หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] - บทที่ 534 เสี่ยวเป่าไร้พ่าย!
ราชาพ่อมดพาราชาศักดิ์สิทธิ์ไปที่ป่านอกเมือง เจียงจวินแบกทั้งสองควบเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว แม้ไม่พบกันนานหลายปี ทว่าความเข้าใจระหว่างคนกับม้ากลับไม่ลดน้อยลงเลย ราชาพ่อมดไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งแล้ว เจียงจวินก็พาทั้งสองไปยังกระท่อมเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในป่า
หากมองดีๆ จะพบว่ามีสวนดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในรั้วของกระท่อมเล็กๆ แห่งนี้ แต่เพราะถูกละเลย ดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่นี่จึงไม่งดงามนัก
ราชาพ่อมดพลิกตัวลงจากหลังม้า อุ้มราชาศักดิ์สิทธิ์ลงมาอย่างระมัดระวัง
ทันทีที่อุ้มราชาศักดิ์สิทธิ์เดินผ่านแปลงดอกไม้เล็กๆ ดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่โรยราคล้ายกับได้รับพลังชีวิตที่สดใส เพียงชั่วพริบตาก็เบ่งบานสะพรั่ง
เจียงจวินส่งเสียงร้องสองสามที ก้มลงแทะเล็มใบหญ้าสองสามคำ จากนั้นก็ค่อยๆ เดินข้ามสวนดอกไม้เล็กๆ ไปที่ทางเดิน ใช้หัวเปิดประตูที่เต็มไปด้วยฝุ่นปกคลุม
เศษฝุ่นตกใส่ราชาพ่อมด ทว่าเขากลับไม่ได้สนใจ เพียงกอดคนในอ้อมแขนไว้แน่น ไม่ให้โดนฝุ่นแม้เพียงน้อยนิด
ที่แห่งนี้ไม่มีคนอยู่มานาน ร้างไปนานแล้ว ราชาพ่อมดวางราชาศักดิ์สิทธิ์กลับบนหลังม้า และเริ่มลงมือทำความสะอาดจนร่างกายเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ยากที่จะจินตนาการว่าราชาพ่อมดผู้สูงส่งจะลดตัวลงมาทำสิ่งที่เป็นหน้าที่ของข้ารับใช้
อย่างไรเขาก็เป็นราชาที่ใช้ชีวิตมาอย่างสุขสบาย ในช่วงหลายปีที่ถูกคุมขังก็ไม่ได้ออกแรงทำงานหนัก ทำความสะอาดได้ครึ่งวันก็แทบไม่ไหว ราชาพ่อมดวางราชาศักดิ์สิทธิ์ลงกับเตียง
เนื่องจากอาการชักนานเกินไป ราชาศักดิ์สิทธิ์จึงอ่อนแออย่างยิ่ง ใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือด
ราชาพ่อมดมองใบหน้าที่กำลังหลับใหลของนางอย่างอ่อนโยน พลันยิ้มออกมาจางๆ อาเยียน เจ้านอนไปพักก่อนนะ ข้าจะไปหาของกินสักหน่อย
ราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่ตอบสนอง
ราชาพ่อมดลูบจอนผมของนาง และลุกขึ้นเดินออกจากประตู
เดินไปได้เพียงสองก้าว ราชาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนเตียงก็ลืมตาโพลง
ราชาศักดิ์สิทธิ์หันมองราชาพ่อมด ดวงตาฉายแววดุร้าย กางกรงเล็บพุ่งออกไปคว้าด้านหลังของราชาพ่อมดอย่างดุดัน
จุดที่นางมุ่งหมายคือหัวใจของราชาพ่อมด เห็นได้ชัดว่าหมายจะควักหัวใจของราชาพ่อมดออกมาทั้งเป็น
ราชาพ่อมดรู้สึกถึงไอสังหารเฉียบพลัน หันกลับมาด้วยแววตาจริงจัง พลังเวทรุนแรงหลั่งไหลออกมาราวกับโล่แสงที่มองไม่เห็น ไม่เพียงแต่ป้องกันการลอบโจมตีของราชาศักดิ์สิทธิ์ ยังทำให้ราชาศักดิ์สิทธิ์กระเด็นออกไปอย่างไร้ความปรานี
ราชาศักดิ์สิทธิ์กรีดร้องทรุดลงกับเตียงแข็ง
รัศมีของราชาพ่อมดแผ่กว้าง เขามองราชาศักดิ์สิทธิ์ด้วยใบหน้าเย็นชา อย่าคิดว่าเช่นนี้ก็จะควบคุมอาเยียนได้ ข้าจะกำจัดเจ้าออกจากจิตใจของอาเยียน! เจ้าจะไม่ได้ทำเรื่องชั่วร้ายอีก!
พูดจบ ดวงตาทั้งสองของเขาก็กลายเป็นสีทอง
เขาจ้องเข้าไปในดวงตาของราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่กะพริบ พลังเวททรงพลังกดดันพุ่งเข้าไป ราชาศักดิ์สิทธิ์ต่อต้าน แต่กลับพบว่าพลังของตนคล้ายกับถูกสะกดโดยพลังที่มองไม่เห็น
หลัวช่าวิญญาณชำนาญการโจมตีทางจิต มีหรือราชาพ่อมดจะไม่ใช่? ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใดจะชำนาญกว่ากัน
ราชาศักดิ์สิทธิ์กรีดร้องและสลบไป
ราชาพ่อมดทอดถอนใจด้วยความโล่งอก ใช้มือข้างหนึ่งค้ำบานประตู ร่างกายอ่อนแรงแทบทรุดลงกับพื้น
หลัวช่าวิญญาณนั้นยากจะรับมือ หากวันนี้มันไม่มีอาการผิดปกติก็อาจไม่มีช่องโหว่ให้เขาได้ใช้ประโยชน์
ราชาพ่อมดตั้งสติ ลากร่างอันทรุดโทรมไปนั่งที่ขอบเตียง กอดราชาศักดิ์สิทธิ์ไว้ในอ้อมแขน ใช้พลังเวทหล่อเลี้ยงพลังปราณของราชาศักดิ์สิทธิ์
พลังเวทของเขาสูญเสียไปมาก ยากจะสัมผัสความคิดของหลัวช่าวิญญาณ แต่จิตวิญญาณของอาเยียนแข็งแกร่งมากพอ เช่นนั้นจึงสามารถร่วมมือกันจัดการกับหลัวช่าวิญญาณได้
ราชาพ่อมดรักษาบาดแผลให้ราชาศักดิ์สิทธิ์อยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ขี่เจียงจวินไปซื้อวัตถุดิบที่ตลาด แล้วกลับกระท่อมเล็กมาทำอาหาร เมื่อทำเสร็จกลับไปที่ห้อง ก็พบว่าราชาศักดิ์สิทธิ์ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ไม่มีแววตาดุร้ายรุนแรงอีกต่อไป มีเพียงดวงตาโง่เขลาไร้เดียงสา
ราชาพ่อมดใจเต้นสั่น อาเยียน! นั่นเจ้าหรือ?
ข้าเอง ราชาศักดิ์สิทธิ์กล่าวอย่างอ่อนแรง
ดวงตาของราชาพ่อมดเป็นประกาย มองนางแล้วพูดด้วยความตื่นเต้น ข้ารู้อยู่แล้วว่าเป็นเจ้า…เจ้ากลับมาแล้ว…ในที่สุดเจ้าก็กลับมา…
การหล่อเลี้ยงพลังของราชาพ่อมดทำให้ราชาศักดิ์สิทธิ์รู้สึกดีขึ้นมาก ไม่รู้เพราะความรู้สึกที่กินยาผิดค่อยๆ จางหายไปจากร่างกายหรือไม่ ขอเพียงปรับพลังภายในต่อไป ก็น่าจะไม่เกิดอาการชักขึ้นมาอีก
ราชาพ่อมดยิ้ม เจ้าจำได้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ใด? สวนดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์นอกเรือนนั้นเจ้าเป็นคนปลูกเองกับมือ หลังจิ่นเอ๋อร์เกิดมาก็อาศัยอยู่ที่นี่ ทว่า เมื่อเขาอายุได้สองขวบก็ถูกคนพบ ข้าไม่มีทางเลือกจึงจำต้องส่งเขาไปที่อื่น
ราชาศักดิ์สิทธิ์มองดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์ในเรือน ดวงตาลึกล้ำ
เจ้ารดน้ำมันด้วยเลือด ราชาพ่อมดอธิบาย เมื่อนึกขึ้นได้จึงกล่าวว่า พูดมานาน เจ้าคงหิวแล้ว ดูความจำข้าสิ สนใจแต่จะคุยกับเจ้า ลืมไปว่าหม้อยังอุ่นอาหารอยู่ เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะไปนำอาหารมา!
ราชาพ่อมดลุกขึ้นไปหยิบอาหาร
เห็นเงาหลังของเขาเดินออกจากประตู สีหน้าราชาศักดิ์สิทธิ์ก็อึมครึมลงทันใด นางยื่นมือออกไป จะตบฝ่ามือใส่ราชาพ่อมด แต่สิ่งที่นางไม่คาดคิดคือ ความรู้สึกที่ถูกบางอย่างตรึงไว้กลับมาอีกครั้ง
ราชาศักดิ์สิทธิ์มองมือของตน จากนั้นก็มองราชาพ่อมดที่กำลังเดินออกไปและฮึดฮัดอย่างเย็นชา ตายไปแล้วยังอยากปกป้องชายผู้นั้น ช่างงมงายในความรักนัก!
หลัวช่าวิญญาณไม่นึกว่าสตรีผู้นี้จะจำกัดร่างกายของตน ไม่ให้ตนทำอะไรราชาพ่อมดได้ ทว่าการจำกัดนี้ไม่อาจหยุดหลัวช่าวิญญาณได้นานนัก หากมันกลืนกินยอดฝีมืออีกสองสามคนก็จะสามารถทลายออกจากการจำกัดได้
ข้าจะไว้ชีวิตคนรักของเจ้าไปก่อน รอข้าสังหารโจวจิ่นบุตรชายของเจ้าแล้ว จะส่งเขาไปอยู่กับเจ้า!
ราชาพ่อมดกลับมาที่ห้องพร้อมกับอาหาร อาเยียน อาหารมาแล้ว เอ๋? อาเยียนละ?
ยามพลบค่ำ ไฟจากตะเกียงดวงแรกส่องสว่าง สตรีสง่างามในชุดสีม่วงเดินสบายๆ ไปตามถนนทอดยาวไม่สิ้นสุด
นางสวมผ้าคลุมหน้าสีม่วงโปร่งแสง ดวงตามีเสน่ห์น่าหลงใหลคู่หนึ่ง สันจมูกโด่งสูงทำให้ผ้าคลุมหน้าเผยอออก เผยให้เห็นดวงหน้าดุจหยกและมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
สตรีผู้งดงามราวกับเทพธิดาปรากฏตัวขึ้นท่ามใจกลางเมืองที่พลุกพล่าน ทุกคนต่างตกตะลึง ไม่ว่านางไปที่ใด กระทั่งเสียงวุ่นวายเจื้อยแจ้วก็เงียบลง เด็กน้อยก็หยุดร้องไห้ ทุกคนต่างมองนางด้วยดวงตาเบิกกว้าง
นางเดินผ่านฝูงชนราวกับไม่ได้สนใจสายตาตกตะลึงเหล่านั้น เด็กชายคนหนึ่งมองนางอย่างเลื่อนลอย นางยกมือขึ้นลูบศีรษะเด็กคนนั้นเบาๆ
หลังจากนางเดินจากไปด้วยรอยยิ้ม จู่ๆ เด็กคนนั้นก็ดวงตาล่องลอย ขดอยู่ในอ้อมแขนของมารดา
สตรีผู้นั้นกรีดร้องด้วยความตกใจ ลูกแม่—
ราชาศักดิ์สิทธิ์เดินเข้าไปในตรอกแคบๆ โดยไม่หันกลับมามอง ทว่าเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ถูกบุรุษสูงใหญ่ขี้เมาสองสามคนขวางทาง
บุรุษซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มมองนางอย่างเมามาย ร่องรอยความหื่นกระหายฉายผ่านดวงตา ลูบมือแล้วกล่าวว่า แม่นาง ดึกดื่นเช่นนี้จะไปที่ใด? ให้พวกพี่ไปส่งดีกว่า…
ราชาศักดิ์สิทธิ์ยกมือขึ้น ซ่อนใบหน้ายิ้ม
…
ราชาศักดิ์สิทธิ์เดินออกมาจากตรอก
แสงจันทร์สีเงินส่องกระทบด้านหลังนาง ลึกเข้าไปในตรอกแคบ ชายขี้เมาเหล่านั้นนอนแผ่กระจัดกระจายบนพื้น ดวงตาเหม่อลอยราวกับถูกดูดวิญญาณไปจนหมดสิ้น
ราชาศักดิ์สิทธิ์หลับตา พยายามสัมผัสพลังปราณของโจวจิ่น
ยามนี้นางมีร่างของราชาศักดิ์สิทธิ์แล้ว มารดาบุตรเชื่อมโยงหัวใจ เช่นนั้นนางก็สามารถหาโจวจิ่นพบอย่างแน่นอน
ราชาศักดิ์สิทธิ์มองไปยังตรอกทิศตะวันออกและเอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆ อา ที่แท้ก็มาหลบอยู่นี่
ราชาศักดิ์สิทธิ์เยื้องย่างอย่างสง่าผ่าเผย ชุดสตรีโบราณพลิ้วไหว งามดุจปีศาจสาวในภาพวาด
นางมาถึงลานบ้านที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นสุรา และเคาะประตูด้วยรอยยิ้ม
ชุยเฒ่ากำลังตากสมุนไพรอยู่ในสวน เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูจึงตะโกนว่า ผู้ใดน่ะ?
ไม่มีเสียงผู้ใดตอบกลับมา
มาเอาสุราหรือ? จริงๆ เชียว! ไม่เอ่ยอันใดมาสักคำ! ชุยเฒ่าวางที่ตักผงลง หยิบผ้าแห้งบนชั้นมาเช็ดมือ บ่นพึมพำไปพลาง ถอดสลักเปิดประตูไปพลาง
เจ้าคือ——
ชุยเฒ่ายังไม่ทันเอ่ยจบ ดวงตาก็เบิกค้าง ร่างกายล้มตึง
ราชาศักดิ์สิทธิ์เดินผ่านเขาไปจนมาถึงทางเดิน
อาม่าได้ยินการเคลื่อนไหวในลาน อยากออกไปดูให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่แม้แต่มองเขา อาม่าก็ล้มลงทันที
ผู้ใดน่ะ!? โจวอวี่เยี่ยนรีบวิ่งออกมาจากห้อง
ราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่มองนางเช่นกัน เพียงยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเฉยเมย แล้วโจวอวี่เยี่ยนก็ล้มลง
พ่อครัวเทพเป้าไปทำสุราที่ห้องเก็บสุราแล้ว ไข่ดำทั้งสามก็หลับอยู่ในห้อง อวี๋หวั่นไปทำอาหารเย็น เสียงน้ำมันทอดเนื้อหมูในกระทะดังฟู่ๆ จนเธอก็ไม่ได้ยินว่ามีคนมา
เธอยกหมูกรอบที่ทอดเสร็จแล้วขึ้นพักในหม้อ แล้วผัดกับน้ำปรุงรส พริกหยวก ขิงและอื่นๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง หอมหวนชวนให้คนน้ำลายสอ
อวี๋หวั่นวางหมูกรอบสีทองอร่ามหอมฉุยลงบนจาน ก่อนจะยกออกมา
ราชาศักดิ์สิทธิ์ชะงักก้าว พลันเลิกคิ้ว โอ้ ที่นี่ยังมีราชาศักดิ์สิทธิ์อยู่อีกคนนึงด้วย
เยี่ยนเสี่ยวซื่อ วัวแรกเกิดไม่กลัวเสือ พลังกดดันของราชาศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมา ราชาศักดิ์สิทธิ์ยกยิ้มมุมปาก ดวงตาขยับไหว ปัดพลังกดดันของราชาศักดิ์สิทธิ์น้อยกลับไป
เยี่ยนเสี่ยวซื่อยอมรับความพ่ายแพ้!
นอนกางแขนขา หลับตาแกล้งตาย!
ฮ่าๆๆ…
ราชาศักดิ์สิทธิ์เดินเข้าไปหาอวี๋หวั่น เมื่ออวี๋หวั่นเห็นนางก็ผงะไป เจ้าคือผู้ใด?
เอ๊ะ?
ราชาศักดิ์สิทธิ์ตื่นตะลึงเล็กน้อย ราวกับไม่นึกว่าแม่นางผู้นี้จะไม่ล้มลงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ นางเหลือบมองอวี๋หวั่นอย่างสนอกสนใจ จากนั้นก็ดีดนิ้ว
อวี๋หวั่นดวงตาล่องลอย ยามที่มองราชาศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ในดวงตาก็ปรากฏรอยยิ้มที่ซ่อนไม่มิด เยี่ยนจิ่วเฉา ท่านกลับมาแล้ว! ลองชิมอาหารที่ข้าทำเร็วเข้า!
ข้าจะชิมอาหารของเจ้าก่อน ต่อจากนั้นก็จะเป็นบุตรในท้องของเจ้า
มุมปากของราชาศักดิ์สิทธิ์เผยรอยยิ้มแฝงนัย เดินเข้าหาเธอช้าๆ หยิบหมูกรอบชิ้นอ้วนกัดเข้าปาก
วินาทีถัดมา ร่างของราชาศักดิ์สิทธิ์แข็งทื่อ!
บัดซบ!
นี่มันอะไรกัน? ไยรสชาติน่าอาเจียนเช่นนี้?!
ราชาศักดิ์สิทธิ์ยกมือเกาะผนัง สำลักหมดท่า แลบลิ้นตาเหลือก!
อ๊ากก!
เลวร้ายจนเกือบทำข้าตายแล้ว!!!
ราชาศักดิ์สิทธิ์หายตัวไปในพริบตา!
นางต้องการน้ำ เวลาเร่งด่วนเช่นนี้ก็ไม่รู้ว่าที่ใดมีน้ำ ประจวบเหมาะ มีเด็กอ้วนตัวน้อยคนหนึ่งยืนอยู่ตรงมุมห้อง เด็กน้อยยืนเท้าเปล่า ถือถ้วยน้ำอุ่นๆ ใบหนึ่งอยู่ในมือ
ราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่พูดพร่ำ รีบร้อนวิ่งเข้าไปคว้าถ้วยมายกดื่มอึกๆๆ!
เสี่ยวเป่า : อูย ปวดฉี่ แต่รอไปเข้าห้องน้ำไม่ไหวแล้ว หยิบถ้วยมาใช้ก่อนคงไม่เป็นไรกระมัง…ท่านแม่คงจะไม่ตีเขา…
แต่ว่า……
เอ๊ะ?
ผู้ใดฉกถ้วยของเขาไป?
เสี่ยวเป่าเงยหน้าขึ้นมองราชาศักดิ์สิทธิ์ด้วยสีหน้างุนงง
ราชาศักดิ์สิทธิ์ดื่มเสร็จก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ!
นางมองไปที่เสี่ยวเป่า มะ…เมื่อ…เมื่อครู่นี้คือสิ่งใด?
ฉี่ไง เสี่ยวเป่าพูด
……………………