หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 107
ในตอนนี้นั้นโรแลนด์นั้นอยู่ในเลเวลสี่และเข้าใกล้เลเวลห้าแล้ว เขานั้นเข้าใจเป็นอย่างดีถึงการทํางานของค่าคุณสมบัติต่างๆ ดังนั้นเขาจึงมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นของตัวเอง
“ค่าสติปัญญานั้นเป็นตัวกําหนดค่ามานาสูงสุดรวมถึงพลังของเวทย์ มันเป็นค่าสถานะหลักของนักเวทย์ ดังนั้นการใส่แต้มทั้งหมดไปยังค่าสถานะนี้จึงเป็นเรื่องที่ดี ทว่าเกมนี้มันต่างออกไปและค่าสถานะอื่นๆก็ค่อนข้างสําคัญเช่นกัน ค่าความต้านทานจะเป็นตัวกําหนดค่าการฟื้นฟูมานา , ความสามารถในการควบคุมองค์ประกอบเวทย์ และ ต้านทานผลของการถูกพลังเวทย์ตีกลับ ส่วนค่าร่างกายก็เหมือนอย่างที่ทุกคนทราบมันแสดงถึงค่าพลังชีวิตสูงสุดและค่าความแข็งแกร่ง
“เมื่อเริ่มเลเวลเพิ่มขึ้น ความต้านทานของนักเวทย์ต่อการถูกพลังเวทย์ตีกลับก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ทว่านั่นมันก็เป็นเพียงแค่ผลลัพธ์ที่ได้มาจากความแข็งแกร่งและความแข็งแกร่งในจิตใจเท่านั้น ในเมื่อมันเป็นอย่างนั้น ทําไมเราไม่ลดขีดจํากัดของค่าสติปัญญาลงละ หากลดมันจาก 10 ไป 9 และกระจายแต้มที่เหลือทั้งหมด 3 แต้มไปยังค่าความต้านทานและด้านร่างกาย ด้วยการจัดสรรแบบให้มีค่าสติปัญญา 9 แต้ม และค่าความต้านทาน 7 แต้ม และ 7 แต้มในค่าร่างกาย ด้วยการแลกเปลี่ยนนี้จะทําให้เวทย์เบาลงกว่าสามารถควบคุมเวทมนตร์ได้ดียิ่งขึ้นและมีความสามารถในการเอาตัวรอด ด้วยวิธีนี้ไม่ว่าใครก็ตามจะได้ไม่ต้องจบลงด้วยการหัวระเบิดจากแรงสะท้อนของเวทมนตร์อีก
“และค่าร่างกาย 7 แต้มนั้น หลังจากได้เรียนรู้การต่อสู้ระยะประชิดและเวทย์เสริมพลังแล้ว ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นแกรนดราฟด์ (1) ได้เพื่อรับมือสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออํานวยต่อนักเวทย์”
ข้อความด้านบนนั้นเป็นใจความสําคัญในกระทู้ของโรแลนด์
ตั้งแต่ตอนที่เริ่มสร้างตัวละคร ค่าสถานะของผู้เล่นนั้นจะอยู่ที่ห้า และจะมีแต้มสถานะฟรีทั้งหมดสิบแต้ม
และเมื่อค่าสถานะนั้นๆเพิ่มขึ้น จํานวนแต้มที่ต้องใช้ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน เมื่อค่าสถานะจากหกไปเจ็ด มันจะใช้แต้มเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น แต่เมื่อแปดไปเก้านั้นมันต้องใช้แต้มถึงสองแต้มและเพื่อเพิ่มถึงสิบนั้นจําเป็นต้องใช้แต้มถึงสามแต้ม
ผู้เล่นนั้นมีค่าเติบโตสูงสุดที่สิบ
หากต้องการเพิ่มค่าสถานะให้เต็มสิบนั้นมันจําเป็นต้องใช้แต้มถึงเก้าแต้ม และแต้มที่เหลือนั้นจะเอาไปเพิ่มที่ไหนก็ได้ โรแลนด์นั้นเพิ่มมันไว้ยังค่าต้านทาน
ค่าสถานะการเติบโตของเขานั้นคือ ร่างกาย 5 แต้ม , ความคล่องตัว 5 แต้ม , ค่าสติปัญญา 10 แต้ม .ค่าความต้านทาน 10 แต้ม และค่าเสน่ห์ 5 แต้ม
โรแลนด์นั้นควบคุมเวทย์ได้ดีกว่าคนทั่วไปมากเพราะพรสวรรค์พิเศษของเขาการควบคุมเวทย์เขานั้นยังมีอัตราการเติบโตของค่าความต้านทานถึง 6 แต้ม ดังนั้นผลลัพธ์มันก็ค่อนข้างชัดเจน เขานั้นค่อนข้างแข็งแกร่งในด้านการทําลายและการควบคุมเวทย์
ทว่าหากผู้เล่นคนอื่นต้องการทําเช่นเดียวแบบเขาละก็ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นพวกเขานั้นทําได้เพียงแค่หาหนทางในการจัดสรรค์ค่าสถานะ โดยมีค่าความต้านทานสูงขึ้นและมีค่าร่างกายสูงขึ้นเพื่อต่อสู้กับการตีกลับของพลังเวทย์
นี่เป็นกลยุทธ์ที่โรแลนด์จะใช้ตอบโต้กับเกมในเวอร์ชั่นปัจจุบัน
หลังการกระทู้ของเขาถูกโพสต์ออกไป มันก็มีนักเวทย์มากมายมาคอมเม้นต์ในทันที
“ฉันจะเข้าเกมและไปของดูว่าความกระตือรือร้นขององค์ประกอบเวทย์นั้นส่งผลต่อพวกเราขนาดไหนก่อน หากมันเกิดร่ายเวทย์ยากขึ้นอีก ฉันจะลบบัญชีแล้วของจัดเรียงค่าสถานะตามที่โรแลนด์บอกดู”
“ฉันขี้เกียจที่จะติดอยู่กับที่อย่างนี้อีกต่อไปแล้ว วันนี้หลังจากได้ออนไลน์ ฉันจะรีบไปลบบัญชี แล้วไปเล่นเป็นนักรบแทน”
“พี่ชาย นายเห็นเหรอว่านักรบถูกเนิร์ฟ?”
“มันก็ยังดีกว่าเล่นนักเวทย์อยู่แล้วน่า”
โรแลนด์ถอนหายใจออกมาเบาๆ เขานั้นพยายามมากแล้ว
เขานั้นทั้งอัปโหลดแบบจําลองเวทย์และค้นหาวิธีต่างๆให้นักเวทย์นั้นสามารถเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น
นี่มันถึงขีดสุดแล้วที่เขาสามารถทําได้ในตอนนี้ อย่างไรก็ตามเขานั้นก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ไม่ใช่อัจฉริยะหรือคนที่น่ายอดเยี่ยมแต่อย่างใด เขานั้นไม่สามารถทําอะไรเพื่อเปลี่ยนกระแสนี้ได้
เขาปิดคอมพิวเตอร์และขี่จักรยานสาธารณะไปยังสโมสรดาบ
เพราะตอนนี้เขานั้นอารมณ์ไม่ดีนัก เขาจึงขาดแรงจูงใจในการเรียน และนั้นก็ทําพลาดอย่างต่อเนื่องขณะฝึกซ้อม ฉีเฉาชู่ส่ายหัวแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ทุกคนต่างมีวันที่ไม่ดีกันทั้งนั้น
ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ซีฉาผู้ซึ่งมักจะคอยเข้าใกล้อยู่ตลอดเวลากลับมีท่าที่ต้องการทําอะไรสักอย่างแต่ก็มีท่าทีที่ดูลังเล
ทว่าโรแลนด์ก็ไม่ได้สังเกตุถึงมัน
ในระหว่างทางกลับบ้านจากสโมสรดาบ โรแลนด์นั้นก็ได้ขี่อ้อม โดยจงใจไปยังทิศทางตรงกันข้ามแล้ววนเข้าซอยจากนั้นก็กลับบ้านอย่างช้าๆ
เหตุผลหลักที่ต้องทําแบบนี้ก็เพื่อป้องกันการถูกติดตามจากจินเหวินเหวิน
เมื่อถึงเวลาโรแลนด์ก็กลับเข้าสู่โลกแห่งเกมในเวลาเดิม
โลกขาวดํานั้นอยู่เพียงไม่กี่สิบวิ ก่อนที่รอบข้างจะกลับมาดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
โรแลนด์เปิดหน้าต่างระบบ และเหมือนที่เขาคิด เขาพบไอคอนวงกลมสีฟ้าซึ่งมีเมฆสีขาวอยู่ตรงมุมขวาล่าง นี่เป็นเบราว์เซอร์ของเพนกวินคอโปเรชั่น
เมื่อคลิกเขาไป โรแลนด์ก็สุ่มเข้าไปในเว็บไซค์เพื่อทดสอบความเร็วในการเชื่อมต่อ เขาพบว่าความเร็วในการตอบสนองของเครือข่ายนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก มันแทบจะเปิดขึ้นมาทันทีหลังจากที่เขาคลิกมันไป
วีดีโอนั้นเกือบจะบัฟเฟอร์เสร็จในทันที (2)
โรแลนด์นั้นเปิดเข้าไปยังฟอรั่มของเกมและพบว่าโฆษณาการไลฟ์สดของฟานลิ่วยี่นั้นถูกปักหมุดไว้อยู่บนสุดของกระทู้
เมื่อโรแลนด์ลองคลิกเข้าไปดู เขาก็เห็นสาวสวย , ตาสีฟ้า ผมสีบรอนด์กําลังร่ายรําอยู่ในชุดที่ดูยั่วยวนอยู่ภายในห้องที่เหมือนโรงเตี๊ยม
มีผู้ชายอยู่โดยรอบเป็นจํานวนมาก เมื่อตัดสินจากอาการของพวกเขา เกือบครึ่งนั้นเป็นผู้เล่นและที่เหลือนั้นเป็น NPC ทั้งหมด
รูปร่างหน้าของนักเต้นสาวนั้นมีความคล้ายฟานลิ่วยี่ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
เธอสร้างตัวละครขึ้นมาตามหน้าตาขอเธอจริงๆงั้นเหรอ?
ต๊อก ต๊อก!
โรแลนด์เดาะลิ้นออกมา แต่ทันใดนั้นสายตาของเขาก็ไปเห็นสิ่งหนึ่ง สายตาของเขานั้นถูกดึงดูดไปโดยผู้เล่นชายหลายคนที่อยู่เบื้องหลังนักเต้น
ผู้เล่นชายเหล่านี้ … กล้ามเนื้อที่มีรอยนูนของพวกเขาเหมือนกับหนอนตัวยาวที่เกาะแขนของพวกเขาและร่างกายของพวกเขาก็ใหญ่โตขึ้นมากและดูผิดปกติเป็นอย่างมากเดี๋ยวก่อนนะ!
ไม่ใช่ว่ามันมีตัวเลือกสําหรับสภาพร่างกายของนักรบไม่ใช่เหรอ?
มันควรจะเป็นกล้ามเนื้อที่สวยงามและได้สัดส่วน โดยสามารถแต่งตัวให้ดูผอมได้ แต่เมื่อถอดเสื้อผ้าออกก็จะเต็มไปด้วยมัดกล้ามไม่ใช่เหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้นการแสดงออกของผู้เล่นเหล่านี้มีความเศร้าโศกราวกับว่าพวกเขาสูญเสียพ่อแม่ไป ความหดหู่ของพวกเขามากพอที่จะทะลุเกณฑ์ได้ พวกเขานั้นไม่ได้ต้องการมองไปที่ฟานลิ่วยี่ด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกันสายตาของพวกเขาดูเหมือนจะจับจ้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง
พวกเขาดูเหมือนว่ากําลังอ่านฟอรั่มอยู่?
โรแลนด์เปิดฟอรั่มของเกมขึ้นมาในทันทีและพบว่าในฟอรั่มนั้นเต็มไปด้วยโพสต์ราวกับจะระเบิดออก
โรแลนด์นั้นลองเปิดดูกระทู้ที่ได้รับความนิยมและหลังจากอ่านพวกมัน เขานั้นก็อดไม่ได้ที่จะล้มลงไปหัวเราะและเอากําปั้นของตัวเองกระแทกไปยังพื้น
ถึงแม้ว่าผู้พัฒนาเกมนั้นจะลดค่าสถานะร่างกายของนักรบลง แต่ในความเป็นจริงจํานวนของพวกเขานั้นก็ไม่ได้ลดลงมากนัก
พวกเขานั้นได้ทําการเนิร์ฟอีกอย่างหนึ่งคือการเรียกคืนรูปร่างที่แท้จริงของเหล่านักรบ
นักรบที่มีค่าสถานะการเติบโตของร่างกาย 7 แต้มนั้นตั้งแต่หัวจรดเท้าของพวกเขานั้นจะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและเมื่อมีค่าสถานะร่างกาย 8 หน่วย กล้ามเนื้อของพวกเขาก็จะเทียบได้กับนักเพาะกายระดับโลก
สําหรับนักรบที่มีค่าร่ากายถึง 9 หน่วย ร่างกายของพวกเขานั้นก็จะราวกับกอริลลาและสําหรับนักรบที่มีค่าสถานะร่างกาย 10 หน่วย พวกเขานั้นก็จะราวกับอาวุธชีวภาพของมนุษย์ ความสูงของพวกเขานั้นไม่เพียงแค่เกินกว่าสองเมตร ทว่ากล้ามเนื้อของพวกเขานั้นยังเยอะจนน่ากลัวอีกด้วย ขนาดกล้ามเนื้อบริเวณคอของพวกเขานั้นยังใหญ่มากกว่าหัวของพวกเขา พวกเขาจะไม่แปลกใจเลยหากพวกเขาถูกเรียกว่าออร์ค
และนักรบประเภทร่างกายและเสน่ห์นั้นยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ผู้ชายนั้นดูดีเหมือนกับนาจา ในขณะที่ผู้หญิงนั้นราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ทรงกอลิล่า
ในฟอรั่มนักรบนั้นต่างออกมาคร่ำครวญเต็มไปหมดและแน่นอนว่ามีคนบางกลุ่มรู้สึกว่าการมีกล้ามเนื้อแบบนี้มันมีเสน่ห์อย่างแปลกๆ
โรแลนด์หัวเราะอย่างน้อยสามนาที่เขานั้นแทบหยุดไม่อยู่ จากนั้นเขาก็เปิดกระทู้หนึ่งและเห็นภาพของคิงคองบาร์บี้ที่ขมขึ้นและเขาก็กลิ้งไปบนพื้นเพื่อหัวเราะอย่างต่อเนื่องอีกสองสามนาทีก่อนจะลุกขึ้นยืนผู้พัฒนาเกมนี้รู้วิธีสร้างเรื่องดีจริงๆ
นี่เป็นการลดผลประโยชน์ของค่าสถานะร่างกายจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับผู้เล่นที่เป็นผู้หญิง มันเป็นความสูญเสียอย่างแท้จริงเมื่อมีค่าสถานะทางร่างกายที่สูงขึ้น ข้อได้เปรียบของพวกเขานั้นลดลงอย่างมาก
โรแลนด์นั้นเชื่อแล้วว่าการ “เนิร์ฟ” นี้จะช่วยควบคุมประชากรของนักรบได้อย่างแท้จริง
******************
แกรนดราฟด์ (1) ตัวละครใน The Lord of the ring
บัฟเฟอร์ (2) หน่วยความจําที่ใช้สําหรับพักข้อมูลเป็นการชั่วคราวในระหว่างทําการถ่ายทอดหรือส่งผ่านข้อมูล คือเหมือนถ้าเราดูเปิดวีดีโอดูนะครับบัฟเฟอร์ก็จะทํางานทําให้เราดูวีดีโอได้ต่อไปเรื่อยๆ แต่หากมันไม่ได้บัฟเฟอร์ไว้วีดีโอก็จะสะดุดครับ