หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1433 การปะทะกันของระดับเซิ่ง
เมื่อชิงเหยี่ยนจิ้งพูดจบ
สายตาก็จ้องมองไปที่ฝูถูเฉวียนอย่างเย็นชา
“ผู้อาวุโสใหญ่ช่างน่าประทับใจรังแกแม้กระทั่งลูกหลาน” เสียงเย็นเยือกของชิงเหยี่ยนจิ้งดังก้อง
ฝูถูเฉวียนแสดงออกเย็นชาพลางตะคอก “ลูกหลาน? เผ่าฝูถูของข้าไม่มีลูกหลานหยิ่งผยองเช่นนี้ ถ้าข้าไม่ออกโรงเองวันนี้ ข้ากลัวว่าลูกชายเจ้าจะพลิกทั้งเผ่าจนไม่เหลือซาก!”
ทว่าชิงเหยี่ยนจิ้งก็แสดงสีหน้าเย็นชาใส่เช่นกัน “คิดว่าข้าไม่รู้ว่าพวกท่านเป็นคนยังไงเรอะ? ที่เฉินเอ๋อทำเช่นนี้ก็เพราะถูกบีบบังคับจากพวกเจ้านั่นแหละ”
เมื่อฝูถูเฉวียนได้ยินคำพูดเหล่านั้น ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความโกรธตะคอกออกมาว่า “ชิงเหยี่ยนจิ้ง เจ้ากล้าดียังไง! ไสหัวไปซะ ข้าจะจับและสำเร็จโทษไอ้กาลกิณีเพราะกล้าเข้ายุ่งในเผ่าฝูถูของข้า!”
“ที่ผ่านมาข้าอดทนอดกลั้นเพื่อปกป้องเฉินเอ๋อ ตอนนี้พวกท่านท้าทายจุดเดือดของข้าครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วข้าจะยอมให้แตะต้องลูกชายต่อหน้าข้าได้อย่างไร!” ชิงเหยี่ยนจิ้งขมวดคิ้วขณะคำราม
ตอนนี้นางไม่ได้มีรูปลักษณ์อบอุ่นอีกแล้ว ท่าทางถูกแทนที่ด้วยไอเยือกเย็นทำให้หลายคนในเผ่าฝูถูรู้สึกหวาดกลัว เนื่องจากพวกเขาไม่เคยเห็นชิงเหยี่ยนจิ้งเกรี้ยวกราดโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าผู้อาวุโสใหญ่
เห็นได้ชัดว่าแม้แต่ผู้หญิงอ่อนโยนที่สุดก็ยังกลายเป็นเสือร้ายเพื่อลูก
“ชิงเหยี่ยนจิ้ง!”
ฝูถูเฉวียนแผดเสียงลั่น เขาไม่คิดมาก่อนว่าวันนี้ชิงเหยี่ยนจิ้งจะไม่ยอมแพ้ นางไม่แม้กระทั่งไว้หน้าเขา
“ในเมื่อเจ้ายืนกรานจะรั้นต่อ ข้าก็จะจับทั้งแม่ลูกไปด้วยกันเลย!”
ฝูถูเฉวียนตะเบ็งเสียงลั่น ในฐานะผู้มีอำนาจในเผ่าฝูถู เขาถือว่ากฎเผ่าเปรียบดังกฎสวรรค์ ทว่าการกระทำของชิงเหยี่ยนจิ้งกลับไม่สนใจกฎใดๆ แล้วเขาจะทนได้อย่างไร?
ตู้ม!
พร้อมกับเสียง รัศมีก็ระเบิดออกมาก่อร่างเป็นกงล้อสีดำขาวขนาดใหญ่ แผ่ซ่านด้วยพลังทำลายล้างขณะที่หมุนคว้าง
ในขณะนี้จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งได้ปลดปล่อยพลังโดยไม่รั้งรอแล้ว
แรงกดดันจากความโกรธของเขาห่อหุ้มสวรรค์และโลกในทันที ทำให้จอมยุทธ์เทียนจื้อจุนบางคนรู้สึกว่าหนังหัวชาหนึบจากแรงกดดัน ประหนึ่งภูเขากดทับร่างกายของพวกเขาทำให้หนักอึ้ง
“หึ ข้าก็อดทนกับเรื่องนี้มามากพอแล้ว วันนี้ข้าขอคำชี้แนะจากผู้อาวุโสใหญ่เป็นการส่วนตัวหน่อย!”
ชิงเหยี่ยนจิ้งไม่ได้ถอยจากความโกรธเกรี้ยวของฝูถูเฉวียน แต่กลับก้าวออกไป นางก้าวเท้าออกจากขอบเขตของค่ายกลพิทักษ์ทันที เห็นได้ชัดว่านางไม่คิดเกี่ยวกับการยืมพลังของค่ายกลพิทักษ์
ในขณะที่นางก้าวออกไปทั้งมิติก็มืดลง สัญลักษณ์หลิงยิ่งจำนวนมากวูบวาบราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
ครืน!
ฝูถูเฉวียนกระทืบเท้าทำให้พื้นสั่นสะเทือน กงล้อสีดำขาวที่อยู่ใต้เท้าก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่สีที่ควบแน่นบนกงล้อก็น่าสะพรึงกลัวนัก มากจนกระทั่งแสงน้อยนิดยังสามารถทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนธรรมดารู้สึกหวาดกลัวเลยทีเดียว
วาบ!
เขาโบกมือกงล้อสีดำขาวก็พุ่งออกมา เมื่อหมุนไปรอยแตกก็ปรากฏขึ้นในมิติโดยรอบ ความคมชัดเป็นสิ่งที่แม้แต่มังกรก็ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า
ชิงเหยี่ยนจิ้งวาดตราประทับขึ้นอย่างรวดเร็ว สัญลักษณ์หลิงยิ่งนับไม่ถ้วนบินฉวัดเฉวียนออกมา ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจก็เชื่อมต่อกลายเป็นค่ายกลนับพันระหว่างสวรรค์และโลก
ตู้ม ตู้ม!
เมื่อกงล้อสีดำขาวเข้าสู่ค่ายกลเหล่านี้ก็ฉีกทุกอย่างอย่างรวดเร็ว ถึงกระนั้นเมื่อพุ่งผ่านค่ายกลนับพันพลังก็หมดลงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหายไป
แม้ว่าการเผชิญหน้าของพวกเขาจะดูน่าตื่นตา แต่ความผันผวนที่คลุมเครือซึ่งเล็ดลอดออกมาทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนหลายคนสั่นสะท้าน หากการดวลนี้เกิดขึ้นโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ทั้งสองอาจจะทำลายมิติฝูถูทั้งหมดก็เป็นได้…
“ต้องขอบคุณผู้อาวุโสใหญ่ที่ช่วยข้าให้บรรลุหลิงเจิ้นต้าจงซือขั้นเซิ่งได้ ดังนั้นวันนี้ข้าจะขอให้ผู้อาวุโสใหญ่เป็นคนทดสอบพลังค่ายกลระดับต้าจงซือขั้นเซิ่งของข้าซะหน่อย!”
ชิงเหยี่ยนจิ้งเปล่งเสียงเย็นชา อึดใจต่อมาสัญลักษณ์หลิงยิ่งจำนวนมากก็หลอมรวมกันในมิติ ค่ายกลเริ่มกระจายออกไป ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ห่อหุ้มทั้งสวรรค์และโลกไว้ทั้งหมด
แม้ว่าค่ายกลจะมีขอบเขตกว้าง แต่ก็ห่อหุ้มฝูถูเฉวียนไว้เท่านั้น แม้ว่าส่วนที่เหลือจะอยู่ภายในขอบเขตด้วย แต่พวกเขาก็เหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่งภายในค่ายกล
ค่ายกลขนาดใหญ่นี้ดูเหมือนเป็นโลกขนาดมหึมา ไม่มีใครสามารถหลบหนีได้เว้นแต่ค่ายกลจะแตกสลาย
ทุกคนเบิกตากว้างเมื่อมองไปที่ค่ายกล เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งออกโรง ส่วนหลิงเจิ้นต้าจงซือขั้นเซิ่งก็หาดูยากยิ่งกว่าอีก
วันนี้การเดินทางของพวกเขาไม่สูญเปล่าที่จะได้เห็นยอดยุทธ์สองคนประลองกัน
ฝูถูเฉวียนยืนอยู่ในค่ายกลมีท่าทางเคร่งขรึมลงหลายส่วน กระทั่งคนอย่างเขายังไม่กล้าดูถูกค่ายกลระดับต้าจงซือขั้นเซิ่งเลย
ฮึ่ม ฮึ่ม
ขณะที่ดวงตาฝูถูเฉวียนตั้งมั่น รัศมีก็ระเบิดออกจากภายในโลกของค่ายกล ดวงอาทิตย์เก้าดวงก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
ดูเหมือนว่าจะมีอีกาทองคำโบราณเก้าตัวอยู่ในดวงอาทิตย์ พวกมันเปล่งเสียงร้องและพ่นไฟออกจากปากทำให้อุณหภูมิพุ่งสูง โลกค่ายกลก็ละลายจากอุณหภูมินี้ ความร้อนนี้สามารถทำให้ร่างกายของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงละลายได้เลยทีเดียว
กีด!
ทันใดนั้นเสียงร้องแหลมก็ดังขึ้นจากดวงอาทิตย์ทั้งเก้าดวง เกลียวไฟพล่านเข้าหาฝูถูเฉวียน
ท่าทางฝูถูเฉวียนเคร่งเครียดรุนแรงหลายส่วน ก่อนที่จะประสานมือเข้าหากัน รัศมีสีดำขาวแผ่ออกมาจากแขนเสื้อ กลายเป็นมังกรดำและมังกรขาวคำรามก้อง ขณะที่ปลดปล่อยลำแสงสองสีที่แตกต่างกันพุ่งใส่เปลวไฟ
ตู้ม ตู้ม!
ขณะที่ปะทะกันโลกค่ายกลก็เริ่มสั่นสะเทือนพร้อมกับความผันผวนของการทำลายล้างกวาดออกไป มากเสียจนผู้ชมที่อยู่ภายนอกยังรู้สึกถึงอุณหภูมิกระแทกกับร่างกายของพวกเขา ทำให้รู้สึกถึงความเจ็บปวด
ยากที่จะจินตนาการว่าภายในค่ายกลจะน่ากลัวเพียงใด
ชิ้งเหยี่ยนจิ้งยืนอยู่บนท้องฟ้า เสื้อคลุมพลิ้วไหวขณะมองไปที่มังกรสองตัวที่ฝูถูเฉวียนสร้างขึ้นก่อนที่มือจะประสานเข้าด้วยกัน “โลกกลั่นเก้าตะวัน!”
กีด!
อีกาทองคำทั้งเก้าเปล่งเสียงพุ่งลงไปบินฉวัดเฉวียนรอบตัวฝูถูเฉวียน ขณะที่เปลวไฟลุกโชนดวงอาทิตย์ทั้งเก้าดวงก็ค่อยๆ หายไปแทนที่ด้วยหม้อกลั่นสีทองขนาดใหญ่
พร้อมกับเพลิงเชี่ยวกราก หม้อกลั่นก็ขังฝูถูเฉวียนเอาไว้
ฟู่ ฟู่!
เพลิงสีทองรวมตัวกันรุนแรงในหม้อกลั่น อุณหภูมิสูงในโลกกลับค่อยๆ ลดลง ราวกับหดตัวไปทั้งหมด
เผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้แม้แต่ฝูถูเฉวียนยังมีสีหน้ารุนแรง
ปลายสุดของเพลิงสีทองหายไป ถูกแทนที่ด้วยลาวาสีทองเก้าหยดที่ลอยอย่างเงียบๆ แม้ว่าพวกมันจะดูไม่เป็นอันตราย แต่ฝูถูเฉวียนรู้ว่าหากหยดลาวาเก้าหยดตกลงบนพิภพเขตล่างใดๆ โลกใบนั้นก็จะไหม้เป็นเถ้าถ่าน
“ไป”
ชิ้งเหยี่ยนจิ้งชี้นิ้วออก ลาวาเก้าหยดพุ่งไปที่ฝูถูเฉวียน
ขณะที่ฝูถูเฉวียนถอยกลับก็โบกมือ มังกรดำและขาวไขว้พันกัน อึดใจเสียงตะโกนก็เปล่งว่า
“ถ้ำพุทธะ!”
รัศมีสีดำขาวไหลเวียนอย่างรุนแรง ก่อร่างเป็นหลุมดำขาว
ปุ ปุ!
เมื่อลาวาเก้าหยดพุ่งเข้าไปในถ้ำ ท่าทางฝูถูเฉวียนก็เปลี่ยนไปรุนแรง นั่นเป็นเพราะหลุมดำขาวสั่นสะเทือนบ้าคลั่งก่อนที่จะระเบิดออก
ระเบิดสีทองขนาดใหญ่ราวกับดอกเห็ดพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า คลื่นกระแทกสีทองก็กวาดออกนำพาความพินาศมาสู่โลก
ตู้ม ตู้ม!
ค่ายกลสั่นสะเทือนรุนแรงพร้อมกับใบหน้าผู้ชมซีดเซียวขณะที่เฝ้าดูคลื่นกระแทกจากภายนอก พวกเขารู้สึกว่าหนังหัวด้านชาไปหมด ถ้าค่ายกลแตกเป็นเสี่ยงๆ และคลื่นกระแทกกระจายออกไปคนส่วนใหญ่ก็จะสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
แต่โชคดีเมื่อคลื่นกระแทกมาถึงขอบโลกค่ายกลก็สลายไป ทุกคนหันไปมองก็เห็นเคราของฝูถูเฉวียนถูกไฟไหม้ ไม่เพียงแค่นั้นเลือดเนื้อของเขายังไหม้เกรียมเป็นหย่อมๆ อีกด้วย
ภาพนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึง ต้องรู้ว่าร่างกายของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งแข็งแกร่งน่ากลัวเป็นพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นฝูถูเฉวียนก็ถูกทำให้อยู่ในสภาพน่าสังเวชนัก
“ค่ายกลระดับต้าจงซือขั้นเซิ่งน่ากลัวจริงๆ…” หลายคนอุทานออกมา เบื้องหน้าค่ายกลระดับนี้ใครก็ตามที่ต่ำกว่าขั้นเซิ่งตกอยู่ภายในก็ได้แต่รอความตายเท่านั้น
ภายใต้ความสนใจของทุกคนใบหน้าของฝูถูเฉวียนก็น่ากลัวลงหลายส่วน เขามองไปที่ชิงเหยี่ยนจิ้งเอ่ยตำหนิ “ชิงเหยี่ยนจิ้งคิดจะดื้อแบบนี้จริงๆ หรือ?!”
ชิงเหยี่ยนจิ้งกล่าวอย่างเย็นชา “พวกท่านรังแกลูกข้า จะให้ข้าปล่อยผ่านไปเรอะ?”
ใบหน้าของฝูถูเฉวียนเขียวคล้ำเมื่อได้ยินคำพูดของนาง จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัว “ดี ดี! ในเมื่อเจ้าตั้งใจจะดื้อด้านเองก็อย่าโทษข้าละกัน”
ฝูถูเฉวียนหายใจเข้าลึก เสียงดังก้องไปทั่วมิติฝูถู
“ขออัญเชิญเจดีย์บรรพบุรุษ!”