หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 322-323
ตอนที่ 322 เฉวียนหมิงอยู่ค้างคืน
“อาเสวี่ย ล้างมื้อแล้วมากินมื้อค่ำกัน” เฉวียนหมิงเดินออกมาจากครัวแล้วพูดเตือนเธอ
มุมปากอีลั่วเสวี่ยยิ้มกระตุก “อืม เดี๋ยวฉันมาค่ะ”
รอจนทั้งคู่นั่งที่โต๊ะอาหารแล้ว อาเหมาเหลือบมองกล่องอาหารเก็บความร้อนบนโต๊ะ “เอ๊ะ? นี่เป็นอะไรหรือ?”
“เออ น้ำแกงไก่ค่ะ เป็นน้ำแกงไก่ที่เฉวียนหมิงเอามาให้” อีลั่วเสวี่ยยิ้มร่า พูดเสียงดังขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เหมือนต้องการอวด เธออารมณ์ดีเป็นพิเศษ
“อาเสวี่ย ชิมสิ” เฉวียนหมิงยกกล่องอาหารเก็บความร้อนมา แล้วหยิบทัพพีและชาม ตักให้อีลั่วเสวี่ยชามหนึ่งก่อน แล้วจึงตักให้อาเหมา
ทั้งสองยกชามขึ้น ซดสองสามคำ ดวงตาเจิดจ้าขึ้น “รสชาติไม่เลวเลย คิดไม่ถึงว่าคุณชายเฉวียนจะมีฝีมือทำครัวดีอย่างนี้ วันหน้าคุณหนูใหญ่เรามีลาภปากแล้ว”
อีลั่วเสวี่ยหน้าแดง “อาเหมา พูดอะไรนี่”
“ไม่พูด ไม่พูด คุณหนูใหญ่ไม่ให้พูด งั้นฉันไม่พูดแล้ว” อาเหมาหัวเราะร่าราวกับคนแก่ขี้เล่น ที่จริงเขาฉวยโอกาสตอนที่อีลั่วเสวี่ยก้มหน้า คอยส่งสายตาให้เฉวียนหมิง เป็นการแสดงความพอใจและให้กำลังใจเขา
สีหน้าเฉวียนหมิงพึงพอใจมาก ดูแล้ววิธีนี้ไม่เลวเลย ทำให้คนรอบข้างเธอกลายเป็นคนของตนเอง เช่นนี้แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนบอกเธอว่าตนเองไม่ดี
อีลั่วเสวี่ยเบ้ปากอย่างจนใจ แล้วค่อยๆ ซดน้ำแกงไก่กินจนหมด แล้วจึงเริ่มกินข้าว
“เอ๊ะ ทำไมคุณไม่กินบ้างล่ะ?” เฉวียนหมิงตักน้ำแกงไก่ให้พวกเขา ตนเองกลับไม่กิน หรือว่ากลัวว่ายังเย็นไม่พอ ที่จริงยังเหลืออีกมาก
“ก่อนหน้านี้ผมกินไปไม่น้อยแล้ว อีกอย่างอาเหมาผัดผักที่ผมชอบกิน ถ้าผมกินไม่หมด เท่ากับทำให้อาเหมาเสียกำลังใจ” พูดพลางใช้ตะเกียบคีบกิน
เขาย่อมไม่บอกเด็ดขาดว่าวันนี้เขาตื่นแต่เช้า เพื่อตุ๋นนำแกงไก่ ตุ๋นไก่เสียไปหลายตัว แต่ละตัวชิมเล็กน้อย เว้นระยะหนึ่งก็ชิมอีก สุดท้ายจึงคาดเดาได้ว่าคงไม่อยากกินน้ำแกงไก่แล้ว
อีลั่วเสวี่ยกับอาเหมาไม่ได้คิดอะไร เข้าใจว่าเฉวียนหมิงแค่อยากกินผัดผักเท่านั้นเอง
อาหารมื้อนี้ทั้งสามกินกันอย่างเอร็ดอร่อยและเบิกบานใจ พอกินเสร็จอาเหมาเงยหน้าขึ้นมอง
“อ้าว เกือบสี่ทุ่มแล้ว จากที่นี่กลับไปคงต้องขับรถไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง คุณชายเฉวียนพักที่นี่เลยดีกว่า คุณหนูใหญ่เห็นอย่างไรครับ?”
อีลั่วเสวี่ยผงะ เธอเองกลับไม่ได้นึกว่าจะให้เฉวียนหมิงค้างคืนที่นี่ แต่พออาเหมาเอ่ยเช่นนี้ ทั้งตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว บวกกับที่เฉวียนหมิงอุตส่าห์ลำบากเอาน้ำแกงไก่มาให้ ถ้าเธอไม่ชวนเขาค้างที่นี่ ออกจะใจดำไปหน่อย
“เฉวียนหมิง คุณมีงานมากใช่ไหม? ถ้าไม่จัดการจะเป็นอะไรไหม?” ถ้าจะชวนเขาตรงๆ เธอเองก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะ แม้ทั้งสองจะแต่งงานกัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อนข้างซับซ้อน
อีลั่วเสวี่ยจึงเปลี่ยนวิธีพูดให้นุ่มนวลขึ้น
“หมอหมิงบอกว่านอนดึกไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ดังนั้นเดี๋ยวนี้ผมไม่จัดการงานของบริษัทตอนกลางคืนแล้ว” เฉวียนหมิงตอบ ท่าทางสงบนิ่ง แต่ที่จริงในใจเปี่ยมด้วยความคาดหวัง
“งั้นค้างที่นี่เถอะค่ะ บังเอิญก่อนหน้านี้สะสางเสื้อผ้าของคุณพ่อ มีหลายชุดที่ซักแล้วยังไม่ได้ใส่ คุณใช้แก้ขัดได้”
มีรอยยิ้มที่มุมปากเฉวียนหมิง “ดีเลย งั้นต้องรบกวนคุณแล้ว ห้องผมอยู่ไหน?”
“คุณหนูใหญ่ ข้างๆ ห้องคุณมีห้องว่างห้องหนึ่ง ให้คุณชายเฉวียนพักห้องนั้นได้ ส่วนห้องอื่นๆ ไม่ได้จัดเตียงไว้” อาเหมาพูดพลางเก็บจานชาม ดวงตาเจิดจ้าขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“ห้องนั่นเอง ผมไปเองได้” เฉวียนหมิงพูดแล้วเดินขึ้นบันไดไปเอง
พอดีอาเหมาเดินมาเช็ดโต๊ะ อีลั่วเสวี่ยอดถามเบาๆ ไม่ได้ “อาเหมา อาจงใจใช่ไหม ห้องรับแขกที่ห้องในบ้าน มีห้องไหนบ้างที่ไม่เตรียมไว้?” ตระกูลอวิ๋นไม่ขาดเงิน ห้องที่มีอยู่ล้วนตกแต่งพร้อมหมด
ตอนที่ 323 ฉันกลัวว่าฉันจะกินเขา
“อาจงใจจริงๆ” คำตอบของอาเหมาเหนือความคาดหมายของอีลั่วเสวี่ย เขามองออกว่าคุณหนูใหญ่บ้านตนมีใจให้เฉวียนหมิงชัดเจน แต่เก็บความรู้สึกไว้ในใจ ยังกระดากอาย
คิดดูแล้วเด็กสาวสมัยนี้ บางคนยังเปิดเผยตรงๆ ยิ่งกว่าผู้ชาย ดูออกว่าเฉวียนหมิงเป็นผู้ชายที่ดี ส่วนคุณหนูใหญ่ไม่รู้จักแสดงความรู้สึกของตนเองออกมา เขาเองไม่เข้าใจ ทำไมบางครั้งดูเหมือนเป็นคนเปิดเผย แต่เรื่องความรักกลับระวังตัวแจ คร่ำครึไปหน่อย
อาเหมาย่อมไม่รู้ว่าที่อีลั่วเสวี่ยเป็นเช่นนี้นั้น สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะเธอไม่ใช่คนของโลกนี้ ทัศนคติเรื่องความรักยังคงเป็นแบบโลกเดิม บวกกับเธอไม่มีประสบการณ์ในเรื่องความรัก ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
“คุณหนูใหญ่ชอบก็แสดงออกมา อาเหมาสนับสนุนคุณ คุณชายเฉวียนเป็นเด็กหนุ่มที่ดีคนหนึ่ง” แม้ว่าท่านแม่ทัพอาจจะมีความคิดเห็นเป็นของตนเอง แต่ในความคิดเขา ชีวิตคนยากที่พบกับคนที่ตนเองรักและอีกฝ่ายก็รักตนเอง
ในเมื่อพบแล้วก็ต้องทะนุถนอมกันและกันให้ดี อย่าให้พลาดไป ชีวิตคนนั้นไม่ง่าย ใครจะรู้ว่าวันหน้าจะเกิดอะไรขึ้น
อีลั่วเสวี่ยเผยอปาก กลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี มองไปทางเฉวียนหมิงเงียบๆ สุดท้ายจึงเดินตามขึ้นไป
จนเมื่อเธอเปิดประตูห้อง เฉวียนหมิงก็ยกผ้าห่มและผ้าปูนอนที่พับไว้วางลงไป “คุณยังไม่ไปพักหรือ?”
“อ้อ ฉันมาช่วยคุณ กลัวว่าคุณจะไม่รู้ว่าของที่ต้องใช้อยู่ที่ไหน” แววตาอีลั่วเสวี่ยเหม่อลอยเล็กน้อย พูดพลางเดินมา กดมุมหนึ่งของผ้าปูที่นอน แล้วสะบัดเบาๆ
เฉวียนหมิงเลิกคิ้วขึ้น “ที่จริงผมทำเองได้ ปกติคุนเข้านอนเร็ว ไปเถอะ” ที่เธอเข้านอนเร็ว นั่นเพราะเธอต้องไปบำเพ็ญเพียร ดังนั้นที่ผ่านมาหลังจากมื้อเย็นแล้วก็จะเข้าห้องแล้วไม่ออกมาอีก
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เสียเวลามากหรอก” สุดท้ายทั้งสองช่วยกันปูเตียงอย่างรวดเร็ว
อีลั่วเสวี่ยปัดมือ “ลิ้นชักบนชั้นในห้องน้ำมีผ้าขนหนูกับแปรงสีฟัน คุณหยิบเอง ฉันไม่ไปเอาให้นะ”
“ได้ ไปพักเถอะ ราตรีสวัสดิ์” เฉวียนหมิงยืนอยู่ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ได้แต่บอกให้เธอไปพัก ที่จริงเขาอยากเห็นเธอนานหน่อย
หลังจากที่เธอไปจากคฤหาสน์ของเขาแล้ว เวลาที่เขาพบเธอก็ยิ่งน้อยลง มักรู้สึกว่ามองอย่างไรก็ไม่พอ
“งั้นฉันไปแล้วนะ” อีลั่วเสวี่ยจัดผมบนศีรษะเล็กน้อย รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่พูดไม่ถูก สุดท้ายจึงหันหลังกลับเดินออกไป วินาทีถัดมากลับถูกสองแขนที่แข็งแรงกอดไว้ เป็นเฉวียนหมิง
“อาเสวี่ย ราตรีสวัสดิ์” เสียงทุ้มต่ำที่มีเสน่ห์ดังขึ้นข้างหูเธอ ยังรู้สึกลางๆ ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าว อีลั่วเสวี่ยหน้าแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
ขณะเดียวกันเธอรู้สึกใจว้าวุ่น หัวใจเธอราวกับถูกล้อมไว้ด้วยน้ำที่อุ่น อุ่นสบาย รู้สึกหวงแหนอ้อมกอดนี้
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” อีลั่วเสวี่ยเลียริมฝีปาก น้ำเสียงอ่อนหวาน เหมือนแมวขี้อ้อน คอยคลอเคลีย ทำให้คนอดใจไม่ไหวอยากอุ้มไว้ในอ้อมกอด
เฉวียนหมิงหันมามอง เห็นแก้มอีลั่วเสวี่ยแดงเรื่อ มุมปากเชิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันกระดูกไหปลาร้าที่น่ามองก็อยู่ในสายตาเขา ทำให้เขารู้สึกคอแห้งผากอย่างประหลาด
สุดท้ายเขาถึงกับกลืนน้ำลาย อีลั่วเสวี่ยครางเบาๆ ใบหน้ายิ่งร้อนผ่าว เธอรู้สึกได้ว่ามีเสียงหัวใจเต้าระทึกอยู่ที่แผ่นหลังของตนเอง ห้องร้อนขึ้นทุกที
ร่างเธอขยับเล็กน้อย เฉวียนหมิงคลายมือออก
“ฉันไปละนะ คุณก็รีบพักผ่อน ราตรีสวัสดิ์” อีลั่วเสวี่ยแทบจะหนีไปอย่างร้อนรน เธอเปิดประตู ก้าวพรวดออกไป กลับไปที่ห้องของตนเอง
ประตูของสองห้องปิดลงแทบจะพร้อมกัน จะเห็นได้ว่าเธอรวดเร็วแค่ไหน
เฉวียนหมิงมองตามหลังเธอไป แล้วยิ้มอย่างรักใคร่ ที่ที่มีเธออยู่ อากาศที่หายใจช่างน่ารื่นรมย์จริงๆ