หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] - บทที่ 528 ความจริงเปิดเผย กลุ่มเพื่อนเทวดา
ไข่น้อยทั้งสามกลิ้งหลุนๆ ลงมา
โจวอวี่เยี่ยนไม่มีเวลาคิดว่าเหตุใดคนที่ตายถึงไม่ใช่พวกเขา แต่กลับไปคนของพวกนั้น นางเหาะเหินไปรับไข่น้อยทั้งสามไว้ในอ้อมแขน
“ไอ้หยา!”
เดิมทีคิดว่ากำลังภายในของตนเองแข็งแกร่งพอ อุ้มไข่น้อยสามฟองไม่ใช่ปัญหา แต่…แต่เหตุใดหนักเช่นนี้?
ไข่หนึ่งฟอง อีกหนึ่งฟอง และอีกหนึ่งฟอง อ้า อ้า อ้า นี่ไม่ใช่ไข่สามฟองแล้ว แต่เป็นสามสิบฟอง!
หนักจะตายแล้ว!!!
ต๋าหว่าตกใจมาก ตอนที่องครักษ์ชักดาบออกมา เขาคิดว่าร่างกับหัวจะแยกไปคนละทางแล้ว แต่เหตุใด…ถึงกลายเป็นเช่นนี้? พวกเขาฆ่ากันเอง? นี่ๆๆๆ…นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ชุยเฒ่าก็เหงื่อตก มองอาม่าที่อยู่ข้างๆ ซึ่งเงียบสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ “เจ้ารู้ว่าพวกเขาจะไม่ฆ่าเราใช่หรือไม่?”
อาม่าส่ายหัวด้วยสีหน้าจริงจัง “ไม่ ข้าเพียงแค่คำนวณแล้วว่าพวกเราไม่ได้ตายวันนี้”
ชุยเฒ่าขมวดคิ้ว “เช่นนั้นไยเจ้าไม่บอกเร็วกว่านี้? ทำข้ากลัวแทบแย่!”
คงเป็นตามคำพูดนั้นจริงๆ อีกาทั่วหล้าทั้งมวลล้วนสีดำ! หมอดูทั่วหล้าทั้งมวลล้วนไม่ดี!
ฮึ!
ผู้อาวุโสสามเดินมาหยุดหน้าต๋าหว่า
ต๋าหว่ายังสับสนไม่หาย เขามองเงาบนพื้นที่เข้ามาปกคลุม เงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสสามอย่างงุนงง
ผู้อาวุโสสามกล่าว “เหตุใดไม่ขอความช่วยเหลือ”
“หา?” ต๋าหว่าผงะอีกครั้ง ราวกับไม่เข้าใจวามหมายของเขา
ผู้อาวุโสสามพูดอย่างเฉยเมย “ข้าติดหนี้บุญเจ้าคราหนึ่ง ข้าก็ควรคืนมันให้เจ้ามิใช่หรือ?”
“ไม่เลยขอรับ ท่านไม่ได้ติดหนี้บุญคุณข้า” ต๋าหว่าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าผู้อาวุโสสามกำลังพูดถึงอะไร และไม่รู้ว่าเพราะผู้อาวุโสสามเป็นบิดาของเนี่ยหวั่นโหรวหรือไม่ ยามที่เผชิญหน้ากับเขา ต๋าหว่ารู้สึกว่าตนไม่ค่อยมีความกล้านัก
ผู้อาวุโสสามมองต๋าหว่าครู่หนึ่ง
ต๋าหว่าถูกมองจนใจเต้น ทันใดนั้นก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้นในใจ ผู้อาวุโสสามบอกว่าเขาติดค้างน้ำใจ คงไม่ได้หมายถึงตอนที่ตนห้ามอิ่งสือซันไม่ให้ฆ่าเขาหรอกกระมัง?
อา นั่น…นั่นก็นับเป็นน้ำใจด้วยหรือ?
เขาให้อิ่งสือซันสะกดจุดผู้อาวุโสสาม บัดนี้พบหน้ายังรู้สึกผิดไม่หาย กลัวว่าผู้อาวุโสสามจะถามตนว่าไปกินใจหมีดีเสือมาหรืออย่างไร ถึงกล้าให้คนสะกดจุดเขา!
ศาสตร์แปลงกายของสกุลหลานต้องรอให้จางหายไปเองเท่านั้น ไม่อาจลอกออกเองได้ ต๋าหว่าจึงยังมีใบหน้าของเวินซวี่ แต่เขาไม่ใช่เวินซวี่ เวินซวี่ไม่ได้โง่เขลาเช่นนี้
ผู้อาวุโสสามประสานมือสองข้าง เจ้าเด็กนี่โง่เพียงนี้ เหตุใดถึงไม่สงสัยในตัวตนของเขาตั้งแต่แรก?
จะโทษผู้อาวุโสสามก็ไม่ได้ ผู้ใดให้ศาสตร์แปลงกายของสกุลหลานสมบูรณ์แบบ กระทั่งราชาแห่งสวรรค์ก็ยังไม่เห็นข้อบกพร่องแม้แต่น้อย?
“เอ่อ ที่นี่พวกเราไม่มีเรื่องใดแล้วใช่หรือไม่?” โจวอวี่เยี่ยนเดินไปข้างอาม่ากับชุยเฒ่าเงียบๆ และกระซิบถามพวกเขา
ทั้งสองมองนางด้วยสายตาที่เข้าใจแต่อธิบายไม่ได้
ผู้อาวุโสสามไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตต๋าหว่า เขามาตามหาบุตรี ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากถามว่าบุตรีอยู่ที่ใด จู่ๆ เงาร่างคุ้นเคยก็แวบเข้ามาในเรือน
คิ้วของผู้อาวุโสสามกระตุก!
คนผู้นั้นคือ——
“ผู้อาวุโสสาม เอ่อ…” ในที่สุดต๋าหว่าก็ตัดสินใจทำลายบรรยากาศแปลกประหลาด แต่ผู้อาวุโสสามกลับผลักเขาออก และสาวเท้าไปตามทางเดิน
เขาเดินอ้อมทางเดิน มองร่างที่คุ้นเคยนั้น เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่ภาพลวงตา ก็เอ่ยเรียกอย่างสั่นระริก “รา…ราชาพ่อมด?”
ราชาพ่อมดชะงัก กัดลูกท้อหันตัวกลับมา เลิกคิ้วมองเขาปราดหนึ่ง “โอ้ ผู้อาวุโสสาม”
ผู้อาวุโสสามตื่นตระหนก รีบยกมือคารวะ “ข้าได้เห็นราชาพ่อมดแล้ว!”
ราชาพ่อมดถือลูกท้อที่กินไปครึ่งหนึ่งแล้วพูดอย่างสบายๆ ว่า “ไม่ได้พบกันหลายปี ผู้อาวุโสสามก็ยังจำข้าได้”
ประกายวาบผ่านดวงตาของผู้อาวุโสสาม เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
ผู้อาวุโสสามเป็นคนฝ่ายราชินีแม่มด ในฐานะขุนนางคนสนิทที่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งราชินีแม่มดและผู้อาวุโสใหญ่ เขารู้ดีว่าราชาพ่อมดถูกราชินีแม่มดกักขังไว้ และอย่างที่ราชาพ่อมดกล่าว เขาไม่ได้พบราชาพ่อมดอย่างน้อยก็เจ็ดหรือแปดปีแล้ว เขาไม่รู้ว่าราชาพ่อมดกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะเงาหลังและท่าทางการเดินที่คล้ายกับราชาพ่อมดที่อยู่ในความทรงจำ อาศัยเพียงใบหน้านั้น เขาก็คงจำไม่ได้แล้ว
“ราชาพ่อมด ท่าน…”
เขาอยากถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับราชาพ่อมด แต่เมื่อคำพูดมาถึงปาก ก็ตระหนักได้ว่าตนโง่เขลา
คนธรรมดาที่สามารถทำร้ายราชาพ่อมดได้ นอกจากหลัวช่าวิญญาณก็คือตัวเขาเอง ราชินีแม่มดอาจจะขังเขาไว้ได้ แต่ไม่อาจทำร้ายเขาได้ตามอำเภอใจ บาดแผลของเขา ไม่สิ ต้องกล่าวว่าแผลพิษทั้งหมดนั้นเป็นเขาที่ทำมันเอง
ส่วนจะกล่าวว่าทำไปเพื่อผู้ใด คำตอบนั้นไม่ต้องพูดก็เข้าใจ
บุตรของราชาพ่อมดกับราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้ หากกล่าวให้ลึกลับสักหน่อยก็คือพวกเขาทั้งสองแข็งแกร่งเกินไป การรวมกันของพวกเขาอยู่เหนือกฎแห่งสวรรค์
เพื่อให้โจวจิ่นถือกำเนิดอย่างปลอดภัย จึงสร้างเด็กที่สามารถเติบโตขึ้นมาได้ ราชาศักดิ์สิทธิ์ยอมฝังอัฐิไว้ในสุสานเพื่อเปลี่ยนโชคชะตา
แต่ผู้อาวุโสสามคิดว่าเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าราชาศักดิ์สิทธิ์จะเปลี่ยนโชคชะตาเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือ ราชาพ่อมดแบกรับไว้
เขาก็คิดอยู่ว่า เหตุใดราชาพ่อมดที่แข็งแกร่งเช่นนี้ จู่ๆ ถึงได้ปล่อยให้ราชินีแม่มดทำสำเร็จ ดูจากยามนี้คงเป็นเพราะราชาพ่อมดใช้พลังเวทเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของโจวจิ่นมากเกินไป จนถูกพลังย้อนกลับน่าสยดสยอง จึงไม่อาจขัดขืนการคุมขังของราชินีแม่มดเป็นแน่
หากเป็นเมื่อก่อน ผู้อาวุโสสามคงไม่ประทับใจกับการเสียสละของราชาพ่อมด แต่หลังจากเขาสูญเสียบุตรีไป ก็รู้สึกว่าตนสามารถเข้าใจหัวอกของราชาพ่อมด
“ราชาพ่อมด ข้า…”
ราชาพ่อมดยกมือขึ้นขัดคำพูดเขา คล้ายขี้เกียจเกินกว่าจะฟัง จากนั้นก็แทะลูกท้อในมือและเดินกลับห้องไปด้วยท่าทางสบายๆ
พวกอาม่าเดินมา
ขณะที่เดินผ่าน อาม่าก็ยกมือตบไหล่เขาอย่างเห็นอกเห็นใจ
โจวอวี่เยี่ยนพาไข่น้อยทั้งสามเดินมา ไข่น้อยทั้งสามมองเขา แล้วก็มองอาม่าที่เดินห่างไปไกลแล้ว สะกิดต้นขาของต๋าหว่าและกระดิกนิ้วเรียก
ต๋าหว่าก้มลง
ทั้งสามเดินไปตบไหล่เขาอย่างแรง ต้าเป่าตบแล้ว เอ้อร์เป่าก็ตบ เอ้อร์เป่าตบแล้ว เสี่ยวเป่าก็ตบ
ต๋าหว่า “…”
ชุยเฒ่ามองไข่น้อยทั้งสามด้วยสายตาแปลกประหลาด จากนั้นก็มองอาม่าด้วยสายตาแปลกประหลาด เป่าเคราถมึงตากล่าว “คนแซ่ฉิว! เจ้าไม่ได้คำนวณว่าวันนี้เราจะไม่ตาย แต่เจ้ารู้อยู่แล้ว! ว่าราชาพ่อมดอยู่ที่นี่!”
ผู้อาวุโสสามราวกับถูกตีแสกหน้า แม้ราชาพ่อมดจะอ่อนแอกว่าเมื่อก่อนมาก แต่อย่างไรก็เป็นราชาแห่งเผ่าพ่อมด เมื่อครู่หากเขาลงมือไม่ทัน คนที่ตายคงไม่ได้มีเพียงองครักษ์ของผู้อาวุโสใหญ่และราชินีแม่มด กระทั่งเขากับลูกน้องก็คงถูกฆ่าตายไปพร้อมกัน!
ทันทีที่ความคิดแล่นผ่าน แผ่นหลังผู้อาวุโสสามก็โชกไปด้วยเหงื่อเย็น
“ผู้อาวุโสสาม”
เสียงของต๋าหว่าดังขึ้นข้างหลังเขา
ผู้อาวุโสสามตั้งสติ หันกลับมา “ข้ากำลังอยากถามเจ้าว่า หวั่นโหรวไปที่ใด?”
ต๋าหว่าพาผู้อาวุโสสามไปที่ห้องของฮูหยินรอง
ฮูหยินรองนอนอยู่บนเตียงอย่างสงบ ลมหายใจสม่ำเสมอราวกับหลับไปเท่านั้น เมื่อถึงเวลาเช้าก็จะตื่นขึ้นมา
“หวั่นโหรว…” ผู้อาวุโสสามอ้าปาก
“นางถูกธนูยิง อาการวิกฤต ราชาพ่อมดช่วยนางไว้” ต๋าหว่าเล่าตามความจริง
“อา…” ผู้อาวุโสสามตะกุกตะกัก
ท่าทีไม่อยากเชื่อของเขาทำให้ต๋าหว่าเข้าใจผิด ว่าเขากำลังสงสัยว่าตนกำลังโกหก ต๋าหว่ารีบร้อนอธิบาย “ท่าน…ท่านคงไม่คิดว่าพวกข้าจะทำร้ายหวั่นโหรวกระมัง? พวกข้าไม่ได้ทำนะ! ไม่ได้ทำจริงๆ!”
ผู้อาวุโสสามเหลือบมองเขาด้วยสายตาล้ำลึก “ข้ารู้ว่าไม่ใช่พวกเจ้า”
ต๋าหว่าเป็นคนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อเป้าหมายหรือไม่ เขาไม่รู้ แต่ต๋าหว่าโปรดปรานบุตรีของเขาเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นยามอยู่ที่จวนเนี่ยคงไม่ตามติดนางเป็นหาง และยิ่งไม่มีทางเอ่ยปากห้ามหน่วยกล้าตายคนนั้นที่กำลังจะฆ่าเขา
เช่นนี้เขาจะฆ่าหวั่นโหรวได้อย่างไร?
ผู้อาวุโสใหญ่คิดว่าตนปั่นหัวเขาสำเร็จ แต่หารู้ไม่ว่าการแต่งเรื่องราวมั่วซั่วนั่นต่างหากที่เปิดเผยช่องโหว่และความทะเยอทะยานของตัวเขาเอง
“ชีพจรของนางดับไปในที่เกิดเหตุแล้ว เป็นราชาพ่อมดที่ปลุกชีวิตให้นาง ข้าคิดว่าราชาพ่อมดเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส” ต๋าหว่าเอ่ยเสียงเบา
ราชาพ่อมดต้องการเปลี่ยนชะตาโจวจิ่น สูญเสียพลังเวทไปมาก ทั้งยังฟื้นคืนชีพให้ฮูหยินรองอีก แม้ปากเขาไม่เอ่ย ทว่าทุกคนก็รู้ดีว่าเขาต้องใช้ความพยายามไปไม่น้อยเป็นแน่
ผู้อาวุโสสามตรวจดูอาการบาดเจ็บของบุตรี การบาดเจ็บตรงนั้นอาจทำให้นางตายคาที่ นอกจากราชาพ่อมดแล้ว ไม่มีผู้ใดที่สามารถช่วยนางได้
คนที่เขาสนับสนุนและติดตามมาตลอดหลายปี ลับหลังกลับยิงเกาทัณฑ์ลอบทำร้ายเขาเพื่อประโยชน์ของตนเพียงผู้เดียว ส่วนคนที่เขาเป็นหนี้ตลอดมากลับช่วยชีวิตบุตรีอันมีค่าของเขาไว้ในยามวิกฤติ
ผู้อาวุโสสามสูดหายใจ รู้สึกว่าชีวิตตนที่ผ่านมาหลายปีช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี!
ต๋าหว่ามองผู้อาวุโสสามอย่างหวาดระแวง “ท่าน…ท่านอย่ากังวลไปเลย ข้าเชื่อว่าสักวันหนึ่งหวั่นโหรวจะตื่นขึ้นมา”
เมื่อมองดูบุตรีที่ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ ผู้อาวุโสสามก็ปวดใจ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันบีบกำปั้นแน่น “หลายปีที่ผ่านมาข้าคอยติดตามปรนนิบัติพวกเขา จัดการเรื่องวุ่นวายไม่รู้กี่ครั้ง ทำเรื่องไร้ปรานีไม่รู้กี่หน! สุดท้ายพวกเขาก็ตอบแทนข้าเช่นนี้! ดี ดี ดีมาก! พวกเขาทำหนหนึ่ง ก็อย่าโทษที่ข้าทำถึงสิบห้า!”
……………………