หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก - ตอนที่ 236-2 ตัวน้อยผู้กล้าหาญทั้งสาม เผชิญหน้าและบดขยี้
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก
- ตอนที่ 236-2 ตัวน้อยผู้กล้าหาญทั้งสาม เผชิญหน้าและบดขยี้
ตอนที่ 236-2 ตัวน้อยผู้กล้าหาญทั้งสาม เผชิญหน้าและบดขยี้
วั่งซูพยักหน้า “ใช่แล้วๆ! ข้ามีบ้านบนเขาหลังหนึ่ง ที่บ้านท่านตาข้ามีหลังหนึ่ง ที่บ้านท่านพ่อข้าก็มีอีกหลังหนึ่ง! บ้านของท่านพ่อข้าใหญ่ที่สุด! บ้านท่านพ่อข้ามีตั้งสี่หลัง! อืม… บ้านพวกเรา บ้านท่านปู่รองท่านย่ารอง บ้านกูหน่ายนาย บ้านท่านปู่สามท่านย่าสาม ท่านปู่สามท่านย่าสามไม่อยู่ ข้าไม่เคยไปที่บ้านพวกเขา บ้านอื่นข้าเคยไปมาหมดแล้ว!”
สี่เรือนกับสี่จวน วั่งซูแยกไม่ออก จึงเรียกทั้งหมดว่าเป็น “บ้าน”
นัยน์ตาเหอจั๋วมีแววเอ็นดูเผยออกมาโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองเด็กชายที่อยู่ข้างๆ “เจ้าคือ…”
จิ่งอวิ๋นตอบว่า “ข้าคือจิ่งอวิ๋น”
เหอจั๋วลูบศีรษะเขาเช่นกัน พลางพึมพำอย่างใช้ความคิดว่า “จิ่งอวิ๋น วั่งซู…” สายตามองไปยังสัตว์น้อยสามตัวที่อยู่ด้านข้าง “ต้าไป๋ เสี่ยวไป๋ จูเอ๋อร์” สุดท้ายเขาถึงได้หันไปมองเฉียวเจิง “จวนเอินปั๋ว นายท่านเฉียว”
เฉียวเจิงรู้สึกว่ายามเหอจั๋วเรียกชื่อตนคล้ายมีความขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในที ใจจึงเต้นระส่ำ
ไซน่าฮูหยิน “ใช่แล้วเหอจั๋ว พวกเขาต่างหากที่เป็นญาติที่แท้จริงของท่าน! คนพวกนั้นที่พักอยู่ในปราสาทเฮ่อหลันตอนนี้เป็นตัวปลอมทั้งสิ้น!”
สตรีนางนั้นเสียงโกรธขึ้ง “เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาว่าว่าพวกเราเป็นตัวปลอม เมื่อสามวันก่อนคนที่เจ้าพามามีเพียงสตรีที่ปลอมตัวเป็นข้าเพียงคนเดียว เจ้าคิดว่าแค่นางคนเดียวน่าจะหลอกได้สำเร็จ เจ้าไม่คาดคิดมาก่อนว่าข้าจะพาคนในครอบครัวข้ามาด้วย ดังนั้นเจ้าเลยรีบไปตามหาพวกเขามาเล่นละครเป็นคนในครอบครัวข้า ไซน่าฮูหยิน ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าถึงต้องทำเช่นนี้”
ไซน่าฮูหยินโกรธจัด “ถุย! ใครหาคนมาปลอมตัวกัน ทั้งๆ ที่พวกเขามาจากต้าเหลียงกันแท้ๆ!”
สตรีนางนั้นรุกไล่ต่อว่า “ในเมื่อมาจากต้าเหลียง เหตุใดคราก่อนถึงไม่มาปรากฏตัวเล่า”
ไซน่าฮูหยิน “คราก่อนข้าไม่รู้ว่าพวกเขามาที่นี่!”
สตรีนางนั้นทำสีหน้าตื่นตะลึงเหลือแสน “ท่านไม่รู้? หากกล่าวเช่นนี้ก็เท่ากับว่าท่านไม่ได้เป็นคนรับตัวพวกเขามา แต่พวกเขามากันเองงั้นสิ เช่นนี้ก็แปลกแล้ว ชนเผ่าถ่าน่าตั้งอยู่บนเกาะนิรนาม นอกจากจะมีคนบนเกาะนำทางแล้ว คนนอกไม่อาจขึ้นมาบนเกาะนิรนามได้!”
“เจ้า…” ไซน่าฮูหยินถูกพูดดักจนไปต่อไม่ถูก
สตรีนางนั้นหันกลับไปคาราวะเหอจั๋ว “ท่านตา คนกลุ่มนี้มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน คราก่อนเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสทั้งหลาย นางก็หมายใจจะเล่นงานข้า หากมิใช่เพราะข้ามาถึงก่อนพวกนางก้าวหนึ่ง เกรงว่าคงถูกกันออกไปแล้ว คราก่อนนางได้พบหน้าบิดา รวมถึงบุตรและสัตว์เลี้ยงของข้า ครานี้จึงตั้งใจปลอมตัวเลียนแบบมาเต็มที่”
ชิงเหยียนมีความคิดบางอย่าง จึงก้มลงกระซิบที่ข้างหูเหอจั๋ว สีหน้าเหอจั๋วเปลี่ยนไปเล็กน้อย “มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือ”
ชิงเหยียนพยักหน้า
ไซน่าฮูหยินถามว่า “พวกท่านกำลังพูดเรื่องอะไร”
ชิงเหยียนอธิบายว่า “เมื่อหลายวันก่อน ในตลาดมืดมีคนหาซื้อเด็กแฝดชายหญิงกับเพียงพอนหิมะในราคาที่สูงลิ่ว”
ไซน่าฮูหยินอึ้งไป “มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ”
สตรีนางนั้นเอ่ยเรียบๆ ว่า “ได้ยินว่าตกลงซื้อขายกันสำเร็จแล้ว มีบุรุษผู้หนึ่งไปหาเด็กแฝดชายหญิงกับเพียงพอนหิมะสองตัวมาจากไหนก็ไม่ทราบได้ ขายให้กับเถ้าแก่เนี้ยโรงสุราเล็กๆ ที่ในเมือง เถ้าแก่เนี้ยผู้นั้นตกลงขาย มีคนมารับตัวเด็กๆ ไป ไซน่าฮูหยิน ท่านคงไม่ใช่คนซื้อที่อยู่เบื้องหลังผู้นั้นหรอกกระมัง”
เฉียวเวยเคยได้ยินบุตรทั้งสองเล่าถึงเรื่องที่ว่าจริงๆ แต่เด็กทั้งสองบอกเพียงว่าท่านอาพาพวกเขาไปนั่งในโรงสุรา หลังจากนั้นท่านอาก็ออกไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมาพาพวกเขากลับบ้าน ระหว่างทางกลับบ้านพวกเขาถูกคนร้ายจับจ้อง โดนไล่ตามอยู่นานทีเดียว
หรือว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นอย่างที่เด็กๆ เล่า ที่อีตานั่นพาเด็กๆ ไปที่โรงสุรา เพราะคิดจะขายเด็กๆ ให้เถ้าแก่เนี้ยคนนั้น?!
ไซน่าฮูหยินหน้าบึ้งลง “เจ้าอย่าได้กล่าวซี้ซั้ว! ข้าจะซื้อเด็กมาได้อย่างไร”
สตรีนางนั้นถามกลับ “ท่านไม่ได้ซื้อ แล้วเด็กๆ ไปอยู่ในมือท่านได้อย่างไร”
ไซน่าฮูหยินถูกพาจูงจมูกไปเสียแล้ว “ข้า…”
เฉียวเวยตบหลังมือไซน่าฮูหยินเบาๆ เป็นการบอกให้นางใจเย็นก่อน จากนั้นจึงหันไปมองสตรีนางนั้นพร้อมยิ้มบางๆ “แล้วเจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร”
สตรีนางนั้นตอบอย่างได้ใจ “จะว่าไปก็ช่างพอดีอย่างประหลาด วันนั้นข้าไปรักษาชาวบ้านอยู่ในเมือง จุดที่ข้าอยู่ อยู่ไม่ไกลจากโรงสุราแห่งนั้น ข้าได้ยินเสียงวุ่นวายดังขึ้น จึงให้คนไปสอบถามดูว่าเกิดอะไรขึ้น สาวใช้กลับมารายงานข้าบอกว่าที่โรงสุราทำกิจการค้าเด็กแล้วถูกทหารตรวจพบเข้า ทหารจึงทุ่มกำลังจับตัวคนผู้นั้น ในใจข้านึกกังวล จึงไปฟังการซักถามของพวกเขาที่โรงสุราด้วย ถึงได้รู้ว่าที่แท้มีคนลอบหาซื้อเด็กแฝดชายหญิงกับเพียงพอนหิมะในราคาสูงลิ่ว หนำซ้ำวันนั้นยังมีการตกลงกันแล้วอีกด้วย ตอนนั้นข้าไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงสั่งให้ทหารประจำพื้นที่รีบตามหาตัวเด็กๆ กลับมา หากข้ารู้ว่าเป็นพวกเจ้าที่กำลังซื้อเด็ก ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องรีบมาบอกท่านตา!”
ไซน่าฮูหยินไม่รู้เลยว่าควรพูดอะไรต่อ จั๋วหม่าน้อยไปไหนมาไหน ปราสาทเฮ่อหลันมีจดบันทึกเอาไว้หมด นางบอกว่าตนไปในเมือง เชื่อว่าคงไปมาจริงๆ นางบอกว่าทหารท้องถิ่นมีการไต่สวนเถ้าแก่เนี้ยโรงสุรา คิดดูแล้วก็คงเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง เช่นนี้จะทำอย่างไร ทั้งๆ ที่เด็กทั้งสองเป็นตัวจริง แต่กลับกลายเป็นเด็กไปซื้อมาจากคนอื่น?
ไซน่าฮูหยินดึงแขนเสื้อเสี่ยเวย “เสี่ยวเวยเอ๋ย พวกเด็กๆ เคยถูกคนเอาไปขายมาก่อนจริงๆ หรือ”
เคยถูกเอาไปขายเกรงว่าคงจะเป็นเรื่องจริง ไอ้คนน่าโมโห อย่าให้นางจับได้เชียว!
เฉียวเวยข่มไฟโทสะในใจเอาไว้ นางหันไปมองสตรีนางนั้นทีหนึ่งแล้วเอ่ยอย่างไม่เดือดไม่ร้อนว่า “ท่านพ่อกับลูกๆ ของข้า ข้าเป็นคนให้คนอารักขามาส่งที่นี่เอง ก่อนข้าจะออกเดินทางมาได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว เพราะการเดินทางครั้งนี้ข้าไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรเลย จึงตั้งใจให้ท่านพ่อข้ากับพวกเด็กๆ เดินทางตามมาทีหลังหลายวันหน่อย เมื่อทำเช่นนี้หากข้าพบว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จะได้ให้พวกเขาเดินทางกลับจวนไปได้ทันกาล ส่วนเรื่องที่เจ้าบอกว่ามีการค้ามนุษย์ ค้าเด็กอะไรนั้น ข้าฟังไม่เข้าใจสักนิด”
ไซน่าฮูหยินรีบพูดว่า “ใช่ๆๆ! เป็นเช่นนี้เอง! เรื่องค้ามนุษย์เกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย เด็กในใต้หล้านี้มีออกถมไป หาที่ไหนมาขายสักสองคนก็ต้องเป็นหลานของจั๋วหม่าอย่างนั้นหรือ อีกอย่างพวกเจ้าถ่างตาดูให้ดีหน่อย เด็กคนนี้หน้าตาเหมือนเสี่ยวเวยเพียงใด! เหมือนชิงเอ๋อร์เพียงใด!”
นางจูงมือวั่งซูไป
วั่งซูกับเฉียวเวยยืนอยู่ด้วยกัน ช่างเหมือนแม่ลูกกันมากจริงๆ
สายตาเหอจั๋วเปลี่ยนเป็นซับซ้อนยิ่งนัก
สตรีนางนั้นกำหมัดแน่น “ท่านตา เรื่องรูปลักษณ์นั้นไม่อาจอธิบายอะไรได้ ในโลกหล้านี้คนหน้าตาเหมือนกันมีถมเถไป นางหน้าตาเหมือนกับข้า บุตรที่นางคลอดออกมาบังเอิญหน้าตาเหมือนนาง ส่วนบุตรของข้าแค่เพียงไปหน้าเหมือนบิดาของพวกเขาก็เท่านั้น หรือว่านี่จะเป็นเหตุผลให้พวกเขาเอาตัวปลอมมาอ้างเป็นตัวจริงได้ พวกเขาเอาแต่บอกว่าเป็นญาติของท่าน เช่นนั้นข้าขอถามที ในมือพวกเขามีของดูต่างหน้าของท่านแม่ข้าอยู่หรือไม่”
เฉียวเวยหันขวับไปมองเฉียวเจิง ของดูต่างหน้าเล่า
เฉียวเจิงเหงื่อแตกผลั่ก เขาไม่รู้เสียหน่อยว่าจะมาแสดงตัวกับชิงหลวน จะเอาของดูต่างหน้ามาด้วยได้อย่างไร
สตรีนางนั้นทำหน้าจริงจัง “ท่านตา ในเมื่อนางมาเพื่อแสดงตน เหตุใดแม้แต่ของดูต่างหน้าก็ยังไม่พกมาด้วย”
ไซน่าฮูหยินกัดฟันเอ่ยว่า “พวกเขาเอามาแล้ว แค่เพียงทำหายไป! ถูกเจ้านั่นแหละเก็บไป!”
สตรีนางนั้นทำหน้าตกใจ “ของสำคัญอย่างของดูต่างหน้าก็ทำหายได้หรือ”
ยามนั้นกระแสน้ำใต้ผิวน้ำรุนแรงจนน่าตกใจ อย่าว่าแต่ของดูต่างหน้าเลย คนไม่ถูกพัดหายไปก็ถือว่าบุญโขแล้ว
นังสารเลวอย่างเซวียหรงหรงนั่นคงรู้ลูกไม้ของไซน่าอิงเป็นอย่างดี รู้ว่าทางนั้นต้องมีกระแสน้ำแน่ ถึงได้ตั้งใจว่ายมาข้างนาง จากนั้นก็รอแค่ชั่วขณะที่มีน้ำพัดมา เก็บของดูต่างหน้าจากตัวนางไป มิน่าเล่าตอนนั้นที่นางวาดมือไปมั่วซั่วถึงคว้าเอาเสื้อของเซวียหรงหรงติดมือมาได้
ของดูต่างหน้ากับวั่งซูที่มีส่วนคล้ายเฮ่อหลันชิง ทุกคนไม่รู้ว่าควรเชื่อคำพูดของใครดี
สุดท้ายเหอจั๋วเรียกหาผู้อาวุโสหลายคนให้มาช่วยกันแยกแยะตัวจริงตัวปลอม
ผู้อาวุโสเหล่านี้ก็หนักใจกันยิ่งนัก เช่นนี้จะให้พิสูจน์อย่างไร ต่างฝ่ายต่างมากันพร้อมหน้า ทั้งยังมีเหตุผลเป็นของตัวเองกันทั้งสิ้น!
สุดท้ายเป็นผู้อาวุโสห้าที่กระแอมขึ้น พยายามหาทางออกเต็มที่ว่า “ในเมื่อ… พวกเจ้าล้วนบอกว่าตนเป็นคนในครอบครัวของจั๋วหม่า เช่นนั้นก็ลองบอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับจั๋วหม่ามาให้ทุกคนพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริงหรือหลอก!”
เมื่อพูดถึงว่าใครรู้จักจั๋วหม่าดี ก็ย่อมต้องเป็นสามีของนางอย่างเฉียวเจิงอย่างไม่ต้องสงสัย
นายท่านเฉียวทั้งสองคนถูกเรียกไปตรงหน้าผู้อาวุโสห้า เหอจั๋วกับสตรีนางนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้สีทองด้านข้าง
ไซน่าฮูหยินพาเด็กๆ ออกไปที่สวนดอกไม้ ส่วนเฉียวเวยก็ได้เก้าอี้นั่งกับเขาเช่นกัน
ผู้อาวุโสห้ายกมือขึ้น “เริ่มเลยเถิด”
เฉียวเจิง “ชิงหลวนเป็นแม่นางที่จิตใจงดงามยิ่งนัก นางชอบช่วยเหลือผู้คนมาตั้งแต่เล็กๆ ในปีที่นางอายุได้เจ็ดปี จู่ๆ ตำหนักธิดาเทพเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ นางหาญกล้าฝ่าเข้าไปอย่างไม่กลัวอันตราย ช่วยเหลืออดีตธิดาเทพออกมาจากตำหนักได้”
เฉียวเจิงตัวปลอม “ชิงเอ๋อร์นิสัยเสียมาตั้งแต่เล็ก ในปีที่นางอายุเจ็ดปีไม่ยอมตั้งใจเรียน แอบหนีออกจากปราสาทเฮ่อหลัน วางเพลิงที่ตำหนักธิดาเทพ หากไม่ได้อดีตธิดาเทพ นางคงทำไฟคลอกตัวเองตายไปแล้ว”
ผู้อาวุโสทั้งห้าพากันพยักหน้า จั๋วหม่าของพวกเขานิสัยเสียเช่นนี้จริงๆ!
เฉียวเจิง “ชิงหลวนชอบอ่านหนังสือ ตั้งแต่เล็กนางอ่านสี่หนังสือห้าตำราจนทะลุปรุโปร่ง เคารพอาจารย์อยู่ในทำนองคลองธรรม สามขวบรู้หนังสือ เจ็ดขวบเป็นวรยุทธ์ สิบขวบก็ได้เป็นเสินถงของหมู่บ้าน”
เฉียวเจิงตัวปลอม “ชิงเอ๋อร์เกลียดการอ่านหนังสือเป็นที่สุด ทำอาจารย์โกรธจนหนีไปทั้งหมดห้าสิบแปดคน เพื่อนร่วมเรียนสิบเจ็ดคน สี่ตำราห้าคัมภีร์ไม่มีเข้าหัว โคลงฉันท์กาพย์กลอนท่องไม่ได้สักบท”
ผู้อาวุโสทั้งห้าพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง จั๋วหม่าของพวกเขาไม่ตั้งใจเล่าเรียนเช่นนี้จริงๆ!
เฉียวเจิง “นางทำอาหารอร่อยมาก”
เฉียวเจิงตัวปลอม “ยากจะกลืนกิน”
เฉียวเจิง “วิชาการแพทย์นางสูงส่ง”
เฉียวเจิงตัวปลอม “วันๆ เอาแต่ลักขโมยยา”
เฉียวเจิง “นางเคารพกตัญญูต่อผู้อาวุโส”
เฉียวเจิงตัวปลอม “มักทำให้เหอจั๋วโกรธแทบตายอยู่เป็นประจำ”
สุดท้ายของสุดท้ายก็เป็นท่านพ่อเฉียวตัวปลอมที่เล่าเรื่องของจั๋วหม่าได้ถูกต้องที่สุด! สิ่งที่เฉียวเจิงพูดไม่ใช่จั๋วหม่าของพวกเขาเลยสักนิด! จั๋วหม่าของพวกเขาหากดีเลิศเพียงนั้นจริง ผู้ชายทั้งเกาะจะไม่กล้าแต่งนางเป็นภรรยาเลยได้อย่างไร เท่านี้ก็ซาบซึ้งใจมากแล้วที่มีคนต่างชนเผ่ายอมแต่งงานกับแม่ดาวเคราะห์น้อยผู้นี้
เฉียวเวยแทบอยากจะเป็นบ้า ท่านแม่หนอ ท่านแม่ของข้า ตอนท่านอยู่กับท่านพ่อข้า ยกยอตัวเองถึงเพียงไหนกันแน่! ท่านพ่อข้าก็อีกคน ท่านเห็นเพียงว่าแม่ข้ามีรูปโฉมที่เป็นเลิศเท่านั้นหรือ เหตุใดนางเป็นคนเช่นไรท่านถึงดูไม่ออกสักนิด!
…
ทางด้านนี้ท่านพ่อเฉียวสองคนกำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด อีกด้านหนึ่ง จิ่งอวิ๋นสองคน วั่งซูสองคน ต้าไป๋สองตัว เสี่ยวไป๋สองตัวกับจูเอ๋อร์สองตัวก็ไม่น้อยหน้า
ตัวน้อยทั้งห้าเผชิญหน้ากับตัวน้อยทั้งห้า จ้องตากันไปมา ในอากาศมีกระแสไฟฟ้าฟาดฟันกันไปมาอย่างดุเดือด
วั่งซูอุ้มเสี่ยวไป๋ มองเด็กน้อยที่อุ้มเจ้าไป๋ตัวหนึ่งอยู่ด้วยความอยากรู้แทบทนไม่ไหว “เจ้าก็มีเพียงพอนหรือ ข้าก็มี เพียงพอนของเจ้าอายุเท่าไร”
เด็กหญิงตอบว่า “หนึ่งขวบ”
วั่งซูเบิกตาโตด้วยความตกใจ “ของข้าก็เหมือนกัน! เพียงพอนของเจ้าว่าง่ายหรือไม่”
เด็กหญิง “ว่าง่ายสิ”
พวกนางสองคนเหมือนแม่มือใหม่ที่คุยกันว่าลูกอายุเท่าไรแล้ว ลูกสาวหรือว่าลูกชาย เลี้ยงง่ายหรือไม่
“เพียงพอนของเจ้าชื่ออะไรหรือ” วั่งซูถาม
เด็กหญิงตอบว่า “มันชื่อเสี่ยวไป๋ ตัวของพี่ชายข้าชื่อต้าไป๋”
เสี่ยวไป๋ต้าไป๋พลันหูตั้ง!
วั่งซูร้องว้าว “เหมือนกับพวกเราเลย! ของข้าก็ชื่อเสี่ยวไป๋ ของพี่ชายก็ชื่อต้าไป๋! บังเอิญจังเลยๆ! พวกเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ เจ้าชื่ออะไรล่ะ”
เด็กหญิงลูบเพียงพอนหิมะตัวน้อยในอ้อมแขน “ข้าชื่อวั่งซู”
วั่งซูอึ้งงัน “เหตุใดเจ้าก็ชื่อวั่งซูด้วย ข้าชื่อวั่งซูเหมือนกัน พี่ชายข้าชื่อจิ่งอวิ๋น!”
เด็กหญิงเอ่ยด้วยความตกใจ “พี่ชายข้าก็ชื่อจิ่งอวิ๋น!”
วั่งซูน้อยที่ไม่รู้ตัวสักนิดว่าตนถูกเลียนแบบรู้สึกยินดีอยู่เล็กน้อย “ว้าวๆๆ บังเอิญมากจริงๆ! พี่ชาย พวกเขาชื่อเดียวกับพวกเราหมดเลย!”
จิ่งอวิ๋นมองประเมินอีกฝ่ายทีหนึ่ง ไม่รู้เพราะเหตุใดถึงไม่ชอบให้มีคนชื่อเหมือนกับตนเอง ทั้งยังมีน้องสาวเหมือนกัน มีเจ้าไป๋สองตัวกับลิงเหมือนกันเสียอีก
เจ้าลิงน้อยก็ได้เผชิญหน้ากันเช่นกัน
จูเอ๋อร์ถือร่มคันน้อย เดินหมุนตัวรอบหนึ่งอย่างรักสวยรักงาม
เจ้าลิงน้อยก็เอาอย่างจูเอ๋อร์บ้าง เดินหมุนตัวอย่างรักสวยรักงามเช่นกัน
จูเอ๋อร์ไม่พอใจ กระทืบเท้า!
เจ้าลิงน้อยก็กระทืบเท้า!
จูเอ๋อร์เด็ดดอกไม้ เจ้าลิงน้อยก็เด็ดดอกไม้
จูเอ๋อร์เลยโกรธจนขนพอง หากยังเลียนแบบข้าอีก เดี๋ยวจะได้เห็นดีกันแล้วนะ!
เจ้าลิงน้อยก็โกรธจนขนพองบ้าง เลียนแบบจูเอ๋อร์เสียเหมือนทุกกระเบียดนิ้ว
ลิงน้อยจูเอ๋อร์พลันหน้าบึ้ง โยนร่มทิ้งแล้วโผเข้าใส่ลิงน้อยจนล้มลงกับพื้น!
เจ้าลิงน้อยตั้งตัวได้ในชั่วเวลาอันสั้น แต่จูเอ๋อร์เคยสู้กับนักฆ่า เคยหลบอาวุธลับ เคยลอบโจมตีชายในชุดดำมาก่อน ใช่ใครที่เจ้าลิงน้อยที่เอาแต่หลบอยู่ในห้องอุ่นๆ จะสู้ได้หรือ!
จูเอ๋อร์ขึ้นคร่อมบนตัวเจ้าลิงน้อย ยื่นมือเล็กสวยออกมา เพี๊ยะๆๆ ตบซ้ายตบขวา ต่อยขึ้น! ต่อยลง! เล่นงานจนเจ้าลิงน้อยตัวนั้นร้องโหยหวน!
เสี่ยวไป๋ตัวปลอมเห็นสหายถูกรังแกเลยกระโดดออกจากแขนเด็กหญิง กางกรงเล็บพุ่งไปทางจูเอ๋อร์!
ไอ้เจ้านี่ รังแกสหายรักของข้าหรือ
เสี่ยวไป๋เดือดดาล กระโดดลอยตัวขึ้นพุ่งใส่เสี่ยวไป๋ตัวปลอมจนล้มลง!
สหายถูกเล่นงานติดๆ กัน ต้าไป๋ตัวปลอมเริ่มนั่งไม่ติด จึงพุ่งเข้าไปจะช่วยด้วยอีกคนแต่กลับถูกเพียงพอนเมฆาที่ดุร้ายจัดการจนยับเยิน เรียกได้ว่าเป็นการบดขยี้ที่ไร้ซึ่งความปรานีโดยสิ้นเชิง!