หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 120
ตอนที่ 120 : ปัญหาเริ่มก่อตัว
หลังจากผ่านไปพักหนึ่งโรแลนด์ก็ได้สติกลับมา
เขานั้นเปิดไปยังเว็บไซค์ของประเทศอื่นและพบว่าไม่ว่าจะเป็นภาษาของประเทศอะไรก็ตามเขานั้นสามารถอ่านมันได้
ทว่าเมื่อเขาพบเข้ากับตัวอักษรโบราณต่างๆ เขาก็ได้รับรู้ถึงความวุ่นวายและยากที่จะอ่านมัน
โรแลนด์เรียกสติของตัวเองคืนมาก่อนจะนั่งเอนตัวพิงเก้าอี้ เขานั้นตัดสินใจที่จะไม่เปิดเผยความจริงในเรื่องที่ว่าเขานั้นสามารถแปลภาษาในโลกจริงได้ เขานั้นจินตนาการได้เลยว่าหากเขาเปิดเผยมันไป เขานั้นต้องพบกับเรื่องวุ่นวายแน่นอน
ในตอนนี้นั้นเขาเป็นเพียงแค่คนเดียวที่สามารถทําเช่นนี้ได้ เขานั้นต้องการเก็บมันไว้เป็นความลับให้นานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นการตอบกลับ
“โลแลนด์นายสามารถแปลภาษาผ่านฟอรัมภายในเกมได้? นั่นหมายความว่านายสามารถแปลภาษาทั้งหมดที่อยู่ภายในฟอรั่มได้ใช่ไหม”
“ว้าว นักเรียนหน้าชั้นดูเหมือนนะจะพบสิ่งใหม่อีกแล้วสินะ”
“ตรรกะนี้น่าจะเป็นไปได้ โรแลนด์ ออกมาพูดหรือลองอ่านเว็บไซค์ในภาษาอื่นหน่อย”
เชี่ย โรแลนด์รู้สึกปวดหัว กลุ่มชาวเน็ตโง่พวกนี้ฉลาดขึ้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เป็นความฉลาดที่ไม่ธรรมดาเลยสําหรับพวกที่น่าจะเป็นเพียงพวกโง่
เขานั้นถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะปิดฟอรั่มลง จากนั้นความสนใจของเขาก็กลับมายังโลกแห่งเกม
วิเวียนพาเด็กสองคนขึ้นมาหาเขา เมื่อเห็นท่าทางของเขา วิเวียนก็ถามออกมา “ท่านรองเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอคะ?”
“ไม่มีอะไร แค่เรื่องส่วนตัวนิดหน่อยน่ะ”
โอ้! วิเวียนไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมไปอีก เธอนั้นดันเด็กทั้งสองไปด้านหน้าพร้อมกล่าวว่า “ทั้งสองคนนี้คือเคนดิสและแนนซี่ พวกเขาทั้งคู่นั้นต่างไม่รู้หนังสือ”
โรแลนด์นั้นมีนงงไปชั่วขณะ เขานั้นมองไปยังเด็กที่ผอมแห้งทั้งสอง เขานั้นคิดว่าทั้งคู่จะเป็นเด็กผู้ชายเสียอีกทว่าเขาคาดไม่ถึงเลยว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นผู้หญิง
“ถ้างั้นก็สอนพวกเขาอ่านและเขียนซะ ในฐานะนักเวทย์นั้นการไม่รู้หนังสือนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้” โรแลนด์คิดครู่หนึ่งพร้อมพูดต่อว่า “ตามกฎเธอนั้นสามารถเก็บเงินค่าสอนหนังสือได้ เธอจะได้รับสองเหรียญทองเพิ่มเติมหลังจากนี้”
“รับทราบค่ะ” วิเวียนหรี่ตาลงพร้อมรอยยิ้ม สําหรับเธอสองเหรียญทองนั้นถือเป็นเงินจํานวนมาก
“ถ้าอย่างนั้นข้าขอพาพวกเขาออกไปก่อน” วิเวียนถามต่อว่า “ท่านต้องการรับประทานอะไรหรือไม่ท่านรอง?หรือมีสิ่งใดที่ท่านอยากทานหรือไม่?”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้”
วิเวียนตอบรับก่อนพาทั้งสองออกไป
เขามองไปยังท้องฟ้าด้านนอกและออกไปยังคฤหาสน์ของจอห์น
ฮอร์ก, ลิงค์ และเจ็ทนั้นรออยู่หน้าประตูแล้ว
“โทษที่ดูเหมือนฉันจะช้าที่สุดนะ” โรแลนด์พูดขณะเดินอยู่
อีกสามคนส่ายหัวออกมา ฮอร์กพูดว่า “ไม่เป็นไรฉันก็พึ่งมาถึงไม่กี่นาทีก่อน”
ทั้งสามที่อยู่ตรงข้ามเขานั้นล้วนแต่งตัวเหมือนสามัญชนในโลกนี้ ทว่าเพราะออร่าของพวกเขาที่ต่างจากคนทั่วไป พวกเขานั้นเลยดูแปลกเล็กน้อย มันเหมือนกับว่าพวกเขานั้นพร้อมอย่างมากที่จะมีเรื่อง
หลังจากร่ําเรียนมากว่าสิบปี และมีประสบการณ์เล่นเกมมามากมาย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไร้ซึ่งเงินและอํานาย แต่พวกเขานั้นก็มีศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่
ยิ่งกว่านั้นพวกเขาทั้งสี่ล้วนเป็นผู้เล่นชั้นยอด
พวกเขาสี่คนถูกพาเข้าคฤหาสน์ไปโดยทหาร
ในสถานที่อย่างปราสาทนั้น กองกําลังในการป้องกันนั้นถือว่าสําคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยรอบนั้นมีเพียงหินอยู่ทุกที่ไม่มีอะไรน่าดูชมนัก
พ่อบ้านปรากฏตัวขึ้นพร้อมต้อนรับพวกเขาพร้อมพาพวกเขาไปยังห้องโถงหลักในชั้นแรก
โต๊ะยาวนั้นเต็มไปด้วยอาหารชั้นเลิศและขวดไวน์
จอห์นนั้นนั่งอยู่บริเวณหัวโต๊ะ เมื่อเขาเห็นทั้งสี่เขาก็ยืนขึ้นพร้อมพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ข้าจะสามารถเชิญพวกเจ้าทั้งสี่มาได้”
ก่อนหน้าจอห์นก็เชิญพวกเขาทั้งหมดเช่นกันทว่าไม่มีใครที่มาเลยแม้แต่คนเดียว
หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าพวกบุตรทองคํานั้นต่างก็เป็นพวกที่มีความคิดเป็นของตัวเองและเหมือนจะมองทะลุแผนของเขาออก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเชิญทั้งสี่อีกครั้ง
และในท้ายที่สุดพวกเขาทั้งสี่ก็มาเสียที
ช่างแน่นแฟ้นกันเสียจริง
หากเพียงขุนนางแน่นแฟ้นได้แบบนี้ จอห์นส่ายหัวเล็กน้อย นั่นเป็นไปไม่ได้
พวกเขาทั้งสี่หาเก้าอี้ของตนพร้อมนั่งลง โรแลนด์กล่าวว่า “ก่อนหน้าทุกคนต่างมีเรื่องสําคัญที่ต้องจัดการ ดังนั้นพวกเราเลยไม่สามารถตอบรับคําเชิญของคุณได้”
อีกสามคนพยักหน้าทันที ก่อนที่เขาจะเข้ามาพวกเขานเนตกลงกันแล้วว่าจะให้โรแลนด์เป็นคนรับมือกับเจ้าขุนนางนี้
อย่างไรก็ตามจอห์นนั้นเป็นคนที่ได้รับการศึกษามาเป็นอย่างดี เขานั้นมองครั้งเดียวก็รู้แล้วว่าเขานั้นต้องทิ้งหนึ่งในแผนการของเขาลง เขานั้นเก็บความหงุดหงิดไว้ในใจก่อนยิ้มออกมา “ทุกคนเริ่มจากทานอาหารและเครื่องดื่มกันเถอะ ในเมื่อนี่คืองานเลี้ยง พวกเจ้าสามารถกินและดื่มได้ตามสบาย”
ทั้งสี่นั้นไม่ขยับ
โรแลนด์พูดออกมาว่า “ท่านจอห์น บุตรทองคําเกือบทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนตรงๆ ในเมื่อคุณเชิญเรามาที่นี่ ทําไมไม่พูดถึงเกี่ยวกับเรื่องหลักกันล่ะ? หากพวกเราสามารถยอมรับมันได้พวกเราจะได้พูดคุยกันอย่างระมัดระวัง และหากพวกเราไม่สามารถยอมรับมันได้พวกเราก็จะทําเพียงแค่จากไป ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่มีอารมณ์ที่จะรับประทานอาหาร”
จอห์นรู้สึกถึงอาการปวดหัว เขานั้นหวังว่าจะชนะพวกเขาด้วยอาหารที่โอ่อ่าพวกนี้ โดยทั่วไปหลายคนนั้นมัก “หลุดความลับ” ออกมาเมื่อเมา เมื่อเป็นอย่างนั้นมันก็จะง่ายขึ้นมากในด้านการล้วงข้อมูล มันเป็นกลยุทธ์ธรรมดาของเหล่าขุนนาง
ทว่าเขาไม่ได้คิดเลยแม้แต่น้อยว่าพวกบุตรทองคําจะไม่ตกหลุมพรางนี้
จอห์นรู้สึกกดดันเล็กน้อยเมื่อเห็นทั้งสี่จ้องมาทางเขา เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนกล่าวออกมาว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าต้องพูดความจริงสินะ มีสองสิ่งที่ข้าเชิญพวกเจ้ามายังที่นี่”
ทั้งสี่มองเขาอย่างเงียบๆ
“ข้านั้นสงสัยไว้ตระกูลของข้านั้นจะมีส่วนร่วมกับองค์กรของมิสเตอร์ฮอร์กและมิสเตอร์ลิงค์หรือไม่?”
อย่างที่คิดไว้เลย.ฮอร์กและลิงค์มองหน้ากัน
โรแลนด์กล่าวไปว่า “ฉันคิดว่ามันจําเป็นในดินแดนแห่งนี้ทุกองค์กรล้วนเกี่ยวข้องกับคุณพวกเขานั้นต่างก็ต้องเสียภาษีให้กับตระกูลของคุณ คุณแค่เรียกเก็บภาษีไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?”
ฮอร์กและลิงค์นั้นต้องการจะสร้างท่าและบริษัทตกปลา จากนั้นพวกเขาก็จะปล่อยพื้นที่ให้เช่า
เดลพอนนั้นเป็นเมืองใหญ่หลากหลายคนต่างเดินทางด้วยทะเล ทันทีที่มันสําเร็จพวกเขาจะได้รับเงินมหาศาลในแต่ละเดือน
และยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่พิเศษยังเหมาะสําหรับการรวบรวมข้อมูล มันเป็นสถานที่สําคัญ เป็นธรรมดาที่ฮอร์กและกิลด์ปีสีเงินต่างจะต้องการที่จะครอบครองมัน
หากนายกของเมืองต้องการมีส่วนร่วมพวกเขานั้นต้องมีอุปสรรคในการดําเนินงานอย่างแน่นอนและทุกอย่างจะไร้ความหมาย
ดังนั้นโรแลนด์จึงรู้สึกว่าการจ่ายภาษีเพิ่มมันไม่ใช่ปัญหาอะไร
จอห์นมองไปยังโรแลนด์ก่อนที่จะมองยังฮอร์ก “ข้าไม่คิดเลยว่ามิสเตอร์โรแลนด์จะ เป็นหนึ่งในหัวหน้าของท่าเรือนั้นด้วย?”
คําพูดพวกนั้นพูดออกมาเพื่อให้พวกเขาไม่ลงรอยกัน
แต่เห็นได้ชัดว่าฮอร์กไม่ตกหลุมพรางของคําพูดนั้น เขายิ้มและพูดว่า “ฉันค่อนข้างโง่ ฉันไม่รู้วิเจรจามากนัก ดังนั้นเป็นธรรมดาที่ฉันต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญ
อีกสามคนหัวเราะออกมาเบาๆ
อารมณ์ของจอห์นยิ่งมืดมนมากยิ่งขึ้น พวกบุตรทองคําพวกนี้เจ้าเล่ห์เกินกว่าที่จะตกหลุมพรางของเขา
บุตรทองคําสองคนก็เพียงพอที่จะล้มตระกูลขุนนางได้แล้ว ตอนนี้มีนักเวทย์มาอีกถึงสองคคนจอห์นนั้นไม่กล้ามีท่าที่โกรธเคืองต่อหน้าพวกเขา
น่าอึดอัดเป็นอย่างมาก จอห์นไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน