หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] - บทที่ 216 เสี่ยวเป่าแย่งชิงความโปรดปราน เอ้อร์เป่าหัดพูด
- Home
- หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2]
- บทที่ 216 เสี่ยวเป่าแย่งชิงความโปรดปราน เอ้อร์เป่าหัดพูด
ชิงเหยียนหัวเราะเยาะ “เจ้าคิดว่าวั่นซูเก๋อคือที่ใด? เป็นที่ที่เจ้าอยากไปก็ไปได้หรือ? วิหารราชครูมีการป้องกันอย่างแน่นหนายิ่งกว่าจวนประมุขหญิง วั่นซูเก๋อเป็นสถานที่ที่มีการปกป้องเต็มกำลัง แม้แต่จวนประมุขหญิงก็ยังไม่อาจเข้าไปได้ง่ายๆ”
“เจ้าเคยไปแล้วหรือ?” เจียงไห่ถามกลับ
ชิงเหยียนกระแอมเบาๆ
ตอนที่เดินทางจากเผ่าปีศาจไปต้าโจว เขาได้ผ่านเมืองหลวงของหนานจ้าว และบังเอิญไปเดินเล่นโดยไม่ทันระวัง ผลจากการเดินเล่นครั้งนั้นยากจะเอ่ยปากเล่า แต่มันทำให้เขาไม่อยากเข้าใกล้วิหารราชครูอีกเลย
ชายชรากล่าว “วิหารราชครูมีกลไกมากมาย มีหน่วยกล้าตายผู้มีวรยุทธ์เก่งกาจคุ้มกัน และยังมีหนอนพิษที่ซ่อนตัวอยู่ในกลไกต่างๆ ไม่น้อย”
หลายคนหันไปมองอาเว่ย!
ในหมู่พวกเขา คนที่ไม่กลัวหนอนพิษนอกจากอวี๋หวั่นก็คืออาเว่ย
อาเว่ยทำหน้าเหม็นเกินทน
เมื่อครู่เพิ่งดุข้า ยามนี้มากดดันข้าอีก
อาเว่ยจอมวายร้ายผู้ยิ่งใหญ่จะไม่ยอมแพ้!
“ไปเก็บข้าวของเสีย แล้วออกเดินทางช่วงค่ำคืน” อาม่ากล่าวกับอาเว่ย
อาเว่ยลุกขึ้นไปเก็บข้าวของในหนึ่งวินาที!
แท้จริงแล้วอวี๋หวั่นก็อยากไป เธออยากเห็นวั่นซูเก๋อในข่าวลือ แต่เธอก็รู้ดีว่าอาม่าไม่มีทางเห็นด้วยที่จะให้เธอไปเสี่ยงอันตราย อาม่าเป็นคนดียิ่งนัก
อาม่า : แม้แต่วิชาตัวเบาเจ้าก็ยังทำไม่ได้ ข้าเพียงแต่กังวลว่าเจ้าจะไปเป็นตัวถ่วงเท่านั้น…
การบุกเข้าวิหารราชครูไม่ใช่เรื่องง่าย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องเตรียม น่าเสียดายที่อวี๋หวั่นไม่อาจช่วยอะไรได้มาก นอกจากเงินทอง ทว่ายามนี้แม้แต่เงินเธอก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเองด้วยซ้ำ ฮูหยินผู้เฒ่าให้เธอใช้เงินจากเบี้ยบำนาญ หากเธอไม่ใช้ ฮูหยินผู้เฒ่าก็จะไม่พอใจ
“อาม่าข้าขอตัวไปที่สวนอู๋ถงก่อน หากมีเรื่องใดโปรดเรียกข้า”
“อื้อ”
ชายชราพยักหน้าตอบรับด้วยเสียงทุ้ม อวี๋หวั่นลุกขึ้นเดินกลับไปยังสวนอู๋ถง เรือนของฮูหยินผู้เฒ่า
ชายชรา ชิงเหยียน และเยว่โกวมองหน้ากัน บรรยากาศอึมครึมน่าทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย ที่ตกลงกันไว้อย่างดิบดีว่าจะลักพาตัวคนกลับเผ่า จู่ๆ ก็ล้มเลิกแผนการลักพาตัวเสียแล้ว รู้สึกน่าอับอายเล็กน้อย
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่ลักพาตัว” ชายชรากล่าว “เราเพิ่งจะพบยาเพียงสองชนิดเท่านั้น ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจากพวกเขาอย่างสมบูรณ์ หากกล่าวถึงเผ่าปีศาจในตอนนี้คงกระตุ้นให้พวกเขาเกิดความสงสัยเป็นแน่”
ชิงเหยียนยืดเอวขึ้น “อาม่าพูดถูก มาช่วยพวกเขาหายาเพิ่มอีกสักหน่อย เช่นนี้พวกเขาก็จะยอมให้เราควบคุมได้โดยไม่สงสัย! เรายังไม่ลืมคำปฏิญาณที่ให้ไว้ต่อหน้าองค์ราชา! พวกเราสาบานว่าจะภักดีต่อเผ่าปีศาจ! และจะไม่มีทางทรยศ!”
เยว่โกวเกาหัว “ทว่าหากพวกเขาพบยาสองตัวสุดท้าย พวกเขาก็คงไม่ต้องการเราแล้ว จะหลอกล่อให้พวกเขาเข้าไปยังเผ่าปีศาจได้อย่างไร?”
ชายชราเงียบงัน “…”
ชิงเหยียนก็เงียบเช่นกัน “…”
หนึ่งในแปดชั่วยามต่อมา เยว่โกวก็เดินออกมาพร้อมกับใบหน้าปูดบวมเขียวช้ำ
หลังจากอวี๋หวั่นกลับไปที่สวนอู๋ถง เธอก็ตรงไปที่ห้องของเธอและเยี่ยนจิ่วเฉาในทันที ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า หลังจากทราบมาว่าเยี่ยนจิ่วเฉาต้องอาบน้ำยา เห้อเหลียนเป่ยหมิงก็สั่งให้คนขุดสระน้ำในชั่วข้ามคืน ปูประดับด้วยหินหยกขาวฮั่นชั้นดี อยู่กลางสวนอู๋ถง
อวี๋หวั่นหยิบกล่องยาและมุ่งหน้าไปที่สระน้ำ
ในสระน้ำมิได้มีเพียงเยี่ยนจิ่วเฉา
เสี่ยวเป่าก็อยู่ที่นี่ด้วย
เขาแยกกับพี่ชายและมาที่นี่เอง
เขายืนเท้าสะเอวอยู่ข้างสระน้ำ จ้องมองบิดาในสระด้วยดวงตากลมโต
“มาสิ ตีข้าเลย!”
เด็กน้อยยังขุ่นเคืองเรื่องที่ถูกเยี่ยนจิ่วเฉาตี สาบานว่าจะหาโอกาสเอาคืนให้ได้
เยี่ยนจิ่วเฉาแช่กายในสระอย่างสบายตัว ปล่อยแขนทั้งสองวางลอยบนผิวน้ำ พลางเอ่ยอย่างผ่อนคลาย “เจ้าน่ะมานี่”
เสี่ยวเป่ายืนเท้าเอวตอบ “ท่านจะตีข้า ยังต้องให้ข้าไปหาอีกเรอะ?”
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเด็กน้อยได้เรียนรู้คำพูดมากมาย เยี่ยนจิ่วเฉาเหลือบสายตาไปด้านข้างเล็กน้อย ทว่าใบหน้ากลับไม่ได้หันตาม “อื้อ มิใช่เจ้าอยากโดนตีหรือ? เช่นนั้นเจ้าก็ต้องมาเองแล้วละ”
เสี่ยวเป่าพินิจ คล้ายกับวาจาฟังดูมีเหตุผล
“ไม่ถูก!” เสี่ยวเป่ากระทืบเท้า “ท่านน่ะมานี่!”
เยี่ยนจิ่วเฉาโค้งมุมปาก “เจ้ามานี่”
“ไม่!”
“ไม่อยากโดนตีแล้ว?”
“อยากสิ!”
เนื้อหาของบทสนทนาถูกเยี่ยนจิ่วเฉาเบี่ยงเบนไปโดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว เดิมทีคนตัวเล็กหมายจะยั่วยุเยี่ยนจิ่วเฉาให้ตีตนเองไม่สำเร็จ แต่ผลกลับเป็นเขาไม่ถูกตีเสียเอง เสี่ยวเป่ากระวนกระวาย เกาหัวด้วยความงุนงง
อวี๋หวั่นที่ได้ฟังอยู่หลังฉากกั้นพักหนึ่ง หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก สองบิดาบุตรต่อสู้กันไปมาทั้งวัน ด้วยเกรงจะไม่ได้เป็นศัตรูกัน
ในที่สุดเสี่ยวเป่าก็คิดวิธีแก้ปัญหาไม่ออก เดินปึงปังออกไปอย่างโกรธเคือง
อวี๋หวั่นเดินออกจากฉากกั้น ปรายตามองสามีของตนเอง “ลูกชายท่านก็ยังกลั่นแกล้งรึ?”
เยี่ยนจิ่วเฉามองเธอด้วยความประหลาดใจ สายตาคู่นั้นกำลังบอกว่า ลูกชายมิได้มีไว้แกล้งหรอกรึ? เช่นนั้นความสุขของการมีลูกชายคือสิ่งใด?
อวี๋หวั่น “…”
เกิดอะไรขึ้นกับภาพลวงตาที่เคยคิดว่าบุรุษผู้นี้เป็นบิดาผู้ยอดเยี่ยมหาใดเปรียบ?
แม้ว่าเสี่ยวเป่าจะไม่อาจต่อรองเอาเปรียบกับเยี่ยนจิ่วเฉาได้ แต่เมื่ออยู่ในห้องของฮูหยินผู้เฒ่าเขาก็กลายเป็นที่รักใคร่เอ็นดูในทันที เริ่มแรกฮูหยินผู้เฒ่าคลี่ยิ้มกรุ้มกริ่มกอดเขาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับกล่าวด้วยความรัก “สุดที่รักของข้า เหลนของข้า รีบเรียกย่าทวดให้ฟังเร็ว!”
“ย่าทวด!” เสี่ยวเป่าเรียกอย่างไพเราะอ่อนหวาน
หัวใจของฮูหยินผู้เฒ่าแทบละลายลง พลันหยิบลูกกวาดหอมหวานถุงใหญ่ออกมายื่นให้เขา “ยังไม่ได้เรียกท่านปู่เลย”
เสี่ยวเป่ามองเห้อเหลียนเป่ยหมิงบนรถเข็นและเรียกท่านปู่อย่างเชื่อฟัง
ทุกคนในห้องล้วนยิ้มเบิกบาน
เหล่าหญิงรับใช้ก็ชื่นชอบที่จะหยอกล้อเขา เกลี้ยกล่อมให้เขาเรียกพวกนางว่าพี่สาว เขาก็เรียกพวกนางด้วยน้ำเสียงหวานฉ่ำ
ต้าเป่าและเอ้อร์เป่าใช้ความพยายามอย่างหนัก เสี่ยวเป่าเกาะกุมหัวใจของสตรีทั้งบ้านได้สำเร็จ
มีหญิงรับใช้คนหนึ่งในสวนอู๋ถง นางงดงามกว่าจื่อซู มีนามว่าเสี่ยวอวี๋ นางเป็นผู้ดูแลแปลงดอกไม้ของฮูหยินผู้เฒ่า เสี่ยวอวี๋เป็นคนจิตใจดี และยังดูแลเด็กตัวอ้วนทั้งสามอย่างดีด้วย
หลังมื้อกลางวัน ฮูหยินผู้เฒ่าก็ไปพักผ่อน เด็กชายตัวอ้วนทั้งสามนอนไม่หลับ จึงปีนลงจากเตียงและไปหาเสี่ยวอวี๋ที่สวนดอกไม้
เสี่ยวอวี๋กำลังทำการอบแห้งดอกเก๊กฮวยที่เพิ่งเก็บมา เพื่อทำเป็นชาเก๊กฮวยสำหรับเหล่าฮูหยิน “ดอกเก๊กฮวยมีผลในการล้างตับบำรุงสายตา ดื่มแล้วจะดีต่อร่างกาย”
ล้างตับบำรุงสายตาคือสิ่งใดทั้งสามไม่เข้าใจ ทว่าดีต่อร่างกายนั้นทั้งสามเข้าใจ
ต้าเป่าและเอ้อร์เป่าไม่เอื้อนเอ่ยรีบพับแขนเสื้อขึ้น หยิบตะกร้าดอกเก๊กฮวยใบเล็กที่ตนเองเก็บมาอย่างยากลำบากส่งให้อวี๋หวั่น
ทั้งสองเหนื่อยมาก เม็ดเหงื่อผุดพรายท่วมกาย แต่เมื่อเข้ามาในห้องกลับเห็นเสี่ยวเป่าที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ฉกฉวยโอกาสไปแล้ว!
“ท่านแม่ นี่ให้ท่าน ท่านสวยมาก” เสี่ยวเป่ายื่นดอกไม้เล็กๆ ให้อวี๋หวั่นด้วยท่าทางกระมิดกระเมี้ยน
อวี๋หวั่นถูกเด็กน้อยผู้นี้ยั่วเย้าจนน่ามันเขี้ยว อดใจไม่ไหวที่จะอุ้มขึ้นมากอดและหอมแก้มครั้งหนึ่ง “เสี่ยวเป่าเป็นเด็กดียิ่งนัก!”
เสี่ยวเป่าชนนิ้วชี้อย่างขวยเขิน “เสี่ยวเป่า เป็นเด็กดี ที่ท่านแม่ ชอบที่สุดหรือไม่?”
ต้าเป่าและเอ้อร์เป่าใบหน้าดำมืด อยากฆ่าเจ้าเด็กนี้เสียให้ตาย!
เสี่ยวเป่าเป็นน้องคนสุดท้อง มีพละกำลังน้อยที่สุด ความแข็งแกร่งของเขามักจะถูกพี่ชายทั้งสองเบียดบัง แต่หลังจากเขาพูดได้ เสี่ยวเป่าก็เรียนรู้ที่จะใช้วิธีขี้โกง
“ท่านแม่! เอ้อร์เป่าตีข้า!”
เสี่ยวเป่าให้ร้ายคนอื่น
“ท่านย่าทวด! ต้าเป่าแย่งข้า!”
เสี่ยวเป่ายังคงให้ร้ายต่อไป
“ท่านปู่! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”
เส้นทางการให้ร้ายของเสี่ยวเป่าไม่อาจหวนคืน
ต้าเป่าและเอ้อร์เป่าถูกลงโทษนั่งหันหน้าเข้ากำแพงพิจารณาความผิด
เสี่ยวเป่าแอบอยู่หลังประตู ยื่นหัวกลมเล็กออกมาแลบลิ้นใส่พี่ชายทั้งสองอย่างภาคภูมิใจ “แบร่ แบร่ แบร่!”
ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นมีการต่อต้าน!
ในที่สุดต้าเป่าและเอ้อร์เป่าก็ทนไม่ไหว ยามบ่ายแดดจ้าลมพัด ทั้งสองต่อยตีเสี่ยวเป่าที่ยังหลับฝันอยู่ในนิทรา…
เสี่ยวเป่ากอบกุมก้นน้อยที่เจ็บปวด จมูกน้อยพ่นลูกโป่งใส เดินไปที่เรือนฮูหยินผู้เฒ่าด้วยความน้อยอกน้อยใจ
เสี่ยวเป่าจะร้องเรียน ร้องเรียนให้ใหญ่โต!
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า เมื่อเสี่ยวเป่าเข้ามาในเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า ก็เห็นเอ้อร์เป่านั่งบนตักของฮูหยินผู้เฒ่าอย่างเชื่อฟัง มารดากับบิดาตัวเหม็นและท่านปู่นั่งอยู่สองฝั่งของฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่าคลี่ยิ้มกว้างแทบมองไม่เห็นตา “เมื่อครู่เสี่ยวเป่าพูดว่าอะไร พูดตามอีกทีซิ!”
“ย่าทวด” เอ้อร์เป่ากล่าว
เสี่ยวเป่าขนฟูไปทั้งตัว!
“ข้าละ ข้าละ” อวี๋หวั่นตบหน้าอกน้อยของเธออย่างรอคอย
“แม่” เอ้อร์เป่าเอ่ยอย่างนุ่มนวล
เมื่อเทียบกับความบอบบางของเสี่ยวเป่า เสียงของเอ้อร์เป่าละมุนนุ่มนวลกว่ามาก ราวกับคนฉลาดอ่อนโยนที่มีการศึกษา อวี๋หวั่นให้รางวัลเขาด้วยจูบฟอดใหญ่
“แล้วท่านปู่ละ?” เห้อเหลียนเป่ยหมิงกล่าว
“ท่านปู่” เอ้อร์เป่าเรียกอย่างอ่อนหวาน
“เรียกพ่อ” เยี่ยนจิ่วเฉากล่าว
“พ่อ” เอ้อร์เป่าเรียกอย่างน่ารัก
เยี่ยนจิ่วเฉาโค้งมุมปาก ลูบหัวบุตรชายด้วยความพึงพอใจ
เสี่ยวเป่าเรียกได้ เอ้อร์เป่าก็เรียกได้ เสี่ยวเป่าไม่เรียก แต่เอ้อร์เป่าก็เรียกแล้ว
เอ้อร์เป่าถูกเลื่อนขั้นกลายเป็นที่รักตัวน้อยคนใหม่ในทันที
“โอ้ เด็กดีของย่าทวด! ไยย่าทวดถึงชอบเจ้าได้ขนาดนี้กันนะ?” อ้อมแขนฮูหยินผู้เฒ่าโอบกอดเอ้อร์เป่าไว้แน่น ท่าทางนั้นทำราวกับเป็นของล้ำค่าเกินบรรยาย ที่เอาไว้ในปากก็กลัวละลาย ถือไว้ในมือก็กลัวตกแตก
ความสิ้นหวังเศร้าโศกฉายทั่วทั้งใบหน้าเล็กของเขา
เขาทรุดเข่าลงกับพื้น ชกกำปั้นเล็กกับหน้าอกของตัวเอง
ฮือ!
ข้าสูญเสียความโปรดปรานแล้ว!