหลัวก็ได้ทำการสืบเสาะข้อมูลวังสวรรค์บรรพกาลมาด้วยเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สถานะของจอมพลสอง นี่ยิ่งดึงดูดความสนใจเมื่อป้ายเผยออกมา
ทรัพยากรและโอกาสในวังสวรรค์บรรพกาลยิ่งใหญ่เหลือล้น หากขั้วอำนาจใดสามารถรับไปได้ ก็อาจจะสามารถทะยานขึ้นกลายเป็นผู้ปกครองคนใหม่ของทวีปเทียนหลัว ในเวลาเดียวกันสำนักของพวกเขาก็จะได้เลื่อนขึ้นเป็นหนึ่งในมหาอำนาจแห่งมหาพันภพ!
ดังนั้นอะไรก็ตามที่สามารถเพิ่มโอกาสได้ ล้วนมีค่ามาก พวกเขาต้องรับสิ่งนี้มาให้ได้!
บนเก๋งชั้นสาม ไม่เพียงแต่ดวงตาของเซี่ยหงเปลี่ยนเป็นคมกริบ แม้แต่คนอื่นๆ ก็ท่าทางเคร่งเครียดลงหลายส่วน
ชัดว่าวัตถุที่พวกเขารอคอยปรากฏขึ้นแล้ว
หานเฟยจ้องมองท่าทางน้ำลายไหลย้อยจากบนแท่นประมูลก็หัวเราะแล้วยกถาดสีเงินขึ้น “ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่ของเหลวจื้อจุนหนึ่งล้านหยด ให้เพิ่มราคาทุกครั้งไม่น้อยกว่าหนึ่งล้าน”
ราคาเริ่มต้นของวัตถุชิ้นนี้ต่ำมาก เทียบกับสามชิ้นแรกไม่ได้เลย แต่กลับไม่มีใครรู้สึกสบายใจในราคานี้ นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้ว่าราคาของชิ้นนี้จะสูงเกินกว่าสามชิ้นที่ออกไปก่อนหน้าแน่นอน
“สองล้าน!”
ตามที่ทุกคนคาด ทันทีที่หานเฟยพูดจบเสียงก็ดังกึกก้อง
“สามล้าน!” ก่อนเสียงแรกจบสิ้นสุด การเสนอราคาก็ดังก้อง
“สี่ล้าน”
“…”
เสียงดังกึกก้องอยู่ในโรงประมูล ยกระดับบรรยากาศถึงสุดขีดทันที ดวงตาทุกคนเปลี่ยนเป็นสีแดง
ในเวลาไม่กี่อึดใจราคาก็เพิ่มเป็นสิบล้านแล้ว
หลังจากราคาเพิ่มขึ้นเป็นสิบล้าน ความถี่ในการเสนอราคาก็ลดลง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเสียงโหวกเหวกเป็นระยะ ชัดว่าพวกเขาจะต้องมีขั้วอำนาจแข็งแกร่งยืนเบื้องหลังแน่
เวลาผ่านไปหลายนาที ราคาเพิ่มขึ้นเป็นสิบหกล้าน
“มาถึงสิบหกล้านแล้ว”
เมื่อมู่เฉินเห็นฉากการประมูลนี้ เขาก็อดเดาะลิ้นอย่างช่วยไม่ได้ สำนักชั้นยอดยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย แต่ราคาก็ทะยานอย่างน่ากลัวแล้ว
“สิบแปดล้าน!”
ขณะที่มู่เฉินถอนหายใจ จู่ๆ เสียงหัวเราะก็ดังกึกก้องขึ้น ทำให้บรรยากาศที่ร้อนแรงหยุดลงชั่วคราว สายตานับไม่ถ้วนจ้องมองประมุขน้อยสำนักมังกรซ่อนที่มองทุกคนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เห็นได้ชัดว่าในที่สุดเขาก็ขยับหลังจากดูการเสนอราคามาพักหนึ่ง
เขาเพิ่มราคาประมูลจากสิบหกล้านเป็นสิบแปดล้าน การเพิ่มราคาทีเดียวสองล้าน ทำให้สีหน้าของจอมยุทธ์คนอื่นๆ น่าเกลียด จนสุดท้ายพวกเขาก็ลังเลก่อนจะนั่งลงอย่างไม่เต็มใจ
“ฮ่าๆ ในเมื่อประมุขน้อยมู่ใจดีเริ่ม งั้นแคว้นเซี่ยของข้าก็ไม่น้อยหน้าขอเสนอราคายี่สิบล้าน” เมื่อมู่ซันเสนอราคา เสียงเกียจคร้านก็ดังก้อง ในที่สุดเซี่ยหงก็เสนอราคาแล้ว
เมื่อมองภาพนี้ ขั้วอำนาจอื่นๆ ที่ตอนแรกยังรู้สึกมีหวังก็ส่ายหัวด้วยความเสียใจเนื่องจากต่อไปพวกเขาได้แต่เฝ้ามอง เฉพาะพวกร่ำรวยเท่านั้นถึงจะสามารถแข่งขันเพื่อประมูลป้ายทองคำนี้
“ยี่สิบเอ็ดล้าน”
เสียงหัวเราะนุ่มนวลดังสะท้อนจากริมฝีปากของชิ้งหย่า “ในเมื่อเจ้าสองคนลงชิงชัย ข้าชิ้งหย่าก็ขอมีส่วนร่วมด้วย”
“ยี่สิบสองล้าน” เจียงหลิงพูดราคาโดยไม่มีการแสดงออกใดๆ บนใบหน้า
เมื่อขั้วอำนาจชั้นยอดทั้งสี่เสนอราคา ทำให้ราคาสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ตัดความคิดของกลุ่มอื่นออกไปอย่างสมบูรณ์
เซี่ยหงกะพริบตาจ้องมองทั้งสามคนพูดด้วยเสียงเย็นชา “ยี่สิบห้าล้าน”
เขาจะต้องได้ป้ายทองคำนี้ แต่ทั้งสามเป็นอุปสรรคต่อเขา พวกเขาอาจทำให้เขาจ่ายในราคาแพง แต่เขาไม่กลัวที่จะไม่ได้รับ เพราะในแง่ของรากฐานสำนักมังกรซ่อน ตึกฟ้าเหวและสำนักกระบี่แดนสรวงล้วนสู้แคว้นเซี่ยไม่ได้
มู่ซัน ชิ้งหย่าและเจียงหลิงขมวดคิ้ว เนื่องจากรู้สึกถึงความมุ่งมั่นของเซี่ยหงที่จะเอาชนะ ของเหลวจื้อจุนยี่สิบห้าล้านหยด ไม่ได้เป็นจำนวนน้อยสำหรับสำนักของพวกเขาแล้ว
ดังนั้นในช่วงจังหวะหนึ่ง พวกเขาก็เริ่มไตร่ตรองและพิจารณาส่วนได้ส่วนเสีย
เซี่ยหงเย้ยหยันในหัวใจ ขั้วอำนาจที่มีฐานรากตื้นเขินต้องการที่จะแข่งขันกับแคว้นเซี่ยของข้าเรอะ? ฝันไปเถอะ!
“ยี่สิบแปดล้าน”
ทว่าขณะที่เซี่ยหงกำลังรู้สึกยินดี จู่ๆ เสียงสงบนิ่งก็ดังขึ้น ซึ่งทำลายความเงียบลง
ควับ!
ทุกคนส่งสายตาจ้องมองไปที่แหล่งกำเนิดของเสียง ก็เห็นมู่เฉินซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับภาพค่ายกลที่ไม่สมบูรณ์ไปยืนขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“เขาเสนอราคาสูงขนาดนี้จริงเหรอ!” มีบางคนที่รู้สึกไม่เชื่อเพราะของเหลวจื้อจุนยี่สิบแปดล้านหยด ไม่ใช่สิ่งที่ขั้วอำนาจใดๆ เอามาโปรยเล่นได้
ชิ้งหย่า มู่ซันและคนอื่นๆ ก็มองไปที่มู่เฉินด้วยแววตาตกใจเช่นกัน
เซี่ยหงอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนที่จะจ้องมองมู่เฉินด้วยสีหน้ามืดครึ้มแล้วพูดด้วยเสียงน่าขนลุก “ไอ้เวร นี่ไม่ใช่สถานที่ที่แกจะมาทำตลก ถ้าแกประมูลแบบบ้าบิ่น แกก็ต้องจ่ายราคาสำหรับสิ่งนั้นด้วย”
มู่เฉินยกเปลือกตาขึ้นตอบแผ่วเบา “องค์ชายสี่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น อาณาเขตกงเวทสวรรค์ของข้าสามารถจ่ายของเหลวจื้อจุนยี่สิบแปดล้านหยดได้สบาย”
พรรคพวกที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างก็อึ้งไปกับการเสนอราคานี้ พวกเขาเหลือของเหลวจื้อจุนอยู่สามสิบล้านหยด หลังจากการประมูลเมื่อครู่
ทว่าแม้จะตกใจพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะพวกเขาเข้าใจถึงขีดจำกัดความมั่งคั่ง ดังนั้นหากพวกเขาต้องการที่จะชนะการประมูล พวกเขาต้องทำตัวรวยเพื่อข่มผู้อื่น
แต่แค่ไม่รู้ว่าจะข่มขู่เซี่ยหงด้วยจำนวนของเหลวจื้อจุนยี่สิบแปดล้านหยดได้จริงหรือไม่
สีหน้าของเซี่ยหงมืดครึ้มอีกหลายส่วน เขาจ้องมองมู่เฉินแสงเย็นไหลในดวงตา แม้ว่าแคว้นเซี่ยของพวกเขาจะร่ำรวย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในสิ่งที่เขาสามารถใช้ได้
ของเหลวจื้อจุนสามสิบล้านหยดสามารถรองรับการเติบโตของขั้วอำนาจระดับสูงได้และเพียงพอที่จะทำให้จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนมาสวามิภักดิ์แล้ว
ดวงตาของเซี่ยหงกะพริบก่อนที่จะหายใจลึกพูดเสียงเยือกเย็นว่า “สามสิบล้าน!”
ฮือฮา!
โรงประมูลกลายเป็นจลาจลทุกคนตะลึงไปก่อนจะส่ายหัว พวกนี้บ้าจริงๆ ราคานี้สามารถซื้ออาวุธเสมือนมหสวรรค์หลายชิ้นได้เลยทีเดียว แม้จะอยู่ในองค์กรนักฆ่าในมหาพันภพยังสามารถใช้จำนวนเงินนี้เพื่อเชิญจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนมาได้
ไม่เพียงแต่ผู้ชมจะตกตะลึงกับราคานี้ แม้แต่ชิ้งหย่าและคนอื่นๆ ก็เผยท่าทางเคร่งเครียด ก่อนที่จะพากันส่ายหัว
จากนั้นทุกคนก็หันไปมองมู่เฉิน สงสัยว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร
ภายใต้สายตาเหล่านั้น มู่เฉินเสนอราคาอีกครั้งโดยไม่ลังเล “สามสิบเอ็ดล้าน”
การแสดงออกนิ่งสงบ ไม่มีใครสามารถเห็นขีดจำกัดของเขาได้ มีเพียงพรรคพวกเท่านั้นที่รู้ว่าราคานี้ถึงขีดจำกัดของพวกเขาแล้ว ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถจ่ายได้สักหยดแล้ว
วาบ!
เซี่ยหงยืนขึ้นพร้อมกับสีหน้าบูดเบี้ยว เขากัดฟันกรอดจ้องมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาอาฆาตมาดร้าย ทิ้งรอยฝ่ามือลึกลงบนที่เท้าแขน เขาไม่คิดว่ามู่เฉินจะกล้าเล่นกับเขาแบบนี้!
“สามสิบห้าล้าน!” เซี่ยหงคำรามเสียงต่ำลึกทำให้หนังหัวของทุกคนชาหนึบ นี่เป็นราคาขีดจำกัดของแคว้นเซี่ยแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นใบหน้าบิดเบี้ยวของเซี่ยหง มือเรียวของมู่เฉินก็ลูบที่เท้าแขนเบาๆ สีหน้านิ่งสงบ แต่ก็ต้องถอนหายใจในใจ แคว้นเซี่ยร่ำรวยจริงๆ ราคานี้เขาสู้ไม่ไหวแล้วเช่นกัน
แม้แต่รายได้ต่อปีของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ตอนนี้ ก็ไม่สามารถเข้าถึงจำนวนนั้นได้
ดังนั้นเขาจึงส่ายหัวเบาๆ และเลือกที่จะยอมแพ้
“ลองคิดวิธีอื่นดูนะ” จิ่วโยวพูดเสียงเบาๆ แม้ว่าเซี่ยหงจะได้รับป้ายไปก็ไม่ได้หมายความว่าจะนำออกไปได้
มู่เฉินพยักหน้านี่เป็นทางเลือกเดียวสำหรับตอนนี้
“ทำไมถึงไม่ประมูลต่ออีกล่ะ?”
เมื่อเห็นว่ามู่เฉินยอมแพ้ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเซียวหงก็เปลี่ยนเป็นเย้ยหยัน “อาณาเขตกงเวทสวรรค์ที่อ่อนแอต้องการแข่งขันกับแคว้นเซี่ยของข้าเรอะ ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”
สีหน้าจิ่วโยวเย็นชาถึงขั้นสุด นางกำลังจะลุกขึ้นยืน แต่ก็ถูกมู่เฉินห้ามไว้ ไม่จำเป็นที่จะลงมือในสถานที่แห่งนี้
เซี่ยหงเค้นเสียงเย็นก่อนจะหันกลับไปหาหานเฟยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ประกาศผู้ชนะได้รึยัง?”
ด้วยราคาของเหลวจื้อจุนสามสิบห้าล้านหยด ใครจะสามารถแข่งขันกับเขาได้อีก?
หานเฟยพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ขณะที่กำลังจะยุติการประมูล เสียงไพเราะก็ดังกึกก้องราวกับฟ้าร้องทำเอาทุกคนตกตะลึงทันที
“โอ้ เดี๋ยวก่อน ข้าขอเสนอราคาสี่สิบห้าล้าน”
เงียบกริบ
โรงประมูลทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบงัน เซี่ยหงตาพร่าไปกับราคานั้น แม้แต่มู่เฉินก็ตกตะลึง ใครคือคนที่เพิ่มราคาครั้งเดียวถึงสิบล้าน?
นางโปรยของเหลวจื้อจุนเล่นเหมือนถั่วเลยเรอะ?
ใครเป็นคนเสนอราคา?
ทุกคนค้นหาแหล่งกำเนิดของเสียงอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นสายตาก็จ้องไปที่มู่เฉิน
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตา มู่เฉินก็อึ้งไปก่อนที่จะหันมองด้านหลังอย่างรวดเร็ว หญิงสาวคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ นางถือผลไม้วิเศษขณะที่อ้าปากกินลงไป ดวงตาของนางแผ่ด้วยเสน่ห์อันน่าทึ่ง
ขณะที่เคี้ยวผลไม้ นางก็มองไปที่มู่เฉิน จากนั้นก็โบกมือไปมากลืนผลไม้อย่างรวดเร็วแล้วหัวเราะเบาๆ “โอ้ เราเจอกันอีกแล้วนะมู่เฉิน…”