หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 548-549
ตอนที่ 548 ฉันจะเป็นเพื่อนเจ้าสาว
คนเดียวที่จะทำให้พวกเขาทุ่มเทให้คือเฉวียนหมิงเท่านั้น ได้ข่าวว่าผู้ชายคนนี้นักภรรยามาก ที่เขาจัดงานใหญ่โตเช่นนี้จึงไม่น่าแปลก
พอหนานหลิวเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ราวกับวิญญาณหลุดลอยออกจากร่างไปแล้ว ปากพึมพำว่า “เป็นไปไม่ได้ ไม่เร็วอย่างนี้หรอก เป็นไปไม่ได้!”
ก่อนนี้เธอชอบตนเอง เวลาสั้นๆ เพียงปีเดียว เธอกลับหลงรักคนอื่น เขาไม่เชื่อ ไม่เชื่อเด็ดขาด!
เลขาท่าทางจนปัญญา “นายน้อย เรื่องนี้จริงครับ คุณ…”
“ออกไป!”
“นายน้อย…”
“ขอบอกอีกครั้ง ออกไปซะ!” สีหน้าไร้หนานหลิวเฟิงความรู้สึก ยกมือขึ้นชี้ไปทางประตู อีกมือจับเอกสารไว้ ราวกับว่าถ้าวินาทีถัดไปเลขายังไม่ออกไปก็จะเอาของขว้างใส่หน้าเขา
“ครับ ครับ ผมไปเดี๋ยวนี้ครับ” เลขารีบถอยไปด้านหลัง แล้วผละออกไปอย่างรวดเร็ว พอปิดประตูจึงเป่าปากอออกมาอย่างโล่งอก เมื่อกี้ท่าทางโกรธของนายน้อยน่ากลัวจริงๆ
ผู้หญิงนะผู้หญิง เป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อใจคนได้มากจริงๆ
ขณะที่เขาเดินไปข้างหน้า มีเด็กสาวถือเอกสารจะเอาไปให้หนานหลิวเฟิงเซ็นชื่อ แต่ถูกเขาขวางไว้ “ตอนนี้นายน้อยยุ่งมาก เอาของพวกนี้ให้ผม เดี๋ยวผมจะช่วยคุณเอาให้เซ็น ไปตอนนี้เขาอาจไม่พอใจ”
“งั้นต้องรบกวนเลขาแล้วค่ะ” เธอมอบเอกสารให้เลขา เท่ากับทำหน้าที่เสร็จไปครึ่งหนึ่ง
“เรื่องเล็กน้อยครับ…”
ในห้องมือข้างนั้นของหนานหลิวเฟิงยังค้างอยู่ในท่าชี้ไปที่ประตู จนกระทั่งรู้สึกเมื่อย เขาจึงลดมือลง พอดูเอกสารบนโต๊ะจู่ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนไป แล้วสะบัดมือ ของทั้งหมดถูกโยนลงบนพื้น
ในนั้นรวมถึงถ้วยรางวัลที่เขาชอบมาก รวมทั้งกรอบรูปอีลั่วเสวี่ยที่ยิ้มอย่างน่าดูที่สุดที่เขาถ่ายได้
หนานหลิวเฟิงยืนขึ้น แล้วชกใส่กระจกนิรภัยด้านหลัง กำปั้นแดงเรื่อทันที
เลขาที่อยู่นอกห้องได้ยินเสียงข้าวของตกกระแทกพื้นก็ถึงกับตัวสั่น โชคดีที่ตนเองไม่ได้อยู่ในนั้น ไม่งั้นอาจกลายเป็นถังรองรับโทสะไปแล้ว
ไม่ได้ ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อไม่ให้เป็นการยั่วโมโหนายน้อย เขาผละไปอย่างรวดเร็ว แล้วออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่นี่ห้ามคุยเรื่องที่เกี่ยวกับเฉวียนกรุ๊ป
ทุกคนไม่ได้คิดมาก สำหรับพวกเขาแล้วเฉวียนกรุ๊ปคือคู่แข่ง ปกติพูดถึงน้อยอยู่แล้ว เวลานี้มีข้อกำหนดก็ยิ่งไม่เอ่ยถึง
หนานหลิวเฟิงค่อยๆ สงบใจลง แล้วมองเศษกระจกบนพื้น กลางกรอบรูปเป็นใบหน้าที่น่าดู ทำให้รู้สึกประทับใจ แต่ขณะนี้บนนั้นมีเศษกระจกทับอยู่ไม่น้อย
หนานหลิวเฟิงย่อตัวลงหยิบรูปภาพขึ้นมาราวกับสิ่งล้ำค่า ค่อยๆ ปัดฝุ่นบนนั้นออก “ทำไมถึงรวดเร็วอย่างนี้ ผมไม่เชื่อ ผมไม่เชื่อว่าคุณจะแต่งงานกับคนอื่น”
เขาคิดว่าตนเองยังมีโอกาส ก่อนที่พวกเขายังไม่ได้อยู่ด้วยกัน มากน้อยยังพยายามบ้าง เวลานี้คำตอบที่ให้เขากลับเป็นว่าไม่ต้องพยายามแล้ว ไม่มีประโยชน์
เขาหยิบมือถือขึ้นมา แล้วกดแป้นพิมพ์ลัด เป็นชื่ออีลั่วเสวี่ย แต่ลังเลอยู่นานก็ยังไม่กดโทรออก
สุดท้ายเขานั่งลงไปบนเก้าอี้อย่างหมดแรง คว้าเส้นผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด เขาไม่อยากได้ยินคำตอบของเธอทางโทรศัพท์
ถือว่าเป็นข่าวลือก็แล้วกัน ไม่ถึงวันนั้นเขาย่อมไม่เชื่อ ใช่ ไม่เชื่อ
หนานหลิวเฟิงหลอกตัวเอง แล้วกลับมามีท่าทางแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง เขาย่อตัวลง เก็บเอกสารทีละแผ่น ราวกับเมื่อกี้เปลี่ยนไปเป็นคนอื่น นั่นไม่ใช่ตัวเขา
ข่าวที่หนานหลิวเฟิงรู้ แน่นอนว่าหลิ่วเฟยซวงย่อมไม่พลาดข่าว เมื่อเธอรู้ข่าวนี้จึงโทรหาอีลั่วเสวี่ยทันทีเพื่อขอคำยืนยัน
ตอนที่ 549 กรรมตามสนอง
“อะไรนะ จริงหรือนี่ เสวี่ยเสวี่ย งั้นพี่ชายฉันก็หมดโอกาสแล้วสิ…ได้ได้ ฉันไม่พูดแล้ว งั้นฉันขอเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะ จะได้เห็นเธอแต่งงานด้วยตาตัวเอง!”
หลิ่วเฟยอวิ๋นอยู่ข้างๆ น้องสาว ปากกาในมือถูกบีบจนหักเป็นสองท่อน เขาจ้องหน้าน้องสาวตัวเองตาเขม็ง สีหน้าไม่พอใจ
แต่เวลานี้หลิ่วเฟยซวงกำลังรู้สึกดีใจที่ได้เป็นเพื่อนเจ้าสาว จึงไม่ได้สังเกตสีหน้าของพี่ชาย
เธอคุยโทรศัพท์พักหนึ่งแล้วจึงวางสาย ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าในห้องเย็นยะเยือก พอหันมาก็เห็นสายตาที่ไม่พอใจของพี่ชาย เธอรู้สึกลำบากใจทันที
“พี่ ฟังฉันพูดก่อน อย่าโมโหเป็นอันขาด…”
เรื่องที่ตัดสินใจแล้ว ย่อมไม่เปลี่ยนแปลงเพราะคนอื่นไม่พอใจ ข่าวที่อีลั่วเสวี่ยกับเฉวียนหมิงจะจัดงานแต่งงาน หลิ่วเฟยซวงตัดสินใจจะบอกพี่ชายตามตรง
ตั้งแต่แรกเป็นความผิดของเธอเอง ไม่ควรให้พี่ชายเธอมีความรู้สึกต่ออีลั่วเสวี่ยข้างเดียว จนเวลานี้เขาชอบเธอจริงๆ อยากชิงผู้หญิงคนนี้มา
แต่อีกฝ่ายตั้งแต่แรกก็แต่งานกับเฉวียนหมิงแล้ว เมื่ออยู่ด้วยกันเป็นประจำ ย่อมเกิดความผูกพันต่อกัน ยิ่งกว่านั้นความรักที่เฉวียนหมิงมีต่ออีลั่วเสวี่ย ไม่ได้น้อยไปกว่าหลิ่วเฟยอวิ๋นหรือคนอื่นเลย กระทั่งอาจพูดได้ว่าสิ่งที่เฉวียนหมิงทำได้ พวกเขาอาจไม่สามารถทำ ที่อีลั่วเสวี่ยหวั่นไหวจึงไม่แปลก
“พี่ ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ” เธอพูดนำแล้ว กลับพบว่าพี่ชายนิ่งเงียบไม่พูดอะไรแล้ว ราวกับเป็นหุ่นไม้ ทำให้เธอตกใจ
หลิ่วเฟยอวิ๋นถอนหายใจหนักๆ “ให้พี่อยู่คนเดียวเงียบๆ…” ขณะนี้สมองเขาสับสนมาก มากเป็นพิเศษ
หลิ่วเฟยซวงคิดเล็กน้อยแล้วพยักหน้า ปล่อยให้หลิ่วเฟยอวิ๋นอยู่ตามลำพัง เรื่องแบบนี้ต้องให้เขาค่อยๆ ทำใจเอง
อีลั่วเสวี่ยและเฉวียนหมิงไม่รู้ว่าที่พวกเขาเตรียมจัดงานแต่งงานครั้งนี้ ได้เริ่มส่งผลต่อจิตใจคนไม่น้อย
ทางเมืองเอฟได้เริ่มตระเตรียมเรื่องที่เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนรายละเอียดต้องรอให้เฉวียนหมิงตัดสินใจเอง เพราะนี้เป็นงานที่เขาทำเพื่อให้อีลั่วเสวี่ยตื่นเต้นดีใจ
วันเวลาผ่านไปทีละวัน ใกล้ถึงปีใหม่แล้ว นายท่านผู้เฒ่าสกุลอวิ๋นไปถึงบ้านสกุลอวิ๋นในวันท้ายปี ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้ากินอาหารมื้อค่ำรับวันตรุษจีนอย่างเบิกบาน
เช้าวันต่อมา เฉวียนหมิงพาอีลั่วเสวี่ยมาเดินในสวนสาธารณะ ผู้คนขวักไขว่ สีหน้าทุกคนยิ้มแย้มมีความสุข เปี่ยมด้วยบรรยากาศของวันตรุษ
ทั้งคู่เหมือนคู่รักทั่วไป เดินถือลูกโป่งไปในสวน ซื้ออาหารว่างกินเป็นระยะ
“เอ๊ะ? พวกเขา” ฝานเจียวเจียวเดินตามลำพังอยู่ในกลุ่มคน เธอเพ่งมอง แล้วพบว่าอีลั่วเสวี่ยกับเฉวียนหมิงเดินจับมือกันมา ทำให้เธอนึกโมโหทันที
ฝานเจียวเจียวกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว แววตาฉายความโหดร้ายออกมา
บังเอิญอีลั่วเสวี่ยกับเฉวียนหมิงเดินมาบนทางเล็กริมบึง รั้วกั้นไม่สูงนัก
โอกาสมาแล้ว!
ฝานเจียวเจียวลดสายตาลง แกล้งทำเป็นมองทิวทัศน์ เดินตรงไปหาคนทั้งสอง
ทันใดนั้นเธอก็เอี้ยวตัว พุ่งเข้าใส่อีลั่วเสวี่ย
“ระวัง!” เฉวียนหมิงดึงมืออีลั่วเสวี่ย ทั้งสองเอี้ยวตัวหลบ ยืนอย่างมั่นคงอยู่ด้านข้าง ส่วนฝานเจียวเจียวเซถลา แล้วพลัดตกลงไปในบึง
“ว้าย ช่วย…” เธอยังร้องให้ช่วยด้วยไม่จบ ก็เกิดเสียงดังตูม ร่างตกลงไปในน้ำ
อีลั่วเสวี่ยสบตากับเฉวียนหมิง ทั้งคู่สายตาและหูดีเยี่ยม ย่อมรู้ว่าเมื่อกี้คนที่คิดจะชนพวกเขาก็คือฝานเจียวเจียว
“มีคนตกน้ำ ใครว่ายน้ำเป็นช่วยหน่อย!” คนเดินผ่านที่มีน้ำใจตะโกนให้คนช่วย รปภ.ลาดตระเวนอยู่ใกล้ๆ กระโดดลงไปช่วยทันที