หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 103
ตอนนี้นั้นเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน โรแลนด์นั้นกลมกลืนเข้าไปกับฝูงชนที่กําลังเดินทางกลับบ้าน จากที่ทํางานในย่านใจกลางเมืองนั้นเขามองไปทางตรอกซอกซอยเล็กๆและเลือกผ่านเข้าไปยังทางนั้น
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไปเขาก็ใช้เส้นทางลัดเพื่อไปยังละแวกบ้านของเขา
หากจินเหวินเหวินยังสามารถตามมาได้ละก็เขาคงต้องยกธงขาวแล้ว
ในช่วงบ่ายโรแลนด์นั้นอยู่ที่บ้านและอ่านฟอรั่มพร้อมพูดคุยกับเหล่าผู้เล่นนักเวทย์ที่แสนเพ้อเจ้อทั้งหลายในกลุ่ม เขานั้นตอบคําถามของพวกเขาบ้าง แต่ส่วนมากเขานั้นมักจะคุยโม้และร่วมวงเล่นมุกตลกกับพวกเขาเสียมากกว่า
มันเป็นช่วงบ่ายที่สนุกสนานและน่าประทับใจเลยทีเดียว
เงินโอนของฮอร์กกว่า 120,000 หยวนนั้นเข้ามาในบัญชีของเขาเรียบร้อยแล้ว เมื่อรวมกับยอดทิปล่าสุดที่เขาได้รับจากในฟอรั่ม เงินในบัญชีของโรแลนด์ในปัจจุบันนั้นก็เกือบๆ 400,000 หยวน เรียบร้อยแล้ว
นี่ขนาดพวกนักเวทย์ยังไม่ได้เริ่มจ่ายบรรณาการให้เขาเสียด้วยซ้ํา
ความฝันในการเก็บเงินล้านหยวนนั้นง่ายกว่าที่คิดมาก ยิ่งถ้าหากพวกนักเวทย์ทั้งหลายเริ่มจ่ายบรรณาการให้แก่เขามันก็จะยิ่งง่ายขึ้นไปอีก
เงินนั้นมาพร้อมกับความมั่นใจเสมอ ถึงแม้ว่าโรแลนด์ไม่ได้ทํางานและเอาแต่แชทอยู่บนอินเทอร์เน็ตอย่างไร้จุดหมาย ทว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือมีความกดดันใดๆ
ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้เกมจะปิดตัวลง เงินเกือบสี่แสนหยวนนั้นก็เพียงพอให้เขาใช้ชีวิตต่อไปได้อีกสักพักใหญ่ และถ้าหากเขานั้นไม่ต้องการเข้าบริษัทเพื่อไปทํางานเป็นแรงงานทาส เขานั้นก็สามารถไปเป็นบอร์ดี้การ์ดได้เพราะตอนนี้เขานั้นมีความสามารถทั้งทางด้านการชกมวยและเทคนิคเหมียวเต๋าเรียบร้อยแล้ว หรือบางทีเขาอาจจะได้เจอกับหญิงสาวผู้ร่ํารวยและขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิตก็เป็นไปได้
อืม…นั่นเป็นความฝันที่ดีใช้ได้
ในตอนกลางคืนหลังจากที่โรแลนด์อาบน้ําเสร็จ เขาก็เข้าไปในแคปซูลเสมือนจริง
เมื่อโลกแห่งความจริงกําลังจะเชื่อมต่อกับโลกแห่งเกม เขามักจะรู้สึกราวกับว่ามันไร้ซึ่งน้ําหนัก ตรงหน้าของเขานั้นราวกับมีทางเดินที่คดเคี้ยวไหลไปมาพร้อมกับริ้วแสง ราวกับว่าเขากําลังพุ่งผ่านเข้าไปยังรูหนอนประเภทหนึ่ง
โลกเบื้องหน้าของเขานั้นเป็นโลกสีขาวดํา ซึ่งวิเวียนและคนอื่นๆยังคงทําท่าทางเหมือนกับก่อนหน้า โรแลนด์นั้นไม่สามารถขยับตัวได้ เขาขยับศรีษะไม่ได้ด้วยซ้ํา
หลักจากนั้นไม่กี่นาทีโลกก็กลับกลายมามีสีสันดังเดิม วิเวียนและคนอื่นๆต่างเริ่มขยับตัวและเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง
พวกเขานั้นไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ําว่าพวกเขาถูกหยุดเวลามาถึง 16 ชั่วโมง
หลักจากสอนเหล่านักเวทย์ฝึกหัดอยู่พักหนึ่ง โรแลนด์ก็รีบไปยังห้องทดลองของเขาด้วยความกระตือรือร้น
เขาเปิดรูปแบบเวทย์ของความสามารถทางภาษาในหัวของเขา และหลักจากจ้องมองมันอย่างละเอียดกว่าร้อยจุดเวทย์ และเขาก็ตรวจสอบมันเข้ากับข้อมูลและผลลัพท์ของแต่ละจุดเวทย์
เขานั้นตั้งสมมุติฐานไว้ว่าผลลัพท์ที่สําเร็จของเวทย์มนตร์นั้นคือการร่ายเวทย์สําเร็จ เขาคาดว่า มันมีทั้งหมด 7 วิธี ที่จะเป็นตัวทําให้การร่ายเวทย์สําเร็จ เขานําข้อมูลจุดเวทย์ก่อนหน้าที่เขาบันทึกไว้ มาทดสอบเข้ากับวิธีแก้ปัญหาทั้งเจ็ด โดยใช้เหตุผลและกระบวนการตั้งแต่เริ่มของแต่ละตัวเป็นตัวตัดสิน และเริ่มทดสอบมันที่ละอย่าง
นี่น่าจะเป็นจุดเวทย์ที่เป็นตัวเชื่อม
ทว่าจุดเวทย์อันนี้นั้นกลับไม่ปรากฏอยู่ในรูปแบบโมเดลเวทย์ บางทีรูปแบบเวทย์แบบดั้งเดิมนั้น อาจจะไม่ได้มีจุดเวทย์ตัวนี้อยู่
โรแลนด์สูดหายในเข้าลึก ได้เวลาทดสอบสมมุติฐานของเขาแล้ว
เขาหลับตาลงจากนั้นจิตนึกคิดของเขาก็เริ่มเคลื่อนที่ไปตามจุดเวทย์อย่างระมัดระวัง
เมื่อคุณเพ่งมองเข้าไปยังแบบจําลองเวทย์เวทย์ คุณจะรู้สึกราวกับเห็นภาพลวงตาว่าเดินผ่าน ไปยังยังท่อขนาดใหญ่ซึ่งมีทางเลี้ยวไปยังทุกทิศทาง
นี่ถึงเป็นสาเหตุว่าทําไมถึงจําเป็นต้องมีแบบจําลองเวทย์เพื่อร่ายเวทย์
หากไม่มีการช่วยเหลือจากแบบจําลองเวทย์ มนุษย์นั้นก็จะหลงอยู่ภายในเขาวงกตแห่งพลังจิตเหล่านี้อย่างแน่นอน
จากนั้น เมื่อการร่ายเวทย์ล้มเหลวพลังจิตก็จะตีกลับไปยังผู้ร่าย
เมื่อถึงตอนนั้น หัวของพวกเขาก็จะระเบิดออก
โรแลนด์นั้นส่งพลังจิตของเขาไปยังจุดเวทย์ที่ถูกซ่อนอยู่อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็มองไปยังช่องทางที่อยู่ไม่ไกล ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า…เขาพบจุดเวทย์ที่ไม่รู้จักเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเขาสงบสติอารมณ์ลงได้ โรแลนด์จึงส่งพลังจิตของเขาเข้าไปอย่างช้าๆและหลังจากนั้นประมาณสองวินาที พลังจิตของเขาก็เชื่อมเข้ากับจุดเวทย์ที่ไม่รู้จักในแบบจําลองเวทย์ได้สําเร็จ
ทันทีที่เขาเชื่อมต่อกับจุดเวทย์นี้ได้สําเร็จ มันก็เกิดเป็นเส้นพลังเวทย์ที่เชื่อมต่อกัน จุดเวทย์นั้นเรืองแสงขึ้นเล็กน้อย เส้นเวทย์นั้นอยู่ตรงกลางของแบบจําลองเวทย์ราวกับว่ามันเชื้อเชิญให้โรแลนด์ถ่ายเทพลังเวทย์เข้าไป
โรแลนด์จําได้ว่าหนึ่งในแบบจําลองเวทย์ที่เขาได้รับจากการทดลองนั้น ก็ได้มาจากวิธีแบบนี้แสดงว่ามันน่าจะถูกต้อง
เขาส่งพลังเวทย์ไปยังจุดเวทย์ทั้งสองที่เชื่อมต่อกันเป็นเส้นจนมันเริ่มสว่างขึ้นมาทันที
จากนั้นก็มีแสงสีฟ้าวาบปรากฏขึ้นบนตัวโรแลนด์ และเขานั้นรู้สึกได้ทันทีว่าเขานั้นได้ร่ายเวทย์สําเร็จแล้ว
จากนั้นเขาก็เปิดหน้าอินเทอร์เฟซระบบขึ้นมาและพบว่ามีการแจ้งเตือนจากระบบอยู่ในค่าสถานะของเขา อย่างที่เขาคิดไว้มันเป็นเครื่องหมายตกใจ
โรแลนด์ใช้จิตของตัวเองคลิ้กเขาไป
ระบบนั้นแสดงให้เห็นออกมาว่า : ในฐานะของผู้คิดค้นเวทย์ที่ไม่เคยถูกบันทึกไว้มาก่อน ท่านมีสิทธิ์ในการตั้งชื่อมัน
เวทย์ที่ไม่เคยถูกค้นพบมาก่อนงั้นเหรอ?
โรแลนด์ตกตะลึกไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ตรงไปยังห้องสมุดในทันที และเปิดหนังสือหลากหลายเล่ม เขาพบว่าตัวเขานั้นสามารถอ่านภาษาของฮอลเลวิลได้
จากนั้นเขาก็วิ่งไปยังชั้นสาม ห่างไปชั้นหนึ่ง เขานั้นได้ยินเสียงสนทนาและเสียงพูดคุยของเหล่านักเวทย์ฝึกหัดที่อยู่ข้างล่าง
เขานั้นสามารถเข้าใจที่พวกเขาพูดได้โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ
มันได้ผลลัพทธ์ทั้งจากความสามารถทางภาษาและความสามารถทางอักขระเขาทําสําเร็จแล้ว!
โรแลนด์กําหมัดแน่นและแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ จากนั้นเขาก็สงบลงและเปิดอินเทอร์เฟซของระบบอีกครั้งเพื่อตั้งชื่อเวทย์
การสื่อสารที่ไร้พรมแดน
ทันทีที่ตั้งชื่อเสร็จการแจ้งเตือนของระบบก็ปรากฏขึ้นมาเป็นตัวอักษรสีแดงสด, ยาว ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่โรแลนด์เป็นอย่างมาก
การแจ้งเตือนจากระบบ : ผู้เล่นโรแลนด์ สมาชิกกิลด์ F6 ได้สร้างเวทย์ “การสื่อสารไร้ พรมแดน” ขึ้นมา โดยมีการประเมินเบื้องต้นไว้ว่าเป็นเวทมนตร์ประเภททํานายระดับสี่ ในฐานะผู้สร้าง ผู้เล่นโรแลนด์จะได้รับสิทธิพิเศษสําหรับเวทย์บทนี้ ความยากของเวทย์จะถูกลดให้เหลือเป็นระดับสองและใช้พลังจิตเพียงแค่ครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่น นอกจากนี้โรแลนด์จะได้รับความสามารถพิเศษขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง : ผู้เสาะหาเวทมนตร์
ผู้เสาะหาเวทมนตร์ : พลังจิตสูงสุด 450 , พลังชีวิตสูงสุด +10
เมื่อได้เห็นประกาศนี้ออกมาโรแลนด์ก็ทําได้เพียงแค่ตกตะลึง
จากนั้นช่องแชทกิลด์ของเขาก็ขึ้นแจ้งเตือนมาไม่หยุดหย่อน
ชัค : ขอคารวะ
เบทต้า : ขอคารวะ
บราซิล : ขอคารวะ
…
สมาชิกทั้งหมดต่างทําท่าทางเคารพโรแลนด์อย่างจริงจัง
ในตอนนี้นั้น F6 ยังคงเป็นเพียงกิลด์เดียวภายในเกม และถึงแม้ว่าปีกสีเงินจะได้รับข้อมูลมากมายจากโรแลนด์ ทว่าพวกเขานั้นก็ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาในการติดต่อกับบอร์ซัม
บอร์ซัมนั้นดูเหมือนว่าไม่อยากจะพบพวกเขา หรือกระทั่งพูดกับพวกเขา และไม่ต้อนรับพวกเขาเลย เนื่องจากพวกเขานั้นมีชนชั้นที่ต้อยต่ํา
โรแลนด์กลับไปยังห้องวิจัยของตัวเอง เขานอนเอนตัวครึ่งหนึ่งไปกับเก้าอี้ และหัวเราะขึ้นมาอย่างมีความสุข ในตอนนี้ภายในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
เขานั้นเคยเป็นเด็กหนุ่ม ไม่ว่าเขาจะมีท่าทีอย่างไร แต่เขานั้นก็ยังคงมีความเป็นเด็กอยู่
สร้างเวทย์แบบใหม่ขึ้นมาเป็นคนแรกและได้รับการประกาศไปทั่วเซิร์ฟเวอร์ เขาสามารถคุยโม้ถึงเรื่องนี้ได้จนกระทั่งเกมปิดตัวลง
ครึ่งชั่วโมงต่อมาโรแลนด์ก็ลุกขึ้นยืน
ตอนนี้การสื่อสารไร้พรมแดนก็สมบูรณ์แล้ว เวลาที่เหลือของเขาทั้งหมดก็จะถูกใช้ไปกับการพัฒนาเวทย์หุ่นเชิด
เขากลับไปยังห้องทดลองเวทย์และมีท่าที่ประหลาดใจทันทีที่สังเกตุเห็นอัลโด้เดินขึ้นมา
ในช่วงสิบวันที่แล้วที่พวกเขาได้เจอกันล่าสุด อัลโด้ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างดูซีดเซียวและเคราของเขาที่ยาวขึ้นมาก
พวกเขามองหน้ากันและกันอยู่ตรงหน้าห้องทดลองเวทย์
โรแลนด์มองไปที่เขา ก่อนจะมองสํารวจและพูดว่า “คุณต้องผิดหวังแน่ๆที่ฉันนั้นไม่ได้มีความขัดแย้งกับพวกสาขาใหญ่”