หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] - บทที่ 142 ฮ่องเต้กระอักเลือด (1)
หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 142 ฮ่องเต้กระอักเลือด (1)
ข่าวนี้น่าตกใจเสียยิ่งกว่าการได้พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นท่านโหวเสียอีก ที่นี่มีสินแร่ได้อย่างไรกัน? ก่อนหน้านี้ใช้เงินหนึ่งร้อยตำลึงซื้อภูเขาลูกนี้มาก็ไม่ยักรู้ว่าจะขุุดขึ้นมาเจอสินแร่!
เดี๋ยวก่อนนะ เขาลูกเล็กที่เธอซื้อไปนั้นมีสินแร่ แล้วภูเขาลูกใหญ่ที่ฮ่องเต้พระราชทานให้เหล่านั้นละ?
“ต้าลี่ไม่เป็นอะไรแล้ว พี่เอ้อร์หนิว รบกวนท่านพาเขาไปพักสักหน่อย สามสี่วันนี้เขาไม่ต้องมาทำงาน พี่ใหญ่ ซวนจื่อ พวกท่านมากับข้า” อวี๋หวั่นมอบหมายงานเสร็จก็ถือเสียมไปยังภูเขารกร้างพร้อมกับอวี๋เฟิงและซวนจื่อ เนื่องจากเกรงว่าคนจะไม่พอ อวี๋เซ่าชิง พี่ชายของซวนจื่อ และนายพรานจึงขึ้นเขาไปด้วย
ผลก็คือพวกเขาพบสินแร่ชั้นดี และมีปริมาณมากกว่าบนเขาลูกเล็กเสียอีก
พวกเขาถูกขังอยู่ท่ามกลางภูเขารกร้างมาหลายชั่วอายุคน ถนนไม่ตัดผ่าน ข่าวสารมาไม่ถึง ด้วยเหตุนี้ หมู่บ้านเหลียนฮวาจึงกลายเป็นหมู่บ้านที่แร้นแค้นและยากจนที่สุดในแถบนี้ แต่ใครจะไปคิดว่าด้านหลังของหมู่บ้านยากจนแห่งนี้จะมีสินแร่ล้ำค่าซ่อนอยู่
“เมื่อก่อนไม่มีหินประเภทนี้” พี่ชายของซวนจื่อบอก ก่อนที่เขาจะถูกจับไปเป็นทหาร เขามักจะขึ้นเขาไปล่าสัตว์ เขาคุ้นเคยกับสภาพภูมิประเทศของภูเขาเป็นอย่างดี เส้นทางที่เขาเดินมาตอนนี้ เขาก็เคยเดินมาก่อน แต่เท่าที่เขาจำได้ ภูเขารกร้างเหล่านี้ไม่ได้เป็นเช่นนี้
อวี๋หวั่นยกยิ้มมุมปาก “พี่ของซวนจื่อ นั่นเป็นเพราะมีแผ่นดินไหว”
แผ่นดินไหวมิได้เพียงทำลายไร่นาของหมู่บ้านเหลียนฮวาเท่านั้น ทั้งยังเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศของภูเขาอีกด้วย สินแร่ซึ่งเคยถูกฝังอยู่ใต้ดินก็โผล่ขึ้นมา เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงขุดพบได้อย่างง่ายดาย
ในต้าโจว เหล็กเป็นสินค้าควบคุม นอกจากเพื่อป้องกันการลักลอบทำอาวุธแล้ว หนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คือแหล่งแร่ในต้าโจวนั้นมีน้อย ทั้งยังไม่มีการค้นพบแหล่งแร่ใหม่มาหลายปีแล้ว หากเป็นเช่นนี้นานวันเข้า เกรงว่าพวกเขาคงต้องนำเข้าสินแร่จากดินแดนเพื่อนบ้านในราคาสูง
อวี๋หวั่นดีใจเหลือเกิน หลังจากวันนี้ เธอก็จะเป็นผู้มีแร่ในครอบครองเช่นกัน!
หมู่บ้านเหลียนฮวาประหนึ่งถูกกักขังไว้กลางหุบเขา ไม่เพียงข่าวสารจากภายนอกมาไม่ถึง ข้อมูลจากภายในก็ยากที่จะออกไปเช่นกัน ทว่าฮ่องเต้ทรงปรารถนาที่จะเห็นอวี๋เซ่าชิงทุกข์ทรมาน จึงให้ขันทีวังคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของหมู่บ้านเหลียนฮวาให้ดี
ยามสนธยา ขันทีวังเข้าไปในห้องบรรทมของฮ่องเต้
อันที่จริงเขาได้ข้อมูลมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว ทว่าเขาลังเลอยู่หนึ่งชั่วยามเต็มๆ กว่าจะรวบรวมความกล้าเดินเข้ามา
หลายวันมานี้ ฮ่องเต้ทรงอยู่แต่ในห้องบรรทมเพื่อรอให้ผมขึ้น พระองค์ใช้เหอโส่วอู[1]ชั้นดี พระองค์รู้สึกว่าผมเส้นเล็กเริ่มงอกบนศีรษะโล้นๆ ของพระองค์แล้ว และนั่นทำให้ฮ่องเต้ดีใจเป็นอย่างยิ่ง อีกไม่นานพระองค์ก็จะกลับมามีผมดกดำดังเดิม
“ฝ่าบาท” ขันทีวังเดินอ้อมฉากกั้นเข้ามา ถวายบังคมหนึ่งครั้ง
ฮ่องเต้ถือเหอโส่วอูในมือ แล้วเอ่ยถามว่า “มีอะไร? อวี๋เซ่าชิงมีความเคลื่อนไหวหรือ?”
ฮ่องเต้ยิ้มอย่างเดียดฉันท์ “ให้เราเดา เขาตั้งสติได้แล้ว และรู้ว่าตนถูกหักหน้าอย่างแรง? จงหย่งโหวผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้รับพระราชทานที่ดินแม้แต่แปลงเดียว เราละอยากเห็นเหลือเกินว่าเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด”
“…” ขันทีวังกำลังคำนวณโอกาสในการมีชีวิตรอดหลังจากที่กราบทูลเรื่องนี้
“ทำไมไม่พูดเล่า? เขาคงโมโหจนเป็นลมไปแล้วกระมัง?” ฮ่องเต้หัวเราะเยาะเย้ย
ขันทีวังกำแส้ขนหางจามรีในมือแน่น สุดท้ายก็ทำใจกล้า แล้วกล่าวว่า “ข้ามีสองเรื่องจะกราบทูลฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ เรื่องแรกเป็นเรื่องดี เรื่องที่สองเป็นเรื่องร้าย”
ฮ่องเต้เพียงนึกถึงอวี๋เซ่าชิงนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง ก็พลันรู้สึกเบิกบานใจ พระองค์ยิ้มพลางบอกว่า “บอกข่าวดีมาก่อน”
ขันทีวังเค้นกำปั้นชุ่มเหงื่อ กล่าวว่า “ข่าวดีก็คือต้าโจวของพวกเราได้ค้นพบแหล่งแร่เหล็กแหล่งใหม่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“อ้อ?” ฮ่องเต้นัยน์ตาลุกวาว ยืดอกขึ้นอย่างองอาจ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง แร่เหล็กในเหมืองของต้าโจวร่อยหรอเต็มที อาวุธยุทโธปกรณ์ก็แทบจะตีออกมาไม่ได้ ราษฎรมิได้พูดกันอยู่หรือว่าราชวงศ์ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ เมื่อมีแหล่งแร่แหล่งใหม่ พระองค์ก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครหน้าไหนจะกล้าพูดว่าพระองค์ไม่ใช่โอรสที่สวรรค์ทรงโปรด
“ข่าวร้ายเล่า?” ฮ่องเต้ยิ้มร่าพลางถามต่อ ในเมื่อมีข่าวดีที่ใหญ่ถึงเพียงนี้ ต่อให้มีข่าวร้ายก็คงไม่เป็นไร
ขันทีวังกัดฟันกล่าวออกไปว่า “ข่าวร้ายก็คือ…แหล่งแร่แหล่งใหม่อยู่ที่ภูเขาซึ่งฝ่าบาทพระราชทานให้อวี๋เซ่าชิงพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ “???”
ฮ่องเต้ “!!!”
ฮ่องเต้กระอักเลือดออกมา แล้วเป็นลมล้มพับลงไป…
ณ หมู่บ้านเหลียนฮวา อวี๋หวั่นและคนอื่นๆ ต่างขึ้นไปบนเขา การค้นพบแหล่งแร่นั้นนับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี พวกเขาไม่เพียงดีใจ ชาวบ้านต่างก็ดีใจเช่นกัน ผู้ใดยังจะกล้าหัวเราะเยาะว่าภูเขาที่รายล้อมหมู่บ้านเหลียนฮวาของพวกเขาว่าเป็นภูเขารกร้างไร้ประโยชน์อีก? เหอะๆๆ เห็นชัดๆ ว่าเป็นภูเขาแร่!
ระหว่างทางกลับหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็ถามคำถามสำคัญกับทั้งสามคน “กิจการเต้าหู้เหม็นยังจะทำต่อหรือไม่?”
ทั้งสามตอบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย “พวกเรามีแหล่งแร่แล้ว!”
ผู้ใหญ่บ้าน “…”
แน่นอนว่าโรงงานเต้าหู้เหม็นยังคงต้องดำเนินกิจการต่อไป แต่ให้พวกเขาดีใจสักหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร?
ป้าสะใภ้ใหญ่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนภูเขา นางเพียงแต่ได้ยินซวนจื่อร้องว่ามีคนตกหน้าผา ไปกันนานถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าช่วยมาได้หรือยัง จากนิสัยของน้องสามแล้วคงจะไม่ไต่หน้าเขาลงไปช่วยคนกระมัง เมื่อคิดดังนี้ ป้าสะใภ้ใหญ่ก็นั่งไม่ติด
ป้าสะใภ้ใหญ่เดินไปเดินมาอยู่ในโถงกลางบ้าน
เด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำทั้งสามนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเรียบร้อย ศีรษะน้อยๆ ของพวกเขาส่ายไปมาตามทิศทางการเดินของป้าสะใภ้ใหญ่
ในที่สุดก็มีเสียงสนทนาของพ่อลูกดังมาจากด้านนอก ป้าสะใภ้ใหญ่จึงรีบเดินออกไป เมื่อเห็นว่าทั้งสามคนกลับมาอย่างปลอดภัยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เหตุใดพวกเจ้ากลับมาช้านัก? ช่วยคนได้แล้วหรือยัง?”
อวี๋หวั่นตอบ “ช่วยขึ้นมาแล้ว ข้าเย็บแผลให้เขาแล้ว ไม่เป็นไรมาก”
ป้าสะใภ้ใหญ่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก นางยื่นมือออกมาหมายจะรับล่วมยาจากบุตรชาย
“ไม่เป็นไร” อวี๋เฟิงนำกล่องนั้นเข้าวางไว้ในห้องของเจินเจิน
เจินเจินตัวน้อยอยู่ในห้องเพียงคนเดียว แต่นางยังไม่นอน เพราะนางเจียงและเด็กน้อยทั้งสามมาพักผ่อนหลังอาหารกลางวันที่นี่ หลังจากอวี๋หวั่นแต่งงานออกไปแล้ว การเดินเข้าออกห้องของพี่ชายตามอำเภอใจนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเท่าไร เธอจึงใช้ห้องนี้เป็นห้องทำงาน
ทั้งสามขุดแร่จนเนื้อตัวเปรอะเปื้อน ลุงใหญ่จ้องมองอวี๋เซ่าชิงและบุตรชาย “เจ้าสองคนเนื้อตัวสกปรกยังไม่เท่าไร ดูสิให้อาหวั่นไปทำด้วยน่ะหรือ!”
ทั้งสองถูจมูกด้วยความขุ่นเคือง บอกไปแล้วว่าไม่ให้นางทำ แต่หยุดนางไม่ได้!
ป้าสะใภ้ใหญ่เดินออกไปตักน้ำ “มาล้างหน้าล้างตากันก่อน!”
ทั้งสามคนล้างหน้าเรียบร้อย ลุงใหญ่และนางเจียงก็ยกอาหารร้อนๆ ออกมา ทั้งครอบครัวนั่งล้อมวงกินข้าว
อวี๋เฟิงเล่าเรื่องแหล่งแร่ให้พวกเขาฟัง
พวกเขาเป็นคนชนบท ไม่รู้ว่าฮ่องเต้พระราชทานบรรดาศักดิ์อย่างไร รู้สึกเพียงว่าได้ชำระมลทินและได้รับการแต่งตั้งเป็นท่านโหว ก็นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงแล้ว ทั้งยังได้ภูเขาอีกตั้งไม่รู้กี่ลูก กล่าวตามตรง คนสกุลอวี๋ก็รู้สึกปีติยินดีเป็นที่สุดแล้ว คนสกุลอวี๋วางแผนเอาไว้ดิบดีว่าจะตัดต้นไม้และนำไปทำไร่นา แต่เมื่อครู่ลูกชายพูดว่าอย่างไรนะ? แร่รึ?!
“หาาาาา…แร่อะไร?” ป้าสะใภ้ใหญ่ไม่เข้าใจ
อวี๋เฟิงพูดต่อ “แร่เหล็ก นำไปถลุงเป็นเหล็กได้ หม้อและจอบเสียมที่พวกเราใช้กันล้วนทำมาจากเหล็ก อาวุธในกองทัพก็เช่นกัน”
แร่เร่ออะไรป้าสะใภ้ใหญ่ฟังไม่เข้าใจ แต่นางรู้จักเหล็ก ของเหล่านั้นมีมูลค่ามหาศาล “รา…ราคาสูงมากใช่ไหม?”
ราคา? อวี๋เฟิงยิ้มอย่างที่พบเห็นได้ยาก “ท่านแม่ นี่คือภูเขาแห่งทรัพย์สมบัติ หลังจากนี้ท่านแม่และท่านอาสามก็จะนับเงินได้แม้แต่ในฝัน!”
“ไอ้หยา มารดา…” ป้าสะใภ้ใหญ่แข้งขาไร้เรี่ยวแรง นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ
หลังจากกินข้าวเสร็จ อวี๋หวั่นก็เดินไปยังห้องของต้าลี่
หัวคิ้วของต้าลี่ถูกเย็บห้าเข็ม ช่วงนี้อากาศร้อน อวี๋หวั่นกังวลว่าแผลของเขาจะอักเสบ จึงต้มยาลดอาการอักเสบให้เขาหนึ่งชาม
ต้าลี่นอนอยู่บนเตียง เขากอดหินแร่เหล็กก้อนนั้นที่ตนค้นพบบนเขา อวี๋หวั่นยกให้เป็นของเขา
“ต้าลี่” อวี๋หวั่นผลักประตูซึ่งปิดสนิทเข้าไป
………………………………………..
[1] เหอโส่วอู หรือห่อสิ่วโอว สมุนไพรชนิดหนึ่ง สรรพคุณบำรุงไต บำรุงโลหิต ทำให้เส้นผมดกดำ