หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] - บทที่ 423 พลังแห่งราชันหมื่นสัตว์พิษ
ยิ่งวิชาอายุวัฒนะแก่กล้าเท่าใด วรยุทธ์ก็จะแข็งแกร่งเท่านั้น อายุก็จะยืนยาวขึ้น ทว่าในขณะเดียวกัน ในคืนพระจันทร์เต็มดวงก็จะอ่อนแอมากเท่านั้น
สตรีศักดิ์สิทธิ์เหวี่ยงเขาลงกับพื้น เขาไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะต่อสู้ ความทรมานที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนพลันเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที เม็ดเหงื่อใสผุดขึ้นบนหน้าผาก
กระนั้นแล้ว แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์คับขัน ในดวงตาของเขาก็ยังคงมีแสงอันเยียบเย็น “เจ้าคือสตรีศักดิ์สิทธิ์?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ชะงักไป
ยาสลายพลังภายในของนางยังไม่หมดฤทธิ์ แต่ปรมาจารย์ซือคงกลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของนางหรือ?
ไม่สิ เขาสัมผัสไม่ได้หรอก เขามองออกต่างหาก
เพียงเห็นการเคลื่อนไหวของนาง ก็มองระดับวรยุทธ์ที่แท้จริงของนางออกแล้ว สมแล้วที่เป็นบุคคลระดับปรมาจารย์ ความเข้าใจที่มีต่อวรยุทธ์นั้นล้ำเลิศ แต่เข้าใจแล้วอย่างไรเล่า?
เขากำลังจะตาย
บนโลกนี้ กำลังจะไม่มีปรมาจารย์ซือคง
“มิผิด ข้าคือสตรีศักดิ์สิทธิ์” สตรีศักดิ์สิทธิ์ตอบอย่างลำพองใจ เขากำลังจะตาย ย่อมไม่มีสิ่งใดต้องปิดบัง อย่างไรเสียก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเขาตามมาล้างแค้น เขาจะไปทำเช่นนั้นได้อย่างไร?
แต่ว่าก่อนที่จะลงมือสังหารเขา สตรีศักดิ์สิทธิ์มีเรื่องหนึ่งต้องทำ
นางลดตัวลงนั่งยอง ใช้มีดสั้นตบลงบนใบหน้าของเขา การกระทำเช่นนี้มิได้ดูคล้ายกับการทำร้ายร่างกาย หากแต่เป็นการดูหมิ่นยอดฝีมืออย่างหนึ่ง
ซือคงเย่มองนางด้วยสายตาเย็นเยียบ
สตรีศักดิ์สิทธิ์หัวเราะร่วน “อย่ามามองข้าด้วยสายตาเช่นนั้น ในตอนนี้แม้แต่มดตัวเดียวเจ้าก็ฆ่าไม่ตาย ข้าจะไปกลัวเจ้าได้อย่างไร? ข้าแค่จะถามว่าวิชาอายุวัฒนะของเจ้าอยู่ที่ไหน เป็นเล่มนั้นของสกุลซือคงหรือเปล่า เล่มที่เจ้าปรับปรุงจนสมบูรณ์น่ะ!”
เคล็ดลับวิชาอายุวัฒนะที่หลงเหลืออยู่ในสกุลซือคงนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมา สตรีศักดิ์สิทธิ์เคยพบเพียงสองคนที่ฝึกวิชานี้สำเร็จ คนหนึ่งคือเยี่ยนจิ่วเฉา อีกคนหนึ่งคือปรมาจารย์ซือคง อย่างไรเสียปรมาจารย์ซือคงก็ได้เปรียบด้านอายุและความรู้ที่สั่งสมมา ระดับของเขาจึงอยู่เหนือกว่าผู้ใด เพราะฉะนั้นเคล็ดลับวิชาอายุวัฒนะที่เขาครอบครองย่อมสมบูรณ์และดีกว่า
ซือคงเย่หัวเราะเยาะอย่างอ่อนแรง “อยากได้วิชาอายุวัฒนะรึ…ฝันไปเถอะ!”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ยิ้ม พร้อมกับกล่าวว่า “เจ้าไม่กลัวเลยหรือว่าหลังจากที่ข้าสังหารเจ้าแล้ว จะไปจัดการเหลนของเจ้าอีกคน? ข้าเป็นตัวปลอม เจ้านั่นถึงจะเป็นตัวจริง”
ซือคงเย่ขยับตัว ราวกับจะถอยออกห่างมีดเล่มนั้น “ต่อให้ข้ามอบให้เจ้า เจ้าก็จะไม่ปล่อยนางไปไหมเล่า?”
ถูกหลอกมาครั้งหนึ่ง นี่เป็นครั้งที่สอง ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!
สตรีศักดิ์สิทธิ์พูดต่อ “มิสู้เรามาทำข้อตกลงดีกว่าหรือ เจ้ามอบวิชาอายุวัฒนะให้ข้า ข้าก็จะปล่อยนางไป”
นางปล่อย ก็ไม่ได้หมายความว่ายอดฝีมือของสกุลซือคงจะปล่อยสักหน่อย
แต่เรื่องนี้ไม่มีความจำเป็นต้องบอกให้ปรมาจารย์ซือคงรู้
สายตาคมกริบของซือคงเย่จ้องเขม็งไปที่นาง “เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว เจ้ายังคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้ารึ?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์หรี่ตา “เช่นนั้นเจ้าก็เสนอมา จะทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมมอบวิชาอายุวัฒนะให้ข้า”
“แลกด้วยชีวิตของเจ้า” ซือคงเย่ค่อยๆ กล่าวออกมาทีละคำ
สตรีศักดิ์สิทธิ์สีหน้าถมึงทึง นางลุกขึ้นยืนแล้วตวาดว่า “ไม้อ่อนไม่ชอบ ชอบไม้แข็ง ย่อมได้ ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน แล้วค่อยฆ่าเด็กนั่น แล้วข้าจะพลิกเขาหมิงตูตามหา ข้าไม่เชื่อว่าจะหาตำราวิชาอายุวัฒนะไม่เจอ!”
ทันทีที่พูดจบ สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็กำมีดในมือแน่นหมายจะปักลงบนหน้าอกของซือคงเย่
ทันใดนั้นเอง ซือคงเย่ก็สัมผัสไปยังกลไกลับ เขากดลงแรงๆ ครั้งหนึ่ง พื้นบริเวณนั้นแยกออก ร่างของเขาหล่นลงไป
สตรีศักดิ์สิทธิ์ยื่นมือออกไปคว้า ทว่ากลไกบนพื้นกับปิดลงดัง ‘ปัง’ นางดึงมืดกลับมาได้ทันท่วงที หากช้าไปอีกเพียงก้าวเดียว มือของนางก็คงจะขาดไปแล้ว!
มิน่าเล่าเจ้าแก่นั่นถึงถอยไปเรื่อยๆ นางยังคิดเสียอีกว่าเขากลัว จึงพยายามจะถอยให้พ้นคมมีด คิดไม่ถึงเลยว่าเขากำลังพยายามเข้าใกล้กลไกลับ
สตรีศักดิ์สิทธิ์จึงกดปุ่มในกลไกนั้นบ้าง ทว่าน่าเสียดาย เพราะนี่เป็นกลไกสำหรับช่วยชีวิต หลังจากที่ลงกลอนจากด้านในแล้ว กลไกก็จะเปิดจากด้านนอกไม่ได้อีก
“เจ้าเล่ห์นัก!” สตรีศักดิ์สิทธิ์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับกัดฟันกรอด นางมองไปยังกลไกบนพื้นที่ปิดสนิท แล้วเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “คิดว่าทำเช่นนี้แล้วข้าจะจับเจ้าไม่ได้รึ? ท่านโม่ เข้ามาได้”
ทันทีที่พูดจบ บุรุษนัยน์ตาสีแดงก่ำสวมผ้าคลุมก็ย่างกรายเข้ามา
เขาสูงประมาณสิบฉื่อเห็นจะได้ ร่างกายกำยำล่ำสัน แลดูน่าเกรงขาม นี่คือหนึ่งในสามของยอดฝีมือที่ท่านตาของซือคงอวิ๋นมอบให้ เขาคือราชาซิวหลัวระดับห้า และได้บรรลุถึงขั้นสูงสุดของระดับห้า พลังของเขาอยู่ห่างจากระดับหกเพียงขั้นเดียว
ทันที่ที่เขาเข้ามาในหมิงซาน ต้นไม้ใบหญ้าในหมิงซานก็พลันเหี่ยวเฉา
เขาเหยียบลงบนพื้นเย็นเฉียบทีละก้าวๆ พื้นซึ่งทำจากหินก็ร้อนระอุขึ้นทันใดด้วยพลังภายในของเขา บังเกิดเป็นควันสีดำทะมึน
ยอดฝีมือเช่นนี้ นอกจากปรมาจารย์ซือคงแล้ว สตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยเห็นมาก่อนในสกุลซือคง มิน่าเล่าท่านตาของซือคงอวิ๋นจึงบอกเตือนเขาว่าห้ามให้ประมุขสกุลซือคงรู้เรื่องนี้ ญาติฝั่งมารดาของสกุลซือคงใจกล้าบ้าบิ่นเหลือเกิน ที่ปิดบังสกุลซือคงเรื่องที่พวกตนมียอดฝีมือที่น่ากลัวเช่นนี้ในครอบครอง!
วันใดที่นางได้ครอบครองสกุลซือคง นางย่อมต้องปฏิบัติต่อครอบครัวฝั่งมารดาของซือคงอวิ๋นเป็นอย่างดี
แต่ทว่าในตอนนี้ พวกเขาเปรียบเสมือนตั๊กแตนซึ่งเกาะอยู่บนเชือกเส้นเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไรก็หนีกันไม่พ้น
สตรีศักดิ์สิทธิ์บอกกับเขาว่า “ปรมาจารย์ซือคงซ่อนตัวอยู่ใต้นี้ ที่นี่ใช้หินผานหลงของสกุลซือคงสร้างขึ้น ไม่มีวันแตกสลาย ไม่รู้ว่าท่านโม่มีวิธีจัดการหรือไม่?”
“หึ!” ราชาซิวหลัวระดับห้าซึ่งถูกเรียกว่าท่านโม่ส่งสายตาไม่ยี่หระให้นาง เขาเดินไปด้านข้างของกลไก จากนั้นก็โบกมือบุ้ยใบ้ให้สตรีศักดิ์สิทธิ์ถอยออกไป
สตรีศักดิ์สิทธิ์รู้สึกไม่ชอบใจกับท่าทางของเขาเหลือเกิน นางเป็นถึงสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งหมิงตู แต่เขากลับไม่เกรงอกเกรงใจนาง หากไม่ใช่เพราะกำลังขอความช่วยเหลือเขาอยู่ นางก็คงลงโทษเขาไปแล้ว
สตรีศักดิ์สิทธิ์ระงับโทสะและเดินออกไปจากห้องลับ
ท่านโม่รวมพลังปราณที่จุดตันเถียน ยกมือขึ้นเพื่อส่งพลังปราณมหาศาลไปรวมกันแล้วต่อยลงบนพื้น พลังปราณนี้แข็งแกร่งเสียจนทำให้สุสานสั่นคลอน กระนั้นหินผานหลงก็ยังไร้รอยขีดข่วน
สตรีศักดิ์สิทธิ์ตกใจ โชคดีเหลือเกินที่นางไม่สนใจคำทัดทานของซือคงอวิ๋น และแอบพายอดฝีมือออกมา ไม่เช่นนั้นด้วยความแข็งแกร่งของหินนี้ ลำพังนางคนเดียว สามวันสามคืนก็ไม่มีทางจับซือคงเย่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเวลาล่วงเลยไป ปรมาจารย์ซือคงฟื้นฟูพลังขึ้นมา คนที่เดือดร้อนจะเป็นนางเอง
เมื่อครู่ท่านโม่ใช้พลังเพียงสามส่วน หากหินไม่แตกก็ไม่ใช่ปัญหา เขาเพิ่มพลังภายในขึ้นอีกสองส่วน ในครั้งนี้หินผานหลงยังคงไม่แตกดังเดิม ทว่าสามารถมองเห็นด้วยตาว่ามันขยับแล้ว
นัยน์ตาของสตรีศักดิ์สิทธิ์ไหวเล็กน้อย
ขยับแล้ว หินผานหลงขยับแล้ว!
หวังว่ามันจะแตกออก!
ท่านโม่ส่งเสียงคำราม เขาใช้พลังเจ็ดส่วน และพุ่งกำปั้นลงบนพื้นด้านล่างเท้า!
แกร็ก!
รอยแยกเล็กๆ เกิดขึ้นบนหินผานหลง!
สตรีศักดิ์สิทธิ์ตื่นเต้นเหลือเกิน!
สมแล้วที่เป็นราชาซิวหลัวที่กำลังจะบรรลุระดับหก หินผานหลงที่ในตำนานเล่าว่าคงกระพันไม่แหลกสลายนั้นแตกออกแล้ว!
ทุกหมัดท่านโม่ต่อยลงไปนั้นทำให้หินผานหลงค่อยๆ แยกออก!
หลังจากที่อวี๋หวั่นกลับมายังเรือน เธอก็เก็บเสื้อผ้าให้ท่านตาทวด จากนั้นจึงเข้าไปในห้องครัวเพื่อยกของว่าง เรื่องที่ซือคงเย่อ่อนแอนั้นไม่มีผู้อื่นล่วงรู้ เพราะฉะนั้นอวี๋หวั่นต้องปิดปากเงียบ เธอเป็นคนกินเก่ง ทุกคนเห็นจึงคิดเพียงว่าเธอมายกของว่างของตนเอง
เธอเก็บข้าวของเสร็จ และกำลังคิดว่าจะไปดูเยี่ยนจิ่วเฉาสักหน่อยดีไหม ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นความผิดปกติ…
เอ๊ะ?
สตรีศักดิ์สิทธิ์ละ?
ตนเองออกมาตั้งนานแล้ว แต่กลับไม่เห็นนางเลย
นางไม่ได้คอยแต่จะคิดฆ่าเธอหรอกหรือ? ทำไมตอนนี้หายไปไหนแล้ว
“นี่” อวี๋หวั่นเรียกลูกศิษย์ซึ่งทำหน้าที่ปัดกวาดอยู่บริเวณนั้น “เจ้าเห็นพี่สาวข้าไหม?”
ลูกศิษย์ส่ายหน้า
อวี๋หวั่นถามว่า “ไม่เห็นนางทั้งวันเลยหรือ?”
ลูกศิษย์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเห็นขอรับ”
“เมื่อไหร่หรือ?” อวี๋หวั่นถาม
ลูกศิษย์ตอบว่า “ตอนเย็นขอรับ ท่านออกไปได้ไม่นาน นางก็ออกไป”
อวี๋หวั่นถามต่อว่า “จากนั้นก็ไม่กลับมาเลยหรือ?”
“ขอรับ” ลูกศิษย์พยักหน้า
“อยู่ๆ ก็หายไป ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องดี! ไม่ได้การละ ข้าจะต้องไปตามหานาง!” อวี๋หวั่นหันหลังเดินออกไปตามหา
นาง ทันทีที่ก้าวเท้าข้ามธรณีประตูไป พื้นดินก็สั่นไหว เธอเดินเซจนแทบล้มลง!
เธอขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น?!”
ณ เรือนของซือคงฉางเฟิง
สัตว์พิษตัวน้อยกำลังปีนขึ้นไปบนหลังของราชันหมื่นสัตว์พิษด้วยท่าทางโอหัง
ฮ่า!
ตีลังกาสักรอบ!
ฮู้วววฮ่า!
ปล่อยหมัดด้วยท่วงท่างดงาม!
ราชันหมื่นสัตว์พิษยังคงนิ่งไม่ไหวติง ราวกับสมณะกำลังเข้าฌาน
สัตว์พิษตัวน้อยดึงหนวดของมัน!
สัตว์พิษตัวน้อยดึงเขาของมัน!
สัตว์พิษตัวน้อยปล่อยหมัดอรหันต์ใส่เกราะของมัน!
โช้ะ!
ราชันหมื่นสัตว์พิษลืมตาขึ้นทันใด สว่างวาบไปทั่วทุกทิศราวแสงประกายของใบมีด
แม้ว่าสัตว์พิษตัวน้อยจะยังอยู่บนหลังของมัน แต่กลับถูกพลังมหาศาลอัดเข้าเต็มๆ จนมึนงง
ราชันหมื่นสัตว์พิษมองไปยังทิศทางของเขาหมิงซาน พลังของมันเพิ่มขึ้น จนขวดหยกระเบิดออก!
ไอ้หยาาา!
สัตว์พิษตัวน้อยตกใจจนเกาะเขาของราชันหมื่นสัตว์พิษไว้แน่น!
ราชันหมื่นสัตว์พิษพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เร็วจนไม่เห็นแม้แต่เงา
สัตว์พิษตัวน้อยตัวปลิวไปซ้ายทีขวาที มันกลัวจนตัวสั่นเทิ้ม…
หินผานหลงแตกออก พลังจากราชาซิวหลัวระดับห้ารุนแรงเสียจนทำให้ปราณของซือคงเย่ย้อนกลับ กระดูกแตกหัก!
ท่านโม่ใช้พลังภายในจับซือคงเย่ที่บาดเจ็บหนักขึ้นมาและบีบคอของเขาไว้
ซือคงเย่คือเทพที่ไม่มีวันสั่นคลอน เป็นราชันผู้ไร้พ่าย การได้เอาชนะเขานั้นนับว่าเป็นความใฝ่ฝันอันสูงสุดของเหล่ายอดฝีมือในหมิงตู!
ชีวิตของซือคงเย่กำลังดำเนินมาถึงจุดจบ
มือข้างขวาของท่านโม่จับเขาไว้ด้วยพลังภายใน มือข้างซ้ายถือมีด ปักลงไปพร้อมปลิดขั้วหัวใจของเขา
ในตอนนั้นเอง เสียงคำรามลั่นดังขึ้นจากด้านหลังหลุมฝังศพ
…………………..