หมอผีแม่ลูกติด - บทที่ 104 ขอโทษ
บทที่ 104
ขอโทษ
“ก็ไม่ใช่ว่าคุณชายหลินเคยบอกว่าอยากจะเห็นกระบี่คู่สวรรค์ยมโลกหรอกเหรอ? เมื่อสองวันก่อนตอนที่จัดการแข่งขันนั้น คุณชายเยี่ยนั้นตามหาท่านไม่พบ เขาจึงได้เข้าร่วมงานเพียงลำพัง แต่เพื่อที่จะปกป้องข้าแล้วเขาก็ได้รับบาดเจ็บ” ซูอวิ๋นโยวกล่าวด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด
หลินซีเหยียนเองก็รู้สึกผิดขึ้นมาเช่นกัน เดิมทีเยี่ยจุนเจี๋ยนั้นไม่ได้อยากที่จะเข้าร่วม แต่เป็นเพราะว่านางนั้นรู้สึกสนใจในกระบี่คู่สวรรค์ยมโลก
ในขณะที่ซูอวิ๋นโยวนั้นอยากที่จะพูดอะไรบางอย่าง หลินซีเหยียนก็ได้เดินมาถึงที่หน้าห้องของเยี่ยจุนเจี๋ย หลินซีเหยียนก็ได้เคาะประตูแล้วกล่าว “พี่เยี่ย”
“อวิ๋นเซวียนเหรอ?” ถึงแม้ว่าเยี่ยจุนเจี๋ยนั้นจะอ่อนแอ แต่ก็ยังมีสีหน้ายินดีปรากฏขึ้นมาอยู่
จากนั้นประตูก็ได้เปิดออกแล้วพบกับเยี่ยจุนเจี๋ยที่เปลือยต่อหน้าผู้คน
ซูอวิ๋นโยวที่เห็นเข้าก็ได้หันหน้าหลบและกรีดร้อง ใบหน้าที่ขาวของนางก็ได้แดงขึ้นมาทันทีราวกับแสงอาทิตย์ยามเย็น
เยี่ยจุนเจี๋ยที่รู้สึกตัวก็ได้รีบปิดประตูแล้วจากนั้นก็มีเสียงตึงตังและเสียงพูดดังขึ้นมา “อวิ๋นเซวียน ทำไมแม่นางซูถึงได้อยู่ที่นี่ด้วย?”
หลินซีเหยียนก็ได้ถูจมูกของนางและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี แต่เจียงหวายเย่ที่ยืนอยู่ข้างๆหลินซีเหยียนก็ได้ทำเสียง“หึ”ขึ้นมาเป็นคำตอบ
เมื่อเยี่ยจุนเจี๋ยเปิดประตูออกมาอีกครั้ง เขาก็ได้สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว แล้วจากนั้นเขาก็ได้ก้มหัวให้ซูอวิ๋นโยวแล้วกล่าว “แม่นางซูได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย จุนเจี๋ยไม่ทราบว่าเจ้ามาที่นี่ด้วย จึงไม่ทันได้ระวังตัว”
ใบหน้าที่แดงของซูอวิ๋นโยวนั้นยังไม่ได้ลดลงไป ในเวลานี้นางได้หันไปมองใบหน้าของเยี่ยจุนเจี๋ยที่ให้ความเคารพและดูห่างเหิน ทำให้หัวใจของนางเศร้าขึ้นมาเล็กน้อย แต่นางก็ยังได้กล่าวตอบกลับไป “คุณชายเยี่ยถ่อมตัวมากเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”
“ข้าไม่ทราบจริงๆว่าแม่นางซูจะมาที่นี่ในเวลานี้ ว่าแต่แม่นางมีธุระอันใด?” เยี่ยจุนเจี๋ยกล่าวโดยที่ไม่แผนคิดจะเชิญแม่นางซูอวิ๋นโยวมาดื่มชาร่วมด้วยเลย
ซูอวิ๋นโยวที่เห็นเช่นนั้นถึงแม้ว่าใบหน้าของนางนั้นจะซีดเล็กน้อย และที่มุมตาของนางก็ได้แดงขึ้นมาแล้วนางก็ได้กล่าวอย่างหนักแน่น “ข้ามาที่นี่เพราะอยากที่จะขอบคุณคุณชายเยี่ยที่ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ ข้าจึงได้มาที่นี่พร้อมกับสมุนไพรเจ้าค่ะ”
เยี่ยจุนเจี๋ยก็ได้ผลักสิ่งที่ซูอวิ๋นโยวนำมากลับไปอย่างสุภาพ แล้วหลังจากที่ทักทายกันไม่กี่คำ เขาก็ได้ขอให้พ่อบ้านส่งนางกลับออกไปด้วย
ทันทีที่ซูอวิ๋นโยวกลับไป เยี่ยจุนเจี๋ยก็ดูเหมือนจะโล่งอกแล้วจากนั้นก็ได้พาหลินซีเหยียนกับเจียงหวายเย่เข้ามาในห้อง
“เขาคือใครเหรออวิ๋นเซวียน?” เยี่ยจุนเจี๋ยถาม แต่ดวงตาของเขาก็ยังคงจับจ้องไปที่เจียงหวายเย่ เพราะว่าเยี่ยจุนเจี๋ยนั้นรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวแผ่ออกมาจากเจียงหวายเย่
อย่างที่รู้กันว่าเยี่ยจุนเจี๋ยนั้นได้ผ่านสนามรบมานาน และทุกคนที่ทำให้เขารู้สึกกลัวได้นั้นคือคนที่มือเปื้อนไปด้วยเลือดแน่นอน ดังนั้นเขาจึงได้เกรงว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเขานี้จะไม่ดีต่อหลินอวิ๋นเซวียน
หลินซีเหยียนเองก็รู้ได้ถึงบรรยากาศที่แผ่ออกมาจากตัวของเจียงหวายเย่ และมันทำให้ผู้คนต่างก็พากันจับจ้องไปที่เขาไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ดังนั้นเมื่อเผชิญกับคำถามของเยี่ยจุนเจี๋ยแล้วนางก็ได้นึกถึงบทละครที่นางแต่งขึ้นมา
“ชื่อของเขาคือเชียนอู๋เหิน และเขานั้นก็เป็นยอดฝีมือด้วย ซึ่งข้าเคยช่วยชีวิตของเขาไว้โดยบังเอิญ ดังนั้นเขาจึงได้ขออาสาปกป้องข้าน่ะ
เยี่ยจุนเจี๋ยก็ได้ผงกหัวแล้วจากนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขานั้นเรียกหานางทำไม เขาจึงเดินไปที่หลังห้องแล้วหยิบเอากล่องไม้คำแสดขนาดใหญ่ออกมา เมื่อเปิดกล่องออกมาก็พบว่ามีกระบี่สองเล่มอยู่ข้างใน ถ้ามองผ่านๆจะพบว่ากระบี่ทั้งสองเล่มนี้เหมือนกัน แต่จริงๆแล้วถึงทั้งสองเล่มนั้นจะมีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งเล่มหนึ่งดูสวยงามหรูหรา แต่อีกเล่มหนึ่งกลับดูทรงพลัง
หลินซีเหยียนก็ได้มองไปที่กระบี่ทั้งสองเล่มนี้และรู้สึกได้ถึงบรรยากาศหนาวเย็นที่แผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง นางจึงได้เดินไปข้างหน้าแล้วเอื้อมมือไปสัมผัสมัน แต่แล้วนางกลับบังเอิญทำนิ้วบาดตอนที่ไปจับกระบี่สวรรค์ แล้วจากนั้นกระบี่สวรรค์ก็ได้เรืองแสงสีขาวออกมา
แสงสีขาวที่ปรากฏออกมานี้มองเห็นได้เฉพาะ หลินซีเหยียนเท่านั้น และแสงสีขาวที่แผ่ออกมานี้ได้ทำให้บัวแดงและหน่อเขียวมีอาการตอบสนอง
เจียงหวายเย่ก็ได้รีบหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อของเขาแล้วพันแผลของหลินซีเหยียนเอาไว้
เยี่ยจุนเจี๋ยที่เห็นเจียงหวายเย่เป็นห่วงหลินอวิ๋นเซวียนมากขนาดนั้นแล้ว ก็ได้ปรากฏแววตาแปลกๆขึ้นในดวงตาของเขา เพราะหลินอวิ๋นเซวียนนั้นมีบาดแผลที่นิ้วนิดเดียว แต่กลับดูเป็นห่วงเป็นใยมากมาย
เจียงหวายเย่ก็รู้สึกได้ถึงสายตาของเยี่ยจุนเจี๋ย จึงได้กล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “กระบี่ทั้งสองเล่มนี้เป็นกระบี่ที่ดีจริงๆ”
หลินซีเหยียนเองก็ได้รีบกล่าว “กระบี่คู่นี้จะต้องเป็นกระบี่ที่สุดยอดที่มีเพียงไม่กี่เล่มในโลกแน่”
“กระบี่คู่สองเล่มนี้ข้าขอมอบให้กับเจ้าในฐานะพี่ชาย” เยี่ยจุนเจี๋ยที่เห็นหลินอวิ๋นเซวียนชอบมันมาก เขาก็รู้สึกยินดีมากขึ้นมาในใจของเขา
หลินซีเหยียนก็ไม่ได้ปฏิเสธและยอมรับทันที และเพราะนางนั้นรู้ว่าเยี่ยจุนเจี๋ยนั้นเป็นคนที่หากระบี่เล่มนี้มา หลินซีเหยียนจึงได้รักษาแผลให้เยี่ยจุนเจี๋ยแล้วจึงได้เตรียมที่จะกลับ
เยี่ยจุนเจี๋ยก็ได้ยิ้มและถอนหายใจที่หลินซีเหยียนนั้นเป็นคนที่ยุ่งมากแต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะรั้งนาง แต่ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะออกไปนั้นเอง ดวงตาของเยี่ยจุนเจี๋ยก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดง
“พี่เยี่ย ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เมื่อเห็นอาการเจ็บปวดของเยี่ยจุนเจี๋ยบนใบหน้าของเขาแล้ว หลินซีเหยียนก็ได้รีบไปประคองเยี่ยจุนเจี๋ย
เยี่ยจุนเจี๋ยนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ได้สติ เขาได้เอามือซัดเข้าไปที่หลินซีเหยียนอย่างรุนแรง หลินซีเหยียนนั้นไม่สามารถปัดป้องได้เพราะนางนั้นกำลังประคองเขาอยู่
แต่ในชั่วขณะนั้นเอง เจียงหวายเย่ก็ได้มาหยุดเขาเอาไว้ และมองไปที่ดวงตาที่แดงอย่างบอกไม่ถูกของเยี่ยจุนเจี๋ยแล้ว เจียงหวายเย่ก็ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เขาถูกพิษและจะทำให้ตัวเองเป็นบ้าไปภายใน 7 วัน”
หลินซีเหยียนก็ได้ผงกหัวแล้วอาศัยจังหวะที่เจียงหวายเย่จับเยี่ยจุนเจี๋ยเอาไว้อยู่นั้น ดึงเอาเข็มเงินออกมาแล้วปักลงไปที่จุดหลับของเยี่ยจุนเจี๋ย
เยี่ยจุนเจี๋ยก็ได้สลบไป
เจียงหวายเย่ก็ได้พาเขาเข้ามาในห้อง แล้วโยนเขาลงไปที่เตียง
“พิษเมาเจ็ดวันนี้มักจะพบได้ตามสุสานโบราณ แล้วองค์ชายเคยเข้าไปในสุสานอย่างนั้นเหรอ? ไม่อย่างนั้นองค์ชายจะรู้ได้อย่างไรว่าเขานั้นถูกพิษเมาเจ็ดวัน?” หลินซีเหยียนถามขณะที่ตรวจชีพจรของเยี่ยจุนเจี๋ย
เจียงหวายเย่ก็ได้บิดริมฝีปากของเขา “ก่อนหน้านี้องค์ชายกับคนขององค์ชายเคยถูกล้อมโดยศัตรู แล้วได้ตกเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ ซึ่งกลายเป็นว่าถ้ำแห่งนั้นคือสุสานโบราณ ซึ่งข้างในนั้นคนขององค์ชายจู่ๆก็เป็นบ้าไป ซึ่งตาของคนคนนั้นแดงเหมือนเลือดแล้วก็ขาดสติ ไล่ฆ่าทุกคนที่เขาเห็น”
พี่เยี่ยคงไม่ได้เข้าไปในสุสานอย่างแน่นอน แล้วเขาไปถูกพิษนี้ได้อย่างไรกัน?” หลินซีเหยียนคิด แล้วเข็มเงินที่อยู่ในมือของนางก็ได้ปักลงไปที่ตัวของเยี่ยจุนเจี๋ยโดยไม่ลังเล
โชคยังดีที่เยี่ยจุนเจี๋ยนั้นไม่ได้ถูกพิษมากนั้น หลังจากที่ปักเข็มลงไปไม่กี่เข็ม เขาก็ได้ฟื้นขึ้นมาแล้วจากนั้นเขาก็ได้มีอาการดีขึ้นหลังจากที่ทานยาเข้าไป
หลังจากที่ฟื้นอย่างเต็มที่ เยี่ยจุนเจี๋ยก็ได้รู้สึกผิดขึ้นมาหลังจากที่รับรู้ถึงสิ่งที่เขาทำลงไป
หลินซีเหยียนก็ได้ตบไหล่ของเขาแล้วจากนั้นก็กล่าว “ไม่ต้องกังวลไปพี่ชาย อย่างไรเสียท่านถูกพิษนี้ก็เพราะกระบี่สวรรค์ยมโลกที่ท่านอุตส่าห์หามาให้ข้า ข้าย่อมต้องรักษาท่านอยู่แล้ว”
หลังจากที่กล่าวจบ หลินซีเหยียนก็ได้แนะนำให้ เยี่ยจุนเจี๋ยนั้นรักษาตัวเองให้ดีๆ แล้วจากนั้นนางก็ได้กลับออกมาพร้อมกับกล่องใส่กระบี่ในอ้อมแขนของนาง แล้วหลินซีเหยียนก็ได้นึกถึงแสงสีขาวที่แผ่ออกมาจากกระบี่ ก็พอจะมีความคิดบางอย่างขึ้นมาในใจของนาง
หลินซีเหยียนจึงได้ยังไม่รีบกลับไปที่จวนมหาเสนาบดี แต่กลับมองหาร้านน้ำชาและขอห้องส่วนตัวแทน
เมื่อเข้าไปในห้องส่วนตัวแล้ว เจียงหวายเย่นั้นไม่รู้ว่าหลินซีเหยียนนั้นคิดที่จะทำอะไร เขาจึงได้ยืนมองดูโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
แล้วหลินซีเหยียนก็ได้วางกล่องกระบี่ไว้บนโต๊ะ แล้วจากนั้นก็ได้เปิดกล่องออกมา แล้วกระบี่คู่ที่งดงามไร้ที่ติก็ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าทั้งคู่ เล่มหนึ่งนั้นมีสีฟ้าในขณะที่อีกเล่มมีสีแดง กระบี่ทั้งสองเล่มนี้มีลักษณะที่ต่างกันแต่กลับเข้าคู่กันได้อย่างพอดิบพอดี
หลินซีเหยียนจึงได้มองไปที่กระบี่สวรรค์กับยมโลกอย่างตั้งใจ ในเวลานี้แสงสีขาวเมื่อสักครู่ได้หายไปแล้ว นางจึงได้ยื่นมือไปสัมผัสกับกระบี่อีกครั้ง แล้วกระบี่สวรรค์นั้นเปื้อนเลือดอยู่ในขณะที่กระบี่อีกเล่มนั้นไม่
“บัวแดง หน่อเขียว”
หลังจากที่ได้ยินที่เจ้านายของพวกเขาเรียกแล้ว ดวงไฟทั้งสองลูกก็ได้โผล่ออกมาจากแขนเสื้อของหลินซีเหยียน แล้วทั้งคู่ก็ได้กระโดดโลดเต้นไปรอบๆอย่างดีใจ