หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 128
ตอนที่ 128 : นี่แหละที่เรียกว่าการเปิดเผยตัว
ท่าทางของโรแลนด์ทําให้พวกเขาค้างไปทันที ผู้เล่นโดยรอบต่างแสดงออกราวกับว่า “นายเป็นหัวหน้า พูดเลย”
แทนที่จะตอบคําถามโดยตรง โรแลนด์มองไปยังผู้เล่นหญิงที่กําลังจมอยู่ในความคิดและนั่งห่างออกไปไม่ไกลและถามออกมา “เธอฉันมีคําถามอยากจะถามเธอสักหน่อย กลุ่มผู้ต่อต้านนั่นชื่อว่าอะไรงั้นเหรอ?”
“อ่า” เพราะว่าเธอนั้นจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงทําให้เธอสะดุ้งออกมาเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกตัว “นายเรียกฉันว่าเอลลี่ก็ได้ กลุ่มผู้ต่อต้านนั้นชื่อว่าดวงตาสีเทา”
“พวกเราจะทําเหมือนว่าพวกเรานั้นเป็นกลุ่มดวงตาสีเทา” โรแลนด์ยิ้มและมองไปที่ผู้เล่นชายคนอื่นๆ “แน่นอนว่าพวกเราต้องปิดบังใบหน้า”
เมื่อพูดจบพวกผู้เล่นที่เหลือต่างหัวเราะออกมา
“เชี่ย ทําไมฉันไม่คิดถึงมันมาก่อนเลยนะ? ตอนนี้พวกเราก็มีเหตุผลแล้ว”
“อย่างที่คิดคนที่เล่นกับเวทมนตร์ได้จําเป็นต้องเป็นไอ้คนเจ้าเล่ห์จริงๆด้วย”
“ให้ตายเถอะ ฉันรู้สึกแย่เมื่อเห็นเหล่านักเวทย์เริ่มระดับเพิ่มขึ้นชะมัด พวกเราคนเถื่อนรู้เพียงแค่วิธีการฟาดฟันตามสัญชาติญาณเท่านั้น!”
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่มุขตลกและคําเยินยอเท่านั้น
ผู้เล่นชายทุกคนต่างเข้าใจความหมายโดยนัยของประโยคดังกล่าว แต่เอลลี่นั้นรู้สึกสับสนเล็กน้อย “แต่สมาชิกของกลุ่มต่อต้านดวงตาสีเทานั้นตายหมดแล้วนะ หากพวกเราจะอ้างตัวเป็นพวกเขา อย่างน้อยก็ควรมีสมาชิกจริงๆอยู่สักคนสิ”
“อืม…” ผู้เล่นชายโดยรอบตกตะลึงเล็กน้อยและถอนหายใจ
พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่าเธอนั้นชื่อบื้อเกินไปเลยถูกขุนนางหนุ่มคนนั้นหลอกเอาได้
ในตอนนี้เกือบทั้งหมดยิ่งมีความเกลียดชังเพิ่มขึ้นภายในใจของพวกเขา การทําร้ายหญิงสาวที่เรียบง่ายและน่ารักทั้งๆที่ตัวเองเป็นถึงขุนนางและนายกของเมือง นั่นเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วที่มันต้องตาย
โรแลนด์กระแอมออกมาพร้อมกล่าวว่า “ยังเหลือเวลาอีกสี่วัน คงไม่ดีนักหากจะอยู่อย่างนี้โดยไม่ทําอะไรเลย ทําไมพวกเราไม่มาอุ่นเครื่องกันสักหน่อยละ?”
“ได้เลย พวกเราจะทําตามคําพูดของนาย” กลุ่มผู้เล่นตะโกนออกมา
พวกเขาทั้งหมดเป็นคนฉลาด คําแนะนําที่โรแลนด์ได้พูดไว้ตั้งแต่แรกถือเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเขาเรียบร้อยแล้วว่าเขามีหัวทางด้านนี้ ดังนั้นมันคงไม่เป็นไรหากพวกเขาเลือกที่จะฟังคําพูดของโรแลนด์
นอกจากนี้ โรแลนด์ยังเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้และอาจจะไม่มีใครสามารถขึ้นมาเป็นคู่แข่งกับเขาได้
พูดตามตรงพวกผู้เล่นนั้นต่างมีกฏที่รู้กันดีอยู่แล้วนั่นคือ “ใครหมัดใหญ่กว่าจะเป็นคนพูด” ภายในเกมนั้นโรแลนด์ไม่ใช่แค่เพียงมีหมัดที่ใหญ่โต แต่ดูเหมือนเขาจะฉลาดมากอีกด้วย
โรแลนด์หยิบสองเหรียญทองออกมา “ฉันต้องการคนที่หน้าตาธรรมดาสักคนที่เก่งเรื่องการเจรจาไปในเมืองเพื่อซื้อชุดสีดําและผ้าคลุมหัวสีดํามาสักสี่สิบถึงห้าสิบชุด และมีใครในนี้เก่งเรื่องการวาดรูปไหม? มาวาดแผนที่ของเมืองมอลลี่กันก่อนเถอะ พวกเราจะได้วางแผนการต่อสู้ได้ง่ายขึ้น”
“ฉันจะไปซื้อเสื้อผ้าเอง ฉันเก่งเรื่องต่อรองราคามาก” นักธนูหนุ่มหล่อยืนขึ้นมา
โรแลนด์มองไปที่เขาพร้อมพูดออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้ “นายมั่นใจแน่นะว่าหน้าตานายดูธร มดา?”
“ไม่ต้องกังวลน่า สกิลการป้องกันการสะกดรอยของฉันนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ฉันยังมีทักษะปกปิดเงาอีกด้วย ฉันไม่เป็นจุดสนใจหรอก” นักธนูหนุ่มหล่อพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะเป็นคนวาดแผนที่เอง” โจรอีกคนนั้นก้าวออกมา
โรแลนด์นับจํานววนผู้เล่นบนหน้าจอพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สําหรับคนที่เหลือไปตัดต้นไม้กันเถอะ”
“นายจะตัดต้นไม้ไปเพื่ออะไรกัน?” มีคนถามออกมา
“เพื่อสร้างรถยิงหินอย่างง่าย” โรแลนด์อธิบาย “ถึงแม้ว่ามันจะพังทันทีหลังใช้ไปปสามครั้ง แต่มันก็มีประโยชน์ในการช่วยฟังกําแพงเมือง”
“เข้าใจแล้ว!” คนที่เหลือต่างลุกขึ้น
พูดตามตรงพวกเขาต่างเบื่อที่จะรอแล้ว อย่างน้อยการมีอะไรทํามันก็ดีกว่า
เอลลี่เดินเข้ามาหาเข้า ท่าทางของเธอนั้นวิตกกังวลเป็นอย่างมาก “แล้วฉันสามารถช่วยอะไรได้บ้างไหม?”
โรแลนด์คิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดว่า “งั้นเธอลองเขียนเกี่ยวกับคําแถลงสําหรับเหล่าดวงตาสีเทาที่โดนป้ายความผิดจากศัตรูของพวกเขาดูไหม เขียนให้อยู่ในมุมมองของเหยื่อเป็นไง? ฉันเห็นกระทู้ของเธอในฟอรั่ม งานเขียนของเธอค่อนข้างดีเลยทีเดียว”
“ฉันจบเอกวรรณคดีมานะ” เอลลี่ตอบกลับมาอย่างสบายๆจากนั้นก็ถามว่า “สร้างกําลังใจหรือด้วยความรู้สึกโกรธแค้นล่ะ?”
“โกรธแค้น”
เอลลี่เอียงหัวไปมาและใช้ความคิดและพูดออกมาว่า “โอเค ฉันจะลองดัดแปลงมาจากคําแถลงของถั่วชิงหวางตอนปะทะกับอัครมเหสีอู่”
โรแลนด์นั้นเป็นนักศึกษาคณะวิทยาศาตร์เขาจึงไม่ได้พูดอะไรออกไป
ในตอนนั้นเองก็มีผู้เล่นชายคนหนึ่งเดินยิ้มกว้างเขามาหาเขาและพูดว่า “โรแลนด์นายเตรียมทั้งคําแถลงและก็รถยิงหิน นายต้องการเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างงั้นเหรอ?”
“แน่นอนเพื่อระบายความโกรธของพวกเราให้ลดลง พวกเราต้องเปิดเผยตัวและทําท่าที่หยิ่งยโส” โรแลนด์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
รอยยิ้มของผู้เล่นชายคนนั้นแข็งค้างเพราะความคิดของโรแลนด์ “แต่ว่าพวกเราปิดหน้าของตัวเองอยู่นะ นั่นนับว่าเป็นการเปิดเผยงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ว่ามันก็ดูดีหรอกเหรอที่บอกพวกเขาไปว่าพวกเรานั้นปิดบังตัวตนกันอย่างเปิดเผย”
“นั่นมันเยี่ยมมาก!” ผู้เล่นคนนั้นชูนิ้วโป้งให้แลนด์ “พวกชาวเน็ตที่อยู่ในไลฟ์สตรีมต่างบอกว่านายไม่ใช่แค่เจ้าเล่ห์เท่านั้น แต่ยังแสบมากอีกด้วย!”
โรแลนด์ตกใจในทันที “นายจะสตรีมนี้จริงๆ”
“เยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ” ผู้เล่นคนนี้มีท่าทางราวกับจะบอกว่า “นายพึ่งรู้งั้นเหรอ?” “ฉันเป็นคนแรกที่มาถึงที่นี่แล้วก็ได้รับการเรียกร้องจากชาวเน็ตหลายคน ฉันเลยสตรีมมาสี่วันแล้ว”
ในตอนนั้นเองโรแลนด์ก็ได้รับข้อความจากทางระบบ เขาเปิดมันขึ้นมาและพบว่าสมาชิกของ F6 นั้นทักมาหาเขา
ลี่หลิน “ทําให้ดีที่สุด แสดงให้พวกเขาได้เห็นถึงสไตล์การวางกลยุทธ์ของพวกเรา F6”
เบทต้า: “พี่โรแลนด์ยอดไปเลย”
ชัค: “ฉันดูผ่านไลฟ์สตรีมอยู่ น่าแปลกนิดหน่อยนะ นี่เป็นโรแลนด์ที่พวกเรามักจะไม่ได้เห็นนัก”
ราฟเฟิล: “น่าเสียดาย ฉันอยู่ห่างจากมอลลี่มากเกินไปไม่งั้นฉันคงเข้าร่วมด้วยแล้ว”
นี่มันถูกไลฟ์สตรีมอยู่จริงๆสินะ…ถ้าเขารู้ตัวก่อนหน้านี้ เขาคงไม่เผยตัวมากขนาดนี้
เขารู้สึกอายเล็กน้อยราวกับเขานั้นเผลอแสดงท่าทีราวกับเป็นจูนิเบียว และครอบครัวของเขาก็บังเอิญมาเห็นพอดี
เนื่องจากมีสิ่งที่ต้องทํา จึงทําให้ราวกับเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สี่วันผ่านไปราวกับกระพริบตา ผู้เล่นน่าจะมาถึงกันหมดแล้วและสําหรับผู้ที่ยังไม่ถึงอาจจะต้องกลับเมืองตั้งแต่ตอนนี้
ในช่วงนี้นั้นพวกเขาสร้างรถยิงหินเสร็จไปแล้วแปดเครื่องจากไม้และเถาวัลย์
เสื้อผ้าและแผนที่นั้นก็ถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โรแลนด์มองไปที่แผนที่อยู่พักหนึ่งและวาดเส้นสองเส้นออกมา จากนั้นเขาก็กล่าวกับผู้เล่นสี่สิบกว่าคนที่ปิดบังใบหน้าและสวมชุดดําว่า “รอจนกระทั่งทีมที่สองแทรงซึมเข้าไปในเมืองได้ก่อน จากนั้นพวกเราจะปรากฏตัวที่หน้าประตูเมือง เมื่อเห็นพวกเราประตูเมืองจะต้องถูกปิดอย่างแน่นอนจากนั้นพวกเราจะอ่านคําแถลงที่เอลลี่เขียนขึ้นจากนั้นก็เริ่มใช้เครื่องยิงหินพังกําแพงเมือง”
“เมื่อถึงตอนนี้ความสนใจของศัตรูจะถูกดึงดูดมาอย่างแน่นอน ถ้าหากนายกนั่นออกมาจากปราสาทพร้อมกองกําลังของเขาและมายังกําแพงเมือง ให้หน่วยที่สองปลุกปั่นความวุ่นวายขึ้น อย่างเช่นเผาปราสาท นั่นจะทําให้เจ้านั่นกังวลและสับสนอย่างแน่นอน ถ้าหากหมอนั่นเลือกที่จะอยู่ภายในปราสาทให้หน่วยที่สองมายังกําแพงจากทางด้านหลังและช่วยพวกเราเปิดประตูเมือง ทว่าฉันไม่คิดว่าจะเป็นแบบแผนที่สอง ขุนนางหนุ่มนั่นน่าจะมาที่กําแพงเมืองเพื่อมาดูว่าพวกเรานั้นต้องการอะไรกันแน่”
มีผู้เล่นคนหนึ่งถามขึ้น “ไม่ใช่นายบอกว่าจะสู้อย่างเปิดเผยเหรอ? การส่งสปายเข้าไปนั่นถือเป็นการโกง”
โรแลนด์สะบัดแขนของเขาขึ้นไปบนอากาศอย่างสับสนพร้อมพูดว่า “พวกเราล้อมเมืองอย่างเปิดเผยไง”