หมอผีแม่ลูกติด - บทที่ 2 การกลับมาอย่างโจ่งแจ้ง
บทที่ 2
การกลับมาอย่างโจ่งแจ้ง
“ได้ ข้าตกลง” องค์ชายเย่เองก็เริ่มสงสัยถึงตัวตนของผู้ที่อยู่ตรงหน้าเขาขึ้นมา เมื่อสักครู่เขาเห็นอย่างชัดเจนว่าหญิงสาวผู้นี้มีขวดยาเห็ดโลหิต ถ้านางมียาที่ล้ำค่าเช่นนั้นอยู่แสดงว่าตัวตนของนางย่อมไม่ธรรมดาแน่
หลังจากที่กินยาเห็ดโลหิตเข้าไป สีหน้าขององค์ชายเย่ก็หายจากอาการซีดเซียว “อันอี้ ให้ลูกชายของแม่นางท่านนี้ขึ้นมาได้!”
อันอี้ที่ทำหน้าที่เฝ้ารถม้าอยู่นั้นก็มีสายตาที่ตกใจขึ้นมาทันที องค์ชายไม่เป็นไรแล้วหญิงสาวคนนี้เชี่ยวชาญเรื่องรักษาจริงๆด้วย แล้วเขาก็ได้พูดกับเจ้าเด็กที่มีใบหน้าเหมือนซาลาเปาด้วยความเคารพ “น้องชาย เชิญ!”
หลินเทียนชื่อก็ได้ยักคิ้ว เขานั้นเชื่อมั่นในวิชารักษาของท่านแม่ของเขาอยู่แล้ว อย่างไรเสียท่านแม่ของเขาก็คือหมอผีแห่งเหยียนหวังโฉว!
อันอี้นั้นคิดที่จะอุ้มหลินเทียนชื่อนั้นขึ้นรถม้า แต่ก็พบว่าเจ้าหนูน้อยคนนี้ไม่ธรรมดา และมองดูเจ้าลูกชิ้นขาวกระโดดขึ้นไปบนรถม้า
“ท่านแม่”
แล้วเจ้าลูกชิ้นขาวก็ได้เข้ามาในรถม้า ซึ่งก่อนที่เขาจะได้นั่งลงหลินซีเหยียนก็ได้ดึงหูของเขา แล้วหลินซีเหยียนก็ได้จ้องไปที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน “ไหนพูดมาซิว่า แม่ของเจ้าจะมีอายุเป็นร้อยปี ข้าจะไม่มีวันตายง่ายๆแน่”
“ได้ขอรับ…ท่านแม่จะมีอายุมั่นขวัญยืนนานยิ่งกว่าเขาหนานซานอีกขอรับ” เจ้าลูกชิ้นขาวที่ยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อสักครู่ ก็ได้รีบพูดหวานปานน้ำผึ้งขอร้องทันที “ท่านแม่ผู้สง่างามและน่าหลงใหลได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วยเถอะขอรับ!”
หลินซีเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็มีเสียงหัวเราะดังเข้าหูของนาง แล้วตามมาด้วยเสียงที่นุ่มลึกและน่าหลงใหล “พวกเจ้านี่ช่างเป็นคู่แม่-ลูกที่น่าสนใจจริงๆ”
“องค์ชายหัวเราะไปเถอะ แต่เจ้าเทียนเอ๋อ ไม่รู้จักว่าใครเล็กใครใหญ่”
แล้วในเวลานี้ เจ้าลูกชิ้นขาวก็ได้พบกับองค์ชายเย่ในตำนาน แล้วสายตาของเขาก็เบิกกว้างจนลืมที่จะโต้เถียงกับแม่ของเขา จากนั้นเขาก็ได้เดินไปมองดูองค์ชายเย่ใกล้ๆ หลินซีเหยียนมองดูเขาก็รู้สึกได้ว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่แต่นางก็ไปดึงตัวเขาไว้ไม่ทันแล้ว
และแล้วเด็กคนนั้นก็ได้มองดูอย่างประหลาดใจแล้วกล่าว “ท่านแม่ ข้ามองๆดูแล้วรู้สึกได้ว่าท่านลุงคนนี้เหมาะสมที่จะเป็นท่านพ่อของข้าและเป็นสามีของท่านแม่มากที่สุดนะขอรับ”
หลินซีเหยียนมองไปที่ลูกชายตัวแสบของนางแล้วก็ตบที่หัวเขาไปหนึ่งครั้ง จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มที่สุภาพและน้ำเสียงอายๆ “เจ้าเด็กบ้าคนนี้ชอบพูดอะไรไร้สาระ แต่ไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าจะสั่งสอนเจ้าเด็กคนนี้เอง”
“แต่ท่านแม่…..” เจ้าลูกชิ้นต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็กลัวสายตาที่จ้องมาโดยหลินซีเหยียน เขาจึงได้แลบลิ้นออกมาแล้วกลับไปนั่งตรงที่นั่งของตัวเอง แม่ของเขานั้นเป็นถึงหมอผีที่แม้แต่องค์จักรพรรดิยังต้องชื่นชม แล้วนางจะไม่เหมาะสมกับองค์ชายได้อย่างไร
ในชั่วขณะนั้นเอง ในรถม้าจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่พูดไม่เข้าคายไม่ออก
แล้วองค์ชายเย่ก็ได้มองไปที่หลินซีเหยียนแล้วก็พลันนึกขึ้นมาได้ว่าหากมีพระชายาที่สวยงามและเก่งกาจทางด้านการรักษาเช่นนี้ก็คงจะดี “ไม่ทราบว่าแม่นางชื่อแซ่ว่าอะไร แล้วเรียนวิชาหมอมาจากที่ไหนหรือ?”
“ข้ามีชื่อว่าหลินซีเหยียน ข้านั้นหาได้มีอาจารย์ไม่ ข้าศึกษาด้วยตัวเองเจ้าค่ะ” หลินซีเหยียนก็ได้มองไปที่องค์ชายเย่แล้วลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบ “มีพิษอยู่มากมายในตัวของ องค์ชายซึ่งมีพิษที่เรื้อรังรวมอยู่ด้วย ไม่ทราบว่าองค์ชายรู้หรือไม่?”
องค์ชายเย่ก็ได้ทำสายตาแบบเหนื่อยหน่าย แต่ที่มุมปากของเขากลับยกขึ้นมา แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรหลินซีเหยียนก็พลันรู้สึกได้ว่าจะมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นในไม่ช้า
ถึงจะตะกุกตะกักไปบ้างระหว่างทาง แต่ในบางครั้งก็จะมีคนที่ไม่กลัวตายโผล่ออกมาและหมายจะเอาชีวิตขององค์ชายเย่ และมีมาเป็นจำนวนมาก
“องค์ชายเย่ออกมารับความตายเสีย! มีคนที่ยอมจ้างพวกข้าถึงพันชั่งเพื่อให้เอาชีวิตของเจ้า” หัวหน้ากลุ่มนักฆ่าก็ได้ตะโกนออกมาอย่างโอหังแต่ว่าหาได้มีผลกระทบกับองค์ชายเย่ไม่ แม้แต่แก้วชาในมือของเขาก็ไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
ไม่นานนักทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้าต่อสู้กัน องค์ชายเย่นั้นเป็นถึงเทพสงครามไร้พ่าย และผู้ที่ติดตามเขานั้นย่อมที่จะไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นต่อให้อีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่าก็หาได้ถอยไม่
“กองกำลังคุ้มกันขององค์ชายเย่นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่พวกข้าก็จะเอาชีวิตองค์ชายของพวกเจ้าอยู่ดี” หัวหน้านักฆ่าที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรควรหุบปากก็ได้มาถึงรถม้าขององค์ชายแล้ว
อันอี้ต้องการที่จะรีบรุดมาหา แต่ทว่าเขาก็ถูกล้อมโดยกลุ่มนักฆ่าสามคน จึงทำได้แค่มองหัวหน้ากลุ่มนักฆ่าเดินถือดาบผ่านเขาไป
“เทียนเอ๋อ เจ้าไม่คิดบ้างเหรอว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมแก่การทดลองยาแล้ว!” หลินซีเหยียนพูดอย่างไม่ค่อยพอใจนิดหน่อย
แล้วหลินเทียนชื่อก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อได้ยิน แล้วเขาก็ผงกหัวอย่างรวดเร็วแล้วพูดอย่างตื่นเต้น “งั้นท่านแม่รออยู่นี่ขอรับ เดี๋ยวข้าจะรีบไปรีบกลับ”
หลินซีเหยียนผงกหัว ดูเหมือนนางจะไม่กังวลเจ้าลูกชิ้นของนางเลยแม้แต่น้อย
หัวหน้าเหล่านักฆ่ากำลังจะขึ้นมาบนรถม้า แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรก็มีผงบางอย่างสาดใส่หน้าของเขา และตามมาด้วยเสียงกรีดร้องและตกลงมาจากรถม้า
ฝูงชนต่างก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงได้หันไปมองและพบว่าใบหน้าของหัวหน้าเหล่านักฆ่าเป็นแผลเหวอะหวะและน่าสยดสยอง เหตุการณ์ที่สยองขวัญนี้ทำให้พวกเขาต้องตัวสั่น ในเวลานี้พวกเขาก็เห็นเด็กผู้ชายพุ่งเข้าใส่พวกเขาด้วยร่างกายที่ทรงพลังมาก ทั้งตกใจและน่าทึ่ง
ไม่ว่าผงยานั้นจะไปยังที่แห่งหนใด ก็จะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องที่นั่น
ด้วยการช่วยเหลือของเจ้าเด็กแสบหลินเทียนชื่อ ได้ทำให้คนของฝ่ายองค์ชายสามารถจัดการคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด
“ไม่มีใครรอดให้ถามไถ่เลยสินะ” หลินซีเหยียนแอบมองดูคนเหล่านี้ตายอย่างเงียบๆและอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
องค์ชายเย่ที่หลับตาอยู่ก็ได้ลืมตาขึ้นมาด้วยแววตาที่เย็นชา แล้วพูดด้วยเสียงที่นุ่มลึกและแหบแห้ง “พวกเขาตายหมดแล้ว”
ตายหมดแล้วงั้นเหรอ? ทันทีที่นางได้ยิน หลินซีเหยียนก็ไม่ได้พูดอะไรอีก มีเพียงความตายที่รออยู่ตรงหน้าหากยุ่งกับคนในราชวงศ์ ซึ่งเรื่องของในตระกูลราชวงศ์นั้นค่อนข้างลึกลับมาก และจะเป็นการดีกว่าที่จะไม่รู้
อีกเดี๋ยวก็จะถึงเมืองหลวงแล้ว หลินซีเหยียนก็ได้ยิ้มขึ้นมาที่มุมปากของนาง หลินหัวเยว่และเฮอเหวินจางพวกเจ้าจะต้องชดใช้ให้เจ้าของร่างนี้
แต่เพราะองค์ชายเย่แสดงอาการเจ็บปวดออกมาอีกหลายต่อหลายครั้งระหว่างทาง หลินซีเหยียนคิดเงินแล้วพบว่าองค์ชายนั้นยังเป็นหนี้นางถึง 4,000 ตำลึงทอง และเพื่อที่เป็นการป้องกันไม่ให้องค์ชายเบี้ยวหนี้ของนาง นางจึงได้ตัดสินใจตามองค์ชายเย่ไปที่พระราชวังด้วย
ถึงแม้ว่าการล้างแค้นไอ้ผู้ชายกับผู้หญิงสารเลวคนนั้นจะสำคัญมาก แต่เงินทองก็ยังสำคัญกว่า
หลังจากที่เข้าไปในเมืองหลวงได้ไม่นาน เจ้าลูกชิ้นก็ได้เริ่มออกลวดลาย เขากอดขาของหลินซีเหยียนและทำตัวเหมือนกับเป็นเด็กน้อย “ท่านแม่ ข้าได้กลิ่นหอมมากๆลอยมาล่ะ พวกเรายังไม่ไปกินกันอีกเหรอท่านแม่?”
“ยังก่อน” หลินซีเหยียนมองไปที่ลูกชายของนางที่ทำหน้าน่าสงสารและปฏิเสธไปทันที นางนั้นสามารถต้านทานต่อลูกไม้ของลูกชายนางได้นานแล้ว
“ในเมืองหลวงมีร้านอาหารดีๆอยู่ร้านหนึ่ง ซึ่งที่นั่นอาหารล้วนสุดยอดมาก เพื่อเป็นการขอบคุณแม่นางที่ช่วยชีวิต ไม่ทราบว่าแม่นางจะไปที่นั่นกับเปิ่นหวางได้หรือไม่?” องค์ชายเย่นั้นคิดที่จะพาเจ้าลูกชิ้นไปด้วย เมื่อเขาเห็นเด็กคนนั้นทำท่าเหมือนจะร้องไห้จึงอยากที่จะทำให้เขาพอใจ
หลินซีเหยียนรู้ดีว่าร้านที่องค์ชายเย่พูดถึงนั้นจะต้องเป็นร้านที่โด่งดังเป็นแน่ เดี๋ยวนี้มีบางคนที่ชอบเลี้ยงผู้อื่นอยู่ ไม่ว่าพวกเขาจะอยากกินหรือไม่ก็ตาม
“ในเมื่อองค์ชายยืนกรานเช่นนั้นพวกเราแม่ลูกก็ไม่ขอขัดศรัทธาเจ้าค่ะ”
“อันอี้ ไปที่ร้านเจวี๋ยเว่ยโหลว” องค์ชายเย่ได้ออกคำสั่งออกไป แล้วจากนั้นก็ได้เริ่มหลับตาพักผ่อน หลินซีเหยียนจึงได้แอบมองดูเขา
องค์ชายเย่นั้นแต่งตัวในชุดสีม่วง เนื้อตัวเขาเปื้อนไปด้วยฝุ่นและปราศจากซึ่งความเรียบร้อย เห็นได้ว่าเขานั้นรีบมากและมีอาการเจ็บปวดจากพิษผสม ริมฝีปากของเขาจึงได้ซีดแต่ก็ทำให้เขาดูน่าสนใจและบอบบาง